ผมตอบเท่าที่ถาม และเป็นเรื่องที่ตัวเอง อยู่ในกระแสนั้น..
ี่ผมก็จะบอกได้ตามที่รู้เห็น .. ไม่ใช่เพราะมุมมอง.. ไม่ีใช่เพราะความเห็นส่วนตัวที่เจือลงไป
เหตุการณ์นี้ เป็นประวัติศาสตร์ ของการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข.
ที่่ต่อต้่านคัดค้านการพยายามกลับสู่ อำนาจเผด็จการ ในยุคสมัยนั้น. .
ขอแสดงความเห็นที่แตกต่างครับ
ผมย้อนกลับไปศึกษาจากเอกสารเก่า ๆ มากพอสมควร
การต่อสู้หลัก ๆ ฝ่ายหนึ่งคือผู้ที่ต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งที่ว่าเป็นการพยายามกลับสู่ อำนาจเผด็จการ ฝ่ายนี้ก็มีอยู่บ้าง แต่เป็นส่วนน้อย
ตัวหลักจริง ๆ จะเป็นพวกที่ไม่มีอุดมการณ์ และต้องการแสวงหาอำนาจ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
ขอบคุณมากครับ ผู้การฯสุพินท์ ที่ช่วยมาเติมให้ .
ผมอยู่ตรงนั้น ความคิดบางอย่าง ยังเด็กมาก และพยายามนำความคิดที่มีในสมัยนั้น..
ที่พอจะจดจำได้ มาบอกเล่า.. ต่อในวันเวลานี้้
หลายครั้งที่ มานั่งคิดทบทวนย้อนกลับไป.. และอ่านเอกสารประกอบที่ได้มาหลังเหตุการณ์ ๒๐ ปี ใช่แต่ ขบวนการนักศึกษา ที่มีเจตนา่ดีี บริสุทธิ์ มีความกล้า ต่อสู้ กล้าเอาชนะ นั้นไม่พอ ..
ถ้าไม่้รู้จัก นำหลัก รู้เขา-รู้เรา มาใช้ .. มาประเมินสถานการณ์..
ในสมัยนั้น จึงเหมือน เม็ดกรวด ทราย ที่ถูกโยน ลงไปในกระดานหมาก. ให้บางกลุ่มคนใช้เหยียบเพื่อกระโดดข้าม ไป. .