ลองอ่านดูครับจาก
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000015941เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์แบงก์ธนชาต ควง 9 มม.บุกยึดรถกระบะขาดส่ง 8 เดือน จากเจ้าของเต็นท์รถ แต่เสี่ยหนุ่มไม่ยินยอมคว้าปืนกลมือยิงสวนจนรถเป็นรูพรุน ก่อนหลบหนีไปกบดาน ตำรวจต้องตามเกลี้ยกล่อมจนยอมเข้ามอบตัว
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.สราวุฒิ สวัสดิชัย สวญ.สภ.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันที่ภูมิบุตรแมนชั่น ม.2 ต.บางคูเวียง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.สภ.ปลายบาง
ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถของแมนชั่นดังกล่าว พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ก-2731 นนทบุรี จอดอยู่ โดยบริเวณท้ายกระบะด้านซ้าย พบรอยกระสุนปืนขนาดใหญ่จำนวน 2 รู กระสุนทะลุออกทางท้ายกระบะด้านขวา ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบว่าขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ตล-6076 กทม.หลบหนีไปทาง ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกติดตาม พร้อมทั้งวิทยุขอความช่วยเหลือจากโรงพักใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า ผู้ต้องหาได้จอดรถระหว่างทางและได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนออกก่อนขับมุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมจิต ม.15 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ก่อนคนขับรถจะหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านร้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าปิดล้อมก่อนทำการเกลี้ยกล่อมเจราจาประมาณ 30 นาที ผู้ต้องหาจึงได้ยอมออกมามอบตัว สอบสวนทราบชื่อ นายชาญวุฒิ หรือ อู๊ด ตั้งวรวัฒน์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาที่โรงพักเพื่อสอบปากคำ พร้อมกับนายวิชาญ เกลือกัน อายุ 36 ปี คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะที่ถูกยิง
นายชาญวุฒิ ให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าของเต็นท์รถชื่อ วูดดี้คาร์เซ็นเตอร์ ย่านถนนกาญจนาภิเษก โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องพัก เลขที่ 709 ของแมนชั่นดังกล่าวได้มี รปภ.ขึ้นมาเคาะประตูบอกว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มาเปิดประตูรถกระบะของตนเองที่ซื้อดาวน์ต่อมาจากเพื่อนในราคา 1.3 แสนบาท ตนจึงได้รีบวิ่งลงมาดูก็พบนายวิชาญกับพวกอีก 3 คน กำลังรื้อข้าวของในรถตนเองโดยไม่บอกกล่าว
นายชาญวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อตนสอบถามว่าทำไมมารื้อค้นรถของตน นายวิชาญ กลับพูดจาขู่ตะคอกตน ว่า ไม่ต้องมายุ่งให้อยู่เฉยๆ พวกเขามีหน้าที่มายึดรถคันนี้ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง และเมื่อตนเห็นนายวิชาญทำท่าจะชักอาวุธปืนทีเอวออกมา จึงรีบหยิบอาวุธปืนกลมือ รุ่น เอ็ม 3 ซึ่งซื้อต่อมาจากเพื่อน ในราคา 2.5 หมื่นบาท ขึ้นมายิงใส่ไปที่รถของนายวิชาญจนกระสุนเจาะตัวรถเป็นรู 2 รู ก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปเก็บอาวุธปืนซ่อนไว้ที่ห้องตามเดิมจากนั้นจึงรีบลงมาที่รถแล้วขับหลบหนีไปหาสาทิต เบญจพรรณ อายุ 24 ปี น้องภรรยาที่ย่านบางใหญ่ เพื่อให้ช่วยถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก ก่อนที่จะหลบมาซ่อนตัวอยู่ในบ้านร้างของหมู่บ้านดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาเจรจาขอให้มอบตัว จึงได้ยอมมอบตัวโดยดี
ขณะที่ ฝ่าย นายวิชาญ ให้การว่า ตนเองกับพวกเป็นเจ้าหน้าที่ของไฟแนนซ์ของธนาคารธนชาต ที่เดินทางมายึดรถกระบะของนายชาญวุฒิ ซึ่งขาดส่งมาถึง 8 เดือน แต่ถูก นายชาญวุฒิ พูดจาข่มขู่ไม่ให้เอารถไป แถมยังใช้อาวุธปืนกลยิงใส่พวกตนจนต้องกระโจนหลบหนีกันชุลมุน ก่อนที่จะขึ้นรถหลบหนีไปจนถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้
ต่อมาทาง พ.ต.ท.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.สภ.ปลายบาง ได้นำตัว นายชาญวุฒิ ไปค้นที่ห้องพักพร้อมกับยึดอาวุธปืนกลมือที่ใช้ก่อเหตุ กับกระสุนปืนขนาด 9 มม.29 นัด .38 39 นัด .22 46 นัด พร้อมทั้งนำตัวนายสาทิต น้องภรรยานายชาญวุฒิมาที่โรงพักก่อนแจ้งข้อหานายชาญวุฒิในข้อหา 1.พยายามฆ่า 2.พกพาและครอบครองอาวุธปืน (อาวุธสงคราม) เครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ และ 3.ครอบครองเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ นายสาทิต โดนข้อหา ช่วยเหลือเพื่อให้นายชาญวุฒิได้หลบหนีในระหว่างก่อเหตุกระทำความผิด
สำหรับ นายวิชาญ เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ถูกตั้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยผิดกฎหมาย โดยปืนของนายวิชาญซึ่งซื้อต่อมาจากเพื่อนยังไม่ได้มีการโอนให้กัน ก่อนควบคุมตัวทั้งสองฝ่ายเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ที่มา.....ข่าวจาก Manager Online