เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 05:13:16 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 254 255 256 [257] 258 259 260 ... 807
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: (((รวมนานาสาระปืนอัดลม))) สารบัญหน้าที่ 1  (อ่าน 3818309 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #3840 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 06:15:38 PM »

ปัญหาตอนนี้ก็คือ ผมกลัวว่าเพื่อนๆ จะได้ราคาที่แพงกว่าเพราะซื้อจากร้าน ไม่ได้ประมูลมาแบบตัวของผม กลัวว่าสั่งไปแล้วไม่ได้ส่วนลดราคามันจะแพงกว่ากันถึง 1,300 บาท และบางทีอาจต้องซื้อขากล้องเพิ่มเพราะของแถมไม่ถูกใจก็เป็นได้ 

คงต้องรอคำตอบจากผู้จำหน่ายที่เป็นชาวจีนก่อนนะครับจะได้ราคาถูกที่สุด แต่ต้องใช้เวลา 1 เดือนจึงจะรู้ข่าว ผมเองก็ร้อนใจ น้องคนที่ดำเนินการให้ก็ร้อนใจไม่น้อยกว่าผมเหมือนกัน

จึงต้องมาเรียนให้ทราบและกราบขออภัย เพราะบางท่านต้องการนำมาใช้งานด่วนเนื่องจากมีปืนอยู่แล้วและไม่ได้จองปืนในรอบนี้
   ใจเย็นๆครับ  ผมไม่รีบร้อนหรอกครับ ได้ราคาแล้วแจ้งให้ทราบด้วยครับ เศร้า เศร้า ไหว้
บันทึกการเข้า
montri.7
Anschutz 2025
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 889
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4480



เว็บไซต์
« ตอบ #3841 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 06:29:17 PM »

พวกเราน่าจะมีการจัดแข่ง field target  สักครั้งนะครับ จะได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยน ความรู้ เทกนิควิธียิง

ผมคิดว่าคงจะมี คนสนใจกัน หลายท่าน   Grin



เดีอนนี้แล้วครับที่ อาจารผณิศวร จะจัดที่สนามยิงปืนราชนาวีแต่จะเป็นการจัดแข่งแบบพาดแท่นก่อนแล้วเราก็มาพูดคุยเรื่องการตั้งชมรมและพูดคุยเรื่องการแข่งครั้งต่อไปว่าจะแข่งแบบไหนดีหรือครั้งต่อไปจัดที่ไหนดีท่าจะแข่งแบบ field target พวกเราก็คุยกันหาจุดที่จะใช้แข่งเป็นการผ่อนคลายและไปเทียวในตัวขอเชิญทุกท่านมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้วิธียิงกันได้เลยครับยังไงเดียวพี่สมศักดิ์คงจะมาบอกรายละเอียดอีกทีครับยังไงโครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่ก็คงต้องอยู่ที่พวกเราชาวปืนลมกันด้วยแล้วนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2009, 06:35:31 PM โดย montri.7 » บันทึกการเข้า

M-S
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3842 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 06:43:07 PM »

พวกเราน่าจะมีการจัดแข่ง field target  สักครั้งนะครับ จะได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยน ความรู้ เทกนิควิธียิง

ผมคิดว่าคงจะมี คนสนใจกัน หลายท่าน   Grin



เดีอนนี้แล้วครับที่ อาจารผณิศวร จะจัดที่สนามยิงปืนราชนาวีแต่จะเป็นการจัดแข่งแบบพาดแท่นก่อนแล้วเราก็มาพูดคุยเรื่องการตั้งชมรมและพูดคุยเรื่องการแข่งครั้งต่อไปว่าจะแข่งแบบไหนดีหรือครั้งต่อไปจัดที่ไหนดีท่าจะแข่งแบบ field target พวกเราก็คุยกันหาจุดที่จะใช้แข่งเป็นการผ่อนคลายและไปเทียวในตัวขอเชิญทุกท่านมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้วิธียิงกันได้เลยครับยังไงเดียวพี่สมศักดิ์คงจะมาบอกรายละเอียดอีกทีครับยังไงโครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่ก็คงต้องอยู่ที่พวกเราชาวปืนลมกันด้วยแล้วนะครับ

จัดวันที่เท่าไรครับสนใจครับ
บันทึกการเข้า
spyman
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 172


« ตอบ #3843 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 07:20:02 PM »

ถ้าไม่มีการจัดการแข่งขัน หรือ มีชมรมเกิดขึ้น ปืนลมหมดความท้าทายครับ
ทุกคนที่มีปืนลม อย่างมากก็ยิงอยู่ที่บ้านถ้าไม่ไปสนาม เอาเป้ามายิง แล้วก็มานั่งดูเป้า (ยิ่งแม่นเหมือนกัน)
ยังไง ปืนเดิม เป้าเดิมมันก็ยิงเข้าที่เดิม แต่ถ้ามีการแข่งที่จัดกัน 3 เดือนครั้ง 6 เดือนครั้งจะเกิดแรงบันดาลใจให้เราเสาะหาวิธีที่จะทำให้ปืนแม่น มีแรงบันดาลใจในการฝึกปรือฝีมือ หาของแต่งมาอวดกัน กระทู้นี้ก็จะได้มีอะไรใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าได้ปืนมา ยิงเป้ามาโชว และถามปัญหากัน แค่นี้จบ ควรจะตั้งชมรมได้แล้วครับ เอาพี่ๆในบอร์ดเป็น ประทานก็ได้ครับหรือเอาคุณ เต้ย(หล่อแบบนี้รับรองมีสมาชิกสาวๆเพิ่มขึ้นอีกครับ) อะไรก็ไม่แน่ วันดีคืนดี พี่สิทธา แบกปืนจากโคราชมาแข่งก็ได้ครับ รับประกันว่าชมรมนี้ไปได้อีกไกลครับ ไม่เหมือนไรเฟิลชนวนกลางที่โดนกลาโหมเพ่งเล็ง
วงการปืนลมจะเติบโตได้ก็เพราะ พวกเราในบอร์ดแน่นอนครับ ลองคิดดูอีก 10 ปี ชื่อของพวกท่านจะถูกจดจำถ้ามีใครมาถามว่า แข่ง ฟิวท์ทาเก็ต เริ่มต้นจากใคร
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3844 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 09:14:28 PM »

ก็เพราะแบบนี้แหละครับ ผมจึงอยากให้รวมตัวกันและเข็นให้มีการจดทะเบียนเป็นชมรมหรือสมาคม พวกเราจะได้เป็นนิติบุคคลซึ่งสามารถทำอะไรได้ตามที่กฏหมายกำหนด พวกเราจะสามารถสั่งกระสุน สั่งอุปกรณ์ประกอบต่างๆ เข้ามาได้ในนามของสมาคมที่เป็นนิติบุคคล ต่อไปก็ไม่ต้องไปง้อร้านปืน ราคาก็จะถูกลง สมาชิกก็จะมากขึ้นๆ เรื่อยๆ และสุดท้ายก็จะมีแต่ Wow! This  is Fun. and Happy.  แบบนี้คนจากวงการอื่นๆ ก็จะมุ่งเข้ามาหาพวกเรา  แม้แต่ตอนนี้ก็มีคนที่กำลังสนใจเป็นจำนวนมาก  แต่พวกท่านเหล่านั้นยังไม่มีแหล่งความรู้ แหล่งข้อมูลที่จะเข้ามาศึกษาหาความรู้หรือพบปะสังสรรค์  ดูอย่างโครงการหมดตูดที่กลุ่มพวกเรารวมทั้งผมได้เริ่มนำเสนอซิครับ  ที่แรกก็ยังคิดว่าจะมีคนสนใจร่วมจองให้เติมโค้วต้าได้อย่างไรตั้ง  15  กระบอก ทั้งราคาก็แพง อุปกรณ์ประกอบก็แพง และต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันด้วย ผมกับน้องเต้ยคิดหนักมากๆ เพราะตัวผมเองอยากได้ปืนแบบนี้มานานมากรอมาถึง 20 ปี แต่พอผมนำเสนอข้อมูลทุกอย่าง อย่างละเอียดและพอทุกคนทราบราคายอดโค้วต้า 15 กระบอกไม่พอ เพิ่มเป็น 20 กระบอกก็ไม่พอ เพิ่มเป็น 25 ก็ไม่พอ จนให้สำรองไปอีก 10 กระบอกก็ยังไม่พอ ใครถอดจองเมื่อไหร่มีคนเข้าแทนทันทีและยังมีอีกหลายท่านที่รอจะเข้าสรวมแทนอยู่ตลอดเวลา และพร้อมที่จะตั้งโครงการใหม่ในปีหน้า  ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะยังขาดแหล่งความรู้ แหล่งประสบการณ์ที่จะหาข้อมูลในเรื่องปืนลม

ผมว่ารวมกลุ่มกันเถอะครับ ตั้งเป็นสมาคมหรือชมรมและให้มีการจดทะเบียนด้วย สมากชิกพรึบเดียวเต็มแน่นอนเหมือนตอนจองปืน ผมว่าถ้าเปิดรับสมัครเมื่อไหร่สมาชิกในบอร์ดสมัครกันทุกคนครับ  จะเป็น Thailand Airgun Field Target Association (TAFTA) หรือ  Thailand Airgun Field Target Club (TAFTC) หรือชื่ออื่นๆ ก็ตั้งกันเถอะครับ อยากรวมกลุ่มกันตอนแรกก็เอาเฉพาะผู้ที่เดินทางลงไปแข่งขันปรึกษาหารือกันก่อนแล้ววางรูปแบบ ข้อกำหนด วัตถุประสงค์และคณะทำงานขึ้นมาก่อน แล้วรับสมัครสมาชิกทางเว็บก็ได้ครับ   
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #3845 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 09:33:11 PM »

ลองคิดดูอีก 10 ปี ชื่อของพวกท่านจะถูกจดจำถ้ามีใครมาถามว่า แข่ง ฟิวท์ทาเก็ต เริ่มต้นจากใคร

คำตอบ  อ้อ.. 10 ปีที่แล้วเหรอ แข่งฟิลด์ทาเก็ตเริ่มต้นจากกลุ่มคนรักปืนอัดลม นั้นหละครับ
เขารวมกลุ่มตั้งชมรมชื่อว่า "กลุ่มขิงแก่แต่รักปืนอัดลม"  เห็นว่าพอเริ่มเป็น "พากินสัน"
ศัพท์ฝรั่งเรียกว่างั้น ผมก็ขอเรียกสำเนียงไทยว่า  "พากันสั่น" ก็เลยเลิกรากันไปเองแบบ
แพ้สังขารละครับ  ของแซวซะหน่อย ฮิ ฮิ

สำหรับผมปืนคืออุปกรณ์อย่างหนึ่งครับ เหมือนค้อน เหมือนมีด มันมีหน้าที่ของมันตั้งแต่ถูกสร้างขึ้นมา
ถ้าเปรียบให้เห็นชัดเจน ผมยกตัวอย่างค้อนก็แล้วกัน เมื่อเราซื้อค้อนมา หน้าที่มันก็คือ ตอกตะปู
เราจะตอกตะปูก็ต้องเป็นงานจึงจะนำค้อนมาตอก  เราคงไม่เอาตะปูมานั่งตอกไม้เล่นตัวแล้วตัวเล่าเป็นแน่แท้
อาจจะทำเพื่อทดลองว่า 10 ตัว ต้องไม่งอสักตัวอย่างนั้นหรือเปล่า คิดว่าคงไม่มีใครทำอย่างนั้นรวมตัวผมด้วย

สำหรับปืน ตัวผมก็มองมันเหมือนค้อน คือมันมีหน้าที่ของมัน   ผมซื้อมาเพื่อเอามายิงนกพิราบ
ยิงเป้าก็เพื่อปรับศูนย์ ความบันเทิงเล็กน้อย  ยอมรับว่าผมไม่มีเวลามากขนาดนั้น แค่ลูกล่อลูกชน
หลอกให้ลูกสาวยิงเป้ากระดาษยังต้องมีรางวัลแลกเปลี่ยนให้   ถ้าวันไหนเธอไม่มีอารมณ์ก็เปรี้ยง
เดียวเลิก หนูไม่อยากยิงคะ ต้องรอวันเธออารมณ์ดีจึงหลอกมาให้ยิงเป้าสัก 10 นัด เพื่อแลกเปลี่ยน
กับการไปเซเว่น หรือ ซื้อขนมกรุบกรอบที่ต้องห้ามให้ทาน

สังเกตว่าผมซื้อแต่เบอร์ 2 เพราะผมตั้งใจเอามายิงนกพิราบ ซึ่งตอนนี้ละแวกบ้านผมมันก็แทบจะหมด
ไป ไอ้ที่มาเกาะก็รีบบินไปไม่อยู่นาน  จากสภาวะนี้ผมก็ไม่ค่อยจะได้ยิงก็เลย ได้แต่คอนปืนไปมารอบบ้าน
หนักก็หนัก ชักจะเบื่อๆเหมือนกัน คิดอยากจะขายก็หลายหน  มันก็สอดคล้องที่คุณ Spyman กล่าวไว้ว่า
"ถ้าไม่มีการจัดการแข่งขันหรือมีชมรมเกิดขึ้น ปืนลมหมดความท้าทาย"  ลองคิดได้อย่างนี้ แสดงว่าคุณ
spyman คงจะอาบน้ำร้อนมาก่อนผมเป็นแน่แท้  ผมเองตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกว่าปืนลมหมดความท้าทายซะแล้ว
เพราะไม่มีนกพิราบให้ยิง

ตอนเด็กผมจะได้สัมผัสปืนลมก็เฉพาะช่วงปิดเทอมใหญ่  ยิงทุกวันยิงเป็นเดือน เว้นช่วงสงกรานต์แค่
สองอาทิตย์  แต่ก็จำได้ว่ามันไม่แรงอย่างนี้เพราะผมยิงนกกระจอกที่อยู่ในรูสันหลังคากระเบื้องลอนคู่
ระยะแค่ 15 เมตร ก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ได้นกกระจอกมาทอดกรอบให้น้า ๆ เขาทานเป็นกับแกล้ม

ถ้าผู้อ่านเคยได้เป็นทหารยามเฝ้าปลายรันเวย์สนามบินเชียงใหม่ ปี 2521 คงจะจำได้ว่าได้เคยไล่เด็ก
กลุ่มหนึ่งที่เขามาเล่นสเก็ตบอร์ดและชอบมาไล่ยิงนกที่ปลายรันเวย์ พอไล่เสร็จพรุ่งนี้มันก็มาอีก เราก็
เห็นว่าไล่บ้างไม่ไล่บ้าง  (น่าจะเป็นเพราะยามคนละคน)  ก็เลยคิดว่าคงไม่เป็นไร ก็คิดตามประสาเด็ก
พอนึกถึงว่าตอนนั้นมันราวปี พ.ศ. 2521-23  ก็หันมาดูตัวเองว่าทำไมทำอย่างนั้น เออ ตอนนั้นเรามีปัญหา
ไม่มีที่เรียบ ๆ ให้เล่นสเก็ตบอร์ด ไม่มีสนามให้ยิงปืนนี่นา ตอนหลังห้าวขึ้น ก็ไปปล่อยตัวเองลงจากบริเวณ
ครูบาศรีวิชัย ลงมาหน้าสวนสัตว์ ความรุ้สึกมันสุดยอด เครื่องป้องกันก็ไม่มี แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีคิดแล้ว
บอกตรง ๆ ว่า "ผมนั้นโง่บัดซบ" คำนี้เป็นท่อนหนึ่งของโฆษณา "ถ่านไฟฉายตรากบ" ตอนนั้นรถรา
ไม่ค่อยมีเยอะครับ ส่วนปืนลมก็ฝากไว้กับร้านขายดอกไม้ บอกว่าเดี๋ยวจะขึ้นมาเอา ตอนนั้นยิงนกแถว
น้ำตกหัวยแก้วได้ก็ปิ้งกินแถวน้ำตกนั้นเลย ก็ไม่เห็นจะอร่อยเท่าไหร่หรอก สู้ไก่ย่างแถวนั้นไม่ได้สักนิด

สองอาทิตย์นี้ใช้เวลาว่างหาข้อมูลเพื่อนๆ ม.ศ. 3  ปวช  ปวส  เรื่อยมาจนจบการศึกษาล่าสุด
ก็พบว่า เพื่อนสมัย ม.ศ.3 ตายไปแล้ว 19 คน  ปวชอีก 10 ปวสอีก 7 และอื่น ๆ อีก 8
เลยสงสัยว่าทำไมมันตายกันเยอะอย่างนี้นะ  ผมก็ไม่รู้ว่าคิวของผมจะมาเมื่อไหร่

มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งชื่อ ครูก๋อง ย้ายไปรับราชการครูอยู่แม่ฮ่องสอน ขอซื้อปืนพก เพื่อพกไปสอน
เพราะพื้นที่มันเสี่ยง พวกผิดกฏหมายมีมาก เขาเป็นคนอารมณ์ดี พูดอะไรก็หัวเราะร่วนเหมือนเมากัญชา
หน้าแดงตลอด  ถ้าเข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ก็เอาปืนมาให้ชมบ่อย ๆ กระบอกเดิมนั้นหละครับ
ดำเงาวับไม่มีสึกเพราะไม่ได้ยิง บอกว่ากลัวปืนมีตำหนิ   ผมก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้ว่า ครูก๋องเสียแล้ว
เสียตอนไหน เผาเมื่อไหร่ ผมไม่รู้เรื่องเลย


เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็เกือบเป็น 1 ในจำนวนรุ่น ม.ศ.3 ที่เสียชีวิต   ด้วยการ
โดนวัยรุ่นกระทืบตายหรืออาจโดนยิงตายก็ได้  เพียงเพราะแค่มันขับรถตีโค้งข้ามเลน
จะมาชนผมที่กำลังขี่มอไซค์เพลิน ๆ  พอรถผ่านกันไปผมเห็นมันทำปากหมุบหมิบด่า  
ผมก็เลี้ยวกลับตามไปเรียกให้มันจอด แล้วก็เดินตัวเปล่าเล่าเปลือยเข้าไปหามันที่รถ
พูดคุยให้มันลงมากระทืบคนแก่คนดีคนนี้สักหน่อยเถอะ    มันก็ไม่ลงนะ คงไม่อยากทำคนแก่มั้ง

มันเปิดกระจกบอกว่าเราขี่มอไซค์เงอะงะ โธ่ไอ้บ้าเอ่ย รถมึงจะชนกูจะไม่กูเงอะงะเหรอ
แล้วตรงนั้นก็มันเลนกูซะด้วยนะ  ผมก็ถามมันว่าถ้าชนผมแล้วจะทำยังไง
มันก็ตอบว่า ก็ไปโรงบาลซิ   ไอ้ผมอยากจะหัวเราะในความโง่ของตัวเองที่ตั้งคำถาม
ไปอย่างนั้น ก็แอบหัวเราะในใจ  มันก็ตอบถูกของมันนะ แม้จะดูกวนตีนก็ตาม
แต่สำหรับผมมันเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้วครับ ตรงนี้ต้องยอมมัน

ขนาดผมแกล้งพูดให้ของลับชายต่อหน้าต่อตามัน แต่ผมพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพนะ
คือทำให้กวนตีนที่สุด แฟนมันก็นั่งข้างๆ คงได้ยิงเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ลงมา
สงสัยเป็นริดสีดวงหรือไม่ก็เป็นโรคเกาท์มั๊ง  พออารมณ์เย็นลงก็เดินไปยืนบนฟุตบาท
มองผ่านกระจกที่มันเปิดดูหน้าแฟนมัน เออ แฟนมันสวยดีวะ มันก็ไม่ยอมลงมา
แถมเอี้ยวตัวมาถามให้เบอร์โทรศัพท์ซะอีก ผมก็ตอบไปว่าไม่เอาหรอกน้องเอ้ย
อารมณ์มันเย็นลงมากแล้วผมก็ไม่พูดอะไร วัยรุ่นคนนั้นก็ขับรถออกไป ผมก็มา
นั่งคิดได้ว่า "ผมนั้นโง่บัดซบ" ขออีกครั้งนะ

ผมนะผิดตั้งแต่เลี้ยวรถกลับไปเรียกเข้าให้จอดแล้วหละครับ ถ้ามีเรื่องมีราวขึ้นโรงขึ้นศาลผมก็ผิดเต็มประตู

ตอนขึ้นศาลแล้วแพ้คดีนั้นนะถือว่าโชคดีแล้ว  ลองคิดดูผมมีโอกาสโดนสวนด้วย 11 มม.
ตรงที่เรียกเขาจอดแล้วเดินเข้าไปหาตายแบบไม่รู้ตัวเลยหละ  วอนหาเรื่องซะจริง ๆ เราเนี่ย
ตอนนั้นไม่มีอะไรอยู่ในตัวเลย มีแค่กระเป๋าตังค์ให้ปอเต๊กตึ้งรู้จักว่าเป็นใคร

แบบว่าทุกวันนี้แม้แก่แล้ว แต่ใจมันไม่แก่ตามนะ ทำไงดีไอ้ความรู้สึกอย่างนี้อยากจะ
ขจัดทิ้งไปให้หมด ให้รู้ตัวว่าแก่แล้วนะ วิ่งแค่กิโลเดียวหอบเหนื่อยมาก

คิดย้อนไปตรงเหตการณ์แล้วรู้สึกตกใจกลัวมาก กลัวไม่ได้เห็นหน้าลูกเมีย
ผมเป็นคนมีห่วง แล้วไอ้ห่วงตัวนี้ก็ทำให้ผมกำลังจะกลายเป็นคนขี้ขลาดไปซะแล้ว
ทำไมผมถึงไปมีเรื่องไร้สาระแบบนั้นได้ ต้องเข้มงวดมีวินัยกับตัวเองให้มากกว่านี้

มีคนหลากหลายที่ชอบตั้งคำถามทำนองถ้าเจอเขาขว้างหิน เจอเขาวิ่งเข้ามา
จะทำร้าย เจออะไรร้าย ๆ ทำนองนี้ ถ้ามีปืนอยู่ในมือจะทำอย่างไร คำตอบที่ออกจาก
ตัวผมคือให้วิ่งหนีให้เร็วที่สุดบ้าง ให้ไปแจ้งตำรวจบ้าง ให้ยอมแพ้เขาบ้าง
ไม่มีสักครั้งที่ตอบให้เขาพาตัวเองเข้าสู่เหตุการณ์ในเบื้องหน้า  แต่พอเอาเข้าจริง
วันนั้นมันน่าจะมีผีอะไรสักอย่างมาดลใจให้ผมวกเลี้ยวมอเตอร์ไซค์ตามไปหาเรื่องเขา
มันแปลกจริง ๆ หรือว่าไปหลงแอบรักแฟนเขาเข้าแล้วกระมัง ฮิ ฮิ

หรือว่ามันเป็นนิสัยของผม บ่อยครั้งผมก็สังเกตุว่า นักมวยส่วนมากถ้าย้อนดูฐานะ
ตอนเริ่มเข้าวงการมักจะไม่ค่อยมีเงินพอใช้ หรือทางบ้านมีปัญหาเรื่องเงิน
แต่ผมกลับไปชกมวยตามงานวัด หลังเลิกเรียนภาคค่ำ เพียงแค่อยากสนุก
มันจะเจ็บแค่ไหนกัน จะว่าตอนนั้นยากจนก็ไม่น่าจะใช่  เพราะเงินเดือนที่พ่อให้
ก็ยังมากกว่าครูที่สอนหนังสือผมเสียอีก แล้วมันเป็นเพราะอะไร
ตอนเรียนมหาลัย ก็ขึ้นชกมวย แบบน้ำหนักคู่ชก 4 ก.ก. ผลนะหรือ โดนน๊อก
ตั้งแต่ยกหนึ่ง ตอนนั้นเป็นรอบชิงเหรียญเงิน ผมแพ้ตั้งแต่ลอดเชือกขึ้นเวที
แล้วหละครับ คู่ชกคนนี้ก็วิ่งสวนกันทุกเย็น ยิ้มให้กันทุกวัน แต่บังเอิญผมไป
อยู่รุ่นใหญ่สุดน้ำหนักเกิน 60 กก.ขึ้นไป แล้วไอ้ผมก็ดันน้ำหนัก 60 กก. พอดีเป๊ะ
ส่วนเขา 64 กก.  ยืนเทียบกันบนเวที นักศึกษาโห่กันสนั่นท้องพระโรง
เพราะผมตัวเล็กนิดเดียว คู่นี้ดูไม่สนุกหรอกครับมันห่างชั้นกันมาก
ก่อนชกไอ้พี่เลี้ยงแอบกระซิบบอกผมว่า "เองไม่ต้องสนใจ น้ำหนักที่
มากกว่าเรา 4 กก. ไอ้ห่านั้นกระโปกมันใหญ่" (ขออภัยคำไม่สุภาพ
แต่อยากให้มันได้อารมณ์ขันในตอนนั้น) ครั้นผมถูกน๊อก
พอลงมาผมก็บอกพี่เลี้ยงกลับว่าไอ้ที่ผมไม่ลุกเพราะ
กรรมการนับเป็น ภาษาฝรั่ง วัน ทู ทรี ...... ผมแปลไม่ออก
ถ้านับเป็นภาษาไทยผมลุกตั้งแต่นับสามแล้วครับ  ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #3846 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 09:39:20 PM »

พรุ่งนี้ผมไปวัด  ตอนบ่ายมีนัดเอาปืนอัดลมไปโชว์ให้อาจารย์ผู้สนใจจะซื้อปืนอัดลมให้ลูกชาย
เพราะผมไปบอกเคล๊ดลับการฝึกทำสมาธิด้วยการยิงปืน อาจทำให้ลูกชายอาจารย์เรียนดีขึ้น
อาจารย์บอกว่ายังไม่รู้จักปืนอัดลมเลย พรุ่งนี้บ่ายคงรู้จักและพวกเราน่าจะได้สมาชิกปืนอัดลมอีกท่านหนึ่ง
ครานี้คงไม่ต้องห่วงเพราะอาจารย์ไปต่างประเทศบ่อย แต่ไม่รู้ว่าไปลาว หรือ ยุโรปนะ

พอผมรู้ว่าอาจารย์รอปืนโครงการอยู่ ก็บอกให้อาจารย์ยกเลิกเถอะ เอาเงินมาซื้อปืนอัดลมดีกว่า
เพราะทำนายได้ว่า ได้มาอาจารย์ก็ไม่ได้ยิงหรอก แล้วเวลาโดนโจรจี้ก็ชักปืนไม่ทันหรอกครับ
ตอนอยู่บ้านถ้ามีอะไรกึกกักนอกบ้านก็อย่าออกไปก็หมดเรื่อง โทรเรียกตำรวจอย่างเดียวก็พอแล้ว
เดียวนี้โจรมันตัดสายโทรศัพท์เราก็ใช้มือถือสิ  เออ ได้ผล วันนี้ตอนบ่ายโทรนัดผมขอดูปืนว่า
มันมีหน้าตาอย่างไร
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3847 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 10:53:16 PM »

ได้ข้อมูลราคากล้อง ZOS จากคนขายที่ฮ่องกงแล้วครับ

ZOS 10-40x60ESF     ราคา  5,840 บาท
ZOS   6-24x50ESF     ราคา  5,360 บาท

ราคานี้รวมค่าส่งถึงประตูบ้าน

อุปกรณ์ที่มีได้แก่ Scpoe + Mounts +  Sunshade + SideWheel + Flip up covers + Battery + Screwdriver

ตามรูปไม่มั่นใจเรื่องขาจับกล้องว่าจะเหมือนของผมหรือไม่


* flipuph.jpg (95.83 KB, 1024x768 - ดู 893 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2009, 10:55:40 PM โดย TrophyX » บันทึกการเข้า
army555
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 261


« ตอบ #3848 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 10:58:14 PM »

ไปดูด้วยได้ไหมครับพี่
ดูที่วัดรึดูที่ไหนอ่ะครับ เผื่อผมได้เข้าไป
ตอนโทรไปหาพี่ ผมก็ดันลืมถามซะนี้
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3849 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 11:00:54 PM »

ผมอยากให้ทุกท่านที่สั่งกล้อง ZOS ได้ใช้ขากล้องแบบนี้ครับ ซื้อจากพ่อค้าชาวจีนซึ่งราคาถูกว่าพ่อค้าฮ่องกงประมาณ 500 บาทครับ  คงต้องรออีกหน่อยจึงจะทราบราคา และจะต้องรอ 1 เดือนจึงจะมีของครับ


* DSC_0006.jpg (127.5 KB, 800x531 - ดู 882 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2009, 11:04:12 PM โดย TrophyX » บันทึกการเข้า
tui086
Hero Member
*****

คะแนน 1083
ออฟไลน์

กระทู้: 6255



« ตอบ #3850 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 11:04:42 PM »

   อยากได้บ้างจังเลย......
   แต่ตอนนี้......คุณsuchiครับ   ยังไงๆก็ฝากดู ลูกเบอร์1ตามที่บอกมาให้ผมด้วยเด้อ คับ เด้อ.....จะเอามาคู่กับของเล่นชิ้นใหม่...
   Feinwerkbau  Mod.65  ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า....
บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #3851 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 11:07:29 PM »

ได้ข้อมูลราคากล้อง ZOS จากคนขายที่ฮ่องกงแล้วครับ

ZOS 10-40x60ESF     ราคา  5,840 บาท
ZOS   6-24x50ESF     ราคา  5,360 บาท

ราคานี้รวมค่าส่งถึงประตูบ้าน

อุปกรณ์ที่มีได้แก่ Scpoe + Mounts +  Sunshade + SideWheel + Flip up covers + Battery + Screwdriver

ตามรูปไม่มั่นใจเรื่องขาจับกล้องว่าจะเหมือนของผมหรือไม่

ตัวในรูปคือ6-24ใช่มั้ยครับพี่ทศพล น่าสนใจมากครับพี่
ถ้าเทียบกับXD optics ตัวไหนสวยกว่าครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

     
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3852 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 11:20:52 PM »

ใช่ครับ ในรูปเป็นรุ่น 6-24x50ESF และคิดว่าสวยกว่า XDoptics ครับ เพราะถ้าตีตรา ZOS จะผลิตให้กับทางรัสเซีย แต่เป็นห่วงเรื่องขากล้องครับ ไม่รู้จะออกมาแบบไหน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2009, 11:24:15 PM โดย TrophyX » บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #3853 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2009, 11:30:02 PM »

ใช่ครับ ในรูปเป็นรุ่น 6-24x50ESF และคิดว่าสวยกว่า XDoptics ครับ เพราะถ้าตีตรา ZOS จะผลิตให้กับทางรัสเซีย แต่เป็นห่วงเรื่องขากล้องครับ ไม่รู้จะออกมาแบบไหน 
ขาไม่เป็นไรครับพี่ หาขาดีๆใส่ไปเลยที่ม.ฮะ น่าจะมีครับ
ถ้าเรื่องปืนยืนยันว่าใด้แน่(35กระบอก)ผมเอาตัวนี้แหละครับพี่ทศพลZOS   6-24x50ESF อาจจะต้องรบกวนพี่ด้วยนะครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

     
MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #3854 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2009, 01:58:12 PM »

ท่านสิทธาครับ  ตั้งสติไว้ครับ  นึกถึงลูกสาวไว้ครับ  ลูกเรายังเล็ก เมียเรายังสวยสมบัติยังมีให้ใช้ไปอีกนาน  อย่าไปเสี่ยงกับไอ้พวกที่จะไปเข้าเวรเลยครับ  มันจะรับไปตายนะ  ถ้าพบไอ้พวกนี้ มันจะแซงซ้าย หรือ แซงขวา  ผมไม่ค่อยตกใจแล้วครับ  ผมคิดเสียว่ามันรีบที่จะไปตายแทนเรานะ ผมจะให้ความสดวกทุกอย่าง  ลดความเร็วให้แซงไป  หลบให้ท่านปาดไปเลย  ผมกะเอาไว้ว่าจะรอดูตัวเองว่าถ้าผมขาวหมดหัวจะหล่อขนาดไหน  แต่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นไหม  เพราะขนาดยังไม่ทันขาว มันก็ร่วงไปมากแล้ว  เผลอๆจะไม่ได้เห็นผมขาวเอาด้วยซิ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 254 255 256 [257] 258 259 260 ... 807
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.151 วินาที กับ 25 คำสั่ง