เมื่อวานนี้ผมเล่าเรื่องนี้ น้ำมัน E 85 ไปแล้ว วันนี้ยังมีเรื่องอยู่อีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องเขียนต่อให้จบ นั่นคือ เรื่องที่ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีพลังงาน ขอให้โรงกลั่นน้ำมันในเครือ ปตท. 4 แห่ง ลดกำไรจากการกลั่นน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 1 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าน้ำมันในช่วงนี้
ก็ได้รับการตอบจาก คุณประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ด้วยดี เพราะไม่กระทบต่อกำไรปกติของเครือ ปตท. แต่อย่างใด
แต่เสียงค้านจากฟากตลาดทุนกลับบอกว่า การลดกำไรค่ากลั่นน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 1 บาท ทำให้หุ้นกลุ่มน้ำมันราคาลดลง เป็นการแทรกแซงบิดเบือนกลไกตลาด
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร วันนี้ผมจะเอาข้อมูลมาร่ายยาวให้ฟัง
ในยามที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา ผมคิดว่าทุกคนในชาติต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหา กำไรลดลงหน่อย แต่คนในชาติอยู่รอดทุกคนก็ถือว่าคุ้ม รวยไปคนเดียวแต่สังคมมีปัญหาไปไม่รอด ก็ใช่ว่าคนรวยจะอยู่ได้ด้วยความสงบสุข
ผมยังชื่นชมประเทศที่เขาเอาเงินมาแจกคนจนฟรีๆทุกเดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในยามที่บ้านเมืองมีปัญหาวิกฤติ สังคมต้องมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันครับ ไม่ใช่คิดเอาแต่ได้ถ่ายเดียวแบบพวกทุนนิยมสุดโต่ง
มาดูข้อเท็จจริงกันครับว่า ถ้าโรงกลั่นน้ำมันลดค่ากลั่นน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 1 บาท จะมีผลกระทบต่อรายได้หรือกำไรของโรงกลั่นอย่างไร ผมขอทำความเข้าใจอีกนิดว่า เป็นการ ลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ค่ากลั่นน้ำมันชนิดอื่น เช่น เบนซิล ยังคงเดิมไม่มีการลด
ข้อมูลที่ผมมี ค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล เมื่อปี 2549 เฉลี่ยอยู่ที่ 15 เหรียญต่อบาร์เรล หรือลิตรละ 3 บาท ถัดมาปี 2550 ปีที่แล้ว ค่ากลั่นเพิ่มขึ้นมา 1 เหรียญ เป็น 16 เหรียญต่อบาร์เรล หรือ 3.20 บาทต่อลิตร
พอขึ้นปี 2551 เท่านั้น ค่ากลั่นน้ำมันดีเซลก็พุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
เดือนมกราคม ค่ากลั่นขึ้นไปเป็น 18 เหรียญต่อบาร์เรล
กุมภาพันธ์ ขึ้นไปเป็น 21 เหรียญต่อบาร์เรล
มีนาคม ขึ้นไปเป็น 29 เหรียญต่อบาร์เรล
เมษายน ขึ้นไปเป็น 35 เหรียญต่อบาร์เรล
และช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ค่ากลั่นขึ้นไปเป็น 42 เหรียญต่อบาร์เรล หรือเท่ากับ 8.45 บาทต่อลิตร ทั้งๆที่ ต้นทุนค่ากลั่นก็ยังอยู่เท่าเดิม ต่อให้ต้นทุนปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ค่าการ กลั่นดีเซลก็ควรจะอยู่ที่ลิตรละ 3.52-3.84 บาทเท่านั้น
สิ่งที่ ไม่เป็นธรรม ก็คือ วิธีคิดค่ากลั่นน้ำมันของไทย ซึ่งใช้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่หน้าโรงกลั่นน้ำมันสิงคโปร์ ลบด้วยราคาน้ำมันดิบดูไบ
ยกตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันดิบดูไบ วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม ปิดที่ 126.46 เหรียญต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ ปิดที่ 171.95 เหรียญต่อบาร์เรล เมื่อเอาราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปมาลบด้วยราคาน้ำมันดิบดูไบในวันเดียวกัน
ค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล ก็จะออกมาที่ 45.49 เหรียญต่อบาร์เรล หรือลิตรละ 9.15 บาท ทั้งๆที่ต้นทุนทุกอย่างเท่าเดิมค่าการกลั่นดีเซลตรงนี้แหละ ที่ทำให้โรงกลั่นน้ำมันไทยโกยกำไรอู้ฟู่ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มแม้แต่บาทเดียว แม้จะลดกำไรค่ากลั่นลงมาลิตรละ 1 บาท ก็ไม่ได้ทำให้กำไรของโรงกลั่นลดลงแต่อย่างใด เพราะเป็น ลาภลอย
ถ้าเอาค่าการกลั่นดีเซลของปี 2549 และ 2550 มาเปรียบเทียบ
ค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลปี 51 ควรจะอยู่ที่ 17-18 เหรียญต่อบาร์เรล หรือลิตรละ 3.42-3.62 บาทเท่านั้น ลดค่ากลั่นลงมาลิตรละ 1 บาท ยังมีกำไรฟรีๆอีกลิตรละตั้ง 5 บาทกว่า พอเอาไปชดเชยน้ำมันอย่างอื่นและก๊าซได้อย่างสบาย.
http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=91589คณะกรรมการพลังงานโง่หรือแกล้งโง่ ร่วมมือกับบริษัทน้ำมันต้มคนไทย คิดกันดูเองแล้วกันครับ