ข้อมูลทางเทคนิค มีไหมครับ
แนวคิดการพัฒนา Ford Ranger โฉมใหม่ก็ต้องพัฒนาให้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งที่อยู่ในท้องตลาด ณ วันที่เปิดตัว รวมทั้งสามารถต่อกรกับรถกระบะของคู่แข่งที่จะต้องเปิดตัวไล่เลี่ยกันได้ ดังนั้นการจะสู้กับคู่แข่งอื่นได้นั้น Ford จึงต้องมาในแนวทางของตนเองที่ย้ำภาพลักษณ์ความเป็นรถกระบะคันแกร่งสไตล์ อเมริกันเน้นการใช้งานหนักสูงสุด ดีกว่าจะไปเดินตามคู่แข่งให้เสียเวลา
Ford Ranger โฉมใหม่มีความยาวฐานล้อ 3,220 มม. ยาวที่สุดในบรรดารถกระบะ 1 ตันทั่วโลก ความกว้างแทร๊กล้อคู่หน้าและหลังจะมีความกว้างเท่ากันคือ กว้าง 1,560 มม. ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และกว้าง 1,590 มม. ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ
ไซน์บั้นท้ายแข็งแกร่งด้วยไฟท้ายทรงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะดูคล้าย ๆ โคมไฟท้ายรุ่นเดิมจับมากลับหัวเท่านั้น หากสังเกตให้ดีกระบะด้านท้ายจะถูกยกสูงขึ้นมาอีกระดับ ทำให้เนื้อที่บรรทุกท้ายใหญ่โตมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แน่นอน Ford เคลมว่าพื้นที่บรรทุกกระบะท้าย Ranger รุ่น Double Cab XLT มีความยาว 1,549 มม. สูง 511 มม. มีพื้นที่ความจุ 1.21 ลูกบาศก์เมตร
โครงสร้าง ตัวถังรถคือจุดเด่นของ Ford Ranger โฉมใหม่อย่างมากเพราะขนาดตัวถังมันดูใหญ่จนแทบจะเท่ากับ Ford F150 เมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อน หนำซ้ำยังดูใหญ่กว่า Toyota Hilux Vigo และ Nissan Navara ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นรถกระบะที่ใหญ่สุดในกลุ่ม นี่คือจุดเด่นที่ Ford ลบจุดอ่อนได้สำเร็จเสียที
เครื่องยนต์กลไกมีให้เลือก 3 บล๊อกใหม่ล่าสุดซึ่ง Ford เคลมว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงประหยัดน้ำมัน ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล Duratorq TDCI 4 สูบ2.2 ลิตรให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร หรือ 37.87 กิโลกรัมเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล Duratorq TDCI 5 สูบ 3.2 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า แรงบิดสุงสุด 470 นิวตันเมตร หรือ 47.47 กิโลกรัมเมตร
และสุดท้ายเครื่องยนต์เบนซิน Duratec 4 สุบ 2.5 ลิตร ให้กำลัง 166 แรงม้า ไม่ระบุแรงบิดสูงสุดแต่เครื่องยนต์บล๊อกนี้สามารถใช้พลังงานทางเลือก E100 และสามารถติดตั้งก๊าซเชื้อเพลิง CNG/LPG ในภายหลังได้
เครื่องยนต์ทุกรุ่นมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ 6 จังหวะ (ดีกว่ารถเก๋งในไทยหลายรุ่นเสียอีก) และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือกในบางรุ่น นอกจาดช่วยเพิ่มสมรรถนะแล้วยังช่วยด้านอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะให้เลือกเช่นเคย
ในเมื่อ Ford Ranger โฉมใหม่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งคัน ดังนั้นแชสซีส์ตัวรถจึงถูกออกแบบขึ้นใหม่ Ford เคลมว่าระบบกันสะเทือนหน้ามีคอยล์สปริงใหม่มอบสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้น ออกแบบให้ทำงานร่วมกับวาล์วแดมเปอร์และอัตราสปริงที่เหมาะสมในแต่ละรุ่นเพื่อชดเชยน้ำหนัก จุดศูนย์ถ่วง และการกระจายแรงขับที่แตกต่างกัน
ระบบกันสะเทือนหลังออกแบบใหม่หมดเน้นความนุ่มนวล ตอบสนองต่อการขับขี่ในสภาพถนนที่แตกต่างกัน โดยไม่ทำให้ความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักมากๆ ลดลงแต่อย่างใด
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทุกคนต้องเรียกร้องคือ Ford ยอมเปลี่ยนพวงมาลัยจากแบบลูกปืนหมุนวนเป็นแบบแร๊คแอนด์พิเนียนยอดนิมเหมือนรถกระบะยุคปัจจุบัน (เสียที) Ford เคลมว่าพวงมาลัยใหม่นี้มีวงเลี้ยวแคบกว่าเดิมจนใช้งานขับขี่ได้คล่องแคล่วกว่า
น่าแปลกที่ระบบเบรคในรถกระบะมักไม่ค่อยถูกใช้เป็นจุดขายมากนัก ผิดกับ Ford Ranger โฉมใหม่ที่ชูจุดเด่นด้วยจานเบรคล้อหน้าขนาดใหญ่ ถึง 302x32 มิลลิเมตร และคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ซึ่งผลิตขึ้นจาก วัสดุ phenolic เพื่อลดน้ำหนักและช่วยให้ทนความร้อนดียิ่งขึ้น ส่วนคู่หลังจะใช้ดรัมเบรคขนาด 270x55 มิลลิเมตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และดรัมเบรคขนาด 295x55 มิลลิเมตร สำหรับรุ่นไฮ-ไรเดอร์ และ 4x4
ระบบเบรคของ Ford Ranger โฉมใหม่ได้รับการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมสุดโหดมาแล้ว และพร้อมตอบสนองต่อทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในประเทศสวีเดนที่อุณหภูมิติดลบ 30 องศา หรือการขับขี่ภายใต้สภาพอากาศร้อนจัดในแคลิฟอร์เนีย เดด วัลเลย์ ไปจนถึงการขับบนถนนที่มีการจราจรแออัด และบนทางด่วน ออโตบาห์น ของเยอรมนี ไปจนถึงถึงการขับในป่าทึบของออสเตรเลีย
ทั้งหมดนี้ Ford Ranger โฉมใหม่สามารถป้องกันอาการเบรกลื่น (Fade resistance) ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่บรรทุกน้ำหนักมาก ขณะที่เบรกของรถอื่นๆ เริ่มลื่นไหลและทำให้ระยะเบรกไกลขึ้น
ใครว่าจุดขายของ Ford Ranger จะถูกโฟกัสไปที่การใช้งานหนักเพียงเท่านั้น แต่คำว่า "กระบะนิรภัย" ก็ยังอยู่ใน Concept อยู่เพียงแต่คงเลิกสโลแกนนี้ใช้ในไทยแล้วแน่ ๆ ล่ะ จุดเด่นด้านความปลอดภัยที่ Ford Ranger ให้ได้มากกว่านั่นก็คือระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program -ESP) ที่รวมถึงระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction control) สำหรับทั้ง 4 ล้อ รวมทั้งระบบป้องกันรถแฉลบ และลดโอกาสในการพลิกคว่ำ
แม้ว่าผู้ขับขี่จะไม่รู้สึกถึงการทำงาน แต่เซ็นเซอร์ของระบบ ESP ที่ได้รับการติดตั้งในเรนเจอร์ ใหม่ จะคอยตรวจจับความเร็วของล้อทั้ง 4 ล้อและเมื่อมีการเร่งความเร็ว หรือในการเบรก หากล้อใดแฉลบออกนอกทิศทาง ระบบจะส่งแรงเบรกไปยังล้อดังกล่าว เพื่อช่วยควบคุมให้รถสามารถทรงตัวได้อย่างปลอดภัย
ภายใต้สภาพการขับขี่สุดโหด ระบบ Traction control จะทำหน้าที่ช่วยลดแรงบิดด้วยการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และการจ่ายน้ำมัน
ประสิทธิภาพในการลากจูง ความเกาะถนน และเสถียรภาพในการขับขี่ของเรนเจอร์ ใหม่ นับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด ด้วยการติดตั้ง Trailer Sway Mitigation และ Adaptive Load Control หากส่วนของกระบะเริ่มที่จะแกว่ง ระบบจะส่งแรงเบรกไปเพื่อช่วยชะลอความเร็ว และทำให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมแม้ในขณะที่บรรทุกของมาเต็มท้ายรถ ระบบควบคุมการปรับตามน้ำหนักบรรทุกจึงสามารถปรับการทำงานตามน้ำหนักบรรทุกเพื่อควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถตลอดการขับขี่