กรณี ปืนหาย แจ้งความแล้ว แต่ไปเจอภายหลัง ตำรวจแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ

[mxcop]

ผมไปที่สถานีตำรวจมา ผมไปถอนแจ้งความแต่  ตำรวจดำเนิน ข้อหาแจ้งความเท็จ  กรณีนี้ผมจะโดนปรับเท่าไหร่ครับ 

พิจารณาคำสำคัญคำว่า "ผมจะโดนปรับเท่าไหร่ครับ"  แสดงว่าเค้ายังไม่ถูกตำรวจดำเนินคดี เพราะแจ้งความเท็จเป็นความผิดลหุโทษ พนักงานสอบสวนมีอำนาจปรับ ถ็ถูกปรับไปแล้วเค้าก็คงรู้แล้วว่าเท่าไหร่ จริงมั๊ยท่านเจ้าของกระทู้

[HALL]

ผมได้ไปดำเนินเรื่องมาแล้วครับ  ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ชี้แนะ ครับ   

[Jeam_9]

ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ เพราะคดีอาญา อาศัยเจตนาเป็นหลักอยู่แล้ว หากท่านแจ้งความเพราะหาไม่เจอ ก็เจตนาชัดเจนอยู่แล้ว แต่หากให้คนอื่นยืมไปแล้วไปก่อเหตุ และท่านมาแจ้งความเพื่อเอาตัวรอดที่หลังก็คนละเจตนาอยู่แล้ว ถ้าตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานี้แก่ท่าน ก็ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะสำนวนดคีตัองกล่าวโทษเจ้าของปืนอยู่แล้ว หากมีการเกี่ยวพันกับการใช้ปืนผิดมือด้วยนะ ผมว่าอะ

[HALL]

ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ เพราะคดีอาญา อาศัยเจตนาเป็นหลักอยู่แล้ว หากท่านแจ้งความเพราะหาไม่เจอ ก็เจตนาชัดเจนอยู่แล้ว แต่หากให้คนอื่นยืมไปแล้วไปก่อเหตุ และท่านมาแจ้งความเพื่อเอาตัวรอดที่หลังก็คนละเจตนาอยู่แล้ว ถ้าตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานี้แก่ท่าน ก็ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะสำนวนดคีตัองกล่าวโทษเจ้าของปืนอยู่แล้ว หากมีการเกี่ยวพันกับการใช้ปืนผิดมือด้วยนะ ผมว่าอะ

ก็มันลืมจริงๆ น่ะครับ  เปลี่ยนที่ซ้อนบ่อยก็เป็นแบบนี้  ต่อไปจะต้องหาที่ประจำแล้วครับ ... 

[Lek Sti]

   หากท่านแจ้งความว่าปืนหาย  เพราะเข้าใจโดยสุจริตว่า ปืนหายจริง  ต่อมาเจอปืนโดยบังเอิญ  ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จครับ เพราะขาดเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ครับ 
           แต่หากท่านแจ้งว่าหายที่โน่น ที่นี่ แต่ค้นหาเจอในภายหลังนั้น  ย่อมเห็นว่าท่านเองก็ไม่คิดว่าปืนหายจริง  จึงยังคงค้นหาอยู่  ถ้าเป็นอย่างนี้ การด่วนสรุปไปแจ้งความว่าหายนั้น  อาจผิดฐานแจ้งความเท็จได้จริงครับ
           การให้การถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า  แจ้งว่าหายที่ไหน อย่างไร แล้วเจอปืนได้อย่างไร  นั่นแหละคือจุดที่บ่งบอกว่า  ท่านแจ้งความเท็จหรือไม่
           เมื่ออยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน การพูดความจริงทั้งหมด คือ การรับสารภาพดีๆ นั่นเองครับ  ขอให้ท่านปรึกษาทนายความหรือผู้รู้กฎหมายที่ไว้วางใจได้  ก่อนให้การต่อสู้คดีนะครับ  จะได้เรียบเรียงข้อเท็จจริงได้ สิ่งใดควรพูด ไม่ควรพูด สิทธิการพบและปรึกษาทนายความนั้น  เป็นสิทธิของผู้ต้องหาและจำเลยตามกฎหมายอยู่แล้วนะครับ 
           ระมัดระวังให้ดีครับ  เรื่องนี้เรื่องใหญ่แล้วครับ  ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีโดยเร็วครับ 

[Jeam_9]

ตอนเจอ เจอกับคนอื่นหรือเปล่า เลยฟอร์มว่ามีคนยืมไป เลยเจอข้อหานี้นะ.......ปกติตำรวจเค้าไม่แจ้งข้อหานี้กับเจาของปืนหรอกครับ ยกเว้นเพื่อนยืมไปใช้กับเอาไปจำนำเท่านั้นแหละ

[สีสัน]

  หากท่านแจ้งความว่าปืนหาย  เพราะเข้าใจโดยสุจริตว่า ปืนหายจริง  ต่อมาเจอปืนโดยบังเอิญ  ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จครับ เพราะขาดเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ครับ 
           แต่หากท่านแจ้งว่าหายที่โน่น ที่นี่ แต่ค้นหาเจอในภายหลังนั้น  ย่อมเห็นว่าท่านเองก็ไม่คิดว่าปืนหายจริง  จึงยังคงค้นหาอยู่  ถ้าเป็นอย่างนี้ การด่วนสรุปไปแจ้งความว่าหายนั้น  อาจผิดฐานแจ้งความเท็จได้จริงครับ
           การให้การถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า  แจ้งว่าหายที่ไหน อย่างไร แล้วเจอปืนได้อย่างไร  นั่นแหละคือจุดที่บ่งบอกว่า  ท่านแจ้งความเท็จหรือไม่
           เมื่ออยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน การพูดความจริงทั้งหมด คือ การรับสารภาพดีๆ นั่นเองครับ  ขอให้ท่านปรึกษาทนายความหรือผู้รู้กฎหมายที่ไว้วางใจได้  ก่อนให้การต่อสู้คดีนะครับ  จะได้เรียบเรียงข้อเท็จจริงได้ สิ่งใดควรพูด ไม่ควรพูด สิทธิการพบและปรึกษาทนายความนั้น  เป็นสิทธิของผู้ต้องหาและจำเลยตามกฎหมายอยู่แล้วนะครับ 
           ระมัดระวังให้ดีครับ  เรื่องนี้เรื่องใหญ่แล้วครับ  ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีโดยเร็วครับ 

ผมเคยหาบัตรประชาชนไม่เจอ ไปแจ้งความที่โรงพัก(ในอดีต) แม้ปัจจุบันจะแจ้งที่สำนักงานเขต ว่าทำใบหายที่บ้าน พี่เขาบอกว่าถ้าที่บ้านแสดงว่าหาไม่เจอ ไม่ใช่ทำหล่นหาย แจ้งไม่ได้ สุดท้ายต้องบอกว่าเดินแล้วหล่นหาย พี่เขาถึงทำเรื่องให้::011::

แล้วกรณีเราซ่อนปืนในบ้านแล้วหาไม่เจอ แล้วไปแจ้งว่าหายที่บ้าน ผมก็เชื่อว่าเขาไม่รับแจ้ง ก็ต้องแจ้งความว่าหายนอกบ้าน ยิ่งหาเจอจะผูกเรื่องอย่างไงละครับว่าใครเอามาคืนก็โดนปืนผิดมือ

[Sundance]

ทำให้นึกถึงนักการเมืองคนหนึ่ง ตำรวจขอดูปืน บอกว่าปืนหาย ตำรวจถามว่าทำไมไม่แจ้งความ ก็บอกว่า หาไม่เจอ ยังไม่หาย