เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 06, 2024, 11:29:19 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำเพื่อการเกษตร..(เอ้อ..ประเทศชาติ)  (อ่าน 3385 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 01:45:32 PM »

ตอนเย็นไปตลาดเห็นน้ำที่ไหลพลั่งทะลักเป็นลูก ๆ มาจากภูเขา->ลงทะเลไปเปล่า ๆ
ตอนเช้ามาทำงานผ่านที่นาหลายสิบบิ้งรกร้างรอน้ำฝน  เจ้าที่ได้ไถคราด ตกกล้าไว้ตั้งแต่เดือน 11,12 ก็งอกงามเขียวขจี แต่ไม่แน่ว่ามันจะยืนต้นตายนึ่งในไม่กี่วันข้างหน้าหรือไม่(ถ้าฝนแล้ง) บริเวณนี้ใกล้แม่น้ำแท้ ๆ คลองซอยก็พอมี แต่ไม่มีการสูบน้ำขึ้นมาทำนาเลย จะโทษชาวนาหรือโทษหน่วยราชการดี ภาคเกษตรของเรายังพัฒนาได้อีกเยอะถ้าบริหารให้ดี ไม่ต้องเจ๋งแบบสุพรรณบุรี(ทำนาปีละ 3 ครั้ง)หรอก แค่น้อง ๆ ก็พอ..เอ้อ..ประเทศชาติ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 02:19:43 PM โดย poethipus » บันทึกการเข้า
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 01:54:16 PM »

เป็นเพราะน้ำมีน้อยเกินไปหรือเปล่า ... ถ้าสูบเสียแต่ต้นทาง ทางปลายน้ำก็ไม่มีน้ำใช้

บันทึกการเข้า

Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 01:57:14 PM »

ชาวนา(เกษตรกร) ในประเทศไทย ถือได้ว่า เป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สุด ครับ แล้วส่วนมากเป็นคนชนบท ที่มีแต่ความจริงใจ ความรู้น้อย (ประทานโทษ) บรรพบุรุษผม ชาวนาชนบท ร้อยเปอร์เซนต์ ที่ผมเขียนนี้ ก็เขียนมาจากที่ผมผ่านมาแล้ว เห็นมาแล้ว สำผัสมาแล้ว มิได้ดูถูกใดๆ ทั้งสิ้นครับ

มีแต่โดนเอาเปรียบ มาตั้งแต่โบราณกาล แล้วครับ หากแต่ทุกๆอย่างพื้นฐานไปจากชาวนา หรือเกษตรกรแทบทั้งสิ้น แล้วต่อๆไป คาดว่าเกษตรกรเรา ก็ยังคงต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกหลอก ฯลฯ ต่อไปอีกเรื่อยๆ

หากใครคิดทำอะไร เพื่อเกษตรกรที่แท้จริง ขอให้ท่านมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะทำ และขอให้บรรลุผล หรือความคาดหมายในสิ่งที่ท่านอยากจะทำ ให้เพื่อเป็นประโยชน์ เกิดขึ้นได้จริงๆครับ ชีวิตเขา(เกษตรกร) จะได้ไม่ลำบากมาก แค่นั้นเองผมว่า ส่วนมากแล้วเขาไม่หวังรวยเป็นเศรษฐีมากมาย เพราะการทำเกษตรยากที่จะเป็นเศรษฐีได้ ในบ้านเรา ยกเว้นว่าจะทำแบบการเกษตรแบบการค้า ก็มีโอกาศ แค่ว่าจะทำงานได้สะดวกสบาย ต้นทุนไม่มากเกินไป เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 02:18:44 PM »

เป็นเพราะน้ำมีน้อยเกินไปหรือเปล่า ... ถ้าสูบเสียแต่ต้นทาง ทางปลายน้ำก็ไม่มีน้ำใช้
ไม่ใช่หรอกคับ ผมว่าเป็นเพราะไม่มีคนคิด ไม่มีคนทำมากกว่า อยู่ใกล้ตัวเมืองแท้ ๆ ยังต้องทำนาน้ำฝน แค่มีที่ดินผู้อื่นกั้นอยู่ก็สูบน้ำจากคลองมาใช้ลำบากแล้ว ผมละอิจฉาคนรอบ ๆ กรุงเทพ( สุพรรณ ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี แปดริ้ว ชลบุรี สมุทรทั้ง 3 ฯลฯ) ซะจริง ๆ เลย น่าจะเขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลหน่อยนะคับว่า จะแปลงคูน้ำริมถนนทุกสายเป็นคลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรที่มีน้ำเต็มอยู่ตลอดเวลา  
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 03:14:41 PM »

เห็นเริ่มมีโครงการทำฝายชะลอน้ำทางภาคเหนือบ้างแล้วครับ
แต่น่าจะส่งเสริมทำกันทั่วประเทศโดยเฉพาะ ภาคอีสาน
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 03:27:08 PM »

ผมว่า (คิดเอาเองตามข้อมูลต่างๆที่รับทราบ) น้ำบ้านเราก็เริ่มวิกฤษแล้ว หลายๆที่ปนเปื้อน ทั้งสารเคมี น้ำเค็มหนุน และขาด หรือเกิน บางคาบเวลา

ขาด เพราะพื้นที่ไม่สามารถเก็บกักใว้ได้ ในฤดูแล้ง เกินก็เพราะพื้นที่ไม่สามารถดูดซับใว้ได้ สาเหตุกำปั้นทุบดิน คือป่าโดนทำลาย เพราะบ้านเราอยู่ในเขต มรสุม หรือร้อนชื้น เราอาศัยน้ำจากฝน น้ำบ้านเรา มาจากใหน หากท่าดูแผนที่เป็น จะเห็นได้ว่า (พระเจ้า ต้องขออภัยพระองค์ ที่เอาชื่อท่านมาเกี่ยวข้อง) ได้สร้างประเทศไทย ให้เป็นเอกเทศทางภูมิศาสตร์ ตั้งแต่ทิศเหนือสุดประเทศลงมาทางชายแดน ด้านตะวันตก เราจะมีสันเขา แบ่งกับพม่า ฉะนั้น น้ำก็จะแบ่งปันกันไปตามธรรมชาติ แต่บ้านเราที่เก็บน้ำ(ป่า)โดนทำลายไปเยอะ ทางส่วนล่างลงมา จากแถบภาคเหนือ ก็โดนทำลาย ฉะนั้นแหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติ หายไปเกือบหมดแล้ว ฝนตกลงมา น้ำก็ลงมาหมด ท่วมกันระนาว ทางด้านตะวันออกของประเทศ เราแบ่งกะลาวด้วยแม่น้ำโขง หากแต่ภูมิประเทศไม่เอื้อเราเท่าไหร่ เพราะทางนั้นแผ่นผืนดิน จะตั้งอยู่บนที่ราบสูง ป่าไม้ที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็โดนทำลายไปเยอะ เช่นกัน ยิ่งแล้งหนัก ฝนที่มีเข้ามาทางตะวันออก ก็ผ่านเวียดนาม ผ่านลาวมาแล้ว แต่ก็เป็นผลดี ที่ลงบ้านเราไม่มากจนเกินไป แต่น้ำเก็บใว้ไม่ได้ เพราะภูมิศาสตร์ภูมิประเทศ และสิ่งแวดล้อม (ต้องตั้งใจปลูกป่ากันจริงๆจังๆ ประมาณไม่ถึงชั่วอายุคน ป่าจะใช้ประโยชน์ได้)

ปล.ส่วนนี้เห็นด้วยกับโครงการณ์ นายก หมัก หากแต่ไม่เป็นเพียงนโยบายหาเสียงอย่างเดียว

ทางใต้ เทือกเขาบรรทัด จะเป็นตัวเก็บน้ำใว้แบ่งปันให้ทั้งสองฝากฟั่ง ระยะทางสั้นๆ แต่ป่าฝนของทางใต้ก็โดนทำลายไปเยอะเช่นกัน ใต้ได้เปรียบตรงที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่า มีฝนเยอะกว่าภาคอื่น แต่เมื่อที่เก็บกัก และที่ชลอน้ำ โดนทำลาย ก็โดนน้ำท่วมฉับพลัน อยู่บ่อยๆเดี๋ยวนี้ แล้งก็มากขึ้น

ผมย้อนความคิดตัวเองไปประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ฤดูน้ำหลากบ้านผม ประมาณ พฤศจิกายน น้ำเต็มทุ่ง คูคลอง แต่น้ำใส สะอาด อาบน้ำในคูหน้าบ้านไปโรงเรียน ได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องไปอาบน้ำอื่นๆอีก

แต่อนิจจา เดี๋ยวนี้ เมื่อถึงคราน้ำท่วม ตะกอนมากมายมหาศาล ที่ปะปนมากับน้ำ มันบ่งบอกถึงสภาวะการกัดเซาะ การทำลาย เศร้าใจ
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 03:55:01 PM »

เห็นเริ่มมีโครงการทำฝายชะลอน้ำทางภาคเหนือบ้างแล้วครับ
แต่น่าจะส่งเสริมทำกันทั่วประเทศโดยเฉพาะ ภาคอีสาน

ทางใต้ก็มีคับ เทศบาลให้เงินหมู่บ้านไปทำฝายแม้วเพื่อชะลอน้ำ เพราะเขาเกรงว่าถ้าน้ำในคลอง..แห้งจะไม่มีน้ำดิบทำน้ำประปา มีคนคิดสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำบางสายเหมือนกัน แต่เจอะแรงต้านจาก NGO ถอยแทบไม่ทัน..วิกฤตเรื่องน้ำนี้ใหญ่หลวงมาก เราจะเจอะพิษภัยของมันในไม่กี่ปีนี้แล้ว..เชื่อผม 
บันทึกการเข้า
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2008, 10:44:41 PM »

ชาวนา(เกษตรกร) ในประเทศไทย ถือได้ว่า เป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สุด ครับ แล้วส่วนมากเป็นคนชนบท ที่มีแต่ความจริงใจ ความรู้น้อย (ประทานโทษ) บรรพบุรุษผม ชาวนาชนบท ร้อยเปอร์เซนต์ ที่ผมเขียนนี้ ก็เขียนมาจากที่ผมผ่านมาแล้ว เห็นมาแล้ว สำผัสมาแล้ว มิได้ดูถูกใดๆ ทั้งสิ้นครับ

มีแต่โดนเอาเปรียบ มาตั้งแต่โบราณกาล แล้วครับ หากแต่ทุกๆอย่างพื้นฐานไปจากชาวนา หรือเกษตรกรแทบทั้งสิ้น แล้วต่อๆไป คาดว่าเกษตรกรเรา ก็ยังคงต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกหลอก ฯลฯ ต่อไปอีกเรื่อยๆ

หากใครคิดทำอะไร เพื่อเกษตรกรที่แท้จริง ขอให้ท่านมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะทำ และขอให้บรรลุผล หรือความคาดหมายในสิ่งที่ท่านอยากจะทำ ให้เพื่อเป็นประโยชน์ เกิดขึ้นได้จริงๆครับ ชีวิตเขา(เกษตรกร) จะได้ไม่ลำบากมาก แค่นั้นเองผมว่า ส่วนมากแล้วเขาไม่หวังรวยเป็นเศรษฐีมากมาย เพราะการทำเกษตรยากที่จะเป็นเศรษฐีได้ ในบ้านเรา ยกเว้นว่าจะทำแบบการเกษตรแบบการค้า ก็มีโอกาศ แค่ว่าจะทำงานได้สะดวกสบาย ต้นทุนไม่มากเกินไป เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว
ในฐานะเกษตรกร ยืนยันว่าประเทศเรามีน้ำเหลือกินเหลือใช้(ถ้าประเทศอื่นเขามีนำแค่ 1ใน10 ของที่เรามีเค้าก็ดีใจตายแล้วครับ) เพียงแต่ขาดการจัดการที่เหมาะสมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจิตสำนึกในการใช้ องค์ความรู้ เครื่องไม้เครื่องมือ ตอนนี้ที่ฟาร์มผมทำมาตรฐาน eu ของสินค้าเกษตรอยู่ มีหัวข้อเคื่องการใช้ทรัพยากรน้ำอยู่ด้วยว่าใช้เกินความจำเป็นหรือไม่(นอกจากกำหนดมาตรฐาน สารปนเปื้อนและเชื้อโรคแล้ว eu ยังกำหนดเรื่องสิ่งแวดล้อม การชะล้างหน้าดิน การใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การกำจัดภาชนะสารเคมีป้องกันการแพร่กระจายของสารพิษ และ การควบคุมโรคและแมลง)เหตุที่ eu ต้องกำหนดเรื่องมาตรฐานสิ่งแวดล้อมเนื่องจากหากสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ชาวยุโรปจะอดตายก่อนชาวเอเชียเพราะประเทศในยุโรปผลิตอาหารได้ไม่พอเลี้ยงประชากร ส่วนเรื่องการใช้น้ำบ้านเรามีประสิทธิภาพต่ำมาก มาจากหลายปัจจัยรวมกัน สาเหตุหลักมาจาก เกษตรกรขาดความรู้และจิตสำนึกในการใช้น้ำทีดีและไม่มีเงินทุนในการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ  รวมทั้งภาครัฐไม่มีการจัดการที่ดี เคยเห็นบางพื้นที่เค้าเอาระบบท่อน้ำหยดและโรงเรือนไปแจก แต่เกษตรกรก็ทิ้งไว้จนเสื่อมสภาพจนเป็นขยะไม่ได้ใช้ โทษกันไปโทษกันมาระหว่างภาครัฐและเกษตรกร แต่จริงๆแล้วเพราะคนไทยมักง่ายกันทั้งหมดครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
พ่อบักเขตต์...รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1019



« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:15:45 AM »

ชาวนา(เกษตรกร) ในประเทศไทย ถือได้ว่า เป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สุด ครับ แล้วส่วนมากเป็นคนชนบท ที่มีแต่ความจริงใจ ความรู้น้อย (ประทานโทษ) บรรพบุรุษผม ชาวนาชนบท ร้อยเปอร์เซนต์ ที่ผมเขียนนี้ ก็เขียนมาจากที่ผมผ่านมาแล้ว เห็นมาแล้ว สำผัสมาแล้ว มิได้ดูถูกใดๆ ทั้งสิ้นครับ

มีแต่โดนเอาเปรียบ มาตั้งแต่โบราณกาล แล้วครับ หากแต่ทุกๆอย่างพื้นฐานไปจากชาวนา หรือเกษตรกรแทบทั้งสิ้น แล้วต่อๆไป คาดว่าเกษตรกรเรา ก็ยังคงต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกหลอก ฯลฯ ต่อไปอีกเรื่อยๆ

หากใครคิดทำอะไร เพื่อเกษตรกรที่แท้จริง ขอให้ท่านมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะทำ และขอให้บรรลุผล หรือความคาดหมายในสิ่งที่ท่านอยากจะทำ ให้เพื่อเป็นประโยชน์ เกิดขึ้นได้จริงๆครับ ชีวิตเขา(เกษตรกร) จะได้ไม่ลำบากมาก แค่นั้นเองผมว่า ส่วนมากแล้วเขาไม่หวังรวยเป็นเศรษฐีมากมาย เพราะการทำเกษตรยากที่จะเป็นเศรษฐีได้ ในบ้านเรา ยกเว้นว่าจะทำแบบการเกษตรแบบการค้า ก็มีโอกาศ แค่ว่าจะทำงานได้สะดวกสบาย ต้นทุนไม่มากเกินไป เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว
  กระทู้นี้ไม่ร่วมไม่ได้ครับ  ในฐานะที่ชื่นชอบและเป็นชาวนาโดยกำเนิด..  ผมได้เห็นอะไรหลายอย่างในวงการน้ำ เพื่อการเกษตร  เวลา ขับรถกลับบ้านผมก็มักแปลกใจกับ  โครงขุดลอก สระน้ำ  หนอง  ห้วย คลอง   มักมองเห็นสูงๆ  ฝั่งนะสูงมาก  แต่ความลึกที่ขุดไปจาก ระดับพื้นเดิมนะ 4 ศอก ก็ไม่ได้    เด็ก ประถมก็บอกได้ครับว่า ไม่ต้องรอหน้าแล้งหรอก  น้ำมันแห้งหมด ...ทำมเขาไม่ขุดแบบเหมื่องก็ไม่รู้  เอาลึกเข้าว่า น้ำมีขังทั้งปี...และอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เหลือบครับ ที่มีทุกที่  งบขุด 100 ขุดจริง ไม่ถึง 50    ไม่รู้บ้านอื่นเป็นไหม  แต่ ตำบลผมเป็นครับ...
บันทึกการเข้า

ฮักลูกฮักเมีย.....เหลือใจกิ๊ก ผู้อื่น..........


Uploaded with ImageShack.us
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:23:41 AM »

ชาวนา(เกษตรกร) ในประเทศไทย ถือได้ว่า เป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สุด ครับ แล้วส่วนมากเป็นคนชนบท ที่มีแต่ความจริงใจ ความรู้น้อย (ประทานโทษ) บรรพบุรุษผม ชาวนาชนบท ร้อยเปอร์เซนต์ ที่ผมเขียนนี้ ก็เขียนมาจากที่ผมผ่านมาแล้ว เห็นมาแล้ว สำผัสมาแล้ว มิได้ดูถูกใดๆ ทั้งสิ้นครับ

มีแต่โดนเอาเปรียบ มาตั้งแต่โบราณกาล แล้วครับ หากแต่ทุกๆอย่างพื้นฐานไปจากชาวนา หรือเกษตรกรแทบทั้งสิ้น แล้วต่อๆไป คาดว่าเกษตรกรเรา ก็ยังคงต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกหลอก ฯลฯ ต่อไปอีกเรื่อยๆ

หากใครคิดทำอะไร เพื่อเกษตรกรที่แท้จริง ขอให้ท่านมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะทำ และขอให้บรรลุผล หรือความคาดหมายในสิ่งที่ท่านอยากจะทำ ให้เพื่อเป็นประโยชน์ เกิดขึ้นได้จริงๆครับ ชีวิตเขา(เกษตรกร) จะได้ไม่ลำบากมาก แค่นั้นเองผมว่า ส่วนมากแล้วเขาไม่หวังรวยเป็นเศรษฐีมากมาย เพราะการทำเกษตรยากที่จะเป็นเศรษฐีได้ ในบ้านเรา ยกเว้นว่าจะทำแบบการเกษตรแบบการค้า ก็มีโอกาศ แค่ว่าจะทำงานได้สะดวกสบาย ต้นทุนไม่มากเกินไป เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว
  กระทู้นี้ไม่ร่วมไม่ได้ครับ  ในฐานะที่ชื่นชอบและเป็นชาวนาโดยกำเนิด..  ผมได้เห็นอะไรหลายอย่างในวงการน้ำ เพื่อการเกษตร  เวลา ขับรถกลับบ้านผมก็มักแปลกใจกับ  โครงขุดลอก สระน้ำ  หนอง  ห้วย คลอง   มักมองเห็นสูงๆ  ฝั่งนะสูงมาก  แต่ความลึกที่ขุดไปจาก ระดับพื้นเดิมนะ 4 ศอก ก็ไม่ได้    เด็ก ประถมก็บอกได้ครับว่า ไม่ต้องรอหน้าแล้งหรอก  น้ำมันแห้งหมด ...ทำมเขาไม่ขุดแบบเหมื่องก็ไม่รู้  เอาลึกเข้าว่า น้ำมีขังทั้งปี...และอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เหลือบครับ ที่มีทุกที่  งบขุด 100 ขุดจริง ไม่ถึง 50    ไม่รู้บ้านอื่นเป็นไหม  แต่ ตำบลผมเป็นครับ...

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเกาไม่ถูกที่คัน คนคันไม่ได้เกา คนเกาไม่ได้คันบางทีเอาเชื้อโรคมาใส่ให้คันอีก วิธีแก้ก็ง่ายเอาแนวพระราชดำริมาใช้ ให้แต่ละอำเภอ ซื้อรถขุดมาเลย(น่าจะถูกกว่าจ้างเอกชน100ชัก50) ขุดให้ทุกบ้าน บ้านละไร่หรือครึ่งไร่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในบ่อน้ำก็เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ข้างบนบ่อ ปลูกผักสวนครั้งซัก 50 วา พื้นที่ ที่เหลือปลูกพืชเศรษฐกิจ พวกข้าว ข้าวโพด มัน ถั่ว แต่ปัญหาเรื่องน้ำแห้งนี่บางพื้นที่มันมีลักษณะเป็นหินเป็นทรายก็เก็บน้ำไม่อยู่จริงๆครับขุดไปก็เท่านั้น ฉะนั้นหมู่บ้านไหนพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยในการกักเก็บนำก็เจาะบ่อบาดาลประจำหมู่บ้านแล้วต่อท่อสงไปใช้กันเพื่อการเกษตรกันครับ(จากการสำรวจภาคอีสานมีน้ำใต้ชั้นหินเป็นจำนวนมากครับ)
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
meethai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 55
ออฟไลน์

กระทู้: 906


« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 09:36:28 AM »

เป็นเพราะน้ำมีน้อยเกินไปหรือเปล่า ... ถ้าสูบเสียแต่ต้นทาง ทางปลายน้ำก็ไม่มีน้ำใช้
ไม่ใช่หรอกคับ ผมว่าเป็นเพราะไม่มีคนคิด ไม่มีคนทำมากกว่า อยู่ใกล้ตัวเมืองแท้ ๆ ยังต้องทำนาน้ำฝน แค่มีที่ดินผู้อื่นกั้นอยู่ก็สูบน้ำจากคลองมาใช้ลำบากแล้ว ผมละอิจฉาคนรอบ ๆ กรุงเทพ( สุพรรณ ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี แปดริ้ว ชลบุรี สมุทรทั้ง 3 ฯลฯ) ซะจริง ๆ เลย น่าจะเขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลหน่อยนะคับว่า จะแปลงคูน้ำริมถนนทุกสายเป็นคลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรที่มีน้ำเต็มอยู่ตลอดเวลา  

อาจจะเป็นเพราะว่า เราไม่เลือกทำเลให้เหมาะกับการทำนาหรือเปล่าครับ เพราะทำเลบางแห่งไม่เหมาะกับการทำนา แต่ก็ยังไปฝืนทำนาอยู่ เลยไม่ค่อยได้ผล ทำไปก็ขาดทุน  ที่แปดริ้วที่ดินบริเวณเหนือเขื่อนบางปะกงดินดีมาก แต่ก่อนยังไม่มีเขื่อนทำนาไม่ค่อยได้ เพราะน้ำเค็มขึ้นถึง ต่อมามีการสร้างเขื่อนบริเวณนั้นก็ทำนาได้ตลอด แต่เขื่อนกลับทำให้ที่ดินสองฝั่งแม่น้ำบางปะกงบริเวณท้ายเขื่อนลงมาทรุด เพราะไม่มีน้ำจืดไหลลงมาดันน้ำทะเล และเวลาน้ำทะเลลง ระดับน้ำจะต่ำมาก ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางภูมิสภาพ ปลาบางชนิดไม่สามารถทวนน้ำขึ้นไปขยายพันธ์ได้ ผมว่าเราน่าจะปฏิรูประบบการทำนาได้แล้วนะครับ ทุกวันนี้วิทยาการก้าวหน้าไปมาก ถ้าเรายังคงทำนาด้วยแนวคิดแบบเดิมๆ ชาวนาก็จะยิ่งขาดทุน และผลกระทบด้านอื่นๆก็จะยิ่งทวีมากขึ้น
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 09:41:21 AM »

ขออนุญาตร่วมกระทู้ครับ  

อาจนอกเรื่องไปนิด แต่ก็เกี่ยวกับน้ำเหมือนกัน

หลังมหาวิทยาลัย เดิมเป็นถิ่นกำเนิดของผม วิ่งเล่นในทุ่งนามาตั้งแต่ยังไม่นุ่งผ้า

เมื่อห้าปีก่อน เกิดกระแสปลูกยาง เกินครึ่ง ยกคูยกร่องปลูกยาง โดยเอายางพันธุ์ 600 ที่ปลูกบนเนินเขาได้ผลดีมาปลูก

ผ่านมาสองสามปีล่วง น้ำท่วมนา ซึ่งถ้ายังเป็นนาก็ปรกติ ทำอะไรข้าวไม่ได้ ต่อให้ท่วมสองสามอาทิตย์ ข้าวก็ไม่ตาย

แต่ยาง..ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวก็ยอดเหลือง น้ำแล้งไปแล้วก็ยังไม่หายเหลือง ซ้ำยังหยุดการเจริญเติบโต และค่อย ๆ ตาย

ปัจจุบันนี้ เหลือยางแปลงที่เปิดกรีดเท่าที่เห็น สองแปลง กรีดแบบข่มขืนเด็ก....  เพราะต้นไม่ได้โตไปกว่าโคนขาเด็ก 10 ขวบ

ผมปลูกยางบนเขา รอ 7 ปี พี่แกปลูกยางในนา ซึ่งไม่มีฮิวมัสเลย หกปีแกก็กรีด นาดินแข็ง รากไม่ลึก ยอดก็เลยไม่สูง

ทีนี้ ชาวนาปนสวน ส่วนหนึ่งก็ไปร้องเอากับผู้ว่า (หลายที่นะ ไม่ใช่เฉพาะที่ผมว่า) ได้คำตอบอย่างไรไม่ปรากฏ

แต่เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็น อย่างหนึ่งก็คือ ส่วนที่ชาวนาผิดคือ ตอนปลูกยาง มองเห็นแต่รายได้ ไม่มองข้อเสียของพื้นที่ตัวเอง

ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐ อย่าว่าแรงนะ.... ไม่เคยเห็นทำงานเชิงรุกเลย... รอแต่ให้เกิดปัญหาแล้วหามาตรการแก้ไขตลอดเลย


ที่นครศรี ฯ   ผมเห็นตรงชลประทานท่าดี ทางไป ม.ราชภัฏ เมื่อสิบปีก่อน มีการทำนาทั้งปี ติดต่อกันสี่ห้าปี

ปัจจุบันนี้ มีแต่กก...หรือเราไม่ต้องกินข้าวกันแล้ว....

บันทึกการเข้า
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 10:30:24 AM »

ทำนาเหนื่อย.................
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
meethai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 55
ออฟไลน์

กระทู้: 906


« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:03:56 PM »

ทำนาเหนื่อย.................

ครับเหนื่อยแน่นอน ทั้งไถ ทั้งคราด ทั้งดำ หว่านปุ๋ย แล้วก็เกี่ยว แล้วก็ฝัด แล้วก็ตาก เก็บเข้ายุ้ง ขนไปขาย แล้วก็ไปจ่ายค่าปุ๋ยค่ายา จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน เฮ่อ..เหลือเงินไม่เท่าไหร่
ถ้าไม่ปฏิรูประบบทำนามีหวังตายทั้งเป็นครับ ระบบนาไทย ใช้ที่นาแปลงใหญ่มากๆๆๆ กว้างสุดลูกหูลูกตา เวลาข้าวออกรวงจะเห็นเหลืองอร่ามไปทั้งทุ่ง มองแล้วสุขใจเหลือเกินเหมือนอย่างที่เพลงลูกทุ่นสมัยเด็กเขาร้องกัน เพลงของใครน๊า.. ทุ่งสีทองมองสวยวิไล แผ่นดินทองเป็นของไทย ทำได้เป็นของแก เอ๊ยของเถ้าแก่ ขออนุญาตลอกเนื้อเพลงมาลงครับ เพราะความที่นามันกว้างเหลือเกิน เวลาหว่านปุ๋ย ก็หว่านได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณกลางทุ่งนา เวลาเก็บเกี่ยวก็ต้องเสียเวลาในการขนมาวางไว้ที่คันนา ถ้าเราทำนาโดยใช้ที่นาไม่กว้างเกินไป แต่ทำให้แปลงนามีลักษณะแคบและยาว โดยให้มีความกว้างเพียงพอที่จะหว่านหรือเหวี่ยงปุ๋ยจากคันนาที้งสองด้านไปถึงบริเวณกลางท้องนาได้ เราก็ไม่ต้องใช้เครื่องมือฉีดพ่นมาก เวลาเก็บเกี่ยวก็ไม่ต้องใช้ในการขนมาก แค่ส่งต่อให้คนข้างๆ นำไปวางไว้ที่คันนาก็ได้แล้ว และคันนาเราก็ขยายให้มันกว้างใหญ่หน่อย พอที่รถอีแต๋นหรือเกวียนจะสามารถขับเข้าไปส่งปุ๋ยและขนข้าว หรือเก็บเครื่องไม้เครื่องมือได้ แค่นี้เราก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ยังมีอีกหลายวิธีที่เราจะสามารถประหยัดต้นทุนได้ นี่ยังไม่พูดถึงว่าถ้าชาวนารู้จักรวมตัวกัน เป็นกลุ่ม เป็นสมาคม จะมีประโยชน์มากขนาดไหน  ที่สำคัญคือรัฐบาลจะต้องมีมาตรการในการควบคุมราคา ให้สมเหตุสมผลครับ กระทรวงเกษตรฯ ก็มีความรู้แต่เฉพาะการพัฒนาพันธุ์พืชเท่านั้น ไม่รู้จักพัฒนาวิธีการปลูกพืชเลย พวกนักวิชาการนี่พึ่งไม่ค่อยได้ครับ อ้างแต่ทฤษฎีลูกเดียว ชาวนาเขาไม่รู้เรื่องหรอกครับ เหมือนกับทฤษฎีการบริหารจัดการ พวกวิชามะเน็จเหม็นอะไรนั่นแหละ รัฐบาลเก่านำเข้ามาจากอเมริกา ก็เอามาส่งเสริมให้ข้าราชการ หรือนักวิชาการเร่งศึกษาและนำไปปฏิบัติกัน ทำงานกันง่กๆ จนหัวใจจะวายตายนั่นแหละ ทฤษฎีพวกนี้ ชาวนาไม่รู้เรื่องหรอกครับ เขาอยากรู้วิธีการปลูกที่ได้ผล แบบที่มันไม่ยากจนเกินไปครับ ถ้ามันยากเกินไปเขาคงไม่สามารถรับได้ ถ้าเอาไปยัดเยียดก็เสียเวลาเปล่า
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:13:57 PM »

ทำนาเหนื่อย
แม้เราจะพัฒนาด้านอื่นไปมากแต่การเกษตรเป็นพื้นฐานดั้งเดิมของเรานะคับ ควรได้รับการพัฒนาควบคู่กันไป ทรัพยากรและองค์ความรู้ด้านนี้เป็นจุดแข็งที่น่าภูมิใจของเรา และมันจะช่วยได้มาก ๆ เลยเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เช่นเมื่อปี 2540 ซึ่งมันอาจจะเกิดอีกก็ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.111 วินาที กับ 22 คำสั่ง