เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 12:49:30 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รองปธ.คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเสนอให้ปลดอาวุธใน 3 จ. ชายแดนใต้ คิดได้ไง  (อ่าน 6117 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
M193-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 658



« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 03:56:49 PM »

ทำไมหนอเรื่องปืนในมือคนบริสุทธิ์เนี่ย....ช่างสร้างความหงุดหงิดให้กับพวกที่คิดแก้ปัญหา 3 จว.ชายแดนใต้ซะเหลือเกิน.....พวกนี้เขาคิดกันได้ยังไง
บันทึกการเข้า
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:04:56 PM »

น่าจะพาไปไถนาแทน ควาย Huh Huh Huh

อย่าครับ เดี๋ยวเชื้อติดเข้าไปในข้าว Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

rapee
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:11:19 PM »

กระทู้นี้สงสัย คงยาวครับ จะเก็บปืนมีทะเบียน(ตูจาเป็นลมเอาอะไรมาคิดเนี่ย) ขำก๊าก ขำก๊าก คิก คิก
บันทึกการเข้า
Rod......รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 231



« ตอบ #48 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:24:23 PM »

คิดจะเก็บปืนคนดีเหรอ   ฮัมวียังเอาไม่อยู่เลย 
บันทึกการเข้า

meethai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 55
ออฟไลน์

กระทู้: 906


« ตอบ #49 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:33:21 PM »

Angryด้วยความเคารพ ให้เอาคนที่คิดเรื่องนี้ไปอยู่เฝ้าโรงเรียนใน 3  จังหวัดชายแดนใต้ โดยไม่ต้องมีคนคอยคุ้มกัน  และอาวุธ ถ้าอยู่ได้เกิน  7  วัน รอดกลับมาแล้วคอยคุยกันครับ ขำก๊าก


ถ้ารอดกลับมา จะแสดงว่าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
PATEE
Jr. Member
**

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 29



« ตอบ #50 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:41:24 PM »

ไอ้คนคิดมันไม่ใช่คนไทย มีรังอยู่ที่รัฐปาหัง แถมมันยังเสพสุรานารีเป็นระยะ ๆ รู้พฤติกรรมมานานแล้วแต่ทำอะไรไม่ถนัด
บันทึกการเข้า
หมูแดง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 234



« ตอบ #51 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:56:04 PM »


   


บ้า


 
ชัดๆ 
บันทึกการเข้า

ขอบคุณที่ช่วยเหลือสินค้า OTOP
srimalai_รักในหลวง
คนธรรมดา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3381


« ตอบ #52 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 06:24:29 PM »

สงสัยเป็นออกญากลาโหมกลับชาติมาเกิด
บันทึกการเข้า

อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก  แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนก็แคลนคลาย  เจ็บจนตายนั้นเหน็บให้เจ็บใจ
เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก  จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา  จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #53 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 08:11:30 PM »

ขออภัย จากบางกอกโพสต์ฉบับวันนี้ครับ
(ฉบับเมื่อวานลงให้ไม่ทัน)

เสียงสะท้อนจากกรณีนี้ครับ (จากบางกอกโพสต์ ฉบับวันที่7 กพ.51)
http://www.bangkokpost.com/topstories/topstories.php?id=125781

Army pans disarmament plan

By Post Reporters
Army chief Anupong Paojinda has made it clear he has strong reservations against disarming
civilians and, eventually, members of the security forces in the deep South, saying it is the insurgents
who should hand over their guns.


He was responding to a proposal by the Central Islamic Committee of Thailand, which was backed
by Prime Minister Samak Sundaravej, who is also defence minister.


The idea was floated by Banjong Somanee, the committee's vice chairman, during a meeting with
Mr Samak on Tuesday.


Gen Anupong said the army would inform Mr Samak of its feelings on the proposal so he could
make an informed decision.


The ultimate goal should be to disarm all sides, the general said.


The proposal calls for the selective disarming of civilians, including members of the volunteer
defence forces, while at the same time persuading militants to lay down their weapons in
return for money.


Once all civilians and insurgents were disarmed, junior soldiers would no longer need to
carry weapons.


The idea has run into opposition from the military, with senior officers saying it is impractical.


Gen Anupong said if the proposal was to be acted upon, he was certain Mr Samak would summon
him for a discussion about it first.


Mr Samak said earlier he would consult Gen Anupong about the proposal and promised to listen to
what the army chief had to say.



Gen Anupong declined to say whether the proposal had any chance of being implemented.


But he did insist that disarming the wrong people would not help the situation in the far South.


Disarming village defence volunteers, for example, might not be a sound idea. They carried guns
only to protect themselves and their communities, not to commit aggression.


It is the insurgents who must be made to hand over their weapons, Gen Anupong said.


Democrat deputy secretary-general Nipon Boonyamanee warned Mr Samak to be more careful in
making comments about southern unrest.


The wrong words uttered by the prime minister could send the wrong signals about state policy, he said.


"He must think carefully before speaking and be accountable for what he says," Mr Nipon said.
Mr Samak was vague at best, and he fell short of spelling out how he would protect those civilians and
members of the security forces after they were disarmed.


The proposal would only dampen the spirits and the confidence of the police and soldiers on duty in the area.


A bomb blast killed a naval officer and injured six people in tambon Taluban in Pattani's Sai Buri district
yesterday morning, police said. Chief Warrant Officer Wirot Tansuwan died in hospital. Four of the wounded
were marines and two were villagers.


The attack occurred near a Chinese shrine being guarded by troops. Villagers had gathered there to celebrate
the Lunar New Year.


In Narathiwat, 200 troops raided Ban Taseh Nuea in Sungai Padi district where members of the Runda Kumpulan
Kecil (RKK) insurgent group were reportedly hiding.


The group, reported to be led by Muhamadrosali Awaebuesa, managed to escape arrest by fleeing to a nearby
peat swamp forest.






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 08:14:54 PM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

ก๊วยเจ๋ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 2848



« ตอบ #54 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 08:31:03 PM »

ให้เขาลงไปอยู่เองซิครับ  ผมว่าร้องกับกรุงเทพแทบไม่ทัน
บันทึกการเข้า

Nit-ninja-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 21
ออฟไลน์

กระทู้: 1218


มนุษย์ปลูกต้นไม้ชนิดใดก็จะได้ผลของต้นไม้ชนิดนั้น


« ตอบ #55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 09:34:23 PM »

          มายึดเลยครับ.........ยอมครับ..ยอม .......แต่ปืนในมือผมจะยอมหรือเปล่าผมไม่รู้นะ
บันทึกการเข้า

ShotGuns  Practical Shooting Club ( Northern Thailand )
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #56 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 10:30:49 PM »

 
“ครู-หมอ” ค้านนโยบายปลดปืน - ท้า “สมัคร” เอานายกฯประกัน
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2551 21:38 น.
 
 
       ผู้จัดการออนไลน์ - ครู-หมอชายแดนใต้ประสานเสียงเถียงค้านนโยบายปลดอาวุธ 3 เดือนประหาร ฟันแนวคิดไร้เดียงสา ไม่สอดคล้องความเป็นจริง เชื่อไม่มีฝ่ายไหนยอมรับได้ ไม่ว่าข้าราชการ หรือชาวบ้าน เพราะต่างต้องป้องกันตนเอง แนะรัฐทำสงครามความคิด พร้อมท้าหาก “สมัคร” เดินหน้าปลดปืน ต้องเอาตำแหน่งนายกฯ เป็นประกัน
       
       นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการ กล่าวถึงข้อเสนอของรองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ให้มีการปลดอาวุธของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นข้อเสนอที่โรแมนติก และไร้เดียงสาเกินไป รวมทั้งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ต้องถือว่าเป็นสงครามที่ปะทะกันด้วยอาวุธ เป็นความขัดแย้งขั้นสูงสุด และทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่มีอาชีพครูซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถึง 92 คน
       
       นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากนำข้อเสนอดังกล่าวมาปฏิบัติก็คงจะสามารถเรียกเก็บปืนได้แต่คนดีๆ เพราะโจรที่กำลังก่อการอยู่ไม่กลัวกฎหมายอยู่แล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีบ้าจี้เห็นด้วย และนำไปปฏิบัติจริงก็คงไม่ต่างกับที่อดีตนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รับข้อเสนอโรแมนติกไปขอโทษการกระทำแทนรัฐบาลก่อนหน้านั้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด
       
       นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ยังจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่า ชาวบ้านที่เสียชีวิตโดยส่วนมากไม่มีอาวุธติดตัวทั้งนั้น ในขณะที่คนที่มีอาวุธติดตัวจะตกเป็นเหยื่อน้อยกว่า
       
       นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ และผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวถึงข้อเสนอให้ปลดอาวุธจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 3 เดือน ตามที่รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าหากจะทำการปลดก็ต้องทำให้ได้ 100% แต่ต้องถามว่าคนที่มีใบอนุญาตพกปืนอยู่แล้วยังสามารถมีอาวุธปืนได้ต่อไปหรือไม่ หากยังมีต่อไปได้ก็ไม่เป็นธรรมแน่นอน เพราะจะเกิดกรณีไทยพุทธ มีใบอนุญาตพกปืน แต่มุสลิมไม่มี จะเกิดความเหลื่อมล้ำกันขึ้น
       
       นพ.สุภัทร กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวคงไม่มีใครยอมรับได้ ทั้งข้าราชการ และชาวบ้าน ซึ่งก็ต้องป้องกันตนเอง ที่ผ่านมา ข้าราชการที่ไม่ถืออาวุธ เช่น ครู หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่อนามัย ก็ล้วนตกเป็นเป้า ฉะนั้น หากจะไม่ถือปืนก็ต้องเชื่อมั่นว่าอำนาจรัฐดูแลเขาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ ตนเห็นว่า ต้องมาถามความเห็นคนในพื้นที่ รัฐบาลไม่ควรสรุปอะไรในตอนนี้ เพราะจะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างมากแน่นอน
       
       “ถ้านายกฯตอบรับกับนโยบายนี้ ก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่า ถ้าสถานการณ์แย่ลง ต้องลาออก ซึ่งผมคิดว่า 2-3 เดือน ก็รู้เรื่องแล้วว่าดีขึ้นหรือแย่ลง” เขากล่าว
       
       ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ กล่าวอีกว่า นโยบายลักษณะนี้จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับทั้งประชาชน และข้าราชการ ในพื้นที่ทั้งพุทธและมุสลิม เพราะปัจจุบันข้าราชการมุสลิมก็ตกเป็นเป้าหมายอยู่ เมื่อตนเองไม่มีปืน ก็ไม่มีใครเชื่อมั่น แม้แต่ข้าราชการเองทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ขณะที่ชาวบ้านมุสลิมก็จะหวั่นไหวมาก เพราะผู้ที่จะมีปืน คือ ทหาร ตำรวจเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นอีก สุดท้ายจะสูญเสียความเชื่อมั่นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายข้าราชการที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง และชาวบ้านมุสลิม
       
       นพ.สุภัทร กล่าวด้วยว่า ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ หลักๆ เป็นเรื่องการต่อสู้ทางความคิด เรื่องอาวุธเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ปัจจุบันในพื้นที่มีทั้งวัยรุ่นและกลุ่มคนไม่ติดอาวุธ แต่ยังทำงานความคิดเยอะแยะ ฉะนั้น ปัญหาไม่ใช่เรื่องอาวุธ
       

 
 
 
 
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
glock_19tc
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 140
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 647



เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 10:32:08 PM »

       บ้าเหรอ.....เอาหัว....หรือว่า......เอาเขาคิด....เตรียมโรงศพรอไว้เลย.......จะตายอีกเยอะ.....คนบริสุทธิ์.... ตกใจ ตกใจ ตกใจเท่ากับให้ไอ้โจรทำงานสะดวกขึ้น....
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #58 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2008, 08:20:03 AM »

อยากให้ท่านรองปธ คนนี้ห้ามโจรฆ่าคนบริสุทธิ์ก่อนเถอะ หรือรับคำสั่งจากพวกโจรมา
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #59 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2008, 10:03:27 AM »


“ครู-หมอ” ค้านนโยบายปลดปืน - ท้า “สมัคร” เอานายกฯประกัน
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2551 21:38 น.
 
 
       ผู้จัดการออนไลน์ - ครู-หมอชายแดนใต้ประสานเสียงเถียงค้านนโยบายปลดอาวุธ 3 เดือนประหาร ฟันแนวคิดไร้เดียงสา ไม่สอดคล้องความเป็นจริง เชื่อไม่มีฝ่ายไหนยอมรับได้ ไม่ว่าข้าราชการ หรือชาวบ้าน เพราะต่างต้องป้องกันตนเอง แนะรัฐทำสงครามความคิด พร้อมท้าหาก “สมัคร” เดินหน้าปลดปืน ต้องเอาตำแหน่งนายกฯ เป็นประกัน
      
       นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการ กล่าวถึงข้อเสนอของรองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ให้มีการปลดอาวุธของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นข้อเสนอที่โรแมนติก และไร้เดียงสาเกินไป รวมทั้งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ต้องถือว่าเป็นสงครามที่ปะทะกันด้วยอาวุธ เป็นความขัดแย้งขั้นสูงสุด และทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่มีอาชีพครูซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถึง 92 คน
      
       นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากนำข้อเสนอดังกล่าวมาปฏิบัติก็คงจะสามารถเรียกเก็บปืนได้แต่คนดีๆ เพราะโจรที่กำลังก่อการอยู่ไม่กลัวกฎหมายอยู่แล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีบ้าจี้เห็นด้วย และนำไปปฏิบัติจริงก็คงไม่ต่างกับที่อดีตนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รับข้อเสนอโรแมนติกไปขอโทษการกระทำแทนรัฐบาลก่อนหน้านั้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด
      
       นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ยังจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่า ชาวบ้านที่เสียชีวิตโดยส่วนมากไม่มีอาวุธติดตัวทั้งนั้น ในขณะที่คนที่มีอาวุธติดตัวจะตกเป็นเหยื่อน้อยกว่า
      
       นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ และผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวถึงข้อเสนอให้ปลดอาวุธจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 3 เดือน ตามที่รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าหากจะทำการปลดก็ต้องทำให้ได้ 100% แต่ต้องถามว่าคนที่มีใบอนุญาตพกปืนอยู่แล้วยังสามารถมีอาวุธปืนได้ต่อไปหรือไม่ หากยังมีต่อไปได้ก็ไม่เป็นธรรมแน่นอน เพราะจะเกิดกรณีไทยพุทธ มีใบอนุญาตพกปืน แต่มุสลิมไม่มี จะเกิดความเหลื่อมล้ำกันขึ้น
      
       นพ.สุภัทร กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวคงไม่มีใครยอมรับได้ ทั้งข้าราชการ และชาวบ้าน ซึ่งก็ต้องป้องกันตนเอง ที่ผ่านมา ข้าราชการที่ไม่ถืออาวุธ เช่น ครู หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่อนามัย ก็ล้วนตกเป็นเป้า ฉะนั้น หากจะไม่ถือปืนก็ต้องเชื่อมั่นว่าอำนาจรัฐดูแลเขาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ ตนเห็นว่า ต้องมาถามความเห็นคนในพื้นที่ รัฐบาลไม่ควรสรุปอะไรในตอนนี้ เพราะจะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างมากแน่นอน
      
       “ถ้านายกฯตอบรับกับนโยบายนี้ ก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่า ถ้าสถานการณ์แย่ลง ต้องลาออก ซึ่งผมคิดว่า 2-3 เดือน ก็รู้เรื่องแล้วว่าดีขึ้นหรือแย่ลง” เขากล่าว
      
       ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ กล่าวอีกว่า นโยบายลักษณะนี้จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับทั้งประชาชน และข้าราชการ ในพื้นที่ทั้งพุทธและมุสลิม เพราะปัจจุบันข้าราชการมุสลิมก็ตกเป็นเป้าหมายอยู่ เมื่อตนเองไม่มีปืน ก็ไม่มีใครเชื่อมั่น แม้แต่ข้าราชการเองทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ขณะที่ชาวบ้านมุสลิมก็จะหวั่นไหวมาก เพราะผู้ที่จะมีปืน คือ ทหาร ตำรวจเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นอีก สุดท้ายจะสูญเสียความเชื่อมั่นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายข้าราชการที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง และชาวบ้านมุสลิม
      
       นพ.สุภัทร กล่าวด้วยว่า ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ หลักๆ เป็นเรื่องการต่อสู้ทางความคิด เรื่องอาวุธเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ปัจจุบันในพื้นที่มีทั้งวัยรุ่นและกลุ่มคนไม่ติดอาวุธ แต่ยังทำงานความคิดเยอะแยะ ฉะนั้น ปัญหาไม่ใช่เรื่องอาวุธ
      

 
 
 
 


“ครู-หมอ” ค้านนโยบายปลดปืน - ท้า “สมัคร” เอานายกฯประกัน
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2551 21:38 น.
 
 
       ผู้จัดการออนไลน์ - ครู-หมอชายแดนใต้ประสานเสียงเถียงค้านนโยบายปลดอาวุธ 3 เดือนประหาร ฟันแนวคิดไร้เดียงสา ไม่สอดคล้องความเป็นจริง เชื่อไม่มีฝ่ายไหนยอมรับได้ ไม่ว่าข้าราชการ หรือชาวบ้าน เพราะต่างต้องป้องกันตนเอง แนะรัฐทำสงครามความคิด พร้อมท้าหาก “สมัคร” เดินหน้าปลดปืน ต้องเอาตำแหน่งนายกฯ เป็นประกัน
      
       นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการ กล่าวถึงข้อเสนอของรองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ให้มีการปลดอาวุธของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นข้อเสนอที่โรแมนติก และไร้เดียงสาเกินไป รวมทั้งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ต้องถือว่าเป็นสงครามที่ปะทะกันด้วยอาวุธ เป็นความขัดแย้งขั้นสูงสุด และทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่มีอาชีพครูซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถึง 92 คน
      
       นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากนำข้อเสนอดังกล่าวมาปฏิบัติก็คงจะสามารถเรียกเก็บปืนได้แต่คนดีๆ เพราะโจรที่กำลังก่อการอยู่ไม่กลัวกฎหมายอยู่แล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีบ้าจี้เห็นด้วย และนำไปปฏิบัติจริงก็คงไม่ต่างกับที่อดีตนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รับข้อเสนอโรแมนติกไปขอโทษการกระทำแทนรัฐบาลก่อนหน้านั้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด
      
       นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ยังจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่า ชาวบ้านที่เสียชีวิตโดยส่วนมากไม่มีอาวุธติดตัวทั้งนั้น ในขณะที่คนที่มีอาวุธติดตัวจะตกเป็นเหยื่อน้อยกว่า
      
       นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ และผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวถึงข้อเสนอให้ปลดอาวุธจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 3 เดือน ตามที่รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าหากจะทำการปลดก็ต้องทำให้ได้ 100% แต่ต้องถามว่าคนที่มีใบอนุญาตพกปืนอยู่แล้วยังสามารถมีอาวุธปืนได้ต่อไปหรือไม่ หากยังมีต่อไปได้ก็ไม่เป็นธรรมแน่นอน เพราะจะเกิดกรณีไทยพุทธ มีใบอนุญาตพกปืน แต่มุสลิมไม่มี จะเกิดความเหลื่อมล้ำกันขึ้น
      
       นพ.สุภัทร กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวคงไม่มีใครยอมรับได้ ทั้งข้าราชการ และชาวบ้าน ซึ่งก็ต้องป้องกันตนเอง ที่ผ่านมา ข้าราชการที่ไม่ถืออาวุธ เช่น ครู หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่อนามัย ก็ล้วนตกเป็นเป้า ฉะนั้น หากจะไม่ถือปืนก็ต้องเชื่อมั่นว่าอำนาจรัฐดูแลเขาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ ตนเห็นว่า ต้องมาถามความเห็นคนในพื้นที่ รัฐบาลไม่ควรสรุปอะไรในตอนนี้ เพราะจะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างมากแน่นอน
      
       “ถ้านายกฯตอบรับกับนโยบายนี้ ก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่า ถ้าสถานการณ์แย่ลง ต้องลาออก ซึ่งผมคิดว่า 2-3 เดือน ก็รู้เรื่องแล้วว่าดีขึ้นหรือแย่ลง” เขากล่าว
      
       ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ กล่าวอีกว่า นโยบายลักษณะนี้จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับทั้งประชาชน และข้าราชการ ในพื้นที่ทั้งพุทธและมุสลิม เพราะปัจจุบันข้าราชการมุสลิมก็ตกเป็นเป้าหมายอยู่ เมื่อตนเองไม่มีปืน ก็ไม่มีใครเชื่อมั่น แม้แต่ข้าราชการเองทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ขณะที่ชาวบ้านมุสลิมก็จะหวั่นไหวมาก เพราะผู้ที่จะมีปืน คือ ทหาร ตำรวจเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นอีก สุดท้ายจะสูญเสียความเชื่อมั่นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายข้าราชการที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง และชาวบ้านมุสลิม
      
       นพ.สุภัทร กล่าวด้วยว่า ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ หลักๆ เป็นเรื่องการต่อสู้ทางความคิด เรื่องอาวุธเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ปัจจุบันในพื้นที่มีทั้งวัยรุ่นและกลุ่มคนไม่ติดอาวุธ แต่ยังทำงานความคิดเยอะแยะ ฉะนั้น ปัญหาไม่ใช่เรื่องอาวุธ
      

 
 
 
 

ถูกค้าน จากทุกวงการ ครับยกเว้นพวกโจร
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.108 วินาที กับ 22 คำสั่ง