เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 18, 2024, 11:25:48 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โดน.357 สองนัดแค่ซ้ำ  (อ่าน 8223 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
S.V
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 647
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11296


เสียชีพ อย่าเสียสัตย์


« ตอบ #75 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2008, 03:22:38 PM »



      สรุปว่าผมมีหนทางที่จะเอาใจซื้อใจไอ้เขียวฯ ให้มาเป็นพวก แต่การดูใจซื้อใจกันต้องใช้เวลา แบบที่เรียกว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ แต่ถ้ามัวรอเวลา และสถานการณ์ ราษฎรของผมถูกปล้นถูกฆ่าทุกวันผมรอไม่ได้ (จึงจำต้องเร่งสถานการณ์เสียเอง) ผมคิดว่างานของผมจะสำเร็จได้ก็โดยทำให้

๑. ไอ้เขียวฯ บาดหมาง หรือ ขัดแย้งกับไอ้แดง

๒. ชาวบ้านเกลียดไอ้แดงฯ

แต่ทำอย่างไรล่ะครับ ทั้ง ๒ ประเด็นนี้จึงจะเป็นจริงขึ้นมา ขอเว้นไม่กล่าวถึงวิธีการนะครับ ให้ทราบแต่เพียงหลักการ เอาเป็นว่าในที่สุดชาวบ้านก็เริ่มเกลียดไอ้แดงฯ เพราะไอ้แดงฯ ไม่เว้นที่จะปล้นชาวบ้านในละแวกหมู่บ้านของตนเองอีกต่อไป ไอ้เขียวฯ กับไอ้แดงฯ ก็ขัดแย้งกันจนไอ้แดงฯ เข้ามาลอบยิง ถูกไอ้เขียวฯ ขาเป๋ไปข้างหนึ่งถึงที่บ้าน ทำให้ไอ้เขียวฯ ไม่ต้องใช้เวลาคิดนานอีกต่อไป และไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นที่จะต้องเลือกผม (พอขาเป๋ด้วยกันแล้ว เข้ากันได้ดีเชียวครับ)

เมื่อชนะใจไอ้เขียวฯ ได้ซิง ๆ ทีนี้ข่าวโจรผมไม่ต้องเคี่ยวเข็ญติดตาม ไอ้เขียวฯ จะรายงานให้ทราบทุกระยะ ใครเป็นใคร ประวัติอย่างไร ไปปล้นไปฆ่าใครที่ไหน ไม่ต้องถาม ไอ้เขียวฯ เล่าเอง ก็ไอ้เขียวฯ จะไม่รู้ได้อย่างไร ในเมื่อมันนั่นแหละที่เป็นหัวหน้าใหญ่ เมื่อเหนือกว่าในเรื่องการข่าว และการปกครอง ทีนี้ผมก็สบายสามารถสอยพวกของไอ้แดงฯ ร่วงผลอย ๆ เป็นใบไม้ร่วง และไอ้แดงฯ ก็แทบจะหมดอิทธิพลอย่างสิ้นเชิง ในเขตการปกครองของผม

แต่ขึ้นชื่อว่าไอ้เสือไม่ใช่ม้าหรือหมานี่ครับ ไอ้แดงฯ กลับไปสร้างอิทธิพลรอบนอก แถว อ.บางบ่อ กับ อ.ลาดกระบัง เรียกว่าฐานในอ่อน แต่ฐานนอกยังแข็งและมีแนวร่วมไม่น้อย เฉพาะที่ อ.ลาดกระบัง ไอ้แดงฯ ได้ไอ้ผู้ใหญ่บ้านโจร กับไอ้สารวัตรใหญ่โจรสนับสนุน ที่ อ.บางบ่อ สารวัตรใหญ่เป็นรุ่นพี่ของผม ซึ่งท่านก็เกรงใจทั้ง ๒ ฝ่าย คือฝ่ายโจรแกก็ไม่อยากยุ่ง วางตัวเป็นกลาง ใครให้เงินก็เอา ไม่ขัดใจคนให้ ตำรวจแบบนี้ก็มีเยอะ แต่ก็เรียกได้ว่ายังได้อาศัยมากกว่าที่กิ่ง อ.จระเข้น้อย (ลาดกระบัง)

สำหรับฝ่ายผมเมื่อได้ไอ้เขียวฯ มาเป็นพวกทั้งกายและใจแล้วก็เรียกได้ว่าฐานในเราแข็ง เมื่อฐานในแข็งเสียแล้วเราก็สามารถขยายฐานออกไปรอบนอกด้วยวิธีเดียวกัน อิทธิพลของไอ้แดงฯ กับพวกก็หดสั้นลง ๆ ในที่สุดไอ้ขาวฯ บางบ่อก็เริ่มเดือดร้อน สมองโจรของมันคงจะคิดเช่นเดียวกันกับผมคือ เมื่อก่อนมันได้ไอ้เขียวฯ เป็นพันธมิตรมันสามารถอยู่สุขสบาย พอไอ้เขียวฯ กลับกลายมาเป็นพันธมิตรกับผมพวกมันก็เดือดร้อน ยิ่งมีข่าวที่เจตนากระพือออกไปว่าผมกับไอ้เขียวฯ แน่นแฟ้นกัน ขนาดกำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน กลุ่มไอ้แดงฯ กับไอ้ขาวฯ รวมทั้งไอ้หนูผีฯ ระส่ำระส่ายไปเลย (ไอ้เขียวฯ มีลูกสาวสวยครับ กำลังรุ่นกระเตาะ สิบห้าหยก ๆ สิบหกหย่อน ๆ ไอ้ผมก็เช้าถึงเย็นถึง เอาลูกเป็ดไปให้ไอ้เขียวฯ เลี้ยงเป็นไซด์ลายน์ อาหารสัตว์ผมก็ส่งเสียให้ อะไรขาดเหลือผมก็ดูแล ไอ้เขียวฯ เองผมก็เรียกว่าพ่อเขียวฯ เมียไอ้เขียวฯ ผมก็เรียกแม่ทุกคำ

ไอ้เขียวฯ กับนังเมียพูดยกย่องผมเสมอว่าผมนั้นน่าจะมีอะไร ๆ ดี ๆ อยู่ในตัว เพราะก่อนหน้านั้นไอ้เขียวฯ ชัวร์มากเลยว่าไอ้แดงฯ ไม่มีวันที่จะกล้ามาวัดรอยเท้าเสือของมัน แต่ผมได้ทำนายและท้าพนันกับไอ้เขียวฯ ไปว่าวันหนึ่งและเร็ว ๆ นี้ไอ้แดงฯ จะต้องคิดฆ่าไอ้เขียวฯ แน่นอน แต่ไอ้เขียวฯ จะไม่ตายและอาจจะพิการเหมือนกับผม และก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ซึ่งไม่ทราบว่าอะไรทำให้ผมพูดทำนายไปเช่นนั้น แถมยังแม่นราวกะตาเห็นแน่ะครับ แบบนี้ใครถ้าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ซึ่งไอ้เขียวฯ ก็เช่นกันมันต้องยอมซูฮกผม

ยิ่งไปกว่านั้นพอตกเย็น ชาวบ้านชาวช่องที่นั่งเรือผ่านบ้านของไอ้เขียวฯ จะเห็นอีนกฯ ลูกสาวไอ้เขียวฯ นั่งอยู่ที่หัวบันไดท่าน้ำที่บ้านทุกวันชะเง้อชะแง้กระสับกระส่ายเหมือนกับจะรอคอยคนรัก เมื่อถูกถามอีนกฯ ก็ว่ามันนั่งคอยผม เมื่อผมไปถึงบ้านไอ้เขียวฯ อีนกฯ ก็จะรื่นเริงเป็นพิเศษหัวร่อต่อกระซิกระริกระรี้ ข่าวนี้จึงเชื่อถือได้ว่า ในไม่ช้าไอ้เขียวฯ คงจะได้เป็นพ่อตาของผมแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้มันมีความจริงที่เป็นความลับซ่อนเร้นอยู่ ประเดี๋ยวจะขยายความให้ฟัง ในตอนนี้ติดตามอ่านเรื่องแก๊งค์โจรสลัดน้ำจืดไปก่อน เรื่องอีนกฯ ลูกสาวแสนสวยของไอ้เขียวฯ เอาไว้ก่อน เดี๋ยวมาน่าไม่ลืมหรอกครับ

ฝ่ายผมซึ่งมีไอ้เขียวฯ เป็นพันธมิตรทำสงครามกับไอ้แดงฯ ซึ่งมีไอ้ขาวฯ กับไอ้หนูผีฯ เป็นพันธมิตร อย่างไม่เลิกราเรียกว่าตาต่อตา ฟันต่อฟันและเหงือกต่อเหงือก มันปล้นฆ่าพวกผม ผมปล้นฆ่าพวกมัน เอ๊ย! ไม่ใช่ ผมตามล่าตามจับพวกมันต่างหาก แหม! พูดเพลินไปหน่อย ผมเป็นตำรวจจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ยิงกันไปยิงกันมาไล่ล่ากันเหมือนหนังไทย ตำรวจที่เคยซุกหัวเอาแต่นอนหลับทับหน้าที่จนหลังเป็นกระดานก็เริ่มตื่นตัว มือดี ๆ ทั้งจากโรงพักของผมเองและในละแวกใกล้เคียงมาอยู่กับผมหมด ฐานอำนาจของผมแน่นแฟ้นแข็งเปรี๊ยะแต่ก็ยังล้มแก๊งค์โจรไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่วิสามัญไปแล้ว (นับสิบราย) อย่างมากก็เป็นลูกน้องและมือตีนของพวกมันเท่านั้น ตัวหัวหน้ายังไม่ได้แอ้มมัน แต่ก็เรียกว่าเราเริ่มเป็นฝ่ายรุกแล้ว ในที่สุดไอ้ขาวฯ ก็อดรนทนไม่ได้ มันเริ่มต่อสู้อย่างเอาจริงเอาจังกับผม ในทางบ้านเมืองเริ่มมีการร้องเรียนผมกับพวก ว่าตำรวจปฏิบัติการหฤโหด ฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ไอ้ขาวฯ ช้ากว่าผมเป็นศตวรรษ เพราะผมได้เข้าพบและรายงานนายระดับสูง ๆ ให้ทราบความเป็นไปเกี่ยวกับแผนการต่าง ๆ ที่จะล้มแก๊งค์โจรเอาไว้ก่อนแล้ว และได้รายงานให้ท่านทราบความคืบหน้าอย่างลับ ๆ ทุกระยะ อัยการจังหวัดมารับประทานอาหารที่บ้านของผมทุกอาทิตย์ ผมก็จะสอดแทรกสถานการณ์โจรในพื้นที่ให้ท่านได้รับความจริงอยู่ตลอดเวลา(สมัยนั้นการวิสามัญ ฆาตกรรมไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้อง แค่พนักงานอัยการมาร่วมในการชันสูตรพลิกศพและเซ็นชื่อก็จบแล้ว)

ในท้องที่ อ.บางพลีมีร้านอาหารอร่อย ๆ อยู่หลายร้าน คณะท่านผู้พิพากษามักจะมารับประทานอาหารกลางวันกันบ่อย ๆ ผมก็จะไปร่วมและดูแลอย่างใกล้ชิด ท่านหัวหน้าศาลจึงได้ทราบเหตุการณ์เป็นอย่างดีจากผมล่วงหน้าเสมอว่าอะไรเป็นอะไร ท่านนายอำเภอนั้นไม่ต้องพูดถึง ทุกเย็นท่านจะรับประทานอาหารอยู่ที่บ้านของผม และได้รู้เห็นการกระทำของผมทุกขั้นตอนไม่ต้องเล่าให้เสียเวลา จนท่านไว้วางใจได้มอบการปกครองและดูแลกำนันผู้ใหญ่บ้านและอ.ส. ให้กับผมอย่างไม่เป็นทางการ สารวัตรใหญ่ของผมท่านมีฐานะดี ค่าใช้จ่ายในการปราบโจรท่านเป็นผู้รับภาระทั้งหมด เรื่องรีดไถก็ไม่มีเลย ทำให้ชาวบ้านนิยมนับถือและเป็นที่เชื่อถือของผู้หลักผู้ใหญ่ พูดคำไหนคำนั้น แบบนี้แล้วอะไรจะเหลือ หนังสือร้องเรียนเป็นบัตรสนเท่ห์จึงมาอยู่ในมือของผมหมด มีเวลาเตรียมการต่อสู้และแก้ไข และได้มีโอกาสพินิจพิจารณาจนพบว่าหนังสือร้องเรียนเหล่านี้มาจากแหล่งที่เดียวกัน ผู้เขียนมีการศึกษาสูงพอสมควร เขียนมีหลักมีเกณฑ์แต่ที่น่าสงสัยก็คือทำไมจึงรู้เรื่องโจรได้ดีนักราวกับเป็นโจรเสียเอง ซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้อีก ที่โจรลูกทุ่งจะมีการศึกษาถึงระดับนี้ได้ ซึ่งผมก็เก็บความสงสัยนี้เอาไว้มาโดยตลอด

การตามล้างตามล่าระหว่างผมกับแก๊งค์โจรดำเนินเรื่อยมา ระยะนั้นเองก็มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้น กล่าวคือพวกเราตำรวจกระสากลิ่นเสือ ได้ข่าวว่าไอ้ขาวฯ จะข้ามถิ่นเข้ามาปล้นในเขต จึงได้จัดเวรไปดักซุ่ม ผมไปซุ่มรออยู่หลายวันเสียเลือดให้ยุงกินเป็นขวดไอ้ขาวฯ ก็ไม่มาเสียเลือดให้ ผมจึงสับเปลี่ยนให้อีกชุดหนึ่งซุ่มต่อไป พอผมกลับไอ้ขาวฯ ก็เข้าปล้น ก็เหมือนหนังไทยอีกเช่นเคย วิ่งไล่ล่ากันด้วยเรือหางยาว

เล่ากันว่าไอ้ขาวฯ ยืนซิ่งเรือหางยาวหนีตำรวจราวกับขับรถแข่งฟอร์มูล่าวัน การขับเรือหางยาวนั้นถ้าขับซิ่งซิกแซกแล้วต้องยืนขับจึงจะคล่องตัว แต่มีจุดอ่อนตรงที่ว่าเป็นเป้าให้ฝ่ายติดตามยิงถูกได้โดยง่าย ปรากฏว่าตำรวจยิงไอ้ขาวฯ ด้วยเอ็ม ๑๖ เป็นชุด กระสุนถูกเข้าที่กลางหลังเสื้อที่สวมใส่อยู่ขาดกระจุยกระจาย ไอ้ขาวฯ หัวทิ่มคาลำเรือที่เสือกหัวเกยอยู่ที่พงอ้อข้างคลอง ตำรวจพากันร้องไชโยโห่หิ้วลั่นคลองราวกับมีงานบวชนาค

แต่แล้วก็ต้องเหวอรับประทานหลังจากหลงดีใจอยู่ได้ไม่ถึงนาที เพราะปรากฏว่าไอ้ขาวฯ ลุกขึ้นมาได้ขับเรือหนีต่อไปอีก ส่วนตำรวจมัวแต่ดีใจจึงดับเครื่องเรือ ซึ่งกว่าจะสตาร์ทเครื่องเรือติด ไอ้ขาวฯ ก็ไปลิบโลกแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทำให้ตำรวจตกใจเสียขวัญ ไม่ยอมตามกันต่อไปอีก นายตำรวจที่ไปด้วยเล่าว่าได้หยุดเรือดูจุดที่ไอ้ขาวฯ ถูกยิ่ง เห็นมีแต่เศษผ้าจากเสื้อลอยน้ำอยู่ ไม่มีร่องรอยโลหิตแม้แต่น้อย ได้เก็บเอาเศษเสื้อมาเป็นประจักษ์พยานด้วย ข่าวไอ้ขาวฯ หนังเหนียวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเพลี้ยลงไร่ลงนา ลือไปลือมาไอ้ขาวฯ แทบจะเหาะหนีตำรวจไปได้ และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตำรวจชุดของผมท้อแท้พอควร

ผมก็ได้พยายามปลุกปลอบขวัญกำลังใจไปตามเรื่อง โดยทำพิธีตัดไม้ข่มนาม และพิธีโองการแช่งน้ำ โดยเอาน้ำไปเจิมลูกกระสุนปืน แล้วแช่งชักหักกระดูกขอให้ผู้ที่ประพฤติชั่ว แต่มีเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหนังยุ่ย ปรากฏว่าได้ผลครับ คือลูกกระสุนปืนของผมหายหมดบ้าน ได้ความว่าลูกน้องมาขโมยไปหมด ก็จะเอาไปใช้ปราบโจรน่ะครับ ความจริงไม่ต้องขโมย ไม่ต้องขอ ก็จะให้ แต่ไม่ทราบว่าเขาถือเคล็ดอะไรว่าไม่ขลัง ต้องขโมยจึงจะขลัง และก็เป็นเรื่องตลกแต่ไม่ขำ และหัวเราะไม่ออกครับ

วิธีขโมยก็แปลก คือปีนขึ้นมาบนบ้านผมในตอนดึก ครั้นพอผมกระแอมเตือนเขาก็ร้องบอกเสียงดัง ๆ ว่าเขาชื่ออะไร และบอกด้วยว่าเข้ามาขโมยลูกปืนครับ แล้วก็ไม่ได้เข้ามาขโมยพร้อม ๆ กันนะครับ ผลัดกันเข้ามาเอา ผมได้ยินเสียงกุกกักก็บอกไปดัง ๆ เลยว่า ลูกปืนวางไว้ที่ชานบ้าน ตามสบายนะ เขาก็ไม่ตอบอะไรได้ยินแต่เสียงหัวเราะกัน คิกคัก ๆ เฮ้อ ชาวเอ๋ย ชาวบ้าน แต่ก็น่ารักดีนะครับ ขโมยแบบนี้ ก็เป็นอันว่าไล่ล่ากันต่อไปแต่ไม่ได้ตัวซักที

แต่แล้วในที่สุดไอ้ขาวฯ ก็สิ้นชื่อครับ มาติดสายไฟดักที่หลังบ้านไอ้เขียวฯ มือขวากำสายไฟมือซ้ายกำเอ็ม ๑๖ อยู่ในมือ เรียกว่าปลาใหญ่ตายน้ำตื้นครับ ตรงที่ไอ้ขาวฯ มาตายน้ำตื้นจริง ๆ ครับ น้ำแค่เอวเท่านั้น ชื้น ๆ เปียก ๆ แบบนั้นโดนสายไฟแรงสูงอะไรจะไปเหลือ เมื่อได้รับรายงานผมก็นำหมอจากโรงพยาบาลไปด้วย เมื่อคณะของผมไปถึงไอ้ขาวฯ กำลังจะขาดใจตาย พอผมเห็นหน้าไอ้ขาวฯ ก็ตกใจ ปรากฏว่าไอ้ขาวฯ เป็นคน ๆ เดียวกับครูขาว ครูชั้นโทโรงเรียนประชาบาล แห่งหนึ่งในเขต อ.บางบ่อ ที่ผมเคยรู้จักมาก่อน

เคยสังเกตว่าเป็นครูที่หัวคิดออกจะทันสมัยเอียงซ้ายนิด ๆ หน้าตาดี เรียกว่ารูปหล่อท่าทางดี แต่งตัวทันสมัย ตัดผมเผ้าสะอาดเรียบร้อย ไหงกลายร่างเป็นโจรไปได้ ก่อนสิ้นใจหายใจประงาบ ๆ ไอ้ขาวฯ ขอขมาผมรับสารภาพอยู่ในอ้อมแขนของผมว่า มันคือไอ้เสือขาวที่ผมต้องการตัวนั่นเอง ที่มันต้องเป็นโจรนั้นเป็นเรื่องยาว แต่ไม่มีโอกาสเล่าให้ผมฟัง หนังสือร้องเรียนนั้นมันนั่นเองที่เป็นคนรจนาส่งไป ตอนที่มันสารภาพทั้งพ่อแม่พี่น้องของมันก็ล้อมรอบอยู่ มันให้ผมถอดสายสร้อยทองคำออกมาจากคอของมัน สายสร้อยนั้นมันให้แม่ แต่เครื่องรางของขลังมันยกให้ผม มันเล่าว่าเป็นของปู่ให้มัน เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่มันถูกยิงหลายครั้งแต่ไม่เข้าก็เพราะสิ่งนี้ ของสิ่งนั้นก็คือ “เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย” นั่นเอง จบเรื่องไอ้ขาวฯ แล้วครับ อะไรนะ ยังไม่จบ

 
บันทึกการเข้า

ถ้วยหนึ่งนงนุช  สองถ้วยพุทธวาจา  สามถ้วยแกล้วกล้าพูดจาองอาจ  สี่ถ้วยเก่งกาจผ้าขาดไม่รู้ตัว  ห้าถ้วยเมามัวพูดไม่กลัวความผิด  หกถ้วยมีฤกธิ์พูดผิดทุกคำ  เจ็ดถ้วยมืดคล้ำมือคลำหนทาง  แปดถ้วยเอวบางพี่เห็นช้างเท่าหมู  เก้าถ้วยโอ้ว่าโฉมตรูสุดรู้สุดคิด  สิบถ้วยมืดมิดสิ้นฤทธิ์พี่แล้วเจ้าแก้วเอย
S.V
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 647
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11296


เสียชีพ อย่าเสียสัตย์


« ตอบ #76 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2008, 03:23:56 PM »

อ๋อ ! ยังไม่จบยังค้างเรื่องลูกสาวไอ้เขียวฯ ที่คนเขาลือกันว่าเป็นเมียน้อยของผมน่ะหรือครับ ความจริงมีอยู่ว่าอีนกฯ ลูกสาวไอ้เขียวฯ มันไม่มีอะไรกับผมหรอกครับ มันผูกสมัครรักใคร่อยู่กับไอ้พรฯ วัยรุ่นราวคราวเดียวกัน ลูกน้องอยู่ในบ้านไอ้เขียวฯ นั่นเอง และลักลอบได้เสียกันไปแล้ว

มีอยู่วันหนึ่งผมบังเอิญไปพบความลับอันนี้เข้าโดยบังเอิญ ที่เพิงเลี้ยงเป็ดชายทุ่งหลังบ้านไอ้เขียวฯ ซึ่งทั้งสองขอร้องให้ผมปกปิดความลับนี้ให้ด้วย ไม่งั้นไอ้เขียวฯ เอาตายแน่ เพราะฉะนั้นที่อีนกฯ ตั้งตาคอยผมราวกับเป็นคนรักของมัน เพราะว่าเมื่อผมไปถึงบ้าน ไอ้เขียวฯ ก็จะต้องหาข้าวปลาสุราอาหาร มาต้อนรับขับสู้ และก็จะต้องใช้ให้สองคนนี้ไปซื้อหา แต่ของที่ผมต้องการ และเรียกหาให้ไอ้เขียวฯ ใช้คนไปซื้อหาให้นั้นผมได้ซื้อติดเรือมาก่อนแล้ว และได้แวะเอาซุกไว้ข้าง ๆ เพิงวิมานของไอ้พรฯ กับอีนกฯ ก่อนที่จะเข้าไปในบ้าน พอผมเรียกจะเอา ไอ้เขียวฯ ก็ต้องใช้อีนกฯ กับไอ้พรฯ นั่นแหละเอาเรือไปซื้อ มันสองคนก็มีโอกาสออกไปจู๋จี๋กันที่วิมานเล้าเป็ดนั่นเอง กะเวลาพอสมควรแล้วก็หิ้วของกลับบ้านทำทีว่าไปซื้อมาจากตลาด ก็เท่านั้นเอง อีนกฯ จึงระริกนักเวลาที่ผมไปที่บ้านพ่อของมัน เรียกว่าคอยเฝ้าเชียวแหละ แต่ไม่ได้รอจะระริกกับผมหรอกครับ มันรอจะระริกกะไอ้พรฯ ต่างหาก ทีนี้จบแน่ละครับ อ้าว ! ๆ ยังไม่จบ อ้อ ! ให้ต่ออีกนิดก็ได้ครับ

ต่อมาเมื่อได้เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยมาเป็นสมบัติแล้วผมก็ออกสืบหาแหล่งที่มา ในที่สุดก็ได้ความว่า เดิม อ.บางบ่อนี้เขาเรียกกันว่า บางเหี้ย เพราะฉะนั้นวัดบางเหี้ยก็คือวัดบางบ่อ อยู่ไม่ไกลจากโรงพักบางบ่อหรอกครับ สมัยก่อนต้องนั่งเรือไป สมัยนี้รถยนต์เข้าถึงแล้ว และแถวนี้ตัวเหี้ยก็เยอะจริง ๆ สมกับชื่อบางนี้เพราะเป็นที่ราบลุ่ม เหมาะที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ชนิดนี้จริง ๆ

ต่อมามีคนหัวใสซึ่งเดิมประกอบอาชีพเป็นหมองูจับงูขายส่งไต้หวัน ก็ได้เสริมอาชีพจับเหี้ยขายด้วยครับ เพราะหนังของมันราคาสูงมาก นัยว่าร่ำรวยไปเลยทีเดียว และเนื้อเค็มที่ตากแห้งเรียกกันว่าเนื้อแดดเดียวตามร้านอาหารป่าดัง ๆ สมัยนั้นที่ว่าเป็นเนื้อชั้นดีราคาแพงนั้นไม่ใช่เนื้อวัวหรอกครับ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเหี้ยจากบางบ่อนี่เอง ชื่อบางเหี้ยฟังไม่เป็นมงคล นายอำเภอท่านหนึ่งจึงคิดเปลี่ยน เผอิญขณะนั้นชาวบ้านขุดดินขายให้เขาเอาไปถมที่ บ่อดินที่ขุดเอาเนื้อไปแล้วจึงนำมาใช้เป็นบ่อเลี้ยงปลา เกิดเป็นตำนานปลาสลิดบางบ่อมาจนทุกวันนี้ เมื่อมีบ่อขุดจำนวนมากมาย นายอำเภอท่านนั้นจึงเอามาตั้งเป็นชื่อใหม่ไปเสียเลยพ้นเคราะห์ไปที ส่วนท้องที่ใกล้เคียงกัน เดิมชื่อเดียวกันแต่อยู่ในเขต อ.ลาดกระบัง กทม. ก็ถูกเรียกใหม่ให้เพี้ยนไปว่า จระเข้น้อย อันว่าจระเข้ตัวเล็ก ๆ หรือจระเข้น้อยก็คือไอ้ตัวพรรค์อย่างว่านี่แหละครับไม่ใช่อื่น และไม่ได้แปลว่ามีจระเข้อยู่ไม่มาก ส่วนตำบลจระเข้ในเขต อ.บางพลี พอ กทม.เขามีจระเข้น้อย บางพลีก็เลยต้องมีจระเข้ใหญ่เพื่อยืนยันว่า เป็นจระเข้จริง ๆ นะ ไม่ใช่จระเข้แบบที่ลาดกระบัง อะไรทำนองนี้

โรงพักจระเข้ใหญ่เมื่อก่อนเป็นโรงพักเล็กนิดเดียวจะไปก็ต้องไปทางเรือ เดี๋ยวนี้โรงพักใหญ่โตบ้านเมืองก็เจริญขึ้นมาก ไม่รู้ว่าใครเป็นใครไปแล้ว ใครที่ผ่านไปทางนั้น และแวะเที่ยว จะเอ่ยอ้างว่าเป็นพวกของผมก็ไม่ขัดข้องนะครับ คนเก่า ๆ จะกุลีกุจอต้อนรับทีเดียวเชียว ที่บางพลีนี้ยังมีหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ ว่ากันว่าเป็นองค์พี่ของหลวงพ่อโสธรนะครับ วันดีคืนดีจู่ ๆ ปูนที่ปั้นเป็นรูปองค์หลวงพ่อก็เกิดนิ่มขึ้นมาเสียเฉย ๆ เหมือนกับเนื้อคนคือไม่ใช่นิ่มอย่างเดียวแต่ยืดหยุ่นได้ เขาจึงเรียกท่านว่า “หลวงพ่อโต เนื้อนิ่ม” ถึงปีจะมีงานเทศกาล “โยนบัว” เขาจะเอาหลวงพ่อขึ้นเรือแห่ไปตามคลอง ชาวบ้านจะเตรียมดอกบัวไว้นมัสการโดยเมื่อเรือที่อัญเชิญหลวงพ่อผ่านไป ก็จะโยนบัวขึ้นไปบนเรือหลวงพ่อสูงเป็นภูเขาเลากา น่าชื่นใจในความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไทยเราจริง ๆ นอกจากนั้นที่บางพลีก็ยังมีหลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ดังไม่รู้เรื่อง วัดอยู่ที่ถนนสายที่แยกจากสาย บางนา-ตราด บริเวณ ก.ม.ที่ ๑๒ ตัดมาออก อ.ประเวศน์นั่นแหละครับ อ้อ สำหรับกลุ่มแก๊งค์สลัดน้ำจืด ต่อมาก็ถูกอัปเปหิเข้าไปอยู่ในคุกในตะรางกันหมด ไอ้แดงฯ โดนเข้าไปราว ๆ ๑๒๐ ปีต่อมาทำซ่าแหกคุกออกมาแล้วก็โดนจับอีก ไอ้เขียวฯ กรรมเก่าสนองโดนคดีปล้นเก่า ๆ ที่แปดริ้วติดคุกราว ๆ ๖๐ ปี ไอ้หนูผีฯ ก็หมดน้ำยาเหลือแต่ขนมจีนจืดไม่เป็นท่า ส่วนผม ย้ายไปชมแสงสีที่พัทยา ครับ

ความจริงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ อ.บางพลีที่ผมประสบมา ยังมีอีกหลายเรื่องที่คิดว่าสนุก แต่กลัวว่าหนังสือเล่มนี้จะพิมพ์ไม่เสร็จทันเวลา เอาไว้รวมเล่มในหนังสือแจกงานศพของผมก็แล้วกัน ที่ว่าสนุกเพราะเป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง เช่น เรื่องเสือสะอิ้ง พ่วงรอด มือปืนพันศพจากเพชรบุรี ที่ใช้ผ้าถุงแม่เป็นเครื่องรางของขลัง แต่มาโดนผมพิชิต (จับเป็น) ที่นั่น มีเรื่องการทดลองเครื่องลางแขกอิสลาม กับเครื่องรางของพวกเราชาวพุทธ มีเรื่องบ่อนแตกที่บ่อนไก่ของพี่มาลัย วัดกิ่งแก้ว ฯ ลฯ เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะเชื่อมโยงไปถึงเกี่ยวพันไปกันถึงเรื่อง ไอ้เสือต้อย บึงกระโดน หรือ ต้อยใหญ่ มือปืนร้อยศพที่โดนผมพิชิตอีกเช่นกัน(จับตาย) , ตี๋ใหญ่ (คนนี้คนอื่นจับ) และคนอื่น ๆ เรื่องอื่น ๆ ซึ่งคงจะต้องรอเอาไว้รวมกันในคราวเดียว ใครอายุมากแล้วอยู่ไม่ถึงงานของผม ก็ขออภัยด้วยนะขอรับพระเดชพระคุณ” ...

ก็จบไปอีกตอนนะครับ สำหรับเรื่องของท่าน พ.ต.ท.อรรณพ กอวัฒนา โอกาสหน้ากระผมจะได้เรียนเสนอ เรื่อง “แม่ทัพแขนด้วน” ของ หลวงปู่คำแสนฯ วัดสวนดอก และ “วัวหำคด” ของ ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม เป็นอันหมดเรื่องของท่านอรรณพฯ นะครับ เพราะเรื่องของหลวงปู่ ครูบาพรหมจักรสังวร และครูบาอินทจักรรักษานั้น ท่านสามารถหาอ่านได้จากหนังสือ ลูกศิษย์บันทึก เล่ม ๒ และ หนังสือล่าพระอาจารย์ ซึ่งมีรายละเอียดมากเพียงพอ .... (กราบขอบพระคุณท่านอรรณพฯ ที่เขียนหนังสือสนุก ๆ แฝงด้วยคติธรรม มาให้พวกเรา-ท่านได้อ่านกัน ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)

กระผมขอกราบอาราธนาพระบารมี แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดจนพระบารมีของครูบาอาจารย์ที่เคารพทุก ๆ ท่าน โปรดอภิบาลรักษา ให้ท่านทั้งหลายมีแต่ความสุข ความเจริญ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้ปราศจากโรคาพยาธิ อุบัติภัย อันตราย ทั้งปวง และได้เข้าถึงซึ่งเอกันตบรมสุข คือ พระนิพพานสมความปรารถนาของทุกท่าน....ด้วยเทอญ
 
 



      Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

ถ้วยหนึ่งนงนุช  สองถ้วยพุทธวาจา  สามถ้วยแกล้วกล้าพูดจาองอาจ  สี่ถ้วยเก่งกาจผ้าขาดไม่รู้ตัว  ห้าถ้วยเมามัวพูดไม่กลัวความผิด  หกถ้วยมีฤกธิ์พูดผิดทุกคำ  เจ็ดถ้วยมืดคล้ำมือคลำหนทาง  แปดถ้วยเอวบางพี่เห็นช้างเท่าหมู  เก้าถ้วยโอ้ว่าโฉมตรูสุดรู้สุดคิด  สิบถ้วยมืดมิดสิ้นฤทธิ์พี่แล้วเจ้าแก้วเอย
P 5906
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 21
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 283



« ตอบ #77 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2008, 05:12:33 PM »

เอามาจาก หนังสืออะไรครับ จะได้ไปหามาอ่านบ้าง
บันทึกการเข้า

พกแล้วไม่ได้ใช้  ดีกว่าจะใช้แล้วไม่ได้พก
S.V
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 647
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11296


เสียชีพ อย่าเสียสัตย์


« ตอบ #78 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2008, 05:39:44 PM »


   รู้สึกว่าจะเป็นหนังสือ"ลูกศิษย์บันทึก"ครับ ตอนนี้มี 5 เล่มแล้ว
บันทึกการเข้า

ถ้วยหนึ่งนงนุช  สองถ้วยพุทธวาจา  สามถ้วยแกล้วกล้าพูดจาองอาจ  สี่ถ้วยเก่งกาจผ้าขาดไม่รู้ตัว  ห้าถ้วยเมามัวพูดไม่กลัวความผิด  หกถ้วยมีฤกธิ์พูดผิดทุกคำ  เจ็ดถ้วยมืดคล้ำมือคลำหนทาง  แปดถ้วยเอวบางพี่เห็นช้างเท่าหมู  เก้าถ้วยโอ้ว่าโฉมตรูสุดรู้สุดคิด  สิบถ้วยมืดมิดสิ้นฤทธิ์พี่แล้วเจ้าแก้วเอย
CZ17
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #79 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2008, 08:30:36 AM »

ขยันพิมพ์จัง....
บันทึกการเข้า
NUTAPHOL
รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 544
ออฟไลน์

กระทู้: 8934



« ตอบ #80 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2008, 09:22:19 AM »

มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ     บางคนอาจเคยประสพมากับตัวเอง    บางคนอาจฟังคนอื่นเล่าเรื่องมาแต่ของผมที่เห็นนี่ผมเห็นแบบต่อหน้าไม่เกิน 2 ฟุตครับ  มีรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนพี่ชายมาที่บ้านมาหาพี่ชายของผม  แต่พี่ชายผมไม่อยู่บ้าน   วันนั้นผมอยู่ที่บ้านพอดี     ตอนนั้นผมหลายสิบปีก่อนเขานิยมเลี้ยงว่านกันผมก็เลยมีเลี้ยงกับเขาบ้างเพื่อไม่ให้ตกยุค  ผมเลี้ยงไว้เยอะพอสมควรมีทั้งว่านเมตตา    ว่านรักษา   และว่านพวกเหนียวคงกระพัน   ผมกำลังรดน้ำพอดี  เพื่อนพี่ชายเขาถามผมว่าเลี้ยงว่านอะไรบ้างนี่    ผมก็บอกไปจนเกิบหมดจนมาถึงอยู่ว่าหนึ่ง   ชื่อว่าว่านพญาหอกหักซึ่งเป็นว่านคงกระพัน   ผมก็บอกว่านี่ว่านคงกระพันแต่ไม่รู้ว่าเหนียวจริงรึปล่าวเพราะไม่เคยลองมีคนอื่นเขาให้ผมมาอีกที  เขาสนใจแล้วบอกว่าเดียวพี่ลองให้ดู   ก่อนเด็ดว่านใส่ปากผมเห็นเขาพนมมือบริกรรมคาถาอยู่พัก  แล้วเด็ดว่าใส่ปากแล้วก็เคี้ยวๆๆสักพักหนึ่งแล้วเขาก็ขอมีดโกนหนวดแบบสองคมใหม่ๆจากผมไป   พอได้มีดโกนแล้วปากเขาก็ยังท่องคาถาไปเรื่อยแล้วก็เอาใบมีดกรีดลงมาที่ข้อพับแขนด้านใน3ทีครับ   น่าแปลกครับมีดกรีดไม่เข้าเป็นแค่ลอยเหมือนโดนหนามเกี่ยว 3 ลอยเท่านั้นเองและมีเลือดซึมออกมาเหมือนยางบอนครับ  เห็นแล้วก็บอกไม่ได้ว่าทำไมมันถึงไม่เข้ามีดใหม่ๆที่เขากรีดที่แขนตัวเองจนเนื้อแขนบุ๋มลงไปอย่างนั้น  เขายังให้ผมลองเลยแต่ผมไม่ลองกลัวพลาดครับ   เพื่อนพี่ชายคนนี้เขาเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์มากชอบไปเรียนกลับอาจารย์เก่งๆครับ....ผมก็ถามเขาว่ารู้ได้อย่างไรถึงจะลงมือกรีด  เขาบอกว่าพอเคี้ยวว่านไปสักพักในปากมันรู้สึกได้ว่ามันชาๆๆและหนักปาก    แล้วเขาก็ขอว่านของผมแบ่งไปปลูกบ้าง...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.091 วินาที กับ 22 คำสั่ง