ขออนุญาตอัพเดตข่าวครับ
http://www.komchadluek.net/2008/03/14/x_main_a001_194126.php?news_id=194126ทหารอ้างคลิปมัดตร.ยิงสห.สั่งตั้งกก.สอบร่วม คดีตำรวจยิงทหารส่อเค้าวุ่นมือมืดโทรขู่บึ้มโรงพักประชาชื่น บิ๊กตำรวจไม่เชื่อทหารขู่ ด้าน ผบช.น.เครียด งดให้สัมภาษณ์สื่อ ขณะที่ทหารได้หลักฐานเด็ดคลิปเหตุการณ์มัดมือยิง สั่งตั้ง กก.สอบร่วม หวั่นเพื่อนเหยื่อเอาคืน เมียคู่หู ตร.ปืนดุรอยื่นประกันผัวกลัวโรคหัวใจกำเริบ
จากกรณีส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ช่วยงานฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ใช้อาวุธปืนยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัดกองพันสารวัตรทหารบก กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) เสียชีวิต จนถูก พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมทั้งแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา กระทั่งพนักงานสอบสวนได้ทำคำร้องฝากขังผู้ต้องหาโดยระบุว่า ส.ต.ชัยวุฒิ เรียกตรวจค้น แต่ผู้ตายขัดขืนและพยายามชักปืนต่อสู้ ส.ต.อ.ประสาทจึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว และขอประกันตัวโดยมีผู้บังคับบัญชาใช้ตำแหน่งประกันตัว แต่ศาลไม่ให้ประกันตัว โดยเห็นตามพยานว่า ส.ต.อ.ประสาทยิงโดยที่ผู้ตายไม่ทันระวังตัว จากนั้นได้ดึงปืนของผู้ตายที่พกอยู่ที่เอวออกมาวางไว้ข้างศพ และล่าสุดแม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุไว้ ซึ่งทหารเก็บคลิปดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานทหารได้คลิปมัดมือยิง
เมื่อเวลา08.30 น. วันที่ 13 มีนาคม พ.ต.อรรถวุฒิ มณีนาค นายทหารยุทธการและการฝึก สารวัตรทหารบก กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ตลาดนัดหน้าอาคารสวัสดิการประชาชื่น กองบัญชาการทหารสูงสุด ถนนริมคลองประปาประชาชื่น แขวงและเขตจตุจักร กทม. และได้นำตัว ร.ต.พิเชษฐ์ พิมทอง พยานปากสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์มาชี้จุด พร้อมทั้งจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และมีการบันทึกภาพไว้เพื่อทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้พิจารณาต่อไป
พ.ต.อรรถวุฒิกล่าวภายหลังการจำลองเหตุการณ์ว่า มีแม่ค้าถ่ายคลิปวิดีโอช่วงเกิดเหตุเอาไว้ได้และจะมอบให้ผู้บังคับบัญชาต่อไป เพื่อไว้เป็นพยานหลักฐานในการต่อสู้คดี
ตั้งทีมกฎหมายสู้คดี ด้านพล.ท.สมหมาย เกาฎีระ เจ้ากรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้ฝ่ายทหารตั้งทีมงานทางด้านกฎหมายขึ้นมาเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านคดีเป็นการเฉพาะแล้ว ขณะนี้ทหารมีคลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายไว้
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ฝ่ายทหารได้รับคลิปวิดีโอจำนวน 4-5 ชิ้น ซึ่งถ่ายโดยพยานที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าใกล้จุดเกิดเหตุ คลิปดังกล่าวบันทึกภาพในมุมที่แตกต่างกันทั้งสิ้น แต่ทางทหารได้ขอความร่วมมือไม่ให้พยานนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี และอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายออกไปอีก นอกจากนี้ ในการดำเนินคดีทุกขั้นตอนจะมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมทำงานกับตำรวจอย่างใกล้ชิด และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนของฝ่ายทหารด้วยเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายทหารและตำรวจ เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวพันกับเรื่องศักดิ์ศรีของสถาบัน หากไม่ระมัดระวังจะบานปลายจนเกิดความขัดแย้งได้
ห่วงเพื่อนสห.เหยื่อกระสุนเอาคืน พล.อ.มนตรีสังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า สิ่งที่ทหารต้องการคือ ความถูกต้องชอบธรรม หลังจากที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.ได้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. ทำให้ได้รับความร่วมมืออย่างดี ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะได้รับความเป็นธรรม ทุกอย่างก็ดีขึ้น และวันนี้จะจัดคณะนายทหารพระรัฐธรรมนูญไปช่วยดูแลเรื่องสำนวนให้รอบคอบ
เมื่อถามว่าความรู้สึกของเพื่อนผู้ตายอาจจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันหรือไม่พล.อ.มนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นมีความเป็นห่วง เพราะทหารก่อนจะมาทำงานต้องได้รับการฝึกความยากลำบากมาร่วมกัน จึงทำให้มีความรักและผูกพันมากกว่าอาชีพอื่น ประกอบกับในชั่วโมงแรกที่เกิดเหตุ มีข่าวออกมาทำนองวิสามัญฆาตกรรม จึงเป็นห่วงว่าผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่หลังจากที่ผู้บังคับบัญชาพูดคุยกัน และลงมาดูแลเรื่องนี้ ทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ อีกทั้งทหารเป็นผู้ที่มีวินัยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการดูแลสิทธิกำลังพลกับครอบครัวผู้ตายนั้น กองบัญชาการทหารสูงสุดจะดูแลอย่างเต็มที่ เพราะทหารถือว่าเรื่องการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ผบก.น.2เรียกประชุมเร่งสางคดี ต่อมาเมื่อเวลา09.00 น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รอง ผบก.น.2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น เพื่อแบ่งงานในการสอบสวนคดี หลังจากใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มาดูเรื่องการทำงานในภาพรวม พร้อมกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนออกปฏิบัติหน้าที่ และทุ่มเทในการทำงานเช่นเดิม เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงระดมกำลัง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้ความโปร่งใสในการสอบสวนทั้งสองฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิด หากฝ่ายไหนมีพยานก็สามารถนำมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำงานเพียงฝ่ายเดียว มีฝ่ายทหารเข้ามาร่วมทำงานด้วยตั้งแต่เริ่มต้น
มือมืดโทรขู่บึ้มโรงพักประชาชื่น ผู้สื่อข่าวถามว่าได้กำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเป็นพิเศษหรือไม่พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ยังไม่ได้ลงลึกไปในรายละเอียดขนาดนั้น ส่วนเรื่องสำนวนคดีจะเร่งทำให้เร็วที่สุด สำหรับเรื่องที่มีคนโทรศัพท์มาขู่วางระเบิด สน.ประชาชื่นนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มีนาคม มีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามาขู่วางระเบิดที่ สน.ประชาชื่นจำนวนหลายครั้ง ช่วงเช้ามีการโทรขู่วางระเบิดแล้ว 3 ครั้ง โดย จ.ส.ต.นที ชูอรรณ เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับเป็นผู้รับสาย คนที่โทรพูดข่มขู่ว่า "
เพื่อนมึงทำพวกกูตาย พวกมึงตายแน่ กูจะวางระเบิดโรงพักมึง" จากนั้นได้วางสายไป
เมียคู่หูตร.ปืนดุเตรียมขอประกันตัวผัว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อเช้าวันที่ 13 มีนาคม นางจารุชา จองพิทักษ์พงษ์ อายุ 35 ปี ภรรยาของ จ.ส.ต.ปรวิศร์ จองพิทักษ์พงษ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.ประชาชื่น ที่ร่วมก่อเหตุกับ ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา เข้าพบพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพื่อขอคำปรึกษาในการยื่นขอประกันตัวสามี เนื่องจาก จ.ส.ต.ปรวิศร์ ป่วยเป็นโรคหัวใจ
นางจารุชากล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีเคยทำงานเป็น ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.สามเสน แต่หลังจากย้ายมาทำงานฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ก็ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และระบบไหลเวียนโลหิตไม่ปกติ ต้องเข้ารับการผ่าตัดและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และต้องกินยาทุกวันเพื่อควบคุมความดันไม่ให้ผิดปกติ นอกจากนี้ แพทย์ยังนัดตรวจทุกเดือน เดือนละครั้ง ในวันนี้เป็นวันที่แพทย์นัดตรวจครั้งที่ 3 จึงนำหลักฐานเป็นใบนัดของแพทย์มาขอคำปรึกษาจากพนักงานสอบสวน เพื่อใช้ยื่นคำร้องขอประกันตัวสามีในชั้นศาล เพราะต้องกินยาทุกวัน และหากไม่ไปพบแพทย์ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุมาสอบปากคำในประเด็นเรื่องการนำ ส.ต.ชัยวุฒิ ผู้ตายส่งโรงพยาบาล เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีด้วย
ไม่เชื่อทหารโทรขู่บึ้ม ต่อมาเมื่อเวลา13.00 น. พล.ต.ต.จุตติ ธรรมโนวานิช รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี เดินทางมาเรียกประชุมพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า คลิปวิดีโอที่มีพลเมืองดีถ่ายไว้ได้นั้น ตำรวจยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ถ้ามีจริงจะขอให้ผู้ที่มีไว้นำมามอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครมีบ้าง ส่วนเรื่องที่มีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์ขู่วางระเบิดโรงพักนั้น ยังไม่ทราบเรื่อง และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะไม่ได้ขัดแย้งกัน และได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว ด้านทหารก็ไม่ได้ตำหนิเกี่ยวกับรูปคดี ตำรวจกับทหารยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน ได้พูดคุยกันอยู่ตลอด ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด โดยจะนำพยานหลายๆ ส่วนมาประกอบกัน ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนที่ยิงกัน โดยจะแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนแรกคือ ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมพ่อค้าซีดีในตลาด และช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่เกิดเหตุยิงกันขึ้นตรงจุดเกิดเหตุ จะนำมาประกอบรวมกัน คนคนเดียวกันคงจะไม่เห็นเหตุการณ์ได้ตลอดทั้งหมด จริงๆ คดีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ตายเป็นทหารและมีเรื่องกระทบทางด้านจิตใจมากกว่า ส่วนเรื่องที่ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุนั้น เป็นการพิพากษ์วิจารณ์กันไปของคนบางคนเท่านั้น
"ตอนนี้สอบพยานไปประมาณ3-4 ปาก และจะนัดพยานมาสอบเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปาก เรื่องนี้ทางทหารรู้ว่าตำรวจทำงานกันเต็มที่อยู่แล้ว มีหลักฐานอะไรก็ว่ากันไปตามนั้น ส่วนเรื่องการทำงานก็มีนายทหารพระธรรมนูญมาร่วมสอบสวนด้วยตั้งแต่แรกแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร และจะพยายามทำสำนวนให้เร็วที่สุด" รอง ผบช.น. กล่าว
ยันไม่เปลี่ยนพนักงานสอบสวน ด้านพล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ได้กำชับให้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน และแจ้งข้อหาตำรวจทั้งสองนายแล้ว พร้อมกับควบคุมตัวฝากขังต่อศาล ขอยืนยันว่าการสอบสวนโปร่งใสชัดเจน ให้ความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย และให้ ผบก.น.2 ลงไปควบคุมการสอบสวนด้วยตนเอง ไม่ได้ปล่อยให้โรงพักทำกันอย่างเดียว เพราะอาจจะเกิดการคิดว่าเข้าข้างกันได้ เนื่องจากมีความสนิทสนมกัน
"ตอนนี้คงไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนพนักงานสอบสวน เพราะการสอบสวนมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมสอบสวนทุกขั้นตอน โดยช่วงเกิดเหตุมีพยานให้สัมภาษณ์ มีคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ในการสอบสวน ส่วนการลงโทษทางวินัยเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาว่าจะให้ออกจากราชการหรือไม่ เชื่อว่าคงจะไม่ช้า แต่เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะอ้างว่าทำตามหน้าที่ ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ เราก็ต้องอำนวยความยุติธรรมให้ถูกต้องตรงไปตรงมา พล.ต.ท.วัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่าการไปจับกุมซีดีเถื่อนต่อไปต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนหรือไม่พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า กระบวนการจับกุมมีขั้นตอน เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์พฤติการณ์แต่ละคดีก็มีความแตกต่างกัน โอกาสที่ตำรวจจะตกอยู่ในอันตราย กฎหมายก็บัญญัติอยู่แล้วในการป้องกันตัว ถ้าทำตามกฎหมายและป้องกันตัวอย่างสมควรแก่เหตุ กฎหมายก็สามารถบรรเทาโทษที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุได้ ส่วนเหตุการณ์นี้จะว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องให้คณะกรรมการพิจารณา
ปัดคำร้องฝากขังช่วยมือยิง เมื่อถามว่าการใช้ตำแหน่งผู้บังคับบัญชาขอประกันตัวตำรวจทั้งสองนายและคำร้องต่อศาลขัดต่อพยานในที่เกิดเหตุ โดยมีคำร้องต่อศาลว่าผู้ตายต่อสู้ แต่พยานในที่เกิดเหตุบอกว่าผู้ตายไม่ได้ชักปืนออกมา ทำให้ศาลไม่ให้ประกันตัว ทำให้คิดได้ว่าคำร้องฝากขังช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ โฆษก ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสิทธิของผู้ต้องหาขอประกันตัว และอำนาจให้ประกันเป็นเรื่องของผู้พิพากษา กรณีนี้ไม่ได้มีการช่วยเหลือ มีการรวบรวมหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา ถ้ามีพยานคนไหน หรือมีการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้ก็ให้มามอบให้ตำรวจเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะในการสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปผัดฟ้องฝากขังนั้นมีกำหนดระยะเวลาที่จำกัด การรวบรวมพยานหลักฐานจึงอาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ตามสิทธิรัฐธรรมนูญผู้ต้องหามีสิทธิที่จะขอประกันตัว เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปมีการสอบสวนพยานเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้การสอบสวนมีความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น ซึ่งตามกฎหมายมีระยะเวลาในการสอบสวนจนกว่าจะมีความเห็นในทางคดีส่งให้อัยการ
พร้อมดูแลความปลอดภัยพยาน ด้านพล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ในคดีนี้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้ปากคำต่อคณะพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนมีอำนาจปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวตามกฎหมาย แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจ คณะพนักงานสอบสวนนำผู้ถูกกล่าวหาส่งต่อศาลเพื่อใช้อำนาจศาลผัดฟ้องฝากขัง เพื่อให้อำนาจศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว และขั้นตอนการตรวจที่เกิดเหตุ สอบสวนปากคำก็มีนายทหารพระธรรมนูญร่วมสอบสวนทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ความมั่นใจต่อพยานว่ามีความปลอดภัยและคลิปวิดีโอที่ส่งมอบจะเป็นหลักฐานจริงๆโฆษก ตร. กล่าวว่า หลักฐานต่างๆ สามารถมามอบให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เลย ถ้าไม่มั่นใจ ตนจะเป็นตัวกลางในการรับมอบเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอย่างถูกต้อง
ผบช.น.เครียดงดให้สัมภาษณ์สื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลภายหลัง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ถูกมรสุมรุมเร้าจากเหตุการณ์ดังกล่าว จนกลายเป็นกรณีพิพาทระหว่างตำรวจทหาร ขณะที่ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานของ ส.ต.ชัยวุฒิ ยังออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติดังกล่าว ยังมีคำวิจารณ์ของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานด้านสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย ออกมาตำหนิว่า การทำงานของตำรวจนครบาลมีประสิทธิภาพต่ำ มีผลงานจับกุมน้อยกว่ากองบัญชาการอื่นๆ สร้างความตึงเครียดให้ตำรวจนครบาลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาระดับสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าตลอดทั้งวัน พล.ต.ท.อัศวินเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องทำงานโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ ปล่อยให้กองทัพสื่อมวลชนต้องรอ หลังจากเลื่อนนัดให้สัมภาษณ์เรื่อยมาตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงเวลา 13.00 น. บรรดาสื่อมวลชนประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาลขึ้นไปรอสัมภาษณ์อีกครั้งที่หน้าสำนักงาน ผบช.น. ชั้น 2 ตามที่นัดหมายกันไว้ แต่เมื่อรอนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน กระทั่งมีนายตำรวจระดับ รอง ผบก.ทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงาน แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า พล.ต.ท.อัศวิน ขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ขอชี้แจงตอบโต้ใดๆ ส่วนการดำเนินคดีต่อ ส.ต.อ.ประสาทนั้น ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทำทุกอย่างตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ