ขอโทษครับ ขอสอบถามเรื่องปืนลมสริงแบบ gas spring ครับ
คือปืนสปริงแรงอยู่ 1000 เปิดตามเวปเขาบอกว่าซื้อ gas spring เปลี่ยนได้ทันที
แล้วมันจะแรงถึง 1000 เท่าเก่าใหมครับ
แล้วถ้าปืนแรง 800 เปลี่ยนแล้วมันจะแรง 800 เหมือนเดิม หรือ เพิ่มขึ้น
อะไรเป็นตัวกำหนดความแรงของกระสุนครับ
ถ้าเป็นสปริงเราซื้อสปริงที่แรงขึ้นใส่แทนของเดิมได้หรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
มีอยู่คนหนึ่งที่เชียงใหม่ ใช้ HW90 เป็นรุ่นใช้ gas spring หรือตามสเปค
จำได้ว่าเขียนไว้อย่างนี้ครับ theoben gas ram ผมเคยหลงไหลและจองรุ่นนี้
แต่ไม่ยักกะมีคนสนใจ ก็เลยเบนเข็มมาที่ hw97 ซึ่งเป็นรุ่นแรงน้อยกว่า
ก็เลยไม่มีประสบการณ์กับ gasram แต่ก็เห็นว่าสะเทือนแรงเหมือนกันนะ
ประมาณขาเมาท์ไม่ดีก็ออกการเลื่อนให้ปวดหัวเหมือนกัน
เปลี่ยนกระบอกแก็สแล้วจะแรงขึ้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
แต่ถ้าอะไรเป็นตัวกำหนดความแรงของกระสุน ก็ต้องแยกให้ออกว่า
แรง กับ เร็ว มันคนละอย่างกันครับ ถ้าพูดถึงแรงในที่นี้ก็น่าจะเป็นแรงปะทะหรือพลังงาน
ดูพิจารณาได้จาก
กระสุนเร็วแต่ไม่แรง ก็คือกระสุนน้ำหนักเบา
กระสุนไม่เร็วแต่แรง ก็คือกระสุนน้ำหนักมากกว่า
นั้นก็คือน้ำหนักกระสุนที่มากกว่าก็มีส่วนช่วยอมพลังงานไว้ในตัวได้มากจึงแรงปะทะมากกว่า
ในกรณีนี้จึงอาจเปรียบได้ว่า น้ำหนัก เป็นตัวกำหนดความแรงกระสุน
ถ้ายังไม่เข้าใจก็ให้คิดว่าเรายิงปืนอัดลมกระบอกเดียวกันแต่ใช้กระสุนน้ำหนักต่างกันมายิง
จะเห็นว่าการยิงทั้งสองครั้ง จะให้แรงอัดลมเท่ากันเพราะเป็นปืนอัดลมกระบอกเดียวกัน
แต่กระสุน 2 นัดทีมีรูปร่างเหมือนกัน ต่างกันที่น้ำหนักไม่เท่ากันนั้น กระสุนเบากว่าถึงเป้าเร็วกว่า
ในความเร็วกว่าของกระสุนที่เบานั้น มันจะเสียพลังงานไปกับแรงเสียดทานอากาศมากกว่า
ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกว่า เราขับรถจากบ้านไปตลาด 2 ครั้ง ครั้งแรกเร่งความเร็วสูง
ครั้งที่สองขับไปช้า ทำไมมันกินน้ำมันไม่เท่ากัน ทั้งที่ระยะทางเท่ากัน
น้ำมันเชื้อเพลิงที่หมดไปมากกว่าหายไปให้กับอะไร นั้นก็คือความเสียดทานต้านอากาศนั้นเอง
ดังนั้นกระสุนที่เร็วกว่าย่อมเสียพลังงานส่วนหนึ่งให้กับแรงเสียดทานมากกว่ากระสุนที่วิ่งช้ากว่า
แต่ถ้ากระสุนน้ำหนักเท่ากัน แน่นอนครับ ลูกที่วิ่งเร็วกว่าก็ย่อมแรงกว่า
ในกรณีนี้ความเร็วจึงเป็นตัวกำหนดความแรงกระสุน
ถามว่าจะพะวงเรื่องนี้ไปทำไม ก็ตอบว่าไม่ต้องพะวงหรอกครับถ้ายิงระยะ 10 - 20 เมตร
กระสุนเบาหนักก็ไม่ต่างกันมาก แต่ถ้ายิงระยะ 35 - 50 เมตร รับรองว่าเห็นผลเรื่องน้ำหนักกระสุน
ตอนทดสอบเอาไปยิงกระดาษระยะ 50 เมตร บะ มันเข้าท่า แม่นน่าดูเลย
แต่พอเอาไปยิงกระรอก ดีไม่ดียิงไม่เข้านะ อดคิดว่ากระรอกหนังเหนียวไม่ได้
นั้นก็เป็นเพราะกระสุนไม่มีแรงพอจะทะลุเข้าไปก็แค่จุก ๆ
เรื่องน้ำหนักหัวกระสุนสำคัญมากครับ
ก็จะเห็นว่าผมเล่นเบอร์ 2 ตลอด ระยะยิงมันไกลจึงต้องการพลังงาน
เหลือในหัวกระสุนที่มากพอที่จะล้มเป้าครับ
ที่เราเห็นเบอร์ 1 ยิงกระป๋องโค๊กทะลุในระยะ 50 เมตร ก็นึกว่าแรง
ปืน BB ก็ยิงทะลุ 2 ด้านในระยะ 20 เมตรนะครับ พอยิงจ่อคนระยะ 5 เมตรยิงไม่เข้าอีกต่างหาก
แค่ช้ำ ๆ หนังมันเหนียวกว่ากระป๋องน้ำอัดลมครับ
ที่นี้โดยส่วนมากเราอยากจะเพิ่มความเร็วกระสุน แต่หาน้ำหนักหัวกระสุนเบาไม่ได้
มันหายากกว่าเปลี่ยนสปริง จึงหันมาเปลี่ยนสปริงแทน ในกรณีนี้ก็คือ gas ram
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความเร็วกระสุนและได้แรงปะทะมากขึ้น
ดังนั้นในกรณีเปลี่ยนสปริงหรือ gas ram แล้วกระสุนจะแรงหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับ 3 อย่างคือ
1. gas ram อันใหม่ คืนตัวได้รวดเร็วกว่าหรือไม่
2. ช่องว่างเหนือซีลอัดลมระหว่างหัวสูบกับผนังห้องสูบเมื่อโช๊คดันตัวสุดมีระยะห่างแค่ไหน
ตรงนี้ต้องแยกให้ออกว่า เมื่อโช๊คดันซีลจนสุดแล้ว โช๊คยังมีแรงดันอยู่อีกมากแค่ไหน
ตัวอย่างเช่น ถ้าโช๊คยืดตัวสุดก็พอดีกับซีลชิดกับผนังห้องสูบ ก็จะไม่แรงเท่ากับโช๊คอีกตัว
ที่ยังยืดตัวไม่สุดแต่ซีลผนังแล้ว ได้อย่างเสียอย่างนะครับ ได้ความแรงแต่ปืนพังเร็ว ห้องสูบจะแตกง่ายครับ
ต้องคิดให้ดี โดยปกติอากาศเหนือซีลมันจะเป็นตัวช่วยซับแรงกระแทกอยู่แล้วครับเมื่อมีกระสุนในลำกล้อง
แต่พอเปลี่ยนสปริงที่แรงขึ้น มันก็เหมือนกับเรายิงแห้งกับสปริงธรรมดา แล้วยังได้ของแถมมาให้
อีกคือไกลั่นได้ง่ายเพราะตัวตะขอรั้งสู้แรงสปริงไม่ค่อยไหว อาจเกิดอุบัติเหตได้ง่าย
ต้องตั้งไกหนักกว่าเดิม แต่ก็ยังอันตรายอยู่ดีครับ
3. คุณภาพของซีล ตัวนี้ก็เป็นตัวกำหนดความแรงของกระสุนได้เช่นกัน ไม่ควรมองข้ามครับ
สมัยก่อนเคยกลึงยูรีเทนใช้เอง ทนดีแต่อัดลมไม่เก่งเท่าซีลของเขา
ก็คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ตัวผมเองก็อาจหลง ๆ ลืม ๆ ลาง ๆ ไปบ้าง เรื้อเรื่องแกะปืนอัดลมสปริง
มานานมาก ตอนนั้นแกะปืนจนพังหมด 7 กระบอกก็เลยไม่มีปืนให้ยิงอีก เพิ่งมาได้ยิงไม่กี่ปีมานี้เองครับ