แบบนี้ครับ จะเห็นว่าเขาทำขนาดตายตัวไว้ครับ ใดมิเตอร์เล็กกว่าท่อที่เราจะใช้งาน
เวลาจะใช้เราก็เอาคีบหนีบเขี้ยวที่โผล่ออกมาสองด้านมันก็ถ่างออกพอเราคลาย
มันก็กลายเป็นสปริงกดในตัวแรงกดสม่ำเสมอรอบตัวด้วยครับ
อันนี้ผมเห็นที่มันติดรถมามันใช้แบบนี้ล้วนๆเลยครับ ไม่มีแบบกวดน็อตขันตายเลยครับ
แสดงว่ามันต้องมีข้อดีกว่าแน่ๆ แต่ที่ช่างชอบใช้แบบขันน็อตก็คงเพราะ หาง่าย ราคาถูก ขันแน่นได้ตามใจ
จนมันแน่นเกินไปจนยางตายหมดความยืดหยุ่น
ส่วนแบบถ่างสปริงกด ถ้าท่อยางหลวมแล้วทำไง.....ก็แสดงว่าท่อยางหมดอายุจนยางตายจริงๆแล้วล่ะเปลี่ยนทิ้งไปได้
ถ้าเป็นเครื่องเทอร์โบแบบเข็มขัดขันน๊อตเหมาะกว่าครับพี่ แบบสปริงก็ดีแต่เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ไม่มีแรงดันในระบบ
เพรสเชอร์ในระบบสูงกว่าใช่ไม๊ครับ
มีเหตุผล
เครื่องยนต์ธรรมดาหรือ NA (naturally aspirated engine) ใช้ "แรงดูด" จากกระบอกสูบในการดึงอากาศเข้าห้องเผาใหม่ครับ
แรงดันในระบบไอดีจะต่ำกว่าศูนย์ หรือเป็นสูญญากาศ (Vacuum) เกือบตลอดเวลา จะมีช่วงที่เป็นแรงดันบ้างก็ช่วงที่ถอนคันเร่งแล้วมีไอดีย้อนกลับ
ท่อยางจะโดนดูดให้เล็กลงมากกว่าโดนดันให้ขยาย และช่วงที่ขยายก็ไม่ได้มากอะไร ท่อยางโดนดูดให้หดก็จะแน่นขึ้นเองเข็มขัดสปริงจึงเพียงพอ
ส่วนเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศไม่ว่าจะเป็น Supercharger หรือ Turbocharger จะมี "แรงอัด" จากเครื่องอัดอากาศเสริมเข้ามาในระบบ
แรงดันในระบบไอดีจึงมากกว่าศูนย์คือมีแรงดัน (Pressure) ตลอดเวลา ท่อที่อยู่ในระบบจะถูกดันให้ขยายออกตลอดเวลาด้วย
ยังไม่รวมถึงความร้อนของไอดีที่ถูกอัดเข้ามาเพิ่มอีก เข็มขัดรัดท่อของเครื่องยนต์อัดอากาศจึงต้องมีแรงยึดมากกว่า แข็งแรงมากกว่า
ท่อทางเดินอากาศจะโดนดันขยายให้หลวมตลอดเวลา ผู้ใช้รถเครื่องเทอร์โบจึงต้องคอยเช็คเข็มขัดรัดท่อด้วยว่าโดนดึงให้หลวมหรือไม่