คำถาม ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเลยครับ
ผมใช้ประโยคเช่นนั้นสิครับ จึงถือว่าเป็นมิตรและถือเป็นกันเอง
หากถามกับสมาชิกใหม่ที่ไม่รู้จัก คงเป็นประโยคคนละแบบที่เรียบกว่า
เช่นเดียวกับคุยกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน กับเพื่อนที่เพิ่งรู้จักวันนี้ คงใช้ประโยคแตกต่างกัน
คุณ PU45 และคุณทิวัตร์ ต่างก็ไม่ใช่สมาชิกใหม่ของเวปบอร์ดนี้แล้ว (คุณทิวัตร์เป็นสมาชิกเก่าเปลี่ยนชื่อใหม่)
คุณ GigaByte ลองสังเกตุว่าเมื่อผมถามแล้ว ทั้งสองก็ตอบกลับปรกติ รวมทั้งคุณ lek และคุณ m620 ด้วย
อย่าประหยัดลูกเดียวนาน้าโจ ........ ร้อยโลใช้แก๊ส 80 โล น้ำมันสัก 20 โล ..... ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ไปนาน
ลุงปูครับ ทุกประมาณ 100 กม. ที่ขับแก๊ส จะสลับมาใช้น้ำมันประมาณ 5 กม. ครับ อ่านที่ลุงปูโพสต์ ผมว่าน้อยไปสักหิด ที่ใช้ประมาณนี้ผมก็หยบๆอ่านเอาแถวเวปแก๊สนั่นล่ะครับ แต่ตอนเข้าปั๊มแวะพักผ่อน เข้าห้องน้ำ ก็เดินเบาเป็นน้ำมันตลอดครับ
ขอทราบเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หน่อยครับ ว่าเหตุใดต้องสลับใช้น้ำมันบ้าง
และการทำอย่างนั้นช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ ?
ท่านจะไม่ได้มิตรก็เพราะตรงนี้นะคราบ คุณGigaByte
โปรดเข้าใจใหม่ครับ
ด้วยความเคารพครับ
อย่าประหยัดลูกเดียวนาน้าโจ ........ ร้อยโลใช้แก๊ส 80 โล น้ำมันสัก 20 โล ..... ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ไปนาน
ลุงปูครับ ทุกประมาณ 100 กม. ที่ขับแก๊ส จะสลับมาใช้น้ำมันประมาณ 5 กม. ครับ อ่านที่ลุงปูโพสต์ ผมว่าน้อยไปสักหิด ที่ใช้ประมาณนี้ผมก็หยบๆอ่านเอาแถวเวปแก๊สนั่นล่ะครับ แต่ตอนเข้าปั๊มแวะพักผ่อน เข้าห้องน้ำ ก็เดินเบาเป็นน้ำมันตลอดครับ
ขอทราบเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หน่อยครับ ว่าเหตุใดต้องสลับใช้น้ำมันบ้าง
และการทำอย่างนั้นช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ ? คำถาม ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเลยครับ
ขออภัยครับเพิ่งมาเห็น ....... ผมกับเฮียอ๋องและเพื่อนสมาชิกหลายๆท่านเคยพูดคุยสอบถามขอคำแนะนำ
ตลอดถึงเสวนาหน้าเวปบอร์ดนี้เป็นประจำ มากบ้างน้อยบ้าง เราถือเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้องกัน ไม่เคยคิด
ถือสาหาความหรือใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆครับ ...... ท่านอาจไม่คุ้นเคยการตั้งคำถามลักษณะนี้เลยคิดเลยเถิด
ไปเป็นอย่างอื่น ....... ผมก็อาจเคยตั้งคำถามทำนองนี้แก่เพื่อนสมาชิกเหมือนกัน ซึ่งส่วนลึกๆแล้วไม่มีเจตนา
ไม่ดีแต่อย่างไร ........ เราอยู่ที่นี่ผมถือว่าเป็นพวกเดียวกันอยู่บ้านเดียวกันกินข้าวร่วมโต๊ะกัน หนักนิดเบาหน่อย
ก็อภัยให้กัน ........ ท่านลองศึกษาไปสักระยะจะเข้าใจเอง ....... ท่านชลธิตเป็นสมาชิกเวป อวป.ก่อนผมครับ
ถ้าไม่นับอายุให้ถือความอาวุโสของการเป็นสมาชิกที่มาก่อน ....... ตัวท่านกิกะไบต์อาจมีอายุสูงกว่าหลายคน
แต่เมื่อมาสมัครก็นับเป็นน้อง ....... พอสนิทกันสักพักก็มีการพบปะ eyeball กันก็จะเชื่อมความสัมพันธ์แน่นแฟ้น
เพิ่มความสามัคคี อย่างเหนียวแน่นตลอดไป ....... ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำหรับคำท้วงติง ขออภัยที่อาจมองเหตุการณ์แค่มุมเดียว
ท่านทั้งสอง หรือสาม เป็นอาวุโสเม็มเบอร์ของที่นี่ ผมน่าจะประมาณการณ์ได้ ว่าท่าน ๆ คงต้องรู้จักกันแล้วบ้าง ทำไมผมถึงนึกไม่ถึง ว่าท่านคงจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ทีนี้ มาว่าถึง ทำไมผมจึงมองว่า คำถามไม่เป็นมิตร ตัดเรื่องความสนิทสนม รู้จักกันเป็นการส่วนตัวออกนะครับ เหลือแต่หน้าเว็บบอร์ดกับความเป็นสมาชิกของทุก ๆ ท่าน รวมทั้งตัวผมด้วย
เรื่องแก๊สติดรถ เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ แถมเป็นเรื่องที่รัฐไม่ได้ให้การสนับสนุนมากนัก(ว่าถึงแอลพีจี) คนส่วนใหญ่ ทั้งติดแก๊สแล้ว และไม่ติดแก๊สที ต่างก็มีความรู้เรื่องแก๊สทางเทคนิค แค่ "เห็นเขาว่า" เป็นส่วนมาก รวมทั้งผมด้วย มีเรื่องอะไรบ้างล่ะ เช่น ทำไมต้องวางหม้อต้มเป็นแนวขนานกับตัวรถ ผมถามมาหลายคนแล้ว ไม่ได้คำตอบ ทั้งที่คนที่ผมถาม เป็นช่างติดตั้งแก๊สที่ผ่านงานมานับร้อยคันก็ตอบไม่ได้ ดันทุรังให้ตอบก็พาลงทะเลไปเลย กับอีกอย่าง คือทำไมต้องสตาร์ทน้ำมัน สตาร์ทแก๊สไม่ได้หรือ อันนี้ได้คำตอบ แต่ไม่ชัดเจนนัก คำตอบคือว่า ประเด็นแรก แก๊สมีสถานะในถังเป็นของเหลว จะเอาใช้งานต้องทำให้ร้อนก่อนมันถึงจะเป็นแก๊สที่พร้อมใช้ อ้าวแล้วทำไมแก๊สในครัวไม่ต้องล่ะ เพราะแก๊สในครัว ปริมาณการจ่ายออกมาน้อยมากเมื่อเทียบกับรถ กับอีกประเด็น เพราะวงจรสตาร์ทสำหรับรถคาบูเรเตอร์ น้ำมันวิ่งอีกทางหนึ่ง ไม่ใช่ทางปรกติตอนเครื่องติดแล้ว แต่ไปวิ่งทางวงจรโช๊ก ผมก็ได้รู้ตอนนั้น ว่าคาบูฯ มันมีวงจรภายในตั้งเกือบสิบวงจร ซึ่งวงจรเหล่านั้น แก๊สเข้าไม่ถึง จึงต้องสตาร์ทน้ำมัน คำถามที่ถามเพราะความไม่รู้ ไปถามคนที่ไม่รู้เหมือนกัน แต่มีความเชื่อ ว่าต้องทำยังงั้นยังงี้ ถามบางทีผิดจังหวะ งานเข้าเลย
ผมจะเล่าให้ฟังอีกเรื่อง เป็นเรื่องปืนที่ท่าน ๆ อาจเคยได้ยินมาบ้าง เรื่องยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งถ้าท่านดูที่ผมเคยโพสต์ไว้ก่อนหน้า จะเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับการยิงปืนขึ้นฟ้า ด้วยเหตุผลหลายประการ บ้านผมมันมีนักเลงแก่หลายคน ชอบกันจริงกับการประกาศศักดาด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า ผมถามเขา ว่า ทำไมต้องยิงปืนขึ้นฟ้า มันมีโอกาสหล่นปุ๊ลงบนหัวคนได้นะ จะด้วยอะไรก็เกินปรมาณ เขาโกรธครับ โกรธกับคำถามโง่ ๆ ของผม หาว่าผมรู้มาก หัวหมอไปโน่น วันนั้น จังหวะการถามของผมคงจะเอื้อให้เขาคิดยังงั้นด้วยมั๊ง ผมมานั่งทบทวนดู กูเป็นคนไม่รู้จังหวะการพูดเลยนี่หว่า ถ้าจะต้องไปเข้าคอร์สอบรมซะหน่อยแล้วมั๊งเนี่ย
ครั้งนี้ก็คงข้อหาเดียวกัน หรือจะข้อหาต่างไปจากนี้ ก็คงไม่มากเท่าไหร่ คือทะลึ่งไม่รู้ที่ควรไม่ควร เดิม ๆ ก็คือ ไม่รู้จังหวะนั่นแหละ ช่างมันเถอะ
เอาเป็นว่า ผมขอโทษทุกคน ขอรับคำขอโทษของผมไว้ด้วยครับ
