พี่sitta แล้วอะไรกันครับถึงอยากจะทำร้ายตัวเอง
ขอบคุณมากครับ
ช่วงเช้าเวลา 6.15 น. วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น
ผมกำลังจะขึ่มอไซต์จะออกไปซื้อกับข้าวแต่เห็นกระรอกบนต้นไม้ในบ้าน
ก็เลยทิ้งรถวิ่งเข้าบ้านไปหยิบปืนหน้าเทอเรส คว้าขาตั้งปืนลัดตามโรงรถมากลางสนาม วางขาตั้งแล้วพาดปืน
เล็งอย่างดี มีเวลาปรับโฟกัสเหลือเฟือ ระยะมันใกล้พอดูคงประมาณ 15 เมตร ปรับโฟกัส
10 หลา แล้วก็ยังไม่ชัด จึงลดกำลังขยายจาก 10 เหลือ 4 ภาพชัดแจ๋วแต่เล็กลงและกว้างขึ้น
เล่นเอาเถิดกับกระรอกที่วิ่งไปตรงนั้นกระโดดไปบนต้นมะม่วงกัดขั้วมะม่วงเล่นให้มะม่วงหล่นพื้นดังตุ๊บ
แล้วก็กระโดนมาต้นประดู่ใหญ่ วิ่งขึ้นไปบนยอด ผมก็ยังไม่ยิงเพราะบางครั้งแม้กระรอกหยุด
แต่ใบไม้มันบัง หรือเห็นกระรอกชัดเจน แต่ดูแล้ววิถีกระสุนโค้งขึ้นอาจโดนกิ่งไม้ที่ยืนทิ่มออกมา
ระยะไม่เกิน 10 เมตรข้างหน้า กระสุนอาจโคงขึ้นโดนกิ่งไม้กิ่งนี้ก่อนถึงตัวกระรอก
ผมก็รอจนกระรอกมายังที่คิดว่าไม่พลาด กากะบาททาบกลางหัวกระรอก พาดยิงระยะ 15 เมตรนี้
แม้ว่ายิงร้อยรูคงยากแต่ยิงทับรูเดิมได้ง่ายด้วย hw100กระบอกนี้ กระบอกอื่นไม่รู้เพราะอาจอัด
แรงดันลมไว้สูงเกินไป พอกากะบาททับหัวกระรอกผมก็แข็งข้อมือแล้วเหนี่ยวไก เสียงปืนดังแปลก ๆ ดังโหว่ ๆ
ไม่ค่อยชินหู ในเลนส์ภาพผมเห็นกระรอกสะดุ้ง ผมคิดว่ากระสุนน่าจะมีความเร็วเกินจึงไม่ทันรู้ว่าตัวเองโดนกระสุน
แต่ถ้ากระสุนมันโดนหัวก็น่าจะตกลงมาเลยนะ จะสะดุ้งทำไม แล้วผมเห็นกระรอกวิ่งหายไปจากเลนส์
เงยหน้าดูก็เห็นมันกระโดดวิ่งไปตามกิ่ง ปล่อยให้ผมคนยิงยืนเซ่องงเป็นไก่ตาแตกสักครู่ จึงพลิกดูปืน
ก็นึกได้ว่า เมื่อวานตอนเช้าผมใช้กระสุนนัดสุดท้ายยิงนกพิราบไปแล้วนี่นา
แล้วก็ว่าจะมาเปลี่ยนแมกกาซีนในเช้าวันนี้ แต่บังเอิญเห็นกระรอกเลยรีบเร่งทำให้ลืมไปว่า
แมกกาซีนในปืนมันไม่มีกระสุน หลังจากยืงปืนไม่มีกระสุนไปแล้ว ก็กลายเป็นว่า
ผมต้องออกแรงถือปืนวิ่งไปเปลี่ยนแมกกาซีนใหม่ที่หน้าเทอเรสแข่งกับกระรอกที่
เริ่มวิ่งหนีออกจากเขตวิ่งไปตามสายไฟถนน พอผมเปลี่ยนแมกกาซีนได้ ก็ใส่ลูกประทับปืน
สด ๆ เพราะที่พาดอยู่กลางสนามโน้น วิ่งไปเอาคงไม่ทันแล้ว ผมประทับเล็งวาดตามยิงกระรอก
ระยะห่างออกไปแล้วราว 30 เมตร ยิงง่ายหน่อยเพราะสายไฟทำให้กระรอกต้องวิ่งเป็นแนวตาม
ที่เราคาดเดาได้แต่การยิงกระรอกตอนวิ่ง ยิงสัตว์มีโอกาสแค่นัดเดียวเท่านั้นนะครับ
ยิงแล้วต้องโดนจึงมีเวลาพอยิงซ้ำได้ พอกากะบาททาบกลางตัวผมก็วาดดักหน้าตรงปลายจมูก
ดูด้านหลังกระรอกเป็นท้องฟ้าไปทางทุ่งหญ้า ความคิดชั่วฟ้าแลบบอกว่าปลอดภัย
ผมก็เหนี่ยวไก ผมยิงไม่โดน ถ้าโดนมันก็เก่งเกินไปหรือว่าอาจบังเอิญ
แต่ก็คิดว่าคงมีแรงลมกระสุนเฉี่ยวตัวมัน มันก็เร่งสปีดเร็วขึ้น วิ่งกระโดนหายไป
ในต้นไม้ในเขตบ้านคนอื่น นี้ไงครับเหตุที่ผมอยากเขกกระโหลกตัวเองจริง ๆ
ก่อนเก็บปืนผมก็เช็ดเคลือบน้ำมันซึ่งทำเป็นประจำ บางคนอาจคิดว่าผมเอาปืน
ออกไปยิงแป็บเดียวทำไมต้องเช็ด อ่านต่อครับ
พอผมออกมาที่รถมอเตอร์ไซต์ก็พบว่าหน้าปัดเรือนไมล์มีละอองน้ำเกาะ
ที่ผิวเบาะมีไอน้ำค้างเปียก ทั้งที่จริงก็ไม่มีหมอกหรือละอองฝนเลย
แต่ทำไมจึงมีไอน้ำมาเกาะที่ไมล์รถและเบาะ ปืนของผมที่เอาไปพาด
อยู่กลางสนามก็คงไม่พ้นเหมือนกัน ดีแล้วทีเช็ดปืนก่อนเก็บทุกครั้ง
ชอบอ่านเรื่องสั้นของคุณสิทธามากครับเพราะสามารถมองเห็นภาพตลอด ไม่ว่าจะเป็น นกพิราบบนสังกะสีสีแดงสนิม ต้นมะม่วงที่มีสายยางหยดน้ำ บ้านหลังคาซีแพคสีแดง เสาไฟที่กระรอกไปยื่นบนยอดเพื่อรอรับลูกตะกั่ว เขียนเยอะ ๆ นะครับ ส่วนเรื่องสถานที่ ที่คุณ TROPHY X เสนอมาว่าจะจัดแข่งนั้น ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ยินดีครับ เต็มที่อยากเจอเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ เอาไว้ไปเจอกันตอนรับปืนก่อนก็ได้นะครับ เผื่อจะเปลี่ยนใจเป็นอย่างอื่น จะได้ปรึกษากันอีกที คุณสิทธาครับต้องขอบคุณมากนะครับที่ช่วยลงชื่อจอง s 400 ให้ ผมว่าคุณสิทธานี่น่าจะมีของดีนะครับ เพราะตัวs410 ลงจองให้ผมโครงการ6 ได้เป็นโครงการ 5 เฉยเลยเยี่ยมมาก