อ่านแล้วได้ประสบการณ์ดีมากๆเลยครับ แต่อย่างที่ท่านนึงให้ความเห็นไว้ น่าสนใจมาก ว่า ท่าน จขกท เก็บปลอกกระสุนกลับมาด้วยหรือเปล่า นั่นสิครับ เก็บมาด้วยไหม
เพราะว่า รูปการณ์ จะแปลเปลี่ยนไปมากถ้าอีกฝ่ายหัวหมอกลับไปแจ้งความว่า ท่านยิงใส่ฝ่ายเขาก่อนโดยที่พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรท่านเลย จากที่จะเป็นโจทก์ ก็ กลายเป็น จำเลยซะเอง อีกอย่างพยาน ฝ่ายนั้นก็มีให้การซัดทอดได้มากกว่า
แต่สถานการณ์ในขณะนั้นใครจะมามัวลงมาเก็บปลอกใช่ไหม รักษาชีวิตไว้ได้ก็บุญแล้ว
เพื่อนผมที่เป็น ตร. เคยพูดไว้น่าสนใจ ว่า ปืนลูกโม่มันดีอย่างยิงแล้วมันไม่มีหลักฐานอื่นนอกจากหัวกระสุน ไม่เหมือนปืนออโต มีปลอกกระสุน ทิ้งเอาไว้ หาตัวเจ้าของได้
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่นำมาแบ่งปันครับ
ไม่ได้เก็บปลอกมาด้วยหรอกครับ ชั่วโมงนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรพวกมันดี และทำอย่างไรเราถึงจะหนีรอดไปได้....
โทรไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่ที่กาญจนบุรีแล้วครับ เพื่อนรับปากว่าจะดูแลเรื่องให้แล้วถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
แต่เด็กพวกนั้น ถ้าจะหัวหมอคงเป็นไปได้ยากครับ เพราะไอ้พวกนี้ เพื่อนผมบอกว่ามีชนักติดหลังทุกคน ตัวหัวโจกที่ผมเล่าให้เพื่อนฟัง
จากรูปพรรณสัณฐาน เพื่อนบอกว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่กำลังตามตัวกันอยู่ด้วย
ถ้ามันมาแจ้งความก็เข้าล็อคทันทีครับ งานนี้ต้องขอบคุณเพื่อนผมจริงๆ สำหรับน้ำใจในยามวิกฤต
ส่วนเรื่องตั้งด่าน นั้น ช่วงเทศกาลตำรวจทำงานกันหนักในเส้นทางสายหลัก สำคัญกันหมดแล้วครับ คงเป็นผมเอง
ที่น่าจะเชื่อเพื่อนนอนค้างด้วยกันตามคำแนะนำ...
