อนาคตของกระสุน .40 จะยาวไม่ครับ

[pimuk]

ยิ่งอ่านยิ่งอยากใช้ .40

ไปวังไชยาเลยพี่ 

[Don Quixote]

แหม ไปวังถูกทางครับ แต่ไม่กดตังค์ไม่ค่อยคล่อง อิ อิ

[pimuk]

เหมียนกัลล์.... ว่าจะๆ เก็บตังค์ แต่ตังค์มันไปเที่ยวไม่เลี้ยวกลับมา 

[tao bangkhaen]

พอดีอยากจะมี 1911 ขนาน .45 สักกระบอกแต่ติดอยู่ที่ขอใบอณุญาต ป3. ไม่ได้จึงคิดจะมาเล่นในขนาน .40
ไม่ทราบว่าอนาคตของกระสุนขนานนี้จะสดใสหรือเปล่าครับ และปืนของ Kimber และ Spingfeild มีรุ่นไหน
ที่เหมาะสมบ้างครับ และของถามอีกอย่างครับกระสุนขนาน 10 มม. ในตลาดบ้านเรายังมีคนเล่นอยู่หรือเปล่าครับ


 

คือว่า อยากจะบอกว่า .40 ก็เป็นกระสุนปืนที่น่าสนใจนะครับ ฝรั่งอเมริกัน เขาคิดกันขึ้นมา ก็น่าสนใจ ที่มาของมันก็น่าสนใจ และที่สำคัญ มันถือกำเนิดขึ้นมาในประเทศที่ถือว่า ประชาชนมีอิสระในด้านอาวุธปืน มากที่สุดในโลก ก็ว่าได้ ........แต่ว่า

ที่นี่ ......ประเทศไทย.......ประเทศที่ต้องห้ามเรื่องอาวุธปืนในส่วนของประชาชนมาโดยตลอด ตั้งแต่อดีต มาถึงปัจจุบัน  ไม่เชื่อไปลองดูประวัติศาสตร์การครอบครองอาวุธปืน ประวัติการนำเข้าอาวุธปืนมาในราชอาณาจักร การอนุญาตให้ถือครองอาวุธปืน ฯลฯ ประชาชนของเราในอดีต  แตกต่างจากประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของ .40 ชนิดฟ้า กับเหว

ประเทศของเขา ประชาชน เป็นผู้คิดปืน ออกแบบปืน นำแบบปืนไปขายบริษัทเอกชน บริษัทเอกชน  ก็ผลิตออกมา  แล้วเอาไปประมูลแข่งกันเข้าประจำการกองทัพของเขา นั่นคือที่มาของปืนในประเทศของเขา เห็นได้ว่า มันมีที่มาจากประชาชนเต็มขั้น

แต่ลองมาดูที่มาของปืนในประเทศไทยบ้าง . ประชาชนสยาม ไม่ได้คิดปืนเอง ไม่ได้ทำกระสุนเอง คิดทำเองได้ หลวงท่านก็ไม่ให้ทำ หลวงท่านต้องเป็นคนคิดเอง ทำเองทั้งหมดในเรื่องอาวุธ  ดังนั้น  ทุกอย่างมาจากต่างประเทศ .....การนำเข้าปืน กระสุน อาวุธ ทุกอย่าง จะถูกควบคุมโดยฝ่ายบ้านเมือง รัฐบาล ซึงหนีไม่พ้นว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายทหาร จะเป็นผู้ควบคุมในทุกๆด้าน...
ดังนั้น การจะผลิตกระสุนในประเทศ การจะผลิตลูกกระสุนซ้อมยิงในประเทศ ทุกอย่างจะถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น กระสุนอะไรที่รัฐ ท่านใช้ ก็จะหาง่ายๆ กระสุนอะไรที่รัฐ ท่านไม่ใช้ ก็หายากหน่อย เป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าท่านมีอายุซักหน่อย ท่านจะเข้าใจ
ในอดีตที่ผ่านมาประมาณ ปี 2525 เท่าที่จำความได้ กระสุนซ้อมยิงในสนามยิงปืน จะมีอยู่ 3 ชนิดเท่านั้น คือ
1.ขนาด .38 วัตคัตเตอร์ ผลิตโดยสรรพาวุธทหารบก  หัวตะกั่ว คาดว่า หัวกระสุนคงหล่อเองในประเทศ มีชื่อย่อว่า ORTA
2.ขนาด .45 เอซีพี เป็นลูกซ้อมก็จริง แต่หัวกระสุนเคลือบทองแดง สวยงามมาก ไม่รู้ว่าหล่อหัวกระสุนเอง หรือสั่งหัวกระสุนเข้ามาประกอบในเมืองไทย มีชื่อย่อว่า ORTA
3. .22 แอลอาร์ ไม่มีลูกซ้อม ก็หัวเหมือนลูกจริง .22 แอลอาร์ทั่วไปนั่นแหละ แต่หนีบหัวกระสุนไม่ค่อยแน่น มีชื่อย่อว่า ORTA เหมือนกันหมด
เชื่อว่า กระสุน 3 อย่างนี้ เป็นกระสุนมาตรฐานที่ใช้ในกองทัพไทยแหงๆ เลย

ตอนนั้น ปี 2525 คุณทราบไหมครับ ถ้าใครริอ่านซื้อปืน 9 มม.พาราเบลลั่มละก็ ต้องซื้อลูกจริง ยิงเท่านั้นขอรับ กระเป๋าแหกกันไปตามๆกัน ลูกซ้อม .45 นัดละ 5 บาท ลูกซ้อม .38 นัดละ 3 บาท (คืนปลอก) แต่ 9 มม.ของไฮเทนเบริก์ นัดละ 15 บาท (ข้าวแกงจานละ 5 บาท ) กระเป๋าแหกไม่แหก คิดเอาเอง

จากวันนั้น ถึงวันนี้ มีกระสุน 9 มม. ลูกซ้อมออกมาให้ยิงเสียหน่อย ค่อยยังชั่ว เลยซื้อปืน 9 มม.กันสนั่นเมืองไปเลย  
.38 และ .45 ซ้อมยิงของ ORTA ก็จางหายไป เหลือแต่เอกชนผลิตกันอยู่ 3 บริษัท  แต่ก็เชื่อว่า กระสุน .38 และ .45 ก็ยังเป็นหลักของกองทัพอยู่

ลองมาดูตัวอย่าง .38 ซูเปอร์หน่อยเป็นไง ในช่วงปี 2530โดยประมาณ  มีการฮิต .38 ซูเปอร์ กันมาก เชื่อกันว่าจะดังในอนาคต แถมมีการผลิตลูกซ้อมออกมาด้วยโดยบริษัทเอกชนของไทยนี่แหละ
แต่มาถึงทุกวันนี้ ลูกกระสุน .38 ซูเปอร์ ก็หาได้ไม่ง่ายนัก  และราคาไม่ถูกเหมือน .38 หรือ .45 ที่พอหาได้ทั่วไป
10 มม. ก็เคยจะดัง แล้วก็แผ่วๆไป ตามกาลเวลา

เอาเป็นว่า ไปตามสนามยิงปืนที่ไม่ค่อยดัง หรือที่ไม่ค่อยมีนักกีฬา ไอพีเอสซีเข้าไปแข่งละก็ ถามหากระสุนอื่นๆ นอกจาก .38 .45 .22 ละก็ อาจจะไม่ได้ยิงปืนในวันนั้นก็ได้ เพราะลูกอย่างอื่นนอกเหนือจาก 3 ขนาดนี้ ไม่มีขาย
.40  ก็คงทำนองเดียวกัน เพราะบ้านเรา ทางกองทัพยังไม่ใช้ .40 ประจำการ
อนาคตของกระสุน มันก็เลยไม่แน่นอนเหมือนกันแหละ
ใช้ .45 เหอะ ชัวร์ดี ยังไง ก็หาลูกซ้อมได้ง่ายกว่าก็แล้วกันแหละ ลูกจริง ลูกซ้อม พอหาได้สบายๆ ในเมืองไทย ด้วยเหตุผลที่เล่าให้ฟังนั่นแหละครับ

[Don Quixote]

ลองมาดูตัวอย่าง .38 ซูเปอร์หน่อยเป็นไง ในช่วงปี 2530โดยประมาณ  มีการฮิต .38 ซูเปอร์ กันมาก เชื่อกันว่าจะดังในอนาคต แถมมีการผลิตลูกซ้อมออกมาด้วยโดยบริษัทเอกชนของไทยนี่แหละ
แต่มาถึงทุกวันนี้ ลูกกระสุน .38 ซูเปอร์ ก็หาได้ไม่ง่ายนัก  และราคาไม่ถูกเหมือน .38 หรือ .45 ที่พอหาได้ทั่วไป
10 มม. ก็เคยจะดัง แล้วก็แผ่วๆไป ตามกาลเวลา

เอาเป็นว่า ไปตามสนามยิงปืนที่ไม่ค่อยดัง หรือที่ไม่ค่อยมีนักกีฬา ไอพีเอสซีเข้าไปแข่งละก็ ถามหากระสุนอื่นๆ นอกจาก .38 .45 .22 ละก็ อาจจะไม่ได้ยิงปืนในวันนั้นก็ได้ เพราะลูกอย่างอื่นนอกเหนือจาก 3 ขนาดนี้ ไม่มีขาย
.40   ก็คงทำนองเดียวกัน เพราะบ้านเรา ทางกองทัพยังไม่ใช้ .40 ประจำการ
อนาคตของกระสุน มันก็เลยไม่แน่นอนเหมือนกันแหละ
ใช้ .45 เหอะ ชัวร์ดี ยังไง ก็หาลูกซ้อมได้ง่ายกว่าก็แล้วกันแหละ ลูกจริง ลูกซ้อม พอหาได้สบายๆ ในเมืองไทย ด้วยเหตุผลที่เล่าให้ฟังนั่นแหละครับ

.38 ซปเปอร์ที่ฮิตกันเพราะว่าขอ ป.3 เป็นแค่ขนาด 9 มม. ง่ายกว่า .45

แต่ที่ไม่ฮิตแล้วเป็นเพราะเมกาก็ไม่ฮิตมากกว่า ปืนรุ่นใหม่ๆ หายาก ซึ่งแสดงว่าตัวอย่างที่ว่าทัพไทยใช้อะไรควรใช้สิ่งนั้นผมว่าไม่ค่อยเกี่ยวครับ เป็นความนิยมของชาวบ้านที่ซื้อปืนรุ่นใหม่ๆ มากกว่า

ทั้งนี้ถ้านายทะเบียนพื้นที่นี้ออก ป.3 .45 ยาก ก็คงไม่ออก ป.3 .40 ง่ายกว่ากันเท่าไหร่นะครับ 

[E_mail]

เรียนจขกท. การขอป.3ขนาด.40ไม่น่าจะง่ายกว่า.45นะครับ ถ้าเป็นนายทะเบียนที่ไม่งี่เง่า ขอ.40หรือ.45ก็คงไม่มีปัญหาพอๆกัน แต่ถ้าเจอพวกที่เต่าๆหน่อย .40มันก็เกิน9มม.เหมือนๆ.45.....ถูกตีความว่าเป็นอาวุธร้ายแรงอยู่ดี

ตอนผมไปขอป.3ขนาด.40ยังต้องมานั่งอธิบายให้ปลัด/นอภ.ฟังอยู่หลายยก ว่ากระสุนขนาดนี้มันเป็นยังไง ต่างกับ9มม./.45ประมาณไหน

ขอออกความเห็นว่า ชอบอะไรก็ยื่นขออันนั้นครับ ตราบที่อยู่ในขอบเขตของสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฏหมายของเรา ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล พวกมักง่ายที่จ่ายใต้โต๊ะเพื่อซื้อสิทธิ์โดยชอบของตัวเองต่างหากที่น่าสมเพชยิ่งกว่า

***********************************************************

ขอแย้งคุณเต๋าครับ ผมอยู่ตจว. เคยบ้าเห่อปืน.40อยู่พักใหญ่ ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์กระสุนซ้อม.40ขาดสนามเลยครับ กระสุน9มม.ยังมีขาดเป็นครั้งคราว แต่.40ยังไม่เคยไม่มีให้ซ้อม.....

ลำบากนิดหน่อยเรื่องกระสุนจริง เพราะผมระบุจะเอาแต่JHP.FEDERAL HYDRASHOK/SPEAR GOLD DOT แต่พอได้แล้วก็ได้เลยเก็บใส่กล่องซีลดีๆโยนซองสารดูดความชื้นลงไปซักซองก็หมดเรื่อง มันไม่ได้สิ้นเปลืองถึงขนาดต้องขวนขวายกันทุกปี

ถ้าไม่ได้เรื่องมากขนาดผม ก็ยิ่งสบายแฮครับ

[pimuk]

.....ลำบากนิดหน่อยเรื่องกระสุนจริง เพราะผมระบุจะเอาแต่JHP.FEDERAL HYDRASHOK/SPEAR GOLD DOT
แต่พอได้แล้วก็ได้เลยเก็บใส่กล่องซีลดีๆโยนซองสารดูดความชื้นลงไปซักซองก็หมดเรื่อง มันไม่ได้สิ้นเปลือง
ถึงขนาดต้องขวนขวายกันทุกปี...   ถ้าไม่ได้เรื่องมากขนาดผม ก็ยิ่งสบายแฮครับ

นึกว่ายิงไปหมดแล้ว 

ผมถึงได้คุยกับผู้การ อยากให้รอยแยลฯ นำเข้าหัวกระสุน Speer Gold Dot มาอัดครับ (บูลเล็ตมาสเตอร์ไม่เอาเข้ามา)
แต่ตอนนี้ ไม่แน่ใจว่า ATK เจ้าของสเปียร์ ขายหัวกระสุนให้หรือเปล่า แต่ บ. ดับเบิ้ลแท็ป ในอเมริกายังโหลดด้วยหัวนี้อยู่ 

[มะขิ่น]

คือว่า อยากจะบอกว่า .40 ก็เป็นกระสุนปืนที่น่าสนใจนะครับ ฝรั่งอเมริกัน เขาคิดกันขึ้นมา ก็น่าสนใจ ที่มาของมันก็น่าสนใจ และที่สำคัญ มันถือกำเนิดขึ้นมาในประเทศที่ถือว่า ประชาชนมีอิสระในด้านอาวุธปืน มากที่สุดในโลก ก็ว่าได้ ........แต่ว่า

ที่นี่ ......ประเทศไทย.......ประเทศที่ต้องห้ามเรื่องอาวุธปืนในส่วนของประชาชนมาโดยตลอด ตั้งแต่อดีต มาถึงปัจจุบัน  ไม่เชื่อไปลองดูประวัติศาสตร์การครอบครองอาวุธปืน ประวัติการนำเข้าอาวุธปืนมาในราชอาณาจักร การอนุญาตให้ถือครองอาวุธปืน ฯลฯ ประชาชนของเราในอดีต  แตกต่างจากประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของ .40 ชนิดฟ้า กับเหว

ประเทศของเขา ประชาชน เป็นผู้คิดปืน ออกแบบปืน นำแบบปืนไปขายบริษัทเอกชน บริษัทเอกชน  ก็ผลิตออกมา  แล้วเอาไปประมูลแข่งกันเข้าประจำการกองทัพของเขา นั่นคือที่มาของปืนในประเทศของเขา เห็นได้ว่า มันมีที่มาจากประชาชนเต็มขั้น

แต่ลองมาดูที่มาของปืนในประเทศไทยบ้าง . ประชาชนสยาม ไม่ได้คิดปืนเอง ไม่ได้ทำกระสุนเอง คิดทำเองได้ หลวงท่านก็ไม่ให้ทำ หลวงท่านต้องเป็นคนคิดเอง ทำเองทั้งหมดในเรื่องอาวุธ  ดังนั้น  ทุกอย่างมาจากต่างประเทศ .....การนำเข้าปืน กระสุน อาวุธ ทุกอย่าง จะถูกควบคุมโดยฝ่ายบ้านเมือง รัฐบาล ซึงหนีไม่พ้นว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายทหาร จะเป็นผู้ควบคุมในทุกๆด้าน...
ดังนั้น การจะผลิตกระสุนในประเทศ การจะผลิตลูกกระสุนซ้อมยิงในประเทศ ทุกอย่างจะถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น กระสุนอะไรที่รัฐ ท่านใช้ ก็จะหาง่ายๆ กระสุนอะไรที่รัฐ ท่านไม่ใช้ ก็หายากหน่อย เป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าท่านมีอายุซักหน่อย ท่านจะเข้าใจ
ในอดีตที่ผ่านมาประมาณ ปี 2525 เท่าที่จำความได้ กระสุนซ้อมยิงในสนามยิงปืน จะมีอยู่ 3 ชนิดเท่านั้น คือ
1.ขนาด .38 วัตคัตเตอร์ ผลิตโดยสรรพาวุธทหารบก  หัวตะกั่ว คาดว่า หัวกระสุนคงหล่อเองในประเทศ มีชื่อย่อว่า ORTA
2.ขนาด .45 เอซีพี เป็นลูกซ้อมก็จริง แต่หัวกระสุนเคลือบทองแดง สวยงามมาก ไม่รู้ว่าหล่อหัวกระสุนเอง หรือสั่งหัวกระสุนเข้ามาประกอบในเมืองไทย มีชื่อย่อว่า ORTA
3. .22 แอลอาร์ ไม่มีลูกซ้อม ก็หัวเหมือนลูกจริง .22 แอลอาร์ทั่วไปนั่นแหละ แต่หนีบหัวกระสุนไม่ค่อยแน่น มีชื่อย่อว่า ORTA เหมือนกันหมด
เชื่อว่า กระสุน 3 อย่างนี้ เป็นกระสุนมาตรฐานที่ใช้ในกองทัพไทยแหงๆ เลย

ตอนนั้น ปี 2525 คุณทราบไหมครับ ถ้าใครริอ่านซื้อปืน 9 มม.พาราเบลลั่มละก็ ต้องซื้อลูกจริง ยิงเท่านั้นขอรับ กระเป๋าแหกกันไปตามๆกัน ลูกซ้อม .45 นัดละ 5 บาท ลูกซ้อม .38 นัดละ 3 บาท (คืนปลอก) แต่ 9 มม.ของไฮเทนเบริก์ นัดละ 15 บาท (ข้าวแกงจานละ 5 บาท ) กระเป๋าแหกไม่แหก คิดเอาเอง

จากวันนั้น ถึงวันนี้ มีกระสุน 9 มม. ลูกซ้อมออกมาให้ยิงเสียหน่อย ค่อยยังชั่ว เลยซื้อปืน 9 มม.กันสนั่นเมืองไปเลย  
.38 และ .45 ซ้อมยิงของ ORTA ก็จางหายไป เหลือแต่เอกชนผลิตกันอยู่ 3 บริษัท  แต่ก็เชื่อว่า กระสุน .38 และ .45 ก็ยังเป็นหลักของกองทัพอยู่

ลองมาดูตัวอย่าง .38 ซูเปอร์หน่อยเป็นไง ในช่วงปี 2530โดยประมาณ  มีการฮิต .38 ซูเปอร์ กันมาก เชื่อกันว่าจะดังในอนาคต แถมมีการผลิตลูกซ้อมออกมาด้วยโดยบริษัทเอกชนของไทยนี่แหละ
แต่มาถึงทุกวันนี้ ลูกกระสุน .38 ซูเปอร์ ก็หาได้ไม่ง่ายนัก  และราคาไม่ถูกเหมือน .38 หรือ .45 ที่พอหาได้ทั่วไป
10 มม. ก็เคยจะดัง แล้วก็แผ่วๆไป ตามกาลเวลา

เอาเป็นว่า ไปตามสนามยิงปืนที่ไม่ค่อยดัง หรือที่ไม่ค่อยมีนักกีฬา ไอพีเอสซีเข้าไปแข่งละก็ ถามหากระสุนอื่นๆ นอกจาก .38 .45 .22 ละก็ อาจจะไม่ได้ยิงปืนในวันนั้นก็ได้ เพราะลูกอย่างอื่นนอกเหนือจาก 3 ขนาดนี้ ไม่มีขาย
.40  ก็คงทำนองเดียวกัน เพราะบ้านเรา ทางกองทัพยังไม่ใช้ .40 ประจำการ
อนาคตของกระสุน มันก็เลยไม่แน่นอนเหมือนกันแหละ
ใช้ .45 เหอะ ชัวร์ดี ยังไง ก็หาลูกซ้อมได้ง่ายกว่าก็แล้วกันแหละ ลูกจริง ลูกซ้อม พอหาได้สบายๆ ในเมืองไทย ด้วยเหตุผลที่เล่าให้ฟังนั่นแหละครับ

ที่ผมขีดเส้นใต้ ............... เป็นความเห็นที่มั่วครับ ในกองทัพ ไม่ได้ใช้ตามที่กล่าว

[โทน73 -รักในหลวง-]

ผมเชื่อว่าอนาคตไกลแน่  โดยเฉพาะสำหรับปืนที่มีมิติเดียวกะปืน 9 มม.พาราฯ   แต่ถ้าจะมองช่วงสั้น สองสามปีนี้  คงจะขลุกขลักเรื่องกระสุนซ้อมพอสมควร ...  สำหรับคนเพิ่งเล่น หรือเพิ่งจะมีปืนกระบอกแรก  พิจารณาจากความง่ายในการจัดหากระสุนเฉพาะตัวบุคคลก่อนดีกว่าครับ

[pimuk]

สิ่งหนึ่งที่พึงระวัง คือ ลูกซ้อมที่ปกติใช้ในการแข่งขันไอพีเอสซีที่ใช้ในเอสทีไอ (มัก)จะยาวกว่าปกติ (ยาวกว่า 1.135 นิ้ว)
นำมาใช้กับแมกกาซีนของกล็อกแล้วยันครับ

ส่วนลูกจริงที่ทำในบ้านเรา จะไม่ทำยาวเกินปกติครับ 

[rute - รักในหลวง]

ยิ่งอ่านยิ่งอยากใช้ .40

ซื้อกันคนละกระบอกดีไหมครับน้อง Willฯ...

[E_mail]

ดีคร๊าบบบบ ดีๆๆๆ พี่หมอ/คุณต๊อกซื้อเลยครับ 

[boon(เสือไบ)]

ผมซื้อมาหลายกระบอกแล้ว แต่ก็ยังอยากได้อีก

[USP40]

ลูก .38 Super กับ .40 S&W มันคนละเรื่องกันนิ 
.40 S&W มันอยู่ตัวแล้ว  เรื่องที่ว่าอีกหน่อยอนาคตจะดับวูบ  คงไม่เกิดแน่นอน  ทุกวันนี้ไปร้านปืน  จะเห็นปืนที่ยิงด้วยลูก .40 S&W เกลื่อน
ปืน 9mm มีอยู่หน่อยนึง พอเป็นกระสายยาสำหรับแฟนๆ 9mm
ที่ว่ามานี้ไม่ได้หมายความว่า .40 S&W เป็นลูกปืนขนาดวิเศษเด้อ  ไม่ว่าลูกอะไรยิงบ่เถิกมี่สำคัญ  มันซิก็บ่ตายด้อก  ลูกเล็กๆอย่าง .22LR ยิงโดนกะโหลก ก็ตายหยังเขียดเด้อคับ ( ยกเว้นกะโหลกหนา )

[VENDY]

ลูก .38 Super กับ .40 S&W มันคนละเรื่องกันนิ 
.40 S&W มันอยู่ตัวแล้ว  เรื่องที่ว่าอีกหน่อยอนาคตจะดับวูบ  คงไม่เกิดแน่นอน  ทุกวันนี้ไปร้านปืน  จะเห็นปืนที่ยิงด้วยลูก .40 S&W เกลื่อน
ปืน 9mm มีอยู่หน่อยนึง พอเป็นกระสายยาสำหรับแฟนๆ 9mm
ที่ว่ามานี้ไม่ได้หมายความว่า .40 S&W เป็นลูกปืนขนาดวิเศษเด้อ  ไม่ว่าลูกอะไรยิงบ่เถิกมี่สำคัญ  มันซิก็บ่ตายด้อก  ลูกเล็กๆอย่าง .22LR ยิงโดนกะโหลก ก็ตายหยังเขียดเด้อคับ ( ยกเว้นกะโหลกหนา )

ร้านที่นั้น .40 เยอะกว่า 9 มม แสดงว่าได้รับความนิยมมากใช่มั้ยพี่ถ้าอเมริกันชน นิยมก็ไม่มีทางดับวูบแน่นอนค่ะ