แฟนหนุ่มหึงโหด ! ยิงคาสน.พริตตี้มอเตอร์โชว์ แค้นสาวบอกเลิก ปันใจสารวัตรหนุ่ม ตามง้อไม่ยอมคืนดี ระเบิดขมับตายตาม
หนุ่มเทคนิคนานาชาติรักคุด! เลือดขึ้นหน้าสุดสุด ลาก .38 บุกซัลโวแฟนสาวดีกรีพริตตี้มอเตอร์โชว์ปีล่าสุด ทั้งยังเป็น นศ.พรีเซ็นเตอร์โรงเรียนเดียวกันดับสยองคา สน.พระโขนง ก่อนใช้ฑูตมรณะกระบอกเดิมปลิดชีพตัวเองหนีปัญหา หลังเกิดเหตุตำรวจเป็นใบ้ทั้งโรงพัก คาดปมฝ่ายหญิงดันเปลี่ยนใจไปติงนังกับ สารวัตรขณะฝึกงาน
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 8 เม.ย.51 ขณะที่ ร.ต.อ.วุฒิพงษ์ ภาดี ร้อยเวร สน.พระโขนง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องพนักงานสอบสวน ก็ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นมาจากบริเวณทางขึ้นบันได ด้านข้างอาคาร สน.พระโขนง จำนวนหลายนัด เมื่อรีบวิ่งออกไปตรวจสอบก็พบร่างของนักศึกษาสาว ที่มาฝึกงานอยู่ที่โรงพัก จำนวน 2 คน และชายวัยรุ่นอีก 1 คน นอนเกลื่อนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อรุดเดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางขึ้นบันได ด้านข้างโรงพัก เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.อมรทิพย์ โชติจิระการ อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช. ชั้นปีที่ 3 ภาคปกติ แผนกบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคนิคศรีวัฒนาบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีนานาชาติ และกำลังอยู่ระหว่างฝึกงานที่ สน.พระโขนง อยู่บ้านเลขที่ 71/1 ถนนริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. สภาพศพนอนตะแคงข้างซ้ายจมกองเลือด สวมเสื้อนักศึกษาเเขนยาว นุ่งกระโปรงสั้นสีกรมท่า สวมรองเท้าหนัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 ม.ม. เข้าที่สะบักหลังทะสุราวนมขวา 1 นัด และที่กลางศีรษะด้านหลัง กระสุนฝังในอีก 1 นัด
ใกล้กันพบศพนายจิรายุ มูลศรี อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 ภาคค่ำ ของสถาบันเดียวกัน สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีน สวมรองเท้าแตะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับซ้ายซ้ายทะลุออกข้างขวาจำนวน 1 นัด นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืน ขนาด .38 ม.ม. แบบสแตนเลส ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ตกอยู่ใกล้เท้าข้างขวาของฝ่ายชายจำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นนักศึกษาฝึกงานที่ สน.พระโขนง เช่นเดียวกัน ทราบชื่อคือ น.ส.จันจิรา บุตรชาลี อายุ 18 ปี นักศึกษาโรงเรียนศรีวิกรม์บริหารธุรกิจ ถูกกระสุนปืนลูกหลงถากโหนกแก้มซ้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำตัวส่ง รพ.สุขุมวิท เป็นการด่วน
จากการสอบถาม จ.ส.ต.สิทธิเดช อนุสาร ผบ.หมู่ (ป.) สน.พระโขนง ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.เห็นผู้ตายทั้ง 2 คน ยืนทะเลาะกันอย่างรุนแรง และ มีการยื้อยุดฉุดกระชากกันบริเวณจุดเกิดเหตุ จึงได้เข้าไปเตือนด้วยความหวังดีว่า ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ มีปัญหาอะไรให้กลับไปคุยกันที่บ้าน โดยตนได้ยินฝ่ายหญิงปฏิเสธที่จะสานสัมพันธ์ต่อกับฝ่ายชาย จากนั้นทั้งคู่จึงเดินเลี่ยงขึ้นบันไดไปเคลียร์กันต่อบนชั้นที่ 2 ของโรงพัก จนกระทั่งเวลา 16.10 น.ซึ่งตนกำลังจะกลับบ้าน จึงเดินออกจากโรงพักมาทางประตูกระจกบริเวณจุดเกิดเหตุ ก็มองเห็นฝ่ายหญิงยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนสาวที่มาฝึกงานด้วยกัน ส่วนฝ่ายชายนั่งอยู่ในรถฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีน้ำเงิน ทะเบียน กม-3798 เชียงใหม่ จากนั้นก็เห็นฝ่ายชายเดินลงมาจากรถ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด
พอสิ้นเสียงปืนนัดแรกตนเห็น น.ส.อมรทิพย์ ล้มลง แล้วก็มีเสียงปืนดังตามขึ้นมาอีกหลายนัด โดยนายจิรายุ กำลังบ้าคลั่งไล่ยิงกลุ่มเพื่อนผู้ตาย จนกระสุนไปเฉี่ยวแก้มผู้บาดเจ็บ 1 นัด มีบางนัดทะลุกระจกไปถูกหมวกตำรวจที่วางอยู่บนโต๊ะประชาสัมพันธ์ด้วย จากนั้นนายจิรายุ ก็เดินปรี่เข้าไปหา น.ส.อมรทิพย์ ที่พยายามยกมือร้องขอชีวิต แต่นายจิรายุ ได้ลั่นไกจ่อยิงซ้ำที่ศีรษะอย่างเลือดเย็นอีก 1 นัดจน น.ส.อมรทิพย์ หงายกลิ้ง ตนจึงรีบผลักประตูกระจกออกไป พร้อมตะโกนถามนายจิรายุ ว่า รู้ไหมทำอะไรลงไป ให้รีบวางปืนลงเดี๋ยวนี้ แต่แทนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งนายจิรายุ กลับใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันหนีปัญหา จ่อยิงเข้าที่ขมับซ้ายปลิดชีพตนเองไปต่อหน้าต่อตา จ.ส.ต.สิทธิเดช กล่าว
มีรายงานว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ จนถึงระดับผู้น้อยในโรงพัก ต่างปิดปากเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ หรือเปิดเผยรายละเอียดแก่ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด คาดว่าทุกคนน่าจะรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหายให้แก่วงการตำรวจอีก ส่วน น.ส.อมรทิพย์ นั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาดีมากคนหนึ่ง เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้กับสถาบันการศึกษาของตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นพริตตี้ให้รถยนต์ค่ายหนึ่งในงานมอเตอร์โชว์ปี 2008 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนายจิรายุ ก็เป็นแฟนหนุ่มที่คบกันมานานแล้ว แต่ภายหลังเมื่อ น.ส.อมรทิพย์ มาฝึกงานที่ สน.พระโขนง ทั้งคู่ก็มักมีปากเสียงและทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ
เพราะนายจิรายุจับได้ว่ามีนายตำรวจคนหนึ่ง ที่ สน.พระโขนง เข้ามาติดพันไปรับส่งแฟนตัวเองบ่อยๆ จึงเกิดรักสามเส้าขึ้นจน นายจิรายุ ต้องเดินทางตามมาจบปัญหาอย่างสลดหดหู่ถึงโรงพัก