เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 23, 2024, 12:32:31 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 502
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มรดกอีสาน... ผญ๋า+นิทานก้อม  (อ่าน 719062 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 66 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #270 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 02:29:28 PM »

อยากนอนเด้  หนังตาหย่อนแล่ว
บันทึกการเข้า

andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #271 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 02:45:24 PM »

อยากนอนเด้  หนังตาหย่อนแล่ว

จังซี่หละยามเฒ่ามาแล้วหนังมันกะหย่อนกะยาน
บันทึกการเข้า
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #272 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 03:27:33 PM »

นิทานพื้นบ้าน เสนอเรื่อง ตำนานทุ่งกุลาร้องไห้

"กุลา" เป็นภาษาอีสานที่ใช้เรียก คนหรือกลุ่มคนที่ยึดอาชีพเร่ร่อนค้าขาย....เช่น เร่ร่อนขายผ้า ขายมีด รวมถึงรับสักยันต์ ซึ่งการสักยันต์นั้นชายชาวอีสานนิยมสักกันทุกคน สักลายไปทั้งตัว

เรื่องมีอยู่ว่า.....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.......มีกุลานายหนึ่งได้เดินทางเร่ร่อนเพื่อค้าขาย วันหนึ่งหลังจากขายของหมดแล้วก็เดินทางกลับบ้านระหว่างทาง..ผ่านทุ่งแห่งหนึ่งซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตา หาต้นไม้ได้ยากนัก....ระหว่างเดินทางนั้นชายกุลารู้สึกได้ว่ากำลังถูกติดตาม....มันคือหมาป่า ทำให้เขาต้องเร่งเดินทางเพื่อที่จะผ่านทุ่งแห่งนี้ไปให้ได้ แต่ไม่ว่าจะเดินอย่างไรก็ไม่เห็นว่าจะถึงที่หมายสักที......ใกล้เข้ามาแล้ว หมาป่า มันพากันตีวงล้อมชายกุลาใกล้เข้ามาทุกที...สังเกตุได้จากการหอนของมัน..........จุ๊ก..จุ๊ก......จู้.......เสียงหอนของมันทำให้เขาต้องเบนเข็มเข้ามาต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว....แต่ขนาดของมันโตแค่ขาของเขาเท่านั้นและสูงไม่มาก....
..หลังจากที่ปีนขึ้นไปแล้ว...ต้นไม้รับน้ำหนักของเขาแทบไม่ได้...มันโอนเอนไปมาเหมือนจะหักขาดลงมาให้ได้ เป็นเวลาเดียวกับหมาป่าก็โจมตีเขาเช่นกัน...พวกมันมีเป็นสิบต่างพยายามกระโจนขึ้นเพื่อที่จะกัดเขาให้ได้...ในเวลานั้นชายกุลามีเพียงมีดพร้าเล่มเดียวเท่านั้น .....พอมันกระโจนขึ้นมาแกก็เอามีดฟันมัน....แต่มีดของแกก็ไม่ถูกหมาป่าแต่กลับฟันไปถูกต้นไม้ที่แกกำลังปีนอยู่นั้นเอง....หลายครั้งเข้าต้นไม้ก็จะขาดสะบั้น แกได้แต่นั่งปลงและร้องไห้ ไม่นานนักต้นไม้ก็หักลง......จึงมีคนตั้งชื่อทุ่งแห่งนี้ว่า "ทุ่งกุลาร้องไห้"........
บันทึกการเข้า

andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #273 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 04:55:23 PM »

โอ.....เรื่องมันเป็นจังซี่นี่เอง  พวมแต่สิฮู็นี่หละ
บันทึกการเข้า
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #274 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 05:53:49 PM »

 Cheesy Cheesy Cheesy ... หาแต่เรื่อง ... มาตั๋วหมู่ ... น้ออ้ายเสก ...  คิก คิก คิก คิก คิก คิก

... ไห่แต้ม 1 เด้อ ...  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #275 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 06:02:09 PM »

นิทานพื้นบ้าน เสนอเรื่อง ตำนานทุ่งกุลาร้องไห้

"กุลา" เป็นภาษาอีสานที่ใช้เรียก คนหรือกลุ่มคนที่ยึดอาชีพเร่ร่อนค้าขาย....เช่น เร่ร่อนขายผ้า ขายมีด รวมถึงรับสักยันต์ ซึ่งการสักยันต์นั้นชายชาวอีสานนิยมสักกันทุกคน สักลายไปทั้งตัว

เรื่องมีอยู่ว่า.....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.......มีกุลานายหนึ่งได้เดินทางเร่ร่อนเพื่อค้าขาย วันหนึ่งหลังจากขายของหมดแล้วก็เดินทางกลับบ้านระหว่างทาง..ผ่านทุ่งแห่งหนึ่งซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตา หาต้นไม้ได้ยากนัก....ระหว่างเดินทางนั้นชายกุลารู้สึกได้ว่ากำลังถูกติดตาม....มันคือหมาป่า ทำให้เขาต้องเร่งเดินทางเพื่อที่จะผ่านทุ่งแห่งนี้ไปให้ได้ แต่ไม่ว่าจะเดินอย่างไรก็ไม่เห็นว่าจะถึงที่หมายสักที......ใกล้เข้ามาแล้ว หมาป่า มันพากันตีวงล้อมชายกุลาใกล้เข้ามาทุกที...สังเกตุได้จากการหอนของมัน..........จุ๊ก..จุ๊ก......จู้.......เสียงหอนของมันทำให้เขาต้องเบนเข็มเข้ามาต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว....แต่ขนาดของมันโตแค่ขาของเขาเท่านั้นและสูงไม่มาก....
..หลังจากที่ปีนขึ้นไปแล้ว...ต้นไม้รับน้ำหนักของเขาแทบไม่ได้...มันโอนเอนไปมาเหมือนจะหักขาดลงมาให้ได้ เป็นเวลาเดียวกับหมาป่าก็โจมตีเขาเช่นกัน...พวกมันมีเป็นสิบต่างพยายามกระโจนขึ้นเพื่อที่จะกัดเขาให้ได้...ในเวลานั้นชายกุลามีเพียงมีดพร้าเล่มเดียวเท่านั้น .....พอมันกระโจนขึ้นมาแกก็เอามีดฟันมัน....แต่มีดของแกก็ไม่ถูกหมาป่าแต่กลับฟันไปถูกต้นไม้ที่แกกำลังปีนอยู่นั้นเอง....หลายครั้งเข้าต้นไม้ก็จะขาดสะบั้น แกได้แต่นั่งปลงและร้องไห้ ไม่นานนักต้นไม้ก็หักลง......จึงมีคนตั้งชื่อทุ่งแห่งนี้ว่า "ทุ่งกุลาร้องไห้"........

เคยแต่ขับรถผ่าน... หากะฮู้ตำโดน... เอ้ย... ตำนาน... ขอบคุณครับ... Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #276 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2008, 06:14:09 PM »

ตามทำนานของทิดเสก คือบ่ตั้งว่า ทุ่งกุลาหมากัด

ถ่าทิดเสกเป็นครูสอนชั้นประถม แต่ละมื้อคือสิบ่ได้สอนดอก  ย่่านเด็กน้อยล้อมวงให่เว้านิทานให่ฟังอยู่เบิ้ดมื้อ   Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2008, 06:16:25 PM โดย andaman » บันทึกการเข้า
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #277 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 09:09:34 AM »

ผมสอนมาแล้ว...สอนตั้งแต่ ป.4 ฮอด ม.3 แต่เด็กน้อยบ่สนใจนิทาน สนใจแต่คอมฯ...
บันทึกการเข้า

น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #278 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 10:51:26 AM »

มื้อนี้เสนอนิทาน "สีทน-มโนราห์"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.........หลังจากพรานบุญได้นำนางมโนราห์ ไปถวายแด่พระยาสีทน.....พระยาสีทนได้นำปีกของนางมโนราห์ไปเซี่ยงไว้ ย้อนว่าย้านนางมโนราห์บินหนีไป......หลายมื้อผ่านไปนางได้แต่เศร้าหมองย้อนคิดฮอดบ้านเมือง พ่อแม่พี่น้อง......มื้อหนึ่งพระยาสีทนออกไปล่าสัตว์  นางจึงออกอุบายกับย่าว่า สิฟ้อนรำให่เบิ่ง และนางกะได่ฟ้อนรำอย่างสวยงาม จนย่าเพลิดเพลิน จึงได่บอกไปว่า คั่นได่ปีกมาใส่นำและให่เปิดเพดานห้องออกนำ นางจึงสิฟ้อนได้งามกว่านี้.........ย่าหลงกลจึงได่เฮ็ดตามที่นางมโนราห์บอก.........พอได่ปีกแล้ว นางจึงบินหนีไป..........

....หลังจากพระยาสีทน ฮู้ข่าว จึงเสียใจยิ่งนัก จึงตัดสินใจออกนำหาภรรยาสุดที่รัก.....โดยออกนำหาเพียงเดียวดาย....นำหาอยู่เป็นเดือนจนเสื้อผ้ากะขาดเหมิด จึงได่ไปลอกเปลือกไม้มาเฮ็ดส่งใส่....หลังจากนำหาจนสุดเขตแดนแล้ว  ณ เขตแดนนั้นมีแม่น้ำสายหนึ่งขวางกั้นอยู่ พระยาสีทนพยายามสิข้ามไปจั่งใด๋กะข้ามบ่ได่ เนื่องจากเป็นแม่น้ำกัดเหล็กกัดทอง กัดคุ่อัดคู่แนว...หลังจากหาทางอยู่หลายมื้อ พระยาสีทนกะปีนต้นไม้ขึ้นไปนอน โดยหาฮู้ได่ว่าเทิ้งหัวเจ่าของมีรั้งของพญานกอินทรีใหย่  และแอบได่ยินพญานกเว่ากันว่า พระยาเจ้าของเมืองเผิ่นสิจัดพิธีรับขวัญลูกสาวหล่าเผิ่น ผู่ซึ่งหายสาบสูญไปแต่ได่กลับมาแล้ว  พระยาสีทนฮู้ได่ทันทีว่าเป็นนางมโนราห์ เมียเจ่าของ..จึงได่แอบปีนขึ้นไปเซี่ยงอยู่ใต้ปีกพญานก....รุ่งเช้า พญานกพากันบินออกไปหากินงัวและควายทางเมืองของนาง....พระยาสีทนได่แอบห้อยโหนไปนำ ระหว่างบินพญาอินทรี กะฮู้สึกหนัก ๆ พยายามไซร์ขนหา....แต่พระยาสีทนกะพยายามปีนหลบ...จนกระทั่งมาฮอดใกล้ ๆ เมือง พระยาสีทนจั่งโตนลง.....พญานกเห็นเข้า จั่งฮ้องออกไปว่า..."ป้าดโธ้....บักมนุษย์น้อยนี่ตั้ว ที่บังอาจขี่หลังกูมา กูสิเอามึงเป็นอาหารให่ได่"..........

....พญานกพยายามไล่จิกพระยาสีทน แต่พระองค์ก็หลบหลีกไปได่ และได่แล่นเข้าไปเซี่ยงในป่าหญ้าชนิดหนึ่ง พญานกบ่สามารถสินำเข่าไปได่  ชาวบ้านจั่งตั้งซื่อหญ้าชนิดนี้ว่า "หญ้าคา".........หลังจากใช้ความพยายามอยู่โดนพญานกจึงบินจากไป........

...ท้าวสีทน ได่แอบเข่าไปในเมือง สีสืบข่าวเมียเจ่าของ...จึงฮู้ว่ามื้อนี้พระยาครองเมืองสิจัดงานรับขวัญลูกสาวหล่า และได่แอบเห็นนางสนมคนหนึ่งแบกคุณโฑมาใส่น้ำเพื่อสิเอาไปให่นางมโนราห์อาบ....โดยแบกคุณโฑน้ำไว่เทิ้งหัว...พระยาสีทนจึงได่แอบปีนไปเทิ้งต้นไม้ที่นางสนมเผิ่นสิเดินผ่านและได่แอบนำแหวนของนางมโนราห์ที่เคยให่ไว่แก่พระองค์ใส่ลงในคุณโฑน้ำ......

...หลังจากนางมโนราห์อาบน้ำและได่เห็นแหวนของตนเอง จั่งฮู้ว่า ท้าวสีทน สามีของตัวเองได่ตามมาฮอดแล้ว จั่งบอกให่พ่อเจ่าของได่ฮู้....เจ้าผู้ครองนคร จั่งใด้ให่ทหารไปจับตัวพระยาสีทนมา.....หลังจากได่ฟังเรื่องราวเทิ้งเหมิดแล่ว...เทิ้งเห็นใจเทิ้งเคียด...จั่งออกอุบายว่า ถ่าแมนพระยาสีทนเป็นเนื้อคู่กับนางมโนราห์จริง พระยาสีทนต้องจำส่วนใด๋ส่วนหนึ่งของร่างกายนางมโนราห์ได้......โดยให่เฮ็ดห้องขึ้นมา 10 ห้อง และได่ให่นางสนมจำนวน 9 คน รวมนางมโนราห์เป็น 10 คนเข่าไปอยู่ในห้อง โดยให่แต่ละคนยื่นแค่นิ้วชี้ออกมา และให่พระยาสีทนเป็นคนเลือกว่า นิ้วใด๋คนใด๋สิเป็นของนางมโนราห์.............ถ้าเลือกถูกสิจัดพิธีแต่งงานให่ ถ้าเลือกบ่ถืกสิให่ทหารนำไปตัดหัว

...เดือดร้อนฮอดพระอินทร์...ซึ่งเห็นใจในความรักของท้าวสีทนที่มีต่อนางมโนราห์ พระอินทร์จึงแปลงกายเป็นแมงวัน...ท้าวสีทนได่อธิฐานว่า ถ้าชาตินี้สิได่นางมโนราห์เป็นเนื้อคู่ กะขอให่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลใจให่เลือกถูก....หลังจากวนเวียนเลือกอยู่โดน ท้าวสีทนกะเห็นแมงวันโตหนึ่งซึ่งบินวนเวียนตอนใบหน้าของพระองค์ แล้วกะบินไปเกาะที่นิ้วนางหนึ่ง.......พระองค์ก็ได่ตัดสินใจเลือก.......ซึ่งกะเป็นนิ้วของนางมโนราห์..อีหลี...

.....หลังจากนั้นพระราชาจึงได่จัดงานพิธีมงคลสมรสให่แก่ทั้งสอง.........ท้าวสีทน-มโนราห์........ Cheesy ไหว้
บันทึกการเข้า

น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #279 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 11:07:22 AM »

นี่แหละเผิ่นเอิ้นว่า...ฉลาดกว่า...

ลูกทิดเสกเล่นน้ำกับลูกทิดจ่อย...ลูกทิดเสกโตนลงไปในน้ำแล้วกะขึ้นมาหยิบเงินเหรียญ 10 ออกมาแล่วบอกลูกทิดจ่อยว่า
"กูมุดลงไปในน้ำเห็นปลาเล่นโบกกันอยู่ พวกมันย้านกูไปบอกตำรวจ มันจั่งจ้างกู 10 บาท ให่กูหนีไปเล่นทางอื่น"
ลูกทิดจ่อย บอก "บ่เซื่อ" จั่งโตนลงไปในน้ำ แต่โตนลงไปบ่เบิ่งให่ดี หัวไปถืกตอไม้เข่า หัวโปโหลกโป๊กขึ้นมา แล่วบอกลูกทิดเสกว่า
"กูกะมุดลงไปคือกัน เห็นมันเล่นอยู่ มันบอกรำคาญกูจึงเอาไม้ตีหัวกูเทียหนึ่ง หัวโปโหลกโป๊กอยู่นี่ และมันบอกกูว่าให่มาเอาเงินนำมึง 5 บาทไปซื้อยาหม่องมาทา"....... Grin ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #280 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 11:15:48 AM »

 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #281 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 11:30:17 AM »

เอ๊า... ลูกซายทิดเสกคือจั่งพลาดท่าน้อ... บาดทีเนี่ย...
บันทึกการเข้า
andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #282 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 12:10:13 PM »

ทิดเสกมักแกล้งพ่อเฒ่า  เลยเป็นเหตุให่ลูกทอดเสกพลาดท่าลูกทิดจ่อย
บันทึกการเข้า
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #283 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 03:25:19 PM »

 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #284 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 03:33:07 PM »

  ไปหาแก้ตำนานเขาถั่วทีปถั่วแดน  ท่งกุลาฮ้องไห้ มันกะหม่องเดี๋ยวกันกับปู่ป๋าหลานตั้ว
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 502
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 24 คำสั่ง