พี่ๆครับ.....ผมว่าปืนอวกาศที่พี่ๆว่านี่ก็น่าสนใจนะครับ เอามาใช้งานแรง ทน แม่น แค่นี้ก็ปืนในฝันแล้ว เราไม่ต้องไปเสียตังกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
ราคาก็สบายกระเป๋าไปอีกมาก ถ้าพี่ๆสนใจผมขอสมัครสั่งซื้อด้วยคนครับ
พี่ๆครับผมอ่านผ่านมาหน้าก่อนๆ มีเขียนว่าปืนจีนแดงผิกกฏหมายหรือครับ ปืนผมก็ปืนจีนแต่ทำไมมีทะเบียนตอกที่ตัวปืนหละครับ งงครับพี่ๆท่านได้พอทราบไหมครับ หรือว่าปืนจีนแดงทางรัฐยกเลิกการออกทะเบียนให้ งงจริงๆครับ
อย่าคิดมากครับ เอาเป็นเข้าใจง่ายๆว่า ปืนไหนมีทะเบียน+มีใบป.4ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นปืน ฝรั่ง จีน ลาว แขกถูกหรือแพงแค่ไหนได้หมดครับ แต่กระบอกไหน ต่อให้แพงเท่าไหร่ ยี่ห้อดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีทะเบียนถูกต้อง ก็เป็นปืนเถื่อน ผิดกฏหมายครับ ง่ายๆแค่นี้จ้า
ปืนเถื่อนรวมถึงปืนทำใช้เองแบบชาวบ้านด้วยนะครับ ปืนก้านร่มที่ใช้ปลอกกระสุน .22 อัดแก็ปก็เป็น
ปืนเถื่อนเหมือนกันหากมีไว้และถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบก็จะโดนจับปรับและบันทึกประวัติ
ที่คิดว่าปืนจีนเป็นปืนเถื่อนนั้น ก็มีความถูกต้องบางส่วน เพราะว่าไม่ค่อยจะมีร้านปืน
นำปืนที่มาจากแหล่งผลิตจากจีนมาขายหรอกครับ ดังนั้นหากใครมี ก็มีโอกาสเป็นปืนเถื่อนได้สูงมาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปืนจีนเป็นปืนเถื่อนไปหมดนะครับ ก็อย่างคุณตุ้ยบอกนั้นหละคือถ้ามีใบปอ 4 ก็ ok
ถ้าไม่มีใบปอ 4 ก็ผิดกฏหมายครับ
เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมก็มีโอกาสสัมผัสปืนจีนขนาด 9 มม. เหล็กทั้งด้ามครับ ดูไม่ค่อยปราณีต
ผมจำยี่ห้อไม่ได้ ประมาณนอริงโก้ริงเก้อะไรทำนองนี้หละ ตัวปืนมีเลขซีเรียลหมดเป็นปืนโรงงาน
แต่ก็เป็นปืนเถื่อน ผมก็บอกเจ้าของรถว่าถ้ายังเอาไว้ในรถผมจะไม่ไปกินข้าวด้วยอีก
กลัวซวยไปด้วย ตอนหลังมันจึงเปลี่ยนเป็นปืนแบบมีใบ ปอ4 ผมก็โอเค มันก็พกของมันตลอด
ก็ไม่นานโดนค้นแล้วถูกปรับเรือนหมื่น มีประวัติแบบนี้โอกาสขอปืนกระบอกต่อไปคงยากสักหน่อย
ปืนอัดเทียนก้านร่มผมเคยทำใช้ตอนอยู่ ปอ5 ผมซื้อปืนแก็ปแบบที่ใช้หนังสะติ๊กรัดถุงข้าวรั้งตัวกระทุ้งแก็บ
พอเรากระดกนิ้วโป้งก็ทำให้ตัวกระทุ้งแก็บพุ่งเข้าหนีบแก็บแบบแผ่นที่เราต้องแกะใช้ครั้งละ 1 เม็ด
แก็บ 1 แผง แผงละ 1 บาท มี 50 เม็ด แกะใช้ทีละเม็ด
ตอนหลังก็พัฒนาปรับปรุงเป็นปืนก้านร่ม ช่วงนั้นที่บ้านจะถามว่าร่มหายไปไหน ก็เป็นผมเองละครับ สนุกดีครับ
ยิงต้นไม้ผิวไม้แตกได้ ยิงต้นกล้วยเป็นรูได้ สนุกมากเพราะเสียงดังด้วยยิงออกเหมือนปืนจริงด้วย
การนำเอาก้านร่มมาติดกับปืนแก็บเด็กเล่นก็ต้องเอามีดผ่าตัวกั้นแก็บออกไป แล้วเอาก้านร่มวางลงไปแทนที่
โดยใช้หนังสติ๊กรัดถุงข้าวรัดไว้หลาย ๆ เส้นให้แน่นหนาสักหน่อย เสร็จแล้วก็ลองยิงแห้ง (ทำยังกะปืนของจริงนะ)
เพื่อทดสอบดูว่าไม้กระทุ้งแก็บมันต้องดันก้านร่มขยับไม่ได้
เสร็จก็หาปลอกกระสุน .22 หาง่ายครับ เดินข้ามบ้านไปบ้านเสธ (เรียกตามพลทหารเฝ้าบ้าน ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นบิ๊ก)
ไปค้นปลอกกระสุนพอได้มาก็จัดแจงเอา ตะปูตอกก้นปลอกให้ทะลุเป็นรูก็เป็นอันพร้อมใช้
จากนั้นจึงเอาแก็บใส่ปลอก 2 เม็ด แล้วเอาเทียนอัดลงไป ถ้าต้องการความรุนแรงก็เอาเม็ดกรวดใส่ลงไปด้วย
พออัดแก็บเสร็จแล้วก็ต้องดึงไม้กระทุ้งแก็บถอยหลังจนล๊อกกับท้ายปืน
แล้วก็เอาปลอกกระสุนที่อัดแก็บแล้วใส่เข้าไปในรูก้านร่ม
มันก็แปลกดีนะไอ้ก้านร่มกับปลอก .22 มันใส่กันได้พอดิบพอดี
พอใส่ปลอกกระสุนกับก้านร่มเสร็จแล้วก็ ต้องไม่ลืมเอาแก็ปอีกเม็ด
แป๊ะท้ายปลอกกระสุนด้วย ครั้นพอเราเล็งปืนแล้วกระดกนิ้วโป้ง
ก็จะทำให้ไม้กระทุ้งแก็บหลุดจากล๊อกและพุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงหนังสติ๊ก
ที่รั้งไว้ พอไม้กระทุ้งแก็บอัดแก็บที่ท้ายปลอกกระสุนก็จะระเบิดทำให้
ไฟจากแก็บแลบเข้าไปในรูท้ายปลอกกระสุนและไปติดแก็บในปลอกกระสุนด้วย
จึงทำให้เกิดการระเบิดในปลอกกระสุนดันเทียนและกรวดออกไปทาง
ปากลำกล้องก้านร่ม สนุ๊ก สนุก จริง ๆ
ครั้งสุดท้ายที่ยิงก็เพราะอัดแก็บ 4 เม็ด ทุกครั้งอัด 2 เม็ด ไอ้นัดนี้ละครับ
แก็บสูงครึ่งปลอกกระสุนเลยหละ ผมตั้งความหวังไว้กับนัดนี้สูงมาก
เพราะเป็นนัดแรงที่อัดด้วยแก็บ 4 เม็ด
พอกระกดนิ้วโป้งมันก็เหมือนว่าโลกจะถล่มทุกอย่างนิ่งไปหมด อันที่จริง
ทุกอย่างมันไม่นิ่งหรอกครับ แต่ผมนะยืนเซ่อ มึนเพราะเสียงมันดังมาก มาก
แรงระเบิดดันกระสุนก็พุ่งออกไปอย่างแรง ทะลุไม้อัดงานฝีมือเลยนะ
ตรงนี้ก็อดทึ่งในความแรงตามประสาเด็กไม่ได้
แต่แรงระเบิดมันก็ย้อนดันปลอกกระสุนถอยหลังมาดันไม้กระทุ้งแก็บ
สวนกลับมาตีหัวแม่มือจนห้อเลือดและดันไม้จนกระเด็นหลุดออกมา
จากครอบจนหนังสติ๊กขาดหมดเลย
ผมไม่รู้ตัวว่าคนรับใช้ที่อยู่ในห้องครัววิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
พอมาคิดตอนโต ก็คิดว่าโชคยังดีที่มีหัวแม่มือกั้นไว้ ไม่งั้นทั้งไม้และปลอกกระสุน
คงวิ่งเข้าเสียบหน้าตาแหกเป็นไอ้บอดไปแล้วก็ได้
พอขึ้น ปอ 6 ก็หัดเรียนรู้ทำระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง เพราะตอนนั้นคบเพื่อนรุ่นพี่ เขาเป็นนักเรียนช่างกล
แล้วก็มีพี่พลทหารสอนวิธีเล่นประทัดโดยเอาลูกปืนเอ็มสิบหกมาต่อท้ายกันแล้วเอาก้านมะพร้าวสามเส้น
มารัดล้อมประคองให้กระสุนไม่หลุดแล้วต่อท้ายกันดูแล้วเหมือนลูกกุ้งที่เราจุดพุ่งขึ้นฟ้า
วิธีใช้ก็ใช้แรงเหวี่ยงให้มันพุ่งขึ้นฟ้าไปแล้วพอหมดแรงมันก็จะ
ปักหัวลงมา กระสุนนัดแรกจะเอาหัวปักพื้นก่อน กระสุนนัดที่สอง
ทีต่อท้ายก็จะเอาหัวจิ้มแก็บท้ายของนัดแรก พ่อเจ้าประคุณลุนช่องเอ้ย
เสียงมันดังกว่าจะหาอะไรมาเปรียบก็ประมาณเหมือนมีคนยิงปืนเอ็มสิบหกนั้นหละ
กระสุนมีเป็นกล่องเหล็กสีเขียว พวกผู้ใหญ่ไม่รู้เพราะไปทำงานหมด เราปิดเทอม
อยู่บ้านกับคนใช้ คนใช้ก็ไม่กล้าห้าม
พอชินกับเสียงดังก็พัฒนามาเล่นประทัดสำหรับจุดบอกสัญญาน ประทัดนี้รูปร่าง
มันแปลก ๆ ผมไม่เคยเห็นมันขายตามท้องตลาด มันเป็นบ้องมีชนวนออกมาตรงกลาง
สายชนวนดูแล้วเหมือนตีเกลียวเคลือบกันน้ำอย่างดี ทั้งตัวเคลือบไขกันน้ำ
เห็นพลทหารบอกว่า สายชนวนแบบนี้มันลามไปด้วยอัตราคงที่ สามารถนับเวลา
ตามความยาวของชนวนได้
พลทหารลองจุดให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยฝังลงไปในดินเหนียวริมคู พอจุดไฟชนวนแล้ว
ก็วิ่งมายืนห่าง ๆ โอ้พระเจ้า เสียงของมันดังยิ่งกว่ายิงปืนเสียอีก หลังจากระเบิดแล้ว
ก็เข้าไปดูตรงที่ฝังประทัดก็เห็นหลุมเท่าหม้อข้าว ผมก็เลยเอามาเล่นอีกเป็นกล่อง
มันจริง ๆ แต่ผมปอดแหก เลยใช้วิธีปักไม้ขีดไฟเป็นแนวยาวแล้วจุดไม้ขีดไฟให้มัน
ลามไปหาชนวน ตอนอยู่ปอ 6 ตอนนี้หละที่ผมจำได้ว่าแอบขโมยปืนสั้นออกมาเล่น
หน้าบ้านยิงเสาไฟฟ้าในสมัยนั้นเสาไฟฟ้าเป็นไม้ ปืนเป็น .32 แม็กกาซีนมีกระสุน 5 นัด
ระยะยิง 5-7 เมตร คือเสาไฟฟ้าริมถนน ถอยมายืนยิงฝั่งตรงข้าม ยิงจนหมดแม็ก
เสาไฟฟ้าไม่มีถลอกสักนิด ก็คิดไปเองว่าเสาไฟฟ้าคงแข็งจริง ๆ
(ความจริงยิงไม่โดนต่างหาก)
พอปิดเทอม ปอ 7 ก็ได้เล่นของอันตรายอีก คราวนี้เป็นตัวจุดประทุระเบิด เป็นหลอด
อลูมิเนียนมีสายไฟเล็ก ๆ ออกมา 2 เส้น เจ้าตัวนี้จุดระเบิดโดยใช้ไฟฟ้า อันตรายมาก
สำหรับคนที่ไม่รู้จักมันเห็นสายไฟ 2 เส้น เกิดสงสัยเอาไปคร่อมถ่านไฟฉายทดสอบอาจ
ได้ไปเกิดใหม่ ความแรงมันขนาดทำให้ตันกล้วยใหญ่ ๆ ขาดได้ พี่ทหารบอกว่าเอาไว้
จุดดินระเบิดไดนาไมท์หรือซีโฟร์ก็ได้ คิดว่าในบ้านคงไม่มีไดนาไมท์หรือซีโฟร์ก็เลยไม่ได้ลอง
ผมเล่นได้ไม่นานก็เลิกเพราะไอ้เจ้าตัวนี้มันทำให้ผมไม่ได้จุดไฟ (เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ชอบเล่นไฟ)
ก็ได้ยินว่าในวงการแสดงหนังเขาก็เอาไปใช้เป็นเอฟเฟกระเบิดให้เราชม
พอปิดเทอม มศ1 ปิดเทอมปีนี้ได้กลับเชียงใหม่ และไม่กลับมาบ้านที่กรุงเทพอีกเลย
ปิดเทอมในปีนั้นเอง ผมก็ยังไม่รู้ตัวว่าจะได้สัมผัสกับปืนจริงๆ หลายๆแบบ รวมทั้งปืนอัดลมด้วย
ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสักกระบอก ก็เพราะวัยของผมยังไม่ถึง 17 ปีเลยครับ