เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 01:46:30 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 343 344 345 [346] 347 348 349 ... 807
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: (((รวมนานาสาระปืนอัดลม))) สารบัญหน้าที่ 1  (อ่าน 3823919 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 59 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #5175 เมื่อ: ตุลาคม 04, 2009, 09:41:28 PM »

มันทำท่าทะแม้งๆยังไงชอบกลวันนี้เลยลองใส่แว่นตายิงโอ้โห!!ชัดแจ๋วเลยครับ หมายถึงกล้องนะครับและก็เพราะความชัดแจ๋วจึงรู้ว่าไอ้เส้นเล็งที่เค้าว่ามันขาดมันเคลื่อนเป็นอย่างไรและวันนี้ก็สมใจอยาก[ให้มันพังเร็วๆ] เลยรื้อครับและเอามาให้ดูเพื่อเพื่อนๆอาจจะได้อะไรไปบ้างครับ


                         
เค้าเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

                                           

                                                      ชุดเลนส์หน้ากล้อง

                                                         




 ชุดเลนส์ตาครับ

                   

               
                                 ชุดไฟเส้นเล็ง

      มันยังมีแกนกลางอีกครับแต่ถอดยังไม่ได้ครับ  กำลังหาผู้รู้ครับ
     อีกอย่างครับสำหรับผู้มีปืนอัดลมแบบสปริง!!มั่นตรวจดูน๊อต สกรูทุกๆตัวบ่อยๆนะครับมันจะคลายออกเป็นประจำครับ กล้องที่ผมถอดดูวันนี้น๊อต สกรู แหวนที่เป็นเกลียวสำหรับบังคับเลนส์ หลวมคลายหมดทุกตัวครับ  ขอบคุณครับ 

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2009, 01:47:01 PM โดย 123 dog-dog » บันทึกการเข้า
Dunk
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1657
ออฟไลน์

กระทู้: 4331



« ตอบ #5176 เมื่อ: ตุลาคม 04, 2009, 11:11:42 PM »

มันทำท่าทะแม้งๆยังไงชอบกลวันนี้เลยลองใส่แว่นตายิงโอ้โห!!ชัดแจ๋วเลยครับ หมายถึงกล้องนะครับและก็เพราะความชัดแจ๋วจึงรู้ว่าไอ้เส้นเล็งที่เค้าว่ามันขาดมันเคลื่อนเป็นอย่างไรและวันนี้ก็สมใจอยาก[ให้มันพังเร็วๆ] เลยรื้อครับและเอามาให้ดูเพื่อเพื่อนๆอาจจะได้อะไรไปบ้างครับ


                         
เค้าเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

                                          

                                                                                                                      ชุดเลนส์ตาครับ



ชุดเลนส์หน้ากล้อง



                   

               
                                 ชุดไฟเส้นเล็ง

      มันยังมีแกนกลางอีกครับแต่ถอดยังไม่ได้ครับ  กำลังหาผู้รู้ครับ
     อีกอย่างครับสำหรับผู้มีปืนอัดลมแบบสปริง!!มั่นตรวจดูน๊อต สกรูทุกๆตัวบ่อยๆนะครับมันจะคลายออกเป็นประจำครับ กล้องที่ผมถอดดูวันนี้น๊อต สกรู แหวนที่เป็นเกลียวสำหรับบังคับเลนส์ หลวมคลายหมดทุกตัวครับ  ขอบคุณครับ






                                   
แบบนี้เค้าเรียก รื้อกระจายของจริงครับคุณ123 dog-dog Grin
บันทึกการเข้า

     
นะครับ
Hero Member
*****

คะแนน 686
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1288


AIR ARMS S510TC .22 AA TDR FAC .177 HW97K .177


« ตอบ #5177 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:42:46 AM »

      คุณ 123 สุดยอดนักรื้อจริงๆ ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นช่างแน่ๆเลย ของผมเส้นเล็งก็ขาดเหมือนกัน แต่ขาดตั่งแต่ 7 วันแรกที่ซื้อมา เลยถอดไปให้ร้านที่ซื้อกล้องมาดู เจ้าของร้านใจดีเปลียนตัวใหม่ให้มา  ถ้าจะไม่ให้ขาดต้องใส่ขากล้องราคาแพงแบบพี่ สิทรา Smiley
บันทึกการเข้า

TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5178 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 01:38:02 AM »



ตัวโม่ผมว่าน่าทำได้ไม่ยากแต่เจ้าตัวเรือนสีดำนี่สิถ้าจะเอาพลาสติกมาทำน่าจะลำบากเพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นรูปยังไง Huh
แต่ถ้าเป็นโลหะอย่างอื่นน่าจะง่ายกว่า Grin

ผมไม่แนะนำให้ใช้พลาสติคครับ ควรจะขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งหมด เพื่อความคงทนถาวรและไม่จำเป็นต้องมองเห็นลูกกระสุนทางด้านหลังก็ได้  แต่จะใช้วิธีเจาะรูอินเด็กซ์เอาไว้สังเกตุจำนวนลูกกระสุนแทน เพราะมันจะง่ายในการะบวนการผลืต ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาพลาสติคที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมให้มากความ เราทำเพื่อเอามาใช้งานเพราะเมืองฝร้งมันก็ทำแบบโลหะทั้งเซ็ทออกมาขายเหมือนกันแต่ไม่ได้มาจากโรงงานแอร์อาร์ม  การผลิตด้วยโลหะจะง่ายในการหาวัสดุในท้องตลาดและให้ความคงทนที่มากกว่าแบบพลาสติคจากโรงงานโดยตรง  การขึ้นรูปก็ไม่ต้องไปคำนึงถึงรูปร่างที่เหมือนจริงตามแบบพลาสติค  แค่คว้านให้มีพื้นที่สำหรับลูกโม่ แกนลูกโม่ และร่องใส่สปริงและลูกปืนกลมล็อคโม่ อาจจะไม่ต้องทำจีบเฟืองที่แกนลูกโม่ก็ได้  ฝาปิดก็ใช้แผ่นอลูมิเนียมแต่เจาะรูอินเด็กซ์ไว้เช็คจำนวนกระสุนก็คงจะเพียงพอ
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5179 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 01:45:45 AM »


เห็นแบบนี้ใส่ยากเหมือนกันนะ หลุดมือ 3 ครั้ง ดีดออกเอง 2 ครั้ง คิดว่าไม่ยากแต่ก็ยากกว่าที่คิด แต่ก็ไม่ยากเกินไป
หากมีโอกาสลองใส่ให้ได้ครั้งแรกนะ ผมคิดว่าครั้งแรกไม่สำเร็จเอาไหม ถ้าได้ก็เก่งมาก ๆ หรือรู้วิธีอยู่แล้ว


ฝาพาสติกมีปุ่มยื่นออกมาเพื่อบังคับสปริงในร่องไม่ล้มตัว


พอปิดฝาปุ่มจะลงร่องพอดีแบบฝืดนิด ๆ  บีบเบาดังกร๊อบแกร็บก็ปิดสนิท


ใส่สรูขันไม่ต้องตึงเพราะเกลียวสกรูกับพลาสติกฝืดนิด ๆ อยู่แล้ว



ลองหมุนโม่ทำงานได้ปกติ


แค่เนี่ยเหรอ ถ้าสั่งแมกกาซีนเพิ่มต้องจ่ายเพิ่ม 2800 บาท
วอนขอผู้มีฝีมือลงมาจัดการด้วยเถอะ ทำขายราคาอันละ 500 บาทนะ ปืน 35 กระบอก
แค่สักคนละอันก็ได้ 17500 บาท แต่คิดว่าคงไม่สั่งคนละอันหรอก


ตั้งแต่ยังไม่ได้รับแมกกาซีนตัวเป็นๆ มาไว้ในมือ ผมได้คาดเดาไว้ว่าท่าน 123 มีแนวความคิดจะแอบก๊อปปี้แมกกาซีนของS410 และผมได้ติดต่อทาบทามไว้แล้วว่าถ้าทำเสร็จเมื่อไหร่ผมขอจอง 2 ชุด  และหลังจากนั้นเวลาได้เนิ่นนานมาแล้วกว่า 2 เดือน ผมคิดว่า แมกกาซีนเวอร์ชั่น 123ddS410 น่าจะใกล้สำเร็จเข้าไปทุกทีแล้ว และจะได้ยลโฉมในไม่ช้านี้อย่างแน่นอนครับท่าน
บันทึกการเข้า
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #5180 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 06:23:10 AM »

      คุณ 123 สุดยอดนักรื้อจริงๆ ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นช่างแน่ๆเลย ของผมเส้นเล็งก็ขาดเหมือนกัน แต่ขาดตั่งแต่ 7 วันแรกที่ซื้อมา เลยถอดไปให้ร้านที่ซื้อกล้องมาดู เจ้าของร้านใจดีเปลียนตัวใหม่ให้มา  ถ้าจะไม่ให้ขาดต้องใส่ขากล้องราคาแพงแบบพี่ สิทรา Smiley

           "  ผมช่างเถอะ  " ครับคิดว่าจะทำเส้นเล็งแบบมองแล้วเป็นรูปหัวใจ  ว่าจะลองทำดูไม่รู้จะทำได้หรือเปล่าครับ     ตอนนี้ประกอบใช้ได้ดีกว่าเดิมอีกครับ ชัดแจ๋วเลยครับ คิก คิก คิก คิก
      ตั้งแต่ยังไม่ได้รับแมกกาซีนตัวเป็นๆ มาไว้ในมือ ผมได้คาดเดาไว้ว่าท่าน 123 มีแนวความคิดจะแอบก๊อปปี้แมกกาซีนของS410 และผมได้ติดต่อทาบทามไว้แล้วว่าถ้าทำเสร็จเมื่อไหร่ผมขอจอง 2 ชุด  และหลังจากนั้นเวลาได้เนิ่นนานมาแล้วกว่า 2 เดือน ผมคิดว่า แมกกาซีนเวอร์ชั่น 123ddS410 น่าจะใกล้สำเร็จเข้าไปทุกทีแล้ว และจะได้ยลโฉมในไม่ช้านี้อย่างแน่นอนครับท่าน

      รอตัวอย่างแมกกาซีนอยู่ครับ  ช่วงนี้งานเข้ามามากครับ  และหน้าใหญ่รับงานเพื่อนๆไว้3อย่างยังไม่เสร็จเลยครับ   บู่ อ๋อย 

      เห็นด้วยครับ คุณทศพล ตัวเรือนควรจะทำจากอลูมิเนียม  เยี่ยม ฝาปิดใช้พลาสติกอัดกรอบพระก็ได้ครับ ขอคุณครับ  ไหว้

              แหมกำลังคิดว่าแกนกลางมันเป็นเฟืองทำยาก  ถ้าให้แกนกลางเป็นแท่งกลมๆก็จะทำง่ายครับ  ขอบคุณครับคุณทศพล ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2009, 06:28:20 AM โดย 123 dog-dog » บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5181 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 08:43:46 AM »



ตัวโม่ผมว่าน่าทำได้ไม่ยากแต่เจ้าตัวเรือนสีดำนี่สิถ้าจะเอาพลาสติกมาทำน่าจะลำบากเพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นรูปยังไง Huh
แต่ถ้าเป็นโลหะอย่างอื่นน่าจะง่ายกว่า Grin

ผมไม่แนะนำให้ใช้พลาสติคครับ ควรจะขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งหมด เพื่อความคงทนถาวรและไม่จำเป็นต้องมองเห็นลูกกระสุนทางด้านหลังก็ได้  แต่จะใช้วิธีเจาะรูอินเด็กซ์เอาไว้สังเกตุจำนวนลูกกระสุนแทน เพราะมันจะง่ายในการะบวนการผลืต ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาพลาสติคที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมให้มากความ เราทำเพื่อเอามาใช้งานเพราะเมืองฝร้งมันก็ทำแบบโลหะทั้งเซ็ทออกมาขายเหมือนกันแต่ไม่ได้มาจากโรงงานแอร์อาร์ม  การผลิตด้วยโลหะจะง่ายในการหาวัสดุในท้องตลาดและให้ความคงทนที่มากกว่าแบบพลาสติคจากโรงงานโดยตรง  การขึ้นรูปก็ไม่ต้องไปคำนึงถึงรูปร่างที่เหมือนจริงตามแบบพลาสติค  แค่คว้านให้มีพื้นที่สำหรับลูกโม่ แกนลูกโม่ และร่องใส่สปริงและลูกปืนกลมล็อคโม่ อาจจะไม่ต้องทำจีบเฟืองที่แกนลูกโม่ก็ได้  ฝาปิดก็ใช้แผ่นอลูมิเนียมแต่เจาะรูอินเด็กซ์ไว้เช็คจำนวนกระสุนก็คงจะเพียงพอ

ผมไม่ทราบว่าตัวเรือนของปืนทำด้วยวัสดุอะไร ถ้าจะสึกให้แมกกาซีน
สึกไม่ดีกว่าหรือครับ ประเดี๋ยวเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายนะครับ
ผมดูแมกกาซีนตัวนี้พลาสติกก็ไม่ขี้เหร่นะ
หากไปปรึกษาพวกพอลิเมอร์เป็นเรื่องง่ายกว่าเหล็กเลยครับ

บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5182 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 09:12:39 AM »

ไหว้พี่ sittaครับผมก็อยากทาน ก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน เหมื่อนกันครับ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงช่วยชี้แนะดว้ยครับ ไหว้
หุ้นตัวไหนดีหนอ

มาถึงวันนี้คงมีคนไม่น้อยที่คิดว่าผมนั้นโง่บัดซบที่ไม่ทานก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน  ผมไปทานมันเข้าไปได้
ยังไง มาวันนี้ขอแฉตัดหน้าคุณจะเด็ดสักหน่อย

ย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ มันเป็นวันอะไรไม่รู้แต่ผมจำได้แม่นว่ามันเป็นวันหยุดราชการแต่ธนาคารเปิดทำการ
จึงทำให้ตลาดหุ้นเปิดด้วย อ้อ ธนาคารกับตลาดหุ้นเปิดวันเดียวกันตลอด (ยกเว้นธนาคารในห้างนะ)
แต่ตลาดหุ้นเปิดวันละ 2 ช่วงเวลาคือ 10.30 น ปิด 12.00 และเปิด 14.30 น - 16.30 น.
วันนั้นผมลุกจากทีนอนมาเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนตลาดหุ้นเปิดราว 15 นาที เพื่อเป็นการวอร์มนิ้วจะได้
key ซื้อหุ้นได้เร็ว ๆ  พอตลาดหุ้นเปิด ผมก็เต้นฟุ้ตเวิคไปรอบ ๆ ดูตัวโน้นตัวนี้ วันนี้จะซื้อขายอะไรดีน้า
และแล้วหุ้นตัวหนึ่งก็ผ่านแวบเข้ามาในสายตา MIDA ผมดูราคาแล้วก็น่าเล่นนะมันลงมาได้มากคิดว่า
วันนี้น่าจะขึ้น จึงเคาะซื้อไปในจำนวนเงินมากกว่า 800000 บาท ราคาหุ้นจำไม่ได้ การซื้อจะเสียค่านายหน้า
ราวร้อยละ 24 สตางค์ ถ้าขายก็อีก 24 สตางค์ต่อ 100 บาท  แล้วผมก็ดูทีวีไปเหลือบมองไป
ช่องกำไรผมตีขึ้นมา 5000 บาท ถ้าผมเคาะขายก็จะได้เงินไม่กี่ร้อยเพราะต้องเสียค่านายหน้าราว 4000 บาท
ลองพิมพ์  0.5% of 800000 ใน google ดูนะครับ จะรู้ว่าเป็นเงินกี่บาท
จึงไม่อยากขายเพราะว่าอะไรกันเราได้เงินแค่พันเดียว โบรกเกอร์ได้ตั้ง 4000 บาท ไม่ยุติธรรมเลยนะ
รอจนเที่ยงกำไรก็กระเพื่อมไปมาทำให้กำไรหดบ้าง ติดลบบ้าง ขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เกิน 5000 บาท
เที่ยงพอดี ตอนนั้นราคาติดลบ 4000 บาทแล้ว แสดงว่าผมเสียเงิน 8000 บาทแล้วนะ เป็นค่าคอม
กับมูลค่าหุ้นลดลง

"พ่อขาหนูอยากทานพิชซ่าคะ เสียงแจ๋ว ๆ เรียกผม ผมเดินไปหาลูกหอมแก้มแล้วก็ตอบลูกไป
"ได้จ๊ะเดี๋ยวพ่อจะสั่งซื้อให้เขามาส่งที่บ้านเลยนะ เอาอะไรบ้างหละ"   

"ไม่เอาหนูอยากไปทานที่ร้านคะ" ลูกสาวอ้อนขอให้ผมพาออกไป ตัวผมเองก็ไม่อยาก
ออกไปเพราะกำลังคาราคาซังกับหุ้น MIDA ตัวนี้ ถ้าซื้อหุ้นแบบนี้ต้องเผ้าไม่กระพริบตานะจะบอกให้

ตกลงผมพาลูกไปทานพิชซ่า ก็รู้กันอยู่ว่าเวลาทานพิชซ่ามันต้องใช้เวลาในการทานอยากมาก
ไหนจะโอ้เอ้ สั่งโน้นนี้ นั่งแช่แอร์เย็นสบาย ไหนจะเดินทางมากร้านอีก  ก็รวมเวลาออกจากร้าน
เกือบบ่ายสองโมง จะกลับบ้านละ  ผมเองก็ไม่ได้ทานพิชซ่ามากมายอะไร แต่อยากทานก๋วยเตี๋ยว
ก็เลยบอกภรรยากับลูกว่าจะแวะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านหอมสักหน่อย อยากทาน  แม่เจ้าประคุณเอ๋ย
รถใครไม่รู้ดันชนกันอีก รถติดไปไหนไม่ได้ ภรรยากับลูกก็ขอตัวลงจากรถไปเข้าเซ่เว่นอีเลฟเว่น
รถหายติดแล้วสองแม่ลูกก็ยังไม่มาก็ต้องรอ บ่ายสองโมง 25 นาทีแล้วนะ  แล้วผมก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว
ก็สั่ง เกาเหลาลูกชิ้นเนื้อเปื่อยพิเศษ กับ ข้าวเปล่า ใส่ถุงกลับบ้าน  พอกลับมาบ้านก็บ่าย 3 โมงพอดี
ผมรีบขึ้นไปห้องนอนเปิดจอคอมพิวเตอร์และล๊อกอินเข้าระบบซื้อขายหุ้น

"คุณพระช่วย"  ช่องกำไรหุ้นผมติดลบ 40000 บาท
สี่หมื่นสามพันบาท  ผมรีบดูประวัติราคาหุ้นช่วงบ่ายสองโมงครึ่ง อุแม่เจ้า ราคาช่วงนั้นถ้าผมขาย
ผมจะมีกำไรประมาณ 10000 บาท  สรุปผมก็รีบมาเคาะขายในราคาที่ขาดทุนที่เพิ่มอีก 3000 บาท
กลายเป็น 43000 + 4000 ค่านายหน้า รวมสิริเป็น 47000 บาท ก็เลยตีราคาก๋วยเตี๋ยวให้เป็น
45000 บาท  ผมปิดคอมและเดินลงมาข้างล่าง มองดูหน้าลูกสาวก็ชื่นใจ เงิน 47000 บาทที่เสียไป
มันน้อยมากสำหรับทำให้ลูกสาวได้มีความสุขในวันนี้ บอกตามตรงผมไม่เสียดายเงินสักนิด
อยากที่บอกไงครับ ต้องตั้งใจแล้วว่าเงินที่ซื้อหุ้นต้องทำใจแล้วว่ามันเป็นศูนย์

เป็นไงครับ นี้ไงเป็นที่ไปที่มาของก๋วยเตี๋ยวชามละ 45000 บาท  ถ้ามีก๋วยเตี๋ยวราคานี้จริง ๆ ผมไม่ซื้อหรอกครับ
ซื้อปืนอัดลมดีกว่า

บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5183 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:19:50 PM »

มันทำท่าทะแม้งๆยังไงชอบกลวันนี้เลยลองใส่แว่นตายิงโอ้โห!!ชัดแจ๋วเลยครับ หมายถึงกล้องนะครับและก็เพราะความชัดแจ๋วจึงรู้ว่าไอ้เส้นเล็งที่เค้าว่ามันขาดมันเคลื่อนเป็นอย่างไรและวันนี้ก็สมใจอยาก[ให้มันพังเร็วๆ] เลยรื้อครับและเอามาให้ดูเพื่อเพื่อนๆอาจจะได้อะไรไปบ้างครับ


                         
เค้าเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

                                          

                                                                                                                      ชุดเลนส์ตาครับ



ชุดเลนส์หน้ากล้อง



                   

               
                                 ชุดไฟเส้นเล็ง

      มันยังมีแกนกลางอีกครับแต่ถอดยังไม่ได้ครับ  กำลังหาผู้รู้ครับ
     อีกอย่างครับสำหรับผู้มีปืนอัดลมแบบสปริง!!มั่นตรวจดูน๊อต สกรูทุกๆตัวบ่อยๆนะครับมันจะคลายออกเป็นประจำครับ กล้องที่ผมถอดดูวันนี้น๊อต สกรู แหวนที่เป็นเกลียวสำหรับบังคับเลนส์ หลวมคลายหมดทุกตัวครับ  ขอบคุณครับ

                     
แบบนี้เค้าเรียก รื้อกระจายของจริงครับคุณ123 dog-dog Grin

ดูไปอมยิ้มไป นึกถึงตอนคุณ คุณ123 dog-dog ต้องประกอบกลับจะทำยังไงดี
ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องพวกระยะตกกระทบของแสงในเลนส์สักน้อย แม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี
คิดว่าตอนประกอบกลับคงต้องมีเทคนิคอะไรที่เราไม่รู้อยู่บ้างครับ

ก็เคยเลียบ ๆ เคียง ๆ มองหน้าเลนหลังเลนส์กล้องของผมเหมือนกัน
แต่พอดีว่ามันยังไม่พักก็เลยไม่ได้ลงมือ เพราะถ้าหากลงมือรื้อแล้วมันจะกลายเป็นว่า
พังเพราะผมรื้อดูนั้นหละครับ 

ยกนิ้วให้เลยครับ  นี้ถ้าคุณ คุณ123 dog-dog  เอากล้องตัวดีมาถอดดูเพื่อเป็นต้นแบบให้ตัวนี้อีก
ผมก็ขอยกให้ 2 นิ้วเลยนะ เพราะกล้องตัวดีจะพังอีกตัว แลกกลับประสบการณ์ที่ได้มา

วงกลมที่มีเส้นเล็งนั้นมันน่าจะมีสปริงประคองไว้แนวนอน และแนวดิ่งนะ  ผมรู้แต่ว่า
ถ้าเราต้องยิงปืนไกลก็ควรเลือกใช้กล้องเล็งสำหรับการยิงระยะไกล
แต่ถ้าเรายิงระยะใกล้ก็ต้องใช้กล้องเล็งสำหรับการยิงระยะใกล้
เพราะอะไรหรือครับ เพราะว่าถ้าเราเลือกใช้กล้องเล็งไม่เหมาะสมกับระยะยิงก็ตาม
แม้ว่าเราสามารถหมุนปรับชดเชย ก็จะกลายเป็นว่าเราต้องหมุนให้เส้นเล็งชิดอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสปริงกับเส้นเล็งครับ นานไปสปริงก็ล้า พอปรับระยะยิงก็ศูนย์ก็เคลื่อนบ่อย
ถ้าจะใช้กล้องเล็งให้ทน ก็ต้องให้เส้นเล็งมันอยู่สมดุลย์บริเวณกลาง ๆ

คิดถึงตอนประกอบกลับหนักใจแทนจริง ๆ แต่ถ้าถอดเล่นพอเบื่อก็ใส่ถุงก๊อบแก๋บแขวนไม่แล้วไปครับ
เอาไป 1 คะแนนครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5184 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:21:10 PM »

พี่ sitta หลังไมค์หน่อยครับ Wink

อะไรครับ ถ้าหลังไมค์ก็เป็นสายไมค์ มันมีอะไรเหรอครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5185 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:23:16 PM »

      คุณ 123 สุดยอดนักรื้อจริงๆ ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นช่างแน่ๆเลย ของผมเส้นเล็งก็ขาดเหมือนกัน แต่ขาดตั่งแต่ 7 วันแรกที่ซื้อมา เลยถอดไปให้ร้านที่ซื้อกล้องมาดู เจ้าของร้านใจดีเปลียนตัวใหม่ให้มา  ถ้าจะไม่ให้ขาดต้องใส่ขากล้องราคาแพงแบบพี่ สิทรา Smiley

กล้องติดปืน HW97K ผมทุกวันนี้ก็ยังอยู่ดีมีสุขครับ 
ถ้าเราซื้อหากล้องราคาสูงสักหน่อย เอารุ่นที่ป้องกันแรงสะเทือน
ก็จะทำให้เรากล้าเปลี่ยนไปใช้กล้องราคาแพงหลักหมื่นได้ครับ
บันทึกการเข้า
rt56
ความฝันถึงจะเรื่องเล็กแค่ไหน ก็มีคุณค่าเสมอสำหรับผู้เป็นเจ้าของ
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 147
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 498



« ตอบ #5186 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:31:21 PM »

ไหว้พี่ sittaครับผมก็อยากทาน ก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน เหมื่อนกันครับ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงช่วยชี้แนะดว้ยครับ ไหว้
หุ้นตัวไหนดีหนอ

มาถึงวันนี้คงมีคนไม่น้อยที่คิดว่าผมนั้นโง่บัดซบที่ไม่ทานก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน  ผมไปทานมันเข้าไปได้
ยังไง มาวันนี้ขอแฉตัดหน้าคุณจะเด็ดสักหน่อย

ย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ มันเป็นวันอะไรไม่รู้แต่ผมจำได้แม่นว่ามันเป็นวันหยุดราชการแต่ธนาคารเปิดทำการ
จึงทำให้ตลาดหุ้นเปิดด้วย อ้อ ธนาคารกับตลาดหุ้นเปิดวันเดียวกันตลอด (ยกเว้นธนาคารในห้างนะ)
แต่ตลาดหุ้นเปิดวันละ 2 ช่วงเวลาคือ 10.30 น ปิด 12.00 และเปิด 14.30 น - 16.30 น.
วันนั้นผมลุกจากทีนอนมาเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนตลาดหุ้นเปิดราว 15 นาที เพื่อเป็นการวอร์มนิ้วจะได้
key ซื้อหุ้นได้เร็ว ๆ  พอตลาดหุ้นเปิด ผมก็เต้นฟุ้ตเวิคไปรอบ ๆ ดูตัวโน้นตัวนี้ วันนี้จะซื้อขายอะไรดีน้า
และแล้วหุ้นตัวหนึ่งก็ผ่านแวบเข้ามาในสายตา MIDA ผมดูราคาแล้วก็น่าเล่นนะมันลงมาได้มากคิดว่า
วันนี้น่าจะขึ้น จึงเคาะซื้อไปในจำนวนเงินมากกว่า 800000 บาท ราคาหุ้นจำไม่ได้ การซื้อจะเสียค่านายหน้า
ราวร้อยละ 24 สตางค์ ถ้าขายก็อีก 24 สตางค์ต่อ 100 บาท  แล้วผมก็ดูทีวีไปเหลือบมองไป
ช่องกำไรผมตีขึ้นมา 5000 บาท ถ้าผมเคาะขายก็จะได้เงินไม่กี่ร้อยเพราะต้องเสียค่านายหน้าราว 4000 บาท
ลองพิมพ์  0.5% of 800000 ใน google ดูนะครับ จะรู้ว่าเป็นเงินกี่บาท
จึงไม่อยากขายเพราะว่าอะไรกันเราได้เงินแค่พันเดียว โบรกเกอร์ได้ตั้ง 4000 บาท ไม่ยุติธรรมเลยนะ
รอจนเที่ยงกำไรก็กระเพื่อมไปมาทำให้กำไรหดบ้าง ติดลบบ้าง ขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เกิน 5000 บาท
เที่ยงพอดี ตอนนั้นราคาติดลบ 4000 บาทแล้ว แสดงว่าผมเสียเงิน 8000 บาทแล้วนะ เป็นค่าคอม
กับมูลค่าหุ้นลดลง

"พ่อขาหนูอยากทานพิชซ่าคะ เสียงแจ๋ว ๆ เรียกผม ผมเดินไปหาลูกหอมแก้มแล้วก็ตอบลูกไป
"ได้จ๊ะเดี๋ยวพ่อจะสั่งซื้อให้เขามาส่งที่บ้านเลยนะ เอาอะไรบ้างหละ"  

"ไม่เอาหนูอยากไปทานที่ร้านคะ" ลูกสาวอ้อนขอให้ผมพาออกไป ตัวผมเองก็ไม่อยาก
ออกไปเพราะกำลังคาราคาซังกับหุ้น MIDA ตัวนี้ ถ้าซื้อหุ้นแบบนี้ต้องเผ้าไม่กระพริบตานะจะบอกให้

ตกลงผมพาลูกไปทานพิชซ่า ก็รู้กันอยู่ว่าเวลาทานพิชซ่ามันต้องใช้เวลาในการทานอยากมาก
ไหนจะโอ้เอ้ สั่งโน้นนี้ นั่งแช่แอร์เย็นสบาย ไหนจะเดินทางมากร้านอีก  ก็รวมเวลาออกจากร้าน
เกือบบ่ายสองโมง จะกลับบ้านละ  ผมเองก็ไม่ได้ทานพิชซ่ามากมายอะไร แต่อยากทานก๋วยเตี๋ยว
ก็เลยบอกภรรยากับลูกว่าจะแวะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านหอมสักหน่อย อยากทาน  แม่เจ้าประคุณเอ๋ย
รถใครไม่รู้ดันชนกันอีก รถติดไปไหนไม่ได้ ภรรยากับลูกก็ขอตัวลงจากรถไปเข้าเซ่เว่นอีเลฟเว่น
รถหายติดแล้วสองแม่ลูกก็ยังไม่มาก็ต้องรอ บ่ายสองโมง 25 นาทีแล้วนะ  แล้วผมก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว
ก็สั่ง เกาเหลาลูกชิ้นเนื้อเปื่อยพิเศษ กับ ข้าวเปล่า ใส่ถุงกลับบ้าน  พอกลับมาบ้านก็บ่าย 3 โมงพอดี
ผมรีบขึ้นไปห้องนอนเปิดจอคอมพิวเตอร์และล๊อกอินเข้าระบบซื้อขายหุ้น

"คุณพระช่วย"  ช่องกำไรหุ้นผมติดลบ 40000 บาท
สี่หมื่นสามพันบาท  ผมรีบดูประวัติราคาหุ้นช่วงบ่ายสองโมงครึ่ง อุแม่เจ้า ราคาช่วงนั้นถ้าผมขาย
ผมจะมีกำไรประมาณ 10000 บาท  สรุปผมก็รีบมาเคาะขายในราคาที่ขาดทุนที่เพิ่มอีก 3000 บาท
กลายเป็น 43000 + 4000 ค่านายหน้า รวมสิริเป็น 47000 บาท ก็เลยตีราคาก๋วยเตี๋ยวให้เป็น
45000 บาท  ผมปิดคอมและเดินลงมาข้างล่าง มองดูหน้าลูกสาวก็ชื่นใจ เงิน 47000 บาทที่เสียไป
มันน้อยมากสำหรับทำให้ลูกสาวได้มีความสุขในวันนี้ บอกตามตรงผมไม่เสียดายเงินสักนิด
อยากที่บอกไงครับ ต้องตั้งใจแล้วว่าเงินที่ซื้อหุ้นต้องทำใจแล้วว่ามันเป็นศูนย์

เป็นไงครับ นี้ไงเป็นที่ไปที่มาของก๋วยเตี๋ยวชามละ 45000 บาท  ถ้ามีก๋วยเตี๋ยวราคานี้จริง ๆ ผมไม่ซื้อหรอกครับ
ซื้อปืนอัดลมดีกว่า


พี่เล่นหักมุมแบบนี้ แล้วใครจะกล้าไปกินก๋วยเตี๋ยวกับพี่ล่ะครับ
บันทึกการเข้า

ไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่างจนหาที่ติไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครเลวไปหมดทุกอย่างจนหาที่ชมไม่ได้เช่นเดียวกัน
คนบางคนไม่เคยคิดที่จะปลูก"ต้นประโยชน์" แต่ทำไมถึงเอาเปรียบผู้อื่นด้วยการจ้องคอยแต่จะเก็บเกี่ยว "ผลประโยชน์"
การขอที่ไม่ต้องละอาย คือการขอโทษ การให้ที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย คือการให้อภัย
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5187 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 01:01:10 PM »

คุณจะเด็ดบ้านอยู่บางบัวทองหรือครับ  ผมไม่ทราบว่าถ้าบ้านอยู่บางบัวทอง
จะต้องอยู่ริมน้ำหรือเปล่า  ผมมีความประทับใจกับบางบัวทองมาก

ขั้นตอนต่อไปไม่ทราบว่าของจะส่งถึงบ้านหรือต้องไปรับเอง

ถูกต้องครับ แต่เป็นบ้านศรีภรรยาครับ แต่ไม่ได้อยู่ริมน้ำ ส่วนบ้านเก่าบ้านเกิดอยู่ริมน้ำท่าจีน เมื่อยังเล็กเป็นเด็กน้อย ชอบว่ายน้ำไปเก่าเรือโยง จมน้ำเกือบตาย เลยทำให้ทุกวันนี้เป็นโรคกลัวน้ำอยู่เลย

ผมเข้าใจว่า จะมีใบแจ้งมาจากศุลกากร ผ่านทางไปรษณีย์ จากนั้นผมจึงนำเอาใบแจ้งและหลักฐาน ป.2 ที่ได้รับการลงชื่อของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ไปรับที่สุวรรณภูมิ เอาเป็นว่ารับมาถึงมือเมื่อไหร่ จะแฉหมดทุกโต๊ะที่ต้องเดินเรื่องเลย ใจเย็นๆนะครับ


คุณจะเด็ดเคยเกือบจมน้ำตายหรือครับ เหมือนผมเลย ก็เพราะผมเกือบจมน้ำตายจึงทำให้
มีโครงการหลอกผมไปเที่ยวบ้านบางบัวทอง บ่อย ๆ

ตอนเด็ก ๆ ผมเคยไปนอนค้างบ่อย ๆ ปลายสัปดาห์ ที่บ้านแม่ที่ผมเคารพเป็นแม่คนหนึ่งอยู่ที่บางบัวทอง
เป็นบ้านสวนริมน้ำครับ เวลาไปต้องไปลงปากเกร็ดแล้วนั่งเรือหางยาวไปอีกไกล
แต่พอถึงบ้านสวนแล้ว มันอิสระครับ น้าและคุณแม่ไม่เคยดุ  จะขุดดินเล่นก็ไม่ถูกว่า จะปีนต้นไม้ก็ไม่ถูกห้าม
ยิงหนังสะติ๊กก็ได้  พายเรือในคลอง  สวนเก็บผลไม้กินก็ได้ ขึ้นต้นหมาก มะพร้ามก็ปืนได้แต่ต้องระวังตก
"จับให้แน่นหน่อยนะลูก" จะมีเสียงตะโกนมาแบบไม่ได้ห้ามแต่ให้ระวัง ซึ่งผมก็จะตะโกนกลับไปว่า "ครับคุณแม่"
เล่นไฟเล่นไม้ขีดก็เล่นไปตามเรื่องตามราวบนคันดิน วิดปลาในคูเปื้อนโคลนไปหมด
ก็ไม่เห็นเป็นไร เวลาปวดฉี่ก็ไปยืนฉี่โคนต้นไม้ใกล้ ๆ ก็ไม่มีใครว่า อาหารก็อร่อย โดยเฉพาะปลากดทาเกลือย่าง
ล้อมวงทานกันร้อนๆ ปลากดก็ได้มาจากเบ็ดราว ในคลองหน้าบ้าน หรือเป็นเรือก๋วยเตี๋ยวพายมาเทียบท่าหน้าบ้าน
ผมก็ลงไปนั่งทานที่ขอบแพไม้ไผ่เอาเทาราน้ำทานไปด้วย เคยทำชามตกน้ำ คนขายดำลงไปหยิบชามได้
ทำเอาผมทึ่ง เลยบอกว่าขอดูอีกทีได้หรือเปล่า คนขายก๋วยเตี๋ยวก็บอกว่าพอก่อนเถอะลุงเหนื่อยแล้ว

ผมชอบต้นไม้ทุกต้นในสวนล้วนเป็นต้นไม้ที่ไม่ใช่ไม้ประดับแต่มีประโยชน์เรืองปากท้องทุกต้น
ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่มีพิธีรีตรอง สบายใจสำหรับเด็กๆ อย่างผมมาก
ไม่เหมือนอยู่บ้านเลยพวกผู้ใหญ่ที่บ้านรายนั้นแค่จับเงินก็ถูกไล่ให้ไปล้างมือ ก่อนทานต้องล้างมือ
หลังทานต้องแปรงฟัน เล็บมือต้องไม่ดำ เสื้อผ้าสกปรกไม่ได้ เล่นดินไม่ได้ถ้าเห็นให้เลิกเล่นทันที ถ้าอยู่บนต้น
หูกวางจะถูกเรียกลงมาดุ  แล้วบังคับให้อ่านหนังสือ ถ้าเอาเชือกไปมัดต้นตะโกจะถูกดุเพราะซื้อมาแพง
ถ้าเอาจักรยานไปพิงต้นปาล์มก็จะถูกสอนว่าทีหลังอย่าทำเพราะจะทำให้ผิวต้นปาล์มเป็นรอยดูไม่สวย
ในตอนนั้นผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามันสวยตรงไหน (สายตาเด็กนะ) เอามาปลูกทำไมปีนก็ไม่ได้
เวลาพูดถามจะตะโกนก็ไม่ได้ต้องเดินเข้าไปใกล้แล้วค่อยพูด  อะไรกันนักกันหนา
ผู้ใหญ่ 2 กลุ่มนี้ไม่ถูกกันนะ สไตล์ก็ไม่เหมือนกัน กลุ่มหนึ่งระเบียบจัดไฮโซอีกกลุ่มเรียบ ๆ ง่าย ๆ
เวลาผมไปเที่ยวบางบัวทองผู้ใหญ่กลุ่มแรกก็ไม่ตามไป เวลาผมกลับมาบ้านผู้ใหญ่ที่บางบัวทอง
ก็ไม่ตามมา ผมก็ชอบแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ นะ แต่ชีวิตส่วนใหญ่ถูกบังคับให้อยู่กลับกลุ่มแรก
ผมจะซนได้ก็ต้องรอปิดเทอม

เรื่องเกือบจมน้ำตายของผมมีตอนเด็กกับผู้ใหญ่
ตอนอยู่ ปอ3  ผมเคยเกือบจมน้ำตายที่ วังตะไคร่ ตอนนั้นไปกับพี่ชายเขาเรียนอำนวยศิลป์และพากัน
ไปเที่ยววังตะไคร่ก็พาผมไปด้วย พวกพี่เอาแต่กินเหล้า ผมแยกตัวก็ไปเล่นน้ำ ตอนจมน้ำมีคนแปลก
หน้ามาช่วยไว้  อันที่จริงน้ำตื้นแค่อกผู้ใหญ่ครับ แต่สำหรับเด็กปอ 3 ก็ลึกพอตายได้เหมือนกัน

ตอนอยู่ ปอ4 เกือบจมน้ำตายที่คลองบางกอกน้อย ตอนนั้นพายเรือเล่นหลังบ้าน แล้วเรือก็เข้าหาฝั่ง
หมาเฝ้าสวนเห่าทำท่าจะกระโจนลงเรือผมกับเพื่อนก็กลัวทำให้เรือล่ม ผมจมน้ำพยายามเกาะเรือ
แต่ท้องเรือที่โผล่มามีแต่ตะไคร่น้ำทำให้ลื่นมากเกาะไม่ได้ จึงจมผลุบโผล่อยู่นานกว่าจะมีผู้ใหญ่มาช่วยไว้ได้


แล้ววันที่ผมว่ายน้ำเป็นก็มาถึง วันหยุดปลายสัปดาห์ พวกพี่ๆพาผมไปนอนบ้านที่บางบัวทอง
แล้วก็พาผมลงเล่นน้ำในคลอง มันลึกมากผมก็ไม่ออกห่างจากท่อนไม้ไผ่ที่มัดรวมกันหลายท่อน
เอาไว้เป็นสะพานเดินจากตลิ่งมาขึ้นเรือ  กำลังเล่นอยู่ดี ๆ น้าอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้รับอาสาจะสอน
ว่ายน้ำให้ผมโดยผมไม่รู้ว่าได้มีการวางแผนกันมาแล้ว  ตอนแรกน้าเข้าเรียกให้ผมลองใช้มะพร้าว 2 ลูก
ฉีกเปลือกเป็นเสี้ยวมัดกันแล้วพาดหน้าอกผมทำให้ผมไม่จมน้ำ ผมก็ซ่าออกทันทีตีน้ำออกไปกลางคลอง
ไป ๆ มา ๆ ในที่สุดเวลาก็มาถึงน้าคนนั้นเรียกให้ผมขึ้นมาก่อน พอผมขึ้นมาก็จับผมโยนไปที่น้ำลึก
พอหล่นไปในน้ำ ลืมตาใต้น้ำน้ำเป็นสีเขียวอ่อน เสียงเงียบไปหมด แล้วผมก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาบนผิวน้ำ
และก็จมลงไปอีก รู้สึกว่ากินน้ำเข้าไปด้วย มารู้ตัวอีกทีก็มาเกาะทุ่นไม้ไผ่แล้ว   พอมาเกาะทุ่นไม้ไผ่
ก็โดนจับโยนออกไปอีก ผมก็เข้ามาได้อีก เห็นน้าบอกว่าถ้าฝึกแบบนี้ว่ายน้ำเป็นท่าแรกจะเป็นท่าหมาว่ายน้ำ
บางบัวทองก็เป็นอดีตที่ทำให้ผมว่ายน้ำเป็นตั้งแต่อยู่ปอ 4  

พอโตขึ้นมาอยู่ ปอ 6-7 ก็ได้มีโอกาสไปว่ายในแม่น้ำเจ้าพระยาหลังบางซื่อที่เป็นโรงไม้ ด้วยคุณพ่อผมมีอาชีพ
ค้าขายพวกไม้จึงรู้จักคนแถวนี้ไม่น้อย และบ้านเพื่อนผมก็ค้าไม้แปรรูปด้วย จึงได้มาเที่ยวบ้านเพื่อนที่เป็นโรงไม้
หลังโรงไม้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาวันแรกผมเห็นด้ามปืนอัดเทียนของเพื่อนแล้วอดชมไม่ได้เพระมันสวยมาก
คนงานฝีมือไม้ทำให้ ถ้าประเมินราคาก็คงหลายร้อยบาทในสมัยนั้น ในที่สุดผมก็ได้ลงไปเล่นน้ำเจ้าพระยา
มันลึกมาก พวกผมชวนกันดำลอดแพไม้ที่กว้างมาก ถ้าหมดลมหายใจก็ต้องเอาปากขึ้นดูดอากาศตาม
ช่องที่เจาะร้อยโซ่ลากไม้ โดยอาศัยดูแสงสว่าง  ตอนเล่นน้ำก็มองไปทางสะพานพระรามหก
เห็นกลุ่มวัยรุ่นผู้ใหญ่แล้วเล่นกระโดดมาจากสะพานลงมาเลย ผมก็คิดว่าถ้ามีโอกาสโตขึ้นก็จะลองดู
เหมือนกัน  ตอนหลังโรงไม้เชิงสะพานระเบิดทำให้มีคนงานตายหลายคน แล้วเขาว่าผีเชิงสะพานดุมาก
ก็ไม่กล้าไปบ้านเพื่อนอีก  การเล่นดำใต้แพไม้ในตอนนั้นก็เป็นเหตุทำให้ผมดำน้ำอึดได้นานและเป็นพื้นฐาน
อีก 10 กว่าปีในภายหน้าที่ผมไม่รู้ตัวว่าจะได้ไปเที่ยวอยู่ภูเก็ต พังงา ดำน้ำทะเลดูปะการัง นานเกือบ 3 เดือน
ก่อนพายุเกย์จะเข้ามาไทยจึงหนีพายุกลับเชียงใหม่และเห็นรถติดยาวจากกรุงเทพถึงนครสวรรค์


ผมมีโอกาสได้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาแบบใกล้ชิดเป็นครั้งสุดท้ายจำได้ว่าอยู่ ปอ 7 เพราะว่า ปิดเทอม มศ1 ก็กลับเชียง
ใหม่แล้ว  ตอนนั้นตามคุณพ่อไปเก็บเงินค่าไม้  ต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปท่าพระจันทร์  คือเขาจะสั่ง
สินค้าจากเชียงใหม่เราก็ส่งมาให้ทางรถไฟ ทางขนส่งบ้าง ปีหนึ่งจะลงไปเก็บเงินครั้งเดียว เรียกว่าติดเงินกันเป็นปี
ไปครั้งนี้ยังจ่ายไม่ครบ จะเก็บได้ก็ต้องไปปีหน้า  เพราะรถราการสื่อสารไม่ค่อยจะสะดวกรวดเร็วเหมือนสมัยนี้
ภายหลังก็ส่งออกอย่างเดียวเพราะลูกค้าจ่ายเงินไม่ตรงเวลา ผมก็เลยไม่มีโอกาสไปเก็บเงินแถวท่าพระจันทร์อีกเลย

หลังจากคุณพ่อเสีย ลูกหนี้ก็เงียบ ที่บ้านก็ไม่รู้ว่ามีรายไหนใครเป็นหนี้เท่าไหร่บ้าง ดูบัญชี โซ้งสองหมื่น ศัก หมื่นห้า
ใครกันวะ โซ้ง ใครกันวะ ศัก หลายสิบรายที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ผมเองก็ได้เรียนเที่ยวเตร่โดยไม่ค่อย
ได้ขอเงินแม่ก็ด้วยการไปหาลูกหนี้ที่รู้จักในบัญชีแล้วเอาเงินมาใช้จ่าย  แต่ก็ยังไงเก็บได้ไม่ครบ
บางคนเบี้ยวไม่จ่ายหน้าตาเฉยก็มี บางรายจ่ายไปส่วนหนึ่งแล้วก็ไม่จ่าย ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง สัญญาก็ไม่มี
หลักฐานก็ไม่มี มันเป็นสัญญาลูกผู้ชายเชื่อใจกันระหว่างพ่อผมกับลูกค้าแต่เวลาไปเก็บเงินพ่อก็พกปืนไป
ด้วยทุกทีนะ ผมเคยถามพ่อว่าปืนที่พ่อพกเคยยิงหรือเปล่า พ่อบอกว่าซื้อมาได้แต่พกไม่เคยยิงสักลูก
ก็ไม่รู้ว่ามันยิงได้หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อพูดไปเรื่อยเปื่อยแบบผมชอบพูดกับสาวๆ หรือเปล่า

หลายปีก่อนผมไปเล่นสระที่เดอะมอล  ผมดำน้ำไปกลับจากหัวสระท้ายสระได้ คนที่ยืนดู
ก็ถามว่ากลั้นได้อย่างไร ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเพราะมันกำลังเหนื่อยมากได้แต่หอบลมแฮก แฮแ
ปีที่แล้วผมดำได้แต่ขาไปเท่านั้น  แค่ขาไปก็ทำให้คนที่เล่นในสระทึ่งได้แล้ว  มีหลายครั้งที่ผมให้ลูกสาว
ตอนนั้นยังตัวเล็กนั่งหลังโดยผมคว่ำหน้าว่ายกบไปโดยไม่สามารถเงยหน้าได้เพราะมันจมน้ำ
ก็พาลูกสาวไปจนสุดสระลึก แต่ขากลับทำไม่ได้แล้วเพราะหมดแรงกลั้นเหนื่อยมาก

ที่ผ่านมาคงเพราะเห็นเพื่อนผมที่เล่นน้ำ ก็ดำน้ำได้นานพอกันทุกคนเหมือนกันหมด
ผมก็เลยเข้าใจว่าทั่วไปคนเราก็ทำได้เหมือนกัน

แต่เพิ่งมารู้หลังหลังนี้ว่าคนเราปกติทั่วไปกลั้นได้ไม่เกิน 1 นาที  
บางครั้งผมก็ทดสอบเพื่อน ๆ  ทีทำงานลองกลั้นใจแข่งกัน ก็พบว่าท่าน
นักกีฬาหนุ่มใหญ่ทั้งหลายก็กลั้นไม่เกิน 1 นาที บางคนไม่เกิน 30 วิด้วยซ้ำไป

อีกไม่นานผมคงจะต้องมีโรคประจำตัวที่เกิดจากการกลั้นใจนาน ๆ ผมจำไม่ได้ว่าโรคอะไร  
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมลงไปล้างถังเก็บน้ำใต้ดินขนาด 2-3 เมตร สูงประมาณผมเอื้อมถึงผนังบน
คงเป็นเพราะช่างฉาบปูนเพดานพึ่งทำงานเสร็จเขาทำงานมาทั้งวัน อากาศในถังก็เลยมีแต่
คาร์บอนไดออกไซต์ พอเขาขึนก็เป็นเวลา 4 โมงเย็นแล้วผมพึ่งกลับมาจากรักษารากฟัน
ปากยังชาอยู่เลย หมอดันเผลอเอาเครื่องเจียรมาโดนลิ้นเลือดสาดอีก พอกลับมาผมก็ลงล้าง
เศษปูนในถังใต้ดินทันที ทำไปได้ราวเกือบชั่วโมง ผมก็บอกให้ภรรยาไปยกเลิกเรียนกีตาร์
เพราะดูแล้วคงอีกนาน ผ่านไปอีกราว 30 นาที อาการคนขาดออกซิเจน ผมเคยอ่านแต่ในตำรา
ตอนนี้เจอด้วยตัวเองแล้วครับ  แม้ว่าอุณหภูมิในถังจะเย็นมาก แต่ผมก็เหงื่อแตก ไม่อยากใช้คำว่า
เหงื่อออก เสื้อสีขาวชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหงื่อหยดติ๋ง ๆ เหมือนวิ่งมาเป็นสิบกิโล  มีอาการหอบ
หน้ามืด ปวดหัวตึ๊บ ๆ หมดแรง และรู้สึกหงุดหงิด ผมรู้ตัวว่าขาดออกซิเจนจึงตะโกนขึ้นไปขอพัดลม
เป่าลมลงมา พอได้พัดลม แต่มันไม่ได้ผลเพราะลมเป่าไม่ลงด้วยเป็นห้องใต้ดิน ลมจึงอั้นอยู่ปากปล่อง
แต่ก็พอมีเย็นน้อย ๆ เมื่อหมดแรงขาดออกซิเจนจึงต้องนั่งเฉยพูดก็ไม่ได้ ข้างบนยังไม่รู้นะว่าผมกำลัง
อยู่ในอาการขาดออกซิเจน ตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่ตายหรอกแต่อยากเก่งก็ไปฟื้นโรงพยาบาลวะ  
หลับตาคิดเพลิน ๆ ก็นึกได้ว่าคาร์บอดไดออกไซต์ที่เราหายใจออกมามันเบากว่าอากาศไม่ใช่หรือ
ผมก็เลยเอียงตัวตะแคงเอาจมูกชิดพื้นแล้วสูดหายใจเข้า มันได้ผล ผมรู้สึกดีกว่าเดิมแสดงว่าออกซิเจน
ตามผิวพื้นยังมีอีกมาก เลยสูดเอา สูดเอา นอนนิ่งรวบรวมกำลังยืนแล้วรีบปีนเหยียบขอบซีเมนต์ในถัง
เอาหัวโผล่ขึ้นมาภายนอก โอโห้อากาศมันชดชื่นมาก เหมือนยืนบนภูเขา ภรรยาผมนั่งจับพัดลมมองหน้า
มองด้วยสายตาไม่รู้เรื่องว่าผมเจออะไรอยู่ข้างใต้ผมจึงเอาพัดลมจอชิดกับปากถังแล้วเป่าเอาอากาศภาย
นอกเข้าไปแทนอากาศเสีย แล้วก็ลงไปทำต่อตอนกำลังพิมพ์ก็ยังรู้สึกมึน ๆ อยู่เลยครับ แก่แล้วฟื้นตัวช้า
กว่าตอนหนุ่ม


ตอนหนุ่มจากเคยกลั้นได้นานที่สุด  2 นาที  50 วิ  พอขึ้นฮุบเอาอากาศครั้งต่อไปจะลดลงไป
30 วิ เรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหลือ 1 นาที 15 วิ พอฮุบเอาอากาศครั้งต่อไปก็เหลือ 45 วิเป็นอย่างมาก
และก็คิดว่ามันคงถอยลงไปเรื่อยตามสังขารนะครับ

คิดว่าพออ่านกระทู้นี้จบ เพื่อน ๆ คงไม่กลั้นใจทดสอบตัวเองนะ  ถ้าจะทำก็มองดูอายุตัวเองด้วยนะครับ
แต่ว่าไอ้เรื่องกลั้นใจนี้มันก็จำเป็นสำหรับการยิงปืนเหมือนกัน  เผื่อไว้เวลาไปยิงแข่งขันแล้ว
มีคนยิงอยู่ข้าง ๆ ท่านเกิดตดเหม็น  การกลั้นได้นานจะมีประโยชน์ตอนนั้นหละ
ถ้ากลั้นได้ไม่นานเกิดซึดตดคู่แข่งเข้าไปก็อาจหน้ามืดพาลจะอดได้ถ้วยรางวัลเลย

เริ่มซะดี จบลงที่ตดได้ยังไง Cheesy

บันทึกการเข้า
dnt
Full Member
***

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 102


สุขเลิกเหล้า


« ตอบ #5188 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 03:20:28 PM »

ไหว้พี่ sittaครับผมก็อยากทาน ก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน เหมื่อนกันครับ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงช่วยชี้แนะดว้ยครับ ไหว้
หุ้นตัวไหนดีหนอ


มาถึงวันนี้คงมีคนไม่น้อยที่คิดว่าผมนั้นโง่บัดซบที่ไม่ทานก๋วยเตี๋ยวชามละ 4 หมื่น 5 พัน  ผมไปทานมันเข้าไปได้
ยังไง มาวันนี้ขอแฉตัดหน้าคุณจะเด็ดสักหน่อย

ย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ มันเป็นวันอะไรไม่รู้แต่ผมจำได้แม่นว่ามันเป็นวันหยุดราชการแต่ธนาคารเปิดทำการ
จึงทำให้ตลาดหุ้นเปิดด้วย อ้อ ธนาคารกับตลาดหุ้นเปิดวันเดียวกันตลอด (ยกเว้นธนาคารในห้างนะ)
แต่ตลาดหุ้นเปิดวันละ 2 ช่วงเวลาคือ 10.30 น ปิด 12.00 และเปิด 14.30 น - 16.30 น.
วันนั้นผมลุกจากทีนอนมาเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนตลาดหุ้นเปิดราว 15 นาที เพื่อเป็นการวอร์มนิ้วจะได้
key ซื้อหุ้นได้เร็ว ๆ  พอตลาดหุ้นเปิด ผมก็เต้นฟุ้ตเวิคไปรอบ ๆ ดูตัวโน้นตัวนี้ วันนี้จะซื้อขายอะไรดีน้า
และแล้วหุ้นตัวหนึ่งก็ผ่านแวบเข้ามาในสายตา MIDA ผมดูราคาแล้วก็น่าเล่นนะมันลงมาได้มากคิดว่า
วันนี้น่าจะขึ้น จึงเคาะซื้อไปในจำนวนเงินมากกว่า 800000 บาท ราคาหุ้นจำไม่ได้ การซื้อจะเสียค่านายหน้า
ราวร้อยละ 24 สตางค์ ถ้าขายก็อีก 24 สตางค์ต่อ 100 บาท  แล้วผมก็ดูทีวีไปเหลือบมองไป
ช่องกำไรผมตีขึ้นมา 5000 บาท ถ้าผมเคาะขายก็จะได้เงินไม่กี่ร้อยเพราะต้องเสียค่านายหน้าราว 4000 บาท
ลองพิมพ์  0.5% of 800000 ใน google ดูนะครับ จะรู้ว่าเป็นเงินกี่บาท
จึงไม่อยากขายเพราะว่าอะไรกันเราได้เงินแค่พันเดียว โบรกเกอร์ได้ตั้ง 4000 บาท ไม่ยุติธรรมเลยนะ
รอจนเที่ยงกำไรก็กระเพื่อมไปมาทำให้กำไรหดบ้าง ติดลบบ้าง ขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เกิน 5000 บาท
เที่ยงพอดี ตอนนั้นราคาติดลบ 4000 บาทแล้ว แสดงว่าผมเสียเงิน 8000 บาทแล้วนะ เป็นค่าคอม
กับมูลค่าหุ้นลดลง

"พ่อขาหนูอยากทานพิชซ่าคะ เสียงแจ๋ว ๆ เรียกผม ผมเดินไปหาลูกหอมแก้มแล้วก็ตอบลูกไป
"ได้จ๊ะเดี๋ยวพ่อจะสั่งซื้อให้เขามาส่งที่บ้านเลยนะ เอาอะไรบ้างหละ"  

"ไม่เอาหนูอยากไปทานที่ร้านคะ" ลูกสาวอ้อนขอให้ผมพาออกไป ตัวผมเองก็ไม่อยาก
ออกไปเพราะกำลังคาราคาซังกับหุ้น MIDA ตัวนี้ ถ้าซื้อหุ้นแบบนี้ต้องเผ้าไม่กระพริบตานะจะบอกให้

ตกลงผมพาลูกไปทานพิชซ่า ก็รู้กันอยู่ว่าเวลาทานพิชซ่ามันต้องใช้เวลาในการทานอยากมาก
ไหนจะโอ้เอ้ สั่งโน้นนี้ นั่งแช่แอร์เย็นสบาย ไหนจะเดินทางมากร้านอีก  ก็รวมเวลาออกจากร้าน
เกือบบ่ายสองโมง จะกลับบ้านละ  ผมเองก็ไม่ได้ทานพิชซ่ามากมายอะไร แต่อยากทานก๋วยเตี๋ยว
ก็เลยบอกภรรยากับลูกว่าจะแวะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านหอมสักหน่อย อยากทาน  แม่เจ้าประคุณเอ๋ย
รถใครไม่รู้ดันชนกันอีก รถติดไปไหนไม่ได้ ภรรยากับลูกก็ขอตัวลงจากรถไปเข้าเซ่เว่นอีเลฟเว่น
รถหายติดแล้วสองแม่ลูกก็ยังไม่มาก็ต้องรอ บ่ายสองโมง 25 นาทีแล้วนะ  แล้วผมก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว
ก็สั่ง เกาเหลาลูกชิ้นเนื้อเปื่อยพิเศษ กับ ข้าวเปล่า ใส่ถุงกลับบ้าน  พอกลับมาบ้านก็บ่าย 3 โมงพอดี
ผมรีบขึ้นไปห้องนอนเปิดจอคอมพิวเตอร์และล๊อกอินเข้าระบบซื้อขายหุ้น

"คุณพระช่วย"  ช่องกำไรหุ้นผมติดลบ 40000 บาท
สี่หมื่นสามพันบาท  ผมรีบดูประวัติราคาหุ้นช่วงบ่ายสองโมงครึ่ง อุแม่เจ้า ราคาช่วงนั้นถ้าผมขาย
ผมจะมีกำไรประมาณ 10000 บาท  สรุปผมก็รีบมาเคาะขายในราคาที่ขาดทุนที่เพิ่มอีก 3000 บาท
กลายเป็น 43000 + 4000 ค่านายหน้า รวมสิริเป็น 47000 บาท ก็เลยตีราคาก๋วยเตี๋ยวให้เป็น
45000 บาท  ผมปิดคอมและเดินลงมาข้างล่าง มองดูหน้าลูกสาวก็ชื่นใจ เงิน 47000 บาทที่เสียไป
มันน้อยมากสำหรับทำให้ลูกสาวได้มีความสุขในวันนี้ บอกตามตรงผมไม่เสียดายเงินสักนิด
อยากที่บอกไงครับ ต้องตั้งใจแล้วว่าเงินที่ซื้อหุ้นต้องทำใจแล้วว่ามันเป็นศูนย์

เป็นไงครับ นี้ไงเป็นที่ไปที่มาของก๋วยเตี๋ยวชามละ 45000 บาท  ถ้ามีก๋วยเตี๋ยวราคานี้จริง ๆ ผมไม่ซื้อหรอกครับ
ซื้อปืนอัดลมดีกว่า


ดอกนี้ผมโดนเข้าไปเต็มๆ ขำก๊าก  ถ้าเป็นแบบนี้ผมทานไม่ลงแล้วครับไม่ทานดีกว่า แต่ผมก็อยากลองเล่นหุ้นดูบ้างนะครับไม่ทราบว่ามี
เวปไหนที่จะพอแนะนำได้บ้างครับ อย่างเช่นผมต้องการรู้เรื่องปืนอัดลมก็ต้อง กระทู้คนรักปืนอัดลม แล้วกระทู้คนรักหุ้นมีไหมครับ
ถ้ามีผมจะตามไปลองดูครับหรือจะเพิ่มกระทู้คนรักหุ้นอีกกระทู้จะได้เป็นแหล่งความรู้ ไหว้
บันทึกการเข้า

ปล. พุทธองค์พูดว่าเพื่อนที่ดีไม่ควรขาดการติดต่อ
Terk Kung
คนดีถือปืนเป็นศรีแก่ตัว คนไม่ดีถือปืนเป็นภัยต่อคนอื่น
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 188
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1836



เว็บไซต์
« ตอบ #5189 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 04:29:55 PM »

เว็ปเกมส์เล่นหุ้นครับ ถ้าชนะจากการเล่นหุ้นมีสิทธิได้รับเงินรางวัล สนใจอยู่เหมือนกันกำลังศึกษาครับ
http://click2win.tsi-thailand.org/SETClick2WIN/index.jsp
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 343 344 345 [346] 347 348 349 ... 807
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.134 วินาที กับ 25 คำสั่ง