เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 02, 2024, 12:31:05 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนปรึกษาเรื่องทำประกันภัยครับ  (อ่าน 2631 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 04:03:29 PM »

ผมจะทำประกันภัยบ้านและอาคารสำนักงาน ที่ดูๆไว้คือบริษัทสามัคคีประกันภัยและบริษัทวิริยะประกันภัย ไม่ทราบว่ามีข้อมูลอะไรแนะนำบ้างไหมครับ ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 05:03:40 PM »

บริษัทไหนดีกว่า ไม่ทราบน่ะครับ

แต่ขอแนะนำอย่างหนึ่งว่า แม้ตอนเสนอข้อมูลให้เราตกลงทำประกัน จะเสนอมูลค่าความรับผิดในกรมธรรม์สูง ดูดี หรือฟังแล้วน่าเชื่อถือก็ตาม

แต่ควรจะสอบข้อมูลจากผู้เอาประกันภัยที่ประสบเคยมีปัญหา ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขกรรมธรรม์ ว่าพอมีปัญหา จริงแล้วบริษัทตกลงจะจ่ายโดยไมมีข้อแม้อื่นด้วยจริงหรือไม่            แม้ในสัญญากรมธรรม์ และตามกฎหมาย ระบุชัดเจนว่า " ผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทน แทนผู้เอาประกันภัย เพื่อความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก และผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายรับผิดชอบ" แต่เหตุที่เราได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่งคือมีเหตุเดียว คือชดใช้ค่าเสียหายแทนเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือไม่ก็ตาม

            มีกรณี  ปรากฎว่าผู้เอาประกันภัยรถยนต์ (ชั้นหนึ่ง) ได้ขับขี่รถยนต์ที่ตนทำประกันภัยไว้กับบริษัท ไปเกิดเหตุการเฉี่ยวชนกับผู้หญิงสูงอายุอายุ ราวๆ ๕๕ ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ จนหญิงนั้นถึงแก่ความตาย   พนักงานสอบสวนสรุปสำเนาเห็นว่าน่าจะประมาททั้งคู่ แต่ก็ให้คู่กรณีตกลงค่าเสียหายโดยให้เจ้าของรถยนต์ และตัวแทนประกันมาพูดคุยและเจรจา เพื่อยุติปัญหาไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
         คนขับรถยนต์ ตกลงจะชดใช้ให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ให้บริษัมประกันชดใช้ตามวงเงินประกันที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ และยุติเรื่องกันไป คนขับรถยนต์จะได้ไม่ต้องโดนข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
         ปรากฎว่า ตัวแทนประกันปรึกษาสำนักงานใหญ่แล้วตกลงว่า "ไม่ยอมจ่ายเนื่องจากคนขับรถยนต์ไม่ผิด" และเจรจาคนขับให้การปฎิเสธ
         เมื่อตกลงไม่ได้ พนักงานสอบสวนก็ดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย และสั่งฟ้องคนขับรถยนต์ในข้อหาดังกล่าว แต่สั่งไม่ฟ้องคนตาย เพราะสิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับ         

         คนขับจึงต้องเสียเงินประกันตัวคดีสู้คดี แม้ไม่ต้องจ้างทนาย เพราะมีทนายบริษัทประกันก็ตาม แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาล   ก็ต้องว่ากันตามเนื้อผ้าแม้จะประมาทร่วมกันก็ตาม...

มีคำพิพากษาตอนหนึ่งสรุปว่า แม้ได้ความว่าผู้ตายจะมีส่วนประมาทด้วยก็ตาม แต่ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวในเรื่องค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งจำต้องพิจารณาว่าใครประมาทมากกว่า และต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเท่าใด แต่ทางอาญาเมื่อได้ความว่าจำเลย (คนขับรถยนต์) ก็มีส่วนประมาทด้วย และเป็นเหตุให้..... ถึงแก่ความตาย ทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ตาย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ลงโทษจำคุก ๓ ปี  โดยไม่รอการลงโทษไว้ก่อน คดีนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งน่าจะยืนตามศาลชั้นต้น และคดีจะต้องห้ามฎีกาทันที

   ยาวไปหน่อย แต่เกิดจากเรื่องจริง ถ้าบริษัท ทิ้งเรื่องข้อกฎหมายและยอมชดใช้ให้ซะวันนั้น ทั้งที่จำเลย ชำระค่าประกันภัยมาครบโดยตลอด ๔ ปี และไม่เคยมีประวัติเสีย ก็คงไม่ต้องมาติดคุกแบบนี้
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 05:07:14 PM »

หวัดดีครับ..ขอประกาศหานิดนึงน่ะครับ..ผมต้องการได้ ไก ปืนNorinco M213 blog 9.mm(นอร์ริงโก้) ทั้งชุดเลยก็ได้..ร้านไหนขายหรือใครมี..เอามาขายได้ที่ผม รับซื้อน่ะคับ.Tel.0838163137  +++ 0831380184.  ติดต่อมาไน่ครับผม (ขอบคุณเป็นอย่างมาก)ครับผม.....

ที่นี่ครับhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=26.0
บันทึกการเข้า
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 05:22:44 PM »

บริษัทไหนดีกว่า ไม่ทราบน่ะครับ

แต่ขอแนะนำอย่างหนึ่งว่า แม้ตอนเสนอข้อมูลให้เราตกลงทำประกัน จะเสนอมูลค่าความรับผิดในกรมธรรม์สูง ดูดี หรือฟังแล้วน่าเชื่อถือก็ตาม

แต่ควรจะสอบข้อมูลจากผู้เอาประกันภัยที่ประสบเคยมีปัญหา ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขกรรมธรรม์ ว่าพอมีปัญหา จริงแล้วบริษัทตกลงจะจ่ายโดยไมมีข้อแม้อื่นด้วยจริงหรือไม่            แม้ในสัญญากรมธรรม์ และตามกฎหมาย ระบุชัดเจนว่า " ผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทน แทนผู้เอาประกันภัย เพื่อความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก และผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายรับผิดชอบ" แต่เหตุที่เราได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่งคือมีเหตุเดียว คือชดใช้ค่าเสียหายแทนเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือไม่ก็ตาม

            มีกรณี  ปรากฎว่าผู้เอาประกันภัยรถยนต์ (ชั้นหนึ่ง) ได้ขับขี่รถยนต์ที่ตนทำประกันภัยไว้กับบริษัท ไปเกิดเหตุการเฉี่ยวชนกับผู้หญิงสูงอายุอายุ ราวๆ ๕๕ ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ จนหญิงนั้นถึงแก่ความตาย   พนักงานสอบสวนสรุปสำเนาเห็นว่าน่าจะประมาททั้งคู่ แต่ก็ให้คู่กรณีตกลงค่าเสียหายโดยให้เจ้าของรถยนต์ และตัวแทนประกันมาพูดคุยและเจรจา เพื่อยุติปัญหาไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
         คนขับรถยนต์ ตกลงจะชดใช้ให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ให้บริษัมประกันชดใช้ตามวงเงินประกันที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ และยุติเรื่องกันไป คนขับรถยนต์จะได้ไม่ต้องโดนข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
         ปรากฎว่า ตัวแทนประกันปรึกษาสำนักงานใหญ่แล้วตกลงว่า "ไม่ยอมจ่ายเนื่องจากคนขับรถยนต์ไม่ผิด" และเจรจาคนขับให้การปฎิเสธ
         เมื่อตกลงไม่ได้ พนักงานสอบสวนก็ดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย และสั่งฟ้องคนขับรถยนต์ในข้อหาดังกล่าว แต่สั่งไม่ฟ้องคนตาย เพราะสิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับ         

         คนขับจึงต้องเสียเงินประกันตัวคดีสู้คดี แม้ไม่ต้องจ้างทนาย เพราะมีทนายบริษัทประกันก็ตาม แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาล   ก็ต้องว่ากันตามเนื้อผ้าแม้จะประมาทร่วมกันก็ตาม...

มีคำพิพากษาตอนหนึ่งสรุปว่า แม้ได้ความว่าผู้ตายจะมีส่วนประมาทด้วยก็ตาม แต่ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวในเรื่องค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งจำต้องพิจารณาว่าใครประมาทมากกว่า และต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเท่าใด แต่ทางอาญาเมื่อได้ความว่าจำเลย (คนขับรถยนต์) ก็มีส่วนประมาทด้วย และเป็นเหตุให้..... ถึงแก่ความตาย ทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ตาย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ลงโทษจำคุก ๓ ปี  โดยไม่รอการลงโทษไว้ก่อน คดีนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งน่าจะยืนตามศาลชั้นต้น และคดีจะต้องห้ามฎีกาทันที

   ยาวไปหน่อย แต่เกิดจากเรื่องจริง ถ้าบริษัท ทิ้งเรื่องข้อกฎหมายและยอมชดใช้ให้ซะวันนั้น ทั้งที่จำเลย ชำระค่าประกันภัยมาครบโดยตลอด ๔ ปี และไม่เคยมีประวัติเสีย ก็คงไม่ต้องมาติดคุกแบบนี้
นี่แหละปัญหาเลย  หลานชายก็เจออีแบบนี้เลย ให้ยืนกรานว่าไม่ผิด แล้วไปสู้กันในศาล  บริษัทไม่ยอมจ่ายง่ายๆ  สุดท้ายคนติดคุกก็ซวยไป
หากเราต้องติดคุกด้วยกรณีแบบนี้ นอกจากทำใจแล้ว ยังพอมีอะไรที่เราพอจะเรียกร้องบริษัทประกันใด้บ้างครับน้าสิงห์
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 05:38:00 PM »

นี่แหละปัญหาเลย  หลานชายก็เจออีแบบนี้เลย ให้ยืนกรานว่าไม่ผิด แล้วไปสู้กันในศาล  บริษัทไม่ยอมจ่ายง่ายๆ  สุดท้ายคนติดคุกก็ซวยไป
หากเราต้องติดคุกด้วยกรณีแบบนี้ นอกจากทำใจแล้ว ยังพอมีอะไรที่เราพอจะเรียกร้องบริษัทประกันใด้บ้างครับน้าสิงห์

คงจะยากครับ น้าหลวง เนื่องจากสัญญาที่เราทำไว้กับบริษัทประกันคุ้มครองเฉพาะเรื่องเฉี่ยวชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเราหรือบุคคลภายนอกจากรถยนต์ที่เราเอาประกันภัยเท่านั้น แต่เราจะอ้างสิทธิตามสัญญาประกันที่เราทำ โดยขอให้ทางบริษัทชดใช้ค่าทดแทนระหว่างเราติดคุกอยู่ เขาคงไม่จ่ายให้ ถึงเราไปฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าบริษัทประกันทำละเมิดเพราะเจรจาให้เราสู้คดีอาญา ก็ไม่ได้ อีกเพราะสิทธิในการต่อสู้คดีอาญา เราเป็นคนเลือกเอง ก็ต้องรับกรรมไปครับ

นอกจากเราติดคุกแล้ว พอพ้นโทษออกมาก็ยังต้องโดนญาติผู้ตายฟ้องเรียกค่าเสียหาย ค่าปลงศพ ค่าโน้นค่านี้อีกหลายประการ เราก็ต้องไปต่อสู้กันในคดีแพ่งกันอีกรอบ พิสูจน์ว่าใครประมาทมากกว่ากัน บริษัทประกันก็ต้องสู้กันอีกรอบครับ

แต่เราสู้คดี ถ้าแพ้ติดคุก ถ้าชนะก็แล้วไป แต่บริษัทประกันภัยหรือตัวแทนมันไม่ติดกับเราด้วย  แต่พอนึกได้ ก็สายไปแล้วครับ  Angry
บันทึกการเข้า
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 06:07:07 PM »

ขอบคุณครับน้าสิงห์ เยี่ยม
บันทึกการเข้า
J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2008, 11:32:53 PM »

บริษัทไหนดีกว่า ไม่ทราบน่ะครับ

แต่ขอแนะนำอย่างหนึ่งว่า แม้ตอนเสนอข้อมูลให้เราตกลงทำประกัน จะเสนอมูลค่าความรับผิดในกรมธรรม์สูง ดูดี หรือฟังแล้วน่าเชื่อถือก็ตาม

แต่ควรจะสอบข้อมูลจากผู้เอาประกันภัยที่ประสบเคยมีปัญหา ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขกรรมธรรม์ ว่าพอมีปัญหา จริงแล้วบริษัทตกลงจะจ่ายโดยไมมีข้อแม้อื่นด้วยจริงหรือไม่            แม้ในสัญญากรมธรรม์ และตามกฎหมาย ระบุชัดเจนว่า " ผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทน แทนผู้เอาประกันภัย เพื่อความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก และผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายรับผิดชอบ" แต่เหตุที่เราได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่งคือมีเหตุเดียว คือชดใช้ค่าเสียหายแทนเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือไม่ก็ตาม

            มีกรณี  ปรากฎว่าผู้เอาประกันภัยรถยนต์ (ชั้นหนึ่ง) ได้ขับขี่รถยนต์ที่ตนทำประกันภัยไว้กับบริษัท ไปเกิดเหตุการเฉี่ยวชนกับผู้หญิงสูงอายุอายุ ราวๆ ๕๕ ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ จนหญิงนั้นถึงแก่ความตาย   พนักงานสอบสวนสรุปสำเนาเห็นว่าน่าจะประมาททั้งคู่ แต่ก็ให้คู่กรณีตกลงค่าเสียหายโดยให้เจ้าของรถยนต์ และตัวแทนประกันมาพูดคุยและเจรจา เพื่อยุติปัญหาไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
         คนขับรถยนต์ ตกลงจะชดใช้ให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ให้บริษัมประกันชดใช้ตามวงเงินประกันที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ และยุติเรื่องกันไป คนขับรถยนต์จะได้ไม่ต้องโดนข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
         ปรากฎว่า ตัวแทนประกันปรึกษาสำนักงานใหญ่แล้วตกลงว่า "ไม่ยอมจ่ายเนื่องจากคนขับรถยนต์ไม่ผิด" และเจรจาคนขับให้การปฎิเสธ
         เมื่อตกลงไม่ได้ พนักงานสอบสวนก็ดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย และสั่งฟ้องคนขับรถยนต์ในข้อหาดังกล่าว แต่สั่งไม่ฟ้องคนตาย เพราะสิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับ         

         คนขับจึงต้องเสียเงินประกันตัวคดีสู้คดี แม้ไม่ต้องจ้างทนาย เพราะมีทนายบริษัทประกันก็ตาม แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาล   ก็ต้องว่ากันตามเนื้อผ้าแม้จะประมาทร่วมกันก็ตาม...

มีคำพิพากษาตอนหนึ่งสรุปว่า แม้ได้ความว่าผู้ตายจะมีส่วนประมาทด้วยก็ตาม แต่ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวในเรื่องค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งจำต้องพิจารณาว่าใครประมาทมากกว่า และต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเท่าใด แต่ทางอาญาเมื่อได้ความว่าจำเลย (คนขับรถยนต์) ก็มีส่วนประมาทด้วย และเป็นเหตุให้..... ถึงแก่ความตาย ทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ตาย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ลงโทษจำคุก ๓ ปี  โดยไม่รอการลงโทษไว้ก่อน คดีนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งน่าจะยืนตามศาลชั้นต้น และคดีจะต้องห้ามฎีกาทันที

   ยาวไปหน่อย แต่เกิดจากเรื่องจริง ถ้าบริษัท ทิ้งเรื่องข้อกฎหมายและยอมชดใช้ให้ซะวันนั้น ทั้งที่จำเลย ชำระค่าประกันภัยมาครบโดยตลอด ๔ ปี และไม่เคยมีประวัติเสีย ก็คงไม่ต้องมาติดคุกแบบนี้
สรุปว่า่ถ้าเรามีส่วนในความประมาทด้วยถ้าขึ้นศาลอาญาโอกาสแพ้สูงแน่ดังนั้นควรรีบจบเรื่องซะแต่เนิ่นๆ แล้วมันจะจบได้อย่างไรครับ Huhในเมื่อป้าก็ไปเกิดใหม่ซะแล้ว ถ้าเราชดเชยให้ญาติจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจบจริงๆครับ แล้วการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่เยียวยาแก่ผู้ตายจึงไม่รอลงอาญา เอ....ก็ในเมื่อต่างคนต่างผิดและยังสู้อยู่ในศาลแล้วมันจะไปเยียวยายังไงครับ หรือถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราควรทำไงครับ ถ้าสมมุติป้าแกตายคาที่แล้วญาติเรียก10ล้านคงตกลงกันไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรที่ทำให้ศาลท่านรู้สึกว่าเราได้เยียวยา จะไปงานศพหรือครับ Huh Huh
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2008, 11:51:51 AM »

สรุปว่า่ถ้าเรามีส่วนในความประมาทด้วยถ้าขึ้นศาลอาญาโอกาสแพ้สูงแน่ดังนั้นควรรีบจบเรื่องซะแต่เนิ่นๆ แล้วมันจะจบได้อย่างไรครับ Huhในเมื่อป้าก็ไปเกิดใหม่ซะแล้ว ถ้าเราชดเชยให้ญาติจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจบจริงๆครับ แล้วการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่เยียวยาแก่ผู้ตายจึงไม่รอลงอาญา เอ....ก็ในเมื่อต่างคนต่างผิดและยังสู้อยู่ในศาลแล้วมันจะไปเยียวยายังไงครับ หรือถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราควรทำไงครับ ถ้าสมมุติป้าแกตายคาที่แล้วญาติเรียก10ล้านคงตกลงกันไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรที่ทำให้ศาลท่านรู้สึกว่าเราได้เยียวยา จะไปงานศพหรือครับ Huh Huh

     จริงๆแล้วถ้าพูดถึงแล้ว กรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มันเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ครับ..เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งอาจดูแล้ว ทุกคนไม่ว่าคนขับ บริษัทประกัน พนักงานสอบสวน หรือผมเองที่แนะนำแบบนี้ ถือว่าทำผิดกฎหมายกันเป็นแถวละครับ   Wink
      แต่คดีประเภทนี้ หัวใจสำคัญ ก็คือการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีอีกฝ่ายจนพอใจ และไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีกับเรา  พนักงานสอบสวนก็อาจทำหน้าที่เป็นคนกลาง ให้คู่ความเจรจาตกลงกัน จนเป็นที่พอใจ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานสอบสวนเลย) พนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องเรา แต่ จะระบุในสำนานว่า ฝ่ายผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เพื่อให้มีผลเวลาศาลพิจารณาลงโทษ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ศาลจะรอการลงโทษ หรือที่เราเรียกว่ารอลงอาญานั้นเอง
     แต่ก็มีบางครั้ง ที่พนักงานสอบสวน เมื่อเห็นว่าคู่ความได้รับการชดใช้ความเสียหายเต็มที่ จะดำเนินคดีกับจำเลย ก็ไม่เป็นผลดี อาจจะไม่ทำสำนวนคดีไปซะเลย โดยถือว่าไม่มีเหตุเกิดขึ้น.....( แต่ผิดต่อกฎหมายอย่างร้ายแรง) แต่น้อยมากครับ

ถ้าเราชดเชยให้ญาติจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจบจริงๆครับ
ในทางอาญาแม้ไม่จบเพราะยังไงก็ต้องถูกดำเนินคดีก็ตาม แต่ในทางแพ่ง ก็สามารถทำหนังสือประนีประนอมยอมความกับญาติผู้ตาย ซึ่งส่งผลให้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งระงับทันที และส่งผลไปยังคดีอาญาซึ่งศาลจะลงโทษสถานเบาที่สุดตามไปด้วยครับ

แล้วการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่เยียวยาแก่ผู้ตายจึงไม่รอลงอาญา เอ....ก็ในเมื่อต่างคนต่างผิดและยังสู้อยู่ในศาลแล้วมันจะไปเยียวยายังไงครับ
คือศาลเขาจะพิจารณาว่า คุณรู้ตัวและสำนึกว่าการกระทำของคุณนั้น คุณได้ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจริงหรือไม่
ถ้าคุณรู้ตัวว่าประมาทด้วยเช่น รถเครื่องตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดบริเวณสี่แยก คุณเบรคไม่ทัน เพราะขับมา ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ถือว่าคุณประมาทเพราะขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ไม่เกิน ๖๐ หรือ ๘๐ บริเวณเขตชุมชนหรือจุดตัดแยกของถนน ไม่แน่ใจครับ) แต่ถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่ามีส่วนประมาท แต่ยังคงต่อสู้ว่าตนไม่ประมาท และไม่ยอมเยียวยา พอศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก จึงมาให้เงิน ศาลอุทธรณ์ก็ไม่รอการลงโทษให้คุณหรอกครับ เพราะถือว่าคุณไม่ได้มีจิตสำนึกที่จะเยียวยาความเสียหายให้แก่ฝ่ายผู้ตายมาตั้งแต่ต้น...

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราควรทำไงครับ ถ้าสมมุติป้าแกตายคาที่แล้วญาติเรียก10ล้านคงตกลงกันไม่ได้
คงมีแต่ไอ้พวกนักการเมืองเท่านั้นละครับ หมิ่นประมาทนิดหน่อยแต่กลับเรียกค่าเสียหายสิบล้าน คิก คิก
      ค่าเสียหายมันแล้วแต่พฤติการณ์แต่ละคนว่า ผู้ตายมีรายได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งสามารถตกลงเจรจากันได้ และแม้ขึ้นศาลก็ตาม ศาลก็จะสั่งให้ตามพฤติการณ์และความเหมาะสมกับผู้ตาย มิใช่ต้องจ่ายค่าเสียหายตามจำนวนที่ญาติผู้ตายเรียกร้องครับ
บันทึกการเข้า
J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2008, 09:25:26 PM »

สรุปว่า่ถ้าเรามีส่วนในความประมาทด้วยถ้าขึ้นศาลอาญาโอกาสแพ้สูงแน่ดังนั้นควรรีบจบเรื่องซะแต่เนิ่นๆ แล้วมันจะจบได้อย่างไรครับ Huhในเมื่อป้าก็ไปเกิดใหม่ซะแล้ว ถ้าเราชดเชยให้ญาติจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจบจริงๆครับ แล้วการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่เยียวยาแก่ผู้ตายจึงไม่รอลงอาญา เอ....ก็ในเมื่อต่างคนต่างผิดและยังสู้อยู่ในศาลแล้วมันจะไปเยียวยายังไงครับ หรือถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราควรทำไงครับ ถ้าสมมุติป้าแกตายคาที่แล้วญาติเรียก10ล้านคงตกลงกันไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรที่ทำให้ศาลท่านรู้สึกว่าเราได้เยียวยา จะไปงานศพหรือครับ Huh Huh

     จริงๆแล้วถ้าพูดถึงแล้ว กรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มันเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ครับ..เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งอาจดูแล้ว ทุกคนไม่ว่าคนขับ บริษัทประกัน พนักงานสอบสวน หรือผมเองที่แนะนำแบบนี้ ถือว่าทำผิดกฎหมายกันเป็นแถวละครับ   Wink
      แต่คดีประเภทนี้ หัวใจสำคัญ ก็คือการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีอีกฝ่ายจนพอใจ และไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีกับเรา  พนักงานสอบสวนก็อาจทำหน้าที่เป็นคนกลาง ให้คู่ความเจรจาตกลงกัน จนเป็นที่พอใจ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานสอบสวนเลย) พนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องเรา แต่ จะระบุในสำนานว่า ฝ่ายผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เพื่อให้มีผลเวลาศาลพิจารณาลงโทษ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ศาลจะรอการลงโทษ หรือที่เราเรียกว่ารอลงอาญานั้นเอง
     แต่ก็มีบางครั้ง ที่พนักงานสอบสวน เมื่อเห็นว่าคู่ความได้รับการชดใช้ความเสียหายเต็มที่ จะดำเนินคดีกับจำเลย ก็ไม่เป็นผลดี อาจจะไม่ทำสำนวนคดีไปซะเลย โดยถือว่าไม่มีเหตุเกิดขึ้น.....( แต่ผิดต่อกฎหมายอย่างร้ายแรง) แต่น้อยมากครับ

ถ้าเราชดเชยให้ญาติจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจบจริงๆครับ
ในทางอาญาแม้ไม่จบเพราะยังไงก็ต้องถูกดำเนินคดีก็ตาม แต่ในทางแพ่ง ก็สามารถทำหนังสือประนีประนอมยอมความกับญาติผู้ตาย ซึ่งส่งผลให้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งระงับทันที และส่งผลไปยังคดีอาญาซึ่งศาลจะลงโทษสถานเบาที่สุดตามไปด้วยครับ

แล้วการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่เยียวยาแก่ผู้ตายจึงไม่รอลงอาญา เอ....ก็ในเมื่อต่างคนต่างผิดและยังสู้อยู่ในศาลแล้วมันจะไปเยียวยายังไงครับ
คือศาลเขาจะพิจารณาว่า คุณรู้ตัวและสำนึกว่าการกระทำของคุณนั้น คุณได้ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจริงหรือไม่
ถ้าคุณรู้ตัวว่าประมาทด้วยเช่น รถเครื่องตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดบริเวณสี่แยก คุณเบรคไม่ทัน เพราะขับมา ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ถือว่าคุณประมาทเพราะขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ไม่เกิน ๖๐ หรือ ๘๐ บริเวณเขตชุมชนหรือจุดตัดแยกของถนน ไม่แน่ใจครับ) แต่ถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่ามีส่วนประมาท แต่ยังคงต่อสู้ว่าตนไม่ประมาท และไม่ยอมเยียวยา พอศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก จึงมาให้เงิน ศาลอุทธรณ์ก็ไม่รอการลงโทษให้คุณหรอกครับ เพราะถือว่าคุณไม่ได้มีจิตสำนึกที่จะเยียวยาความเสียหายให้แก่ฝ่ายผู้ตายมาตั้งแต่ต้น...

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราควรทำไงครับ ถ้าสมมุติป้าแกตายคาที่แล้วญาติเรียก10ล้านคงตกลงกันไม่ได้
คงมีแต่ไอ้พวกนักการเมืองเท่านั้นละครับ หมิ่นประมาทนิดหน่อยแต่กลับเรียกค่าเสียหายสิบล้าน คิก คิก
      ค่าเสียหายมันแล้วแต่พฤติการณ์แต่ละคนว่า ผู้ตายมีรายได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งสามารถตกลงเจรจากันได้ และแม้ขึ้นศาลก็ตาม ศาลก็จะสั่งให้ตามพฤติการณ์และความเหมาะสมกับผู้ตาย มิใช่ต้องจ่ายค่าเสียหายตามจำนวนที่ญาติผู้ตายเรียกร้องครับ

ขอบคุณที่ช่วยอธิบายอย่างกระจ่างแจ้งครับ ไหว้
ี่บางครั้งเรา(ประชาชนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความรู้กฏหมาย ทั้งๆที่กฏหมายเป็นสิ่งที่เราต้องรู้)ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
จราจรแล้วศาลพิพากษาที่ทำให้รู้สึกว่ามักเข้าข้างรถเล็กเช่นจักรยานยนต์เสมอ จนบางครั้งผมรู้สึกไม่ยุติธรรมเลย ทำไมชนกันทีไรรถใหญ่ผิดทุกที แท้จริงแล้วกฏหมายทางจราจรละเอียดมากและส่วนใหญ่เวลาเราขับก็มักจะผิดเกือบตลอดอยู่แล้ว
แล้วเวลาชนกันรถจักรยานยนต์มักจะเป็นฝ่ายบาดเจ็บ ดังนั้นถ้าชนกันแม้เราจะผิดน้อยกว่าแต่็เป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บหรือตาย
ศาลท่านก็ลงโทษอยู่ดี เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ Cheesy
บันทึกการเข้า
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2008, 12:34:07 AM »

หวัดดีครับ..ขอประกาศหานิดนึงน่ะครับ..ผมต้องการได้ ไก ปืนNorinco M213 blog 9.mm(นอร์ริงโก้) ทั้งชุดเลยก็ได้..ร้านไหนขายหรือใครมี..เอามาขายได้ที่ผม รับซื้อน่ะคับ.Tel.0838163137  +++ 0831380184.  ติดต่อมาไน่ครับผม (ขอบคุณเป็นอย่างมาก)ครับผม.....

เห็นตั้งกระทู้แล้วอาจถูกลบเพราะผิดห้องและคงเพราะเข้าห้องซื้อขายไม่ได้
ยังไงก็ควรทำตาม กฏ กติกา มารยาท คิดสักนิดก่อน
ไม่ควรใช้กระทู้ของพี่ๆ ท่านอื่นเป็นช่องทางสำหรับตนเองครับ

ลองดูการตอบกระทู้ ไม่มีข้อความอื่นใดเลยครับ
http://www.gunsandgames.net/smf/index.php?action=profile;u=31521;sa=showPosts
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 04, 2008, 12:41:11 AM โดย RroamD » บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2008, 02:21:21 PM »

ผมจะทำประกันภัยบ้านและอาคารสำนักงาน ที่ดูๆไว้คือบริษัทสามัคคีประกันภัยและบริษัทวิริยะประกันภัย ไม่ทราบว่ามีข้อมูลอะไรแนะนำบ้างไหมครับ ขอบคุณครับ ไหว้

จะประกันภัยอะไรบ้าง ดูให้ละเอียดตามเอกสารแนบท้ายครับ .... พวก อค. , ทส. น่ะครับ ถามตัวแทนดูได้ ....

ผมยังไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้นัก แต่ขอให้อ่านความคุ้มครองให้ดีครับ
บันทึกการเข้า

J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2008, 03:02:25 PM »

ผมจะทำประกันภัยบ้านและอาคารสำนักงาน ที่ดูๆไว้คือบริษัทสามัคคีประกันภัยและบริษัทวิริยะประกันภัย ไม่ทราบว่ามีข้อมูลอะไรแนะนำบ้างไหมครับ ขอบคุณครับ ไหว้

จะประกันภัยอะไรบ้าง ดูให้ละเอียดตามเอกสารแนบท้ายครับ .... พวก อค. , ทส. น่ะครับ ถามตัวแทนดูได้ ....

ผมยังไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้นัก แต่ขอให้อ่านความคุ้มครองให้ดีครับ
ขอบคุณครับ ผมยังไม่ได้ไปติดต่อบริษัทเลยพรุ่งนี้ว่าจะไปซะที Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.099 วินาที กับ 22 คำสั่ง