หมู่นี้เงียบๆยังไงไม่รู้ อยากอ่านเรื่องเล่าจากคุณsittaจังเลย
คุณเต้ยครับนี่ก็เข้าวันที่ 7 ก.ย.แล้ว ข่าวเกี่ยวการจองปืน AA 410 คืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ
update ให้ทราบบ้างครับ
สวัสดีพี่ๆเพือนๆทุกท่านครับ ช่วงนี้บินเยอะมากต้องไปต่างจังหวัดเยอะมากเลยไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่บ้านเท่าไหร่ครับ วันนี้ว่างๆเลยได้โทรไปสอบถามจากทางร้านเอกภัทรถึง
ความคืบหน้าครับ ได้คำตอบว่าตอนนี้กำลังรอเอกสารใบ ป.2 ออกอยู่ ถ้าได้มาเมื่อไหร่ก็จะส่งให้ทางโรงงานAA และถ้าทางร้านได้คำตอบยืนยันวันส่งและรับมอบปืนเมื่อไหร่นายห้างจะแจ้งให้ทราบทางpmของเต้ยครับ นายห้างบอกว่ารอได้รับคำตอบยืนยันวันส่งของจากโรงงานเมื่อไหร่ พวกเราค่อยไปขอใบ ป.3 กันก็ได้ครับ มีเวลาเดือนครึ่ง-2เดือน ป.3ออกทันแน่นอนจ้า
ไม่ได้ยิงปืนนานๆระวังมือตกนะครับ
ได้ยินน้องเต้ยบอกไม่มีเวลาเพราะต้องออกบินบ่อย ๆ ก็ทำให้ผมคิดถึงเมื่อเกือบสิบห้าปีที่แล้ว
มันนานมากจำได้ลาง ๆ ว่าสมัยนั้นกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ที่คล้องคอเป็นกล้องดิจิตอลบันทึกภาพแบบ
ใส่แผ่นดิสก์ ความละเอียดแค่สามแสนพิกเซล ความละเอียดสูงสุดคือ 1 ภาพต่อ 1 แผ่นดิสก์
ตัวเก่าคือกล้องแคนนอนบันทึกภาพพร้อมเสียง จะโอนภาพได้ต้องผ่านเสียบกับแท่นของมันเท่านั้น
แคนนอนความละเอียดกว่านิดหน่อยไม่ถึงล้านพิกเซล แม้จะออกก่อนแต่ก็มีราคาแพงกว่า
ในช่วงนั้นผมได้รับคำเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบรรยายให้กับนักบินสมัครเล่นที่สถาบันการบินพลเรือน
วัยของผู้เข้ารับการอบรมในรุ่นนี้ ก็มีทั้งแก่กว่าหรือรุ่นเดียวกับผมในตอนนั้น แต่ดู ๆ แล้วเหมือน
ส่วนมากจะอายุมากกว่าผมนะ ทุกคนบินเป็นหมดแล้ว แต่ละคนเป็นเจ้าของโรงน้ำตาล โรงน้ำปลา
สะพานเรือ อีกมากมาย ก็ทุกคนเป็นเจ้าของธุรกิจ หลายคนก็มีเครื่องบินส่วนตัว ผมถูกชวนไปบิน
บ่อยครั้งแต่ก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะจะทิ้งงานไปเที่ยวก็ไม่ใช่ตัวเรานะ ก็พวกพี่ๆเล่นไปบินกัน
แต่ละครั้งเป็นสัปดาห์ใครจะไปด้วยเล่า ใจจริงก็อยากไปนะ เกิดมาไม่เคยขึ้นเครืองบินกับเขาเลย
มีอยู่หนหนึ่งโดนชวนไปบินรอบโลกโดยเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ผมหมดฟรีตลอดงาน
ขอเพียงแค่นั่งไปเป็นเพื่อนกัน ดูเอาสิเขามีเวลาว่างกันขนาดนั้นเลยนะ
ผมก็ปฏิเสธไปอีกบอกตามตรงว่าในจิตลึก ๆ ที่ยังไม่รู้ตัวผมเองอาจจะกลัวความสูงก็ได้
แค่บินไปจังหวัดตากผมยังไม่ไปเลยครับ ทั้งที่สองจิตสองใจอยากไป
แต่ความกลัวมีมากกว่า ดีไม่ดีได้ไปผจญภัยติดเกาะแบบหนังเรื่อง cash away ที่มี
tom hanks เล่นเป็นตัวเอกของเรื่องละก็กูเอ๋ย
พอมาอีกไม่กี่ปีผมก็ลางานออกบินด้วยตนเอง บินวันละกว่า 1 ชั่วโมง
ก่อนออกบินใหม่ก็ต้องจัดแถวทำให้ผมรู้สึกรำคาญใจกับพิธีรีตรองอย่างมาก
การบินก็มีทั้งบินเดี่ยว บินหมู่ บินกลุ่ม บินอยู่ 28 วัน ยังไม่ครบก็รู้สึกร้อนใจ
คิดถึงแฟนก็ขอเลิกบินโทรให้แฟนมารับแล้วทำเรื่องอนุมัติกลับมาทำงานอย่างเก่า
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ผมขอเล่าตอนหนึ่งของการบินของผมให้ฟังเป็นประสบการณ์สำหรับคนที่กำลังจะได้บินนะ
วันนั้นตอนเช้าตรู่ มองเห็นแสงรำไรจาง ๆ ตัดขอบฟ้าสีน้ำเงิน แผนการบินในวันนี้คณะของผม
ในตอนแรกจะบินตามกันเป็นเส้นตรงก่อนในความเร็วปกติของการบิน เมื่อครบระยะเวลา 10 นาที
จะแยกตัวออกไปทางซ้ายและขวาเป็น 2 เส้นทาง จากนั้น 1 ชั่วโมงก็จะวกกลับมาพบกันตรงจุดแยก
และตามกันกลับมาที่จุดเริ่มต้น วันนี้แปลก มีเมฆมากเป็นพิเศษดูแล้วฝนฟ้าครึ้ม อันที่จริงจะระงับการบิน
ก็ได้ แต่ทุกคนก็กลัวว่าชั่วโมงบินจะไม่ครบและถ้าหากเป็นการบินกลางฝนมันก็ตื่นเต้นดี จึงพากันออก
บินตามปกติ
ระหว่างบินอยู่สายตาผมชอบมองลงไปยังพื้นดินมองเห็นพื้นโลกตอนฟ้ายังไม่สว่างมันเหมือน
มีก้อนตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน เส้นทางการบินของผมจะต้องบิน
ไปถึงจุดวกกลับอีกเส้นทาง คือเราจะไปบินกลับทางเดิม หลายหนต้องยอมเสียเวลาเพื่อบิน
อ้อมสักนิดหน่อยเมื่อเจออุปสรรคที่ขวางอยู่ด้านหน้า
บ่อยครั้งผมก็รู้สึกว่าแรงลมพัดจนตัวเราโยนไปมา ผมต้องฝืนต้านไม่ให้ตัวเองออกนอกเส้นทาง
อันจะทำให้คนที่ตามหลังพากันเสียขบวนได้ เรามีกฏอยู่ว่าห้ามบินแซงกันเด็ดขาด และไม่ให้บิน
แบบเรียงหน้ากระดาน เหตุผลด้วยอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกันอันที่จริงหน้าจะทำได้ บางทีผมก็คิด
ว่าถ้าฟ้าผ่าลงมาผมจะทำอย่างไร
หลังจากที่พากันกลับมายังจุดเริ่มต้นเราทุกคนก็ไปรวมตัวกันหน้าอาคารเพื่อรอรายงานตัว
ระหว่างนั้นต่างคนต่างเอาข้าวของที่ได้มาจากการบินออกมารวมกัน และเตรียมตัวพากัน
ไปสวดมนต์ก่อนอาหารเช้า จำได้ว่าผมได้ชื่อเอาไว้ขานว่า "ไชยะมังคโล" เฮ้อ พรุ่งนี้ก็ต้อง
ออกบินแต่เช้าอีกแล้ว คิดถึงบ้านชมัด
คำสะกดคำว่าบินของผมถ้าสะกดให้ถูกต้องคือคำว่า "บิณฑบาตร"
จะเห็นว่าการบินของน้องเต้ย กับของผม เป็นการบินคนละแบบกัน
ของน้องเต้ยบินบนเพดานสูงใช้ความเร็วสูง ส่วนเพดานของผมเป็นการบินแบบติดดิน
ต้องคอยระวังอุปสรรคที่ขวางทางในการบินมีมากมายอยู่บนพื้นดิน เช่น เศษแก้ว และ
ทีต้องระวังเป็นพิเศษคือ ขี้หมา เพราะจะทำให้ล้อเราเปื้อน
จบ..