ขอบคุณครับ ในสารคดีก็มีเจ้าซีรีย์ ๗ นี่เป็นตัวชูโรงเหมือนกัน
NGV มันก็มีวันหมดนี่ครับ ....
ถ้าเราเอาเครื่องยนต์สันดาปภายในมาตั้ง แล้วคิดว่ายังต้องใช้มันต่อไป ผมก็มองว่าก็คงต้องใช้เชื้อเพลิงประเภทแอลกอฮอล หรือไบโอดีเซล (แบบ ๑๐๐%) ... เรื่องเครื่องใช้ได้หรือไม่ ดัดแปลงอย่างไร .... ผมมองว่าอย่างน้อยก็มีต้นทุนเครื่องยนต์ต่ำกว่า .... ต่ำกว่าการหาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการเคลื่อนที่ มาใช้ขับเคลื่อนการขนส่ง หรือมาใช้ในกิจาการอื่น ๆ ที่เครื่องยนต์น้ำมันทำได้
ท่านอาจแย้งว่า ดัดแปลงเครื่องมาใช้กาซ (LPG/CNG ก็ตาม) ถูกกว่า ... ผมก็ไม่เถียงครับ ... ผมมองแค่ว่าจะกาซอะไรมันก็มีหมดไป (ไม่ต่างจากน้ำมัน)
ปัญหาที่ตามมา ผมก็มองว่าเป็นปัญหาการหาวัตถุดิบมาทำแอลกอฮอล และไบโอดีเซลมากกว่า เพราะเมื่อปลูกมาเป็นเชื้อเพลิง อาจทำให้ด้านอาหารขาดแคลน .... แถมที่ดินเพาะปลูกบ้านเรา ก็ไม่ได้มากมายใหญ่โตอะไรนัก ... จะมีซัพพลายพอหรือ
นี่ยังไม่นับถึงต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ที่ราชการซ่อนไว้ ไม่ได้บอกประชาชนทั้งหมด (คือผมไม่เคยได้ยิน) ... แต่ที่พอจะเข้าใจอยู่คือ เชื้อเพลิงทางเลือกเหล่านี้ เขายังจ่ายเงินชดเชยอยู่ ... (ถ้าไม่กดราคาขายไว้ เดี๋ยวคนไม่ใช้ ... ครั้นจะกดราคาของที่มาผสม ก็คงกดได้ไม่มาก เพราะอาจจะเป็นพวกกันเอง หรือญาติกันด้วยซ้ำ)
ทางออกในใจผม
๑. ไฮโดรเจน ... ฟังดูไฮเทคดี ใช้ไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์มาแยกกาซ นำกาซไปเผาไหม้ได้น้ำ หรือเอาไปใส่เซลื้อเพลิง ก็ได้ไฟฟ้าอีก ... ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่าทางเทคนิค การใช้งานกาซชนิดนี้น่าจะต้องการเทคโนโลยีระดับสูงอยู่
๒. วันก่อนอ่านไทยรัฐ เรื่องการเลี้ยงสาหร่าย แล้วนำมาเผาเซลลูโลส แล้วได้อะไรที่คล้ายน้ำมันดิบออกมา ... นำไปกลั่นได้น้ำมันแบบที่เราใช้กัน .... น่าสนใจมาก เพราะน้ำทะเลมีมากถึง ๒ ใน ๓ ของโลก และบ้านเราก็อยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร .... ดวงอาทิตย์ฉายแสงมากกว่าเส้นอื่น ...
๓. กาซชีวภาพ ... ก็ดูจากสารคดีเช่นกัน ถ้าผมดูไม่ผิด มีเมืองหนึ่ง เขาหมักขยะเอากาซมาเติมรถครับ (แนว NGV)
ผมอยากเห็นรัฐบาลวางแนวนโยบายด้านพลังงานให้ชัดเจนครับ กล้าตัดสินใจ แล้วนำพาประเทศไปทิศทางนั้น โดยเน้นการพึ่งตนเองเป็นหลัก ....
น่าจะดีกว่าประชุมหามาตรการประหยัด น่าจะดีกว่าการจะใช้ E เท่านั้นเท่านี้แ้ล้วค่าเชื้อเพลิงจะต่ำลงเท่าไร