คุณ Suchi ครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป รบกวนช่วยเล่าประสบการณ์เรื่อง ป. 2 ให้สมาชิกฟังหน่อยได้มั้ยครับ และการสั่งซื้อด้วยครับ โดยส่วนตัวผมสนใจมากครับ อยากจะสั่งบ้าง
ขอบคุณมากครับ
_/|\_ 11mmman
ด้วยความยินดีครับ
การจะขอใบ ป.๒ ปืนอัดลม สำหรับผม ได้วางลำดับคือ
๑. ตรวจสอบข้อมูล
๒. ยื่นขอใบ ป. ๒
๓. ขออนุญาตกรมศุลกากร
๔. สั่งซื้อ
๕. รับของ( พิธีการนำเข้า)
๖. ทำเครื่องหมายขึ้นทะเบียน(ใบ ป.๔)
รายละเอียด
๑. ค้นคว้าข้อมูลหารายละเอียดปืนที่ต้องการจะซื้อ สั้นหรือยาว ขนาดเท่าได ยี่ห้ออะไร ซื้อจากประเทศไหน เพราะข้อมูลเหล่านี้จะต้องใช้ในการยื่นขอใบอนุญาต และวางแผนในการสั่งซื้อ
ตัวอย่างเวปครับ
http://www.airgunwarehouseinc.com/http://www.airgundepot.com/http://www.pyramydair.com/๒. ยืนขอใบ ป. ๒ ไปยื่นที่นายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่ของท่าน ผมไปยื่นที่สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา นางเลิ้ง) อาคารด้านหลังศูนย์บริการประชาชน ชั้น ๒ โดยกรอกคำขอในแบบ ป. ๑ เหมือนกับการขอใบ ป.๓ นั่นแหละครับ ในช่องที่ให้กรอกว่าซื้อจากร้านค้าอาวุธปืน นั้น ให้ระบุประเทศที่จะสั่งซื้อ ส่วนเหตุผล เพื่อการกีฬา หรือเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ก็ได้
หลักฐานที่ใช้ก็เช่นเดียวกับการขอ ป. ๓
บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา
ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา
หนังสือรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการประกอบอาชีพ
หนังสือรับรองความประพฤติ
หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้าขอเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน อาจไม่ต้องใช้)
ตอนยื่นใบ ป. ๑ เจ้าหน้าที่จะซักถามข้อมูล รายละเอียด ตามระเบียบ และอย่าลืมแจ้งเบอร์ติดต่อไว้ เผื่อมีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่จะได้ติดต่อกลับได้ รวดเร็ว และควรฝากค่าธรรมเนียม ๓๐ บาทไว้ด้วย
จริงๆ แล้วยังไม่จำเป็น เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องทำเรื่องขออนุมัติจากอธิบดีกรมการปกครองก่อน เมื่ออธิบดีเห็นชอบแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจะออกใบ ป. ๒ ได้ และจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตอนนี้ แต่จะทำให้เราต้องกลับไปชำระค่าธรรมเนีย่มอีกเมื่อได้รับอนุมัติ ตอนผมไปยื่น ไม่ได้ฝากเงินไว้เพราะไม่ทราบ แต่เจ้าหน้าที่บริการดีครับ ใช้โทรส่วนตัวแจ้งมาตามที่เราให้เบอร์ไว้ ตอนอธิบดีอนุมัติ ก็ได้โทรแจ้งทราบ และบอกว่าได้ออกค่าธรรมเนียมให้ก่อนแล้ว ๓๐ บาท
ท่านอื่นไม่ทราบ อาจไม่เหมือนกันก็ได้
รอประมาณ ๓ สัปดาห์ ก็ได้รับแจ้งให้ไปรับใบ ป.๒ ได้
ใบ ป.2 มี 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นต้นขั้ว เมื่อไปรับใบ ป. 2 จะได้รับส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 พร้อมหนังสือนำส่งกรมศุลกากร โดยนายทะเบียนจะเป็นคนลงนาม สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด นายอำเภอจะเป็นผู้ลงนามในหนังสือนำส่ง