อัพเดทข่าวกันซักหน่อยครับ
NVIDIA GTX 480NVIDIA เปิดตัว Fermi ซึ่งเป็น GPU รุ่นสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุด โดยมี GeForce GTX 480 เป็นตัวชูโรง และนี่แหละที่ทำให้ NVIDIA เคลมว่าเป็น GPU ที่เร็วที่สุดในโลก โดยรุ่นนี้มีคอร์ในการประมวลผลมากถึง 480 คอร์ Geometry Unit 16 หน่วย และ Raster Unit 4 ตัว ทำให้เบียด ATI Radeon HD 5800 ไปได้อย่างสบาย โดยหากต่อ GTX 480 สองตัว เราจะพบความเร็วที่แตกต่างจากเดิมกว่า 90% เลยทีเดียว
GeForce GTX 480 และ GeForce GTX 470 นั้นเป็นการ์ดตัวแรกของ NVIDIA ที่สนับสนุน DirectX 11 และ OpenGL 4.0 โดดเด่นด้วยระบบ Hardware Tesselation ตัวชิพได้รับการออกแบบมาสำหรับการประมวลผลนอกเหนือจากกราฟิก อย่างเช่น CUDA, DirectCompute และ OpenCL อีกด้วย นอกจากนั้นการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ยังมีระบบ Raytrace ซึ่งสามารถสร้างแสงและเส้นผมได้เสมือนจริงแบบเรียลไทม์
ตัวการ์ดยังมีระบบ 3D Vision ที่ให้เราสามารถใช้การ์ดสองหรือสามตัวในการแสดงผลออกจอภาพได้หลายจอในรูปแบบ 3D
GTX 480 เปิดตัวด้วยราคาประมาณ 20,000 บาท ความเร็วคล็อก 700MHz แรม GDDR5 1.5GB ความเร็ว 1.85GHz ส่วน GTX 470 มีความเร็ว 607MHz แรม GDDR5 1.2GB 1.67GHz
Tessellation และ DirectX 11ฟีเจอร์ที่สำคัญมากของ DirectX 11 คือเทคนิคที่เรียกว่า tessellation หรือการเขียนโปรแกรมเพื่อกำหนดจำนวนและรูปทรงของโพลีกอนที่จะใช้สร้างวัตถุสามมิติ แทนการสุ่มสร้างขึ้นมาแบบเก่า ผลก็คือโปรแกรมเมอร์สามารถสร้างโพลีกอนที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมในการแสดงผลได้ดีขึ้น ทำให้ภาพเนียนสวยขึ้น ไม่ค่อยเหลี่ยมแล้ว ดูสมจริงมากขึ้น
ATI รองรับ tessellation ใน Radeon HD 5000 เรียบร้อยแล้ว ฝั่ง NVIDIA เลือกประมวลผล tessellation ด้วย PolyMorph Engine ซึ่งมีอยู่ใน SM อย่างละ 1 ตัว (แปลว่า Fermi หนึ่งตัวมีหน่วยประมวลผล tessellation 14-16 ตัว ขึ่นกับรุ่นที่ใช้) ผลที่ออกมาคือ GeForce GTX 480 ได้คะแนนเบนช์มาร์คดีกว่า Radeon HD 5870 เกือบเท่าตัว
ส่วนการประมวลผลฟิสิก์ผ่าน PhysX ของ NVIDIA (ซึ่งปิดไม่ให้ ATI ใช้) ซึ่งเป็นตัวชูโรงให้ NVIDIA ว่า "GPGPU ทำอย่างอื่นนอกจากประมวลผลกราฟิกได้" บน GTX 480 ก็ได้คะแนนทดสอบดีกว่า GTX 285 การ์ดจอตัวท็อปรุ่นก่อนประมาณเท่าตัวเช่นกัน
ผลการทดสอบออกมาว่า
GeForce GTX 480 เป็นการ์ดจอเดี่ยวที่แรงที่สุดในตลาด ในการทดสอบที่ชนะจะทิ้ง Radeon 5870 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของคู่แข่งประมาณ 10-30% (อย่างไรก็ตามมีการทดสอบบางอันที่ 5870 ชนะนะครับ) ส่วนการต่อ SLI ผลก็สะท้อนตามกัน
แต่ถ้าเอา GTX 480 (GPU เดียว) ไปเทียบกับ Radeon 5970 (GPU คู่ในการ์ดเดียว) จะยังแพ้ 5970 อยู่เล็กน้อย ประมาณ 10%
เมื่อเทียบกับ GTX 295 ตัวท็อปรุ่นก่อน GTX 480 ประสิทธิภาพดีกว่าประมาณ 10-30% เช่นกัน ขึ้นกับแต่ละการทดสอบ แต่ก็มีการทดสอบบางอันที่ GTX 295 กลับดีกว่า (น่าจะเป็นผลมาจากไดรเวอร์ของ GTX 480 ที่ยังไม่สมบูรณ์ด้วย)
ความร้อนและการบริโภคพลังงานแม้ผลคะแนนที่ได้จะมากกว่าคู่แข่งและรุ่นก่อนไม่มากนัก แต่สิ่งที่ Fermi เพิ่มอย่างก้าวกระโดดคือความร้อนครับ โดยเฉพาะอุณหภูมิขณะทำงาน GeForce GTX 480 พุ่งไปเกือบ 100 องศาเซลเซียส ในขณะที่การ์ดจอคู่แข่ง Radeon 5870 อยู่ประมาณ 80-90 องศาเท่านั้น (ถ้าเทียบกับ Radeon 5000 รุ่นต่ำๆ หน่อยจะลงไปแตะระดับ 60-70 องศา เย็นเข้าไปอีก)
สรุปผลFermi ช่วยให้ NVIDIA กลับมาทวงแชมป์ "การ์ดจอที่เร็วที่สุด" คืนได้ แม้ว่าจะนำอยู่ไม่มากนัก และเทียบกับเวลาที่ออกช้ากว่า 6 เดือน ถือว่าน่าผิดหวังพอสมควร
Fermi เสียงดังกว่า ร้อนกว่าคู่แข่งอยู่มากพอสมควร เป็นปัญหาใหญ่ของทาง NVIDIA จะต้องแก้ไข
แนวทางของ GPGPU และ stream processing เต็มขั้น เป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะการที่มันทำงานได้หลากหลาย ต้องแลกมาด้วยพลังงานและความร้อน รวมถึงความซับซ้อนในการผลิต ในขณะที่ ATI เลือกแนวทางทำงานได้หลากหลายน้อยกว่า เน้นที่กราฟิกอย่างเดียว ทำให้การ์ดจอเย็นกว่า
และมีปัญหาในการผลิตน้อยกว่า
NVIDIA ตั้งราคา GTX 480 ไว้ที่ 499 ดอลลาร์ ส่วน GTX 470 ไว้ที่ 349 ดอลลาร์ เห็นชัดว่าตัวหลังคุ้มกว่า
แม้ว่า NVIDIA จะอัดฟีเจอร์เข้ามามากมาย ทั้ง CUDA, PhysX, DirectX 11 แต่ปัจจุบันยังมีซอฟต์แวร์ (โดยเฉพาะเกม) ที่รองรับฟีเจอร์เหล่านี้ไม่มากนัก มันอาจเป็น "ฮาร์ดแวร์แห่งอนาคต" มากเกินไป และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าฝั่งซอฟต์แวร์จะตามทัน
เครดิตจาก
http://www.blognone.com/node/15595