เข้าเว็บผู้จัดการตามลิ้งค์ครับท่านอรชุน
รุ่น ราคา(บาท)
1.8 MIVEC GLX 831,000
1.8 MIVEC GLS 886,000
1.8 MIVEC GLS-Ltd. 899,000
2.0 MIVEC GT 1,034,000
เข้าได้แล้วครับพี่ขอบคุณมากครับ
ข้อมูลคร่าวๆครับ
บล็อก 4B10 ขนาด 1.8 ลิตร FFV รองรับได้ทั้งน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลล์ทุกชนิดจนถึง
E85 ให้กำลังสูงสุดที่ 139 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที
บล็อก 4B11 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC MIVEC รองรับทั้งเบนซิน 91 95 แก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,250 รอบต่อนาที
โดยเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นยังผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า อย่างเสื้อสูบอะลูมิเนียม ฝาครอบวาล์วแบบพลาสติกพิเศษ พร้อมโครงสร้างการวางท่อร่วมไอเสียไว้ด้านหลัง และการติดตั้งแผ่นสแตนเลสครอบท่อร่วมไอเสียโดยรอบเพื่อป้องกันความร้อน มาพร้อม MIVEC ระบบวาล์วแปรผันที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วทั้งไอดีและไอเสียให้แปรผันสัมพันธ์กับอัตราเร่งในทุกๆ รอบเครื่องยนต์และทุกสภาพการขับขี่ จึงให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน
ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT INVECS-III แบบ 6 จังหวะ ฟังก์ชั่น Sport Mode ให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและแม่นยำ
ด้านช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลังแบบมัลติลิงก์พร้อมคอยส์สปริง และเหล็กกันโคลง ในรุ่น GT ยังมีการติดตั้งเหล็กค้ำโช้คหน้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งเมื่อใช้ความเร็วสูง
ไฟแบบมัลติรี-เฟล็กเตอร์ แบบฮาโลเจน สำหรับรุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ รุ่น GLX ส่วนไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ แบบไบซีนอน (Bi-Xenon) พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าและระบบเพิ่มความส่องสว่างด้านข้างขณะเข้าโค้ง (AFS) จะมาในรุ่น GT
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มีให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (ค่า Cd.) เพียง 0.29
ภายในห้องโดยสารมี 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ โมโนโทนสีดำสไตล์สปอร์ตในรุ่น GT และ GLS-Ltd. และแบบทูโทน สีดำ-เบจในรุ่น GLS และ GLX ทั้งนี้ ในรุ่น GT และ GLS-Ltd. จะใช้เบาะหนัง พร้อมความอเนกประสงค์ของเบาะหลังที่สามารถพับแบบ 60:40 ได้
สำหรับในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร GT ติดตั้งระบบพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงเลือกเพลงและระบบเสียง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
เครื่องเสียงวิทยุซีดี MP3 แบบ 6 แผ่น พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งในรุ่น GT รุ่น GLS-Ltd. และ GLS ในขณะที่รุ่น GLX มาพร้อม วิทยุซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง ด้านจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เรืองแสงสีแดงแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา อุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิภายนอกตัวรถ รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
นอกจากนี้ รถทุกรุ่นยังติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ Mitsubishi Motors ETACS (Electric Total Automobile Control System) ซึ่งควบคุมระบบไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบปิดไฟหน้าและไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม (immobilizer) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภายในรถ
พร้อมด้วยเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ระบบเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบผ่อนแรง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกด้วยดิสก์เบรกขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับล้อขนาด 15 นิ้วขึ้นไป สำหรับรุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ GLX และรองรับล้อขนาด 16 นิ้วขึ้นไปสำหรับรุ่น GT
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มี 4 รุ่นย่อย 5 สีให้เลือก ประกอบด้วย สีแดง สีบรอนซ์เงิน สีบรอนซ์ทอง สีเทาดำ และสีดำ พร้อมราคาขาย 831,000 บาท ถึง 1,034,000 บาท...เริ่มจองแล้วตั้งแต่วันนี้ จากนั้นจะเริ่มทยอยลงโชว์รูมพร้อมขายอย่างเป็นทางการ 16 ตุลาคมเป็นต้นไป