กระผมขอหาญตอบของอเมริกาแล้วกันนะครับ อิอิ
รูปศัพท์ "อนุรักษ์นิยม" คือ "ต้องการไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ด้วยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ของที่พิจารณาว่าดี ว่าเหมาะสมอยู่แล้ว เสื่อมถอยด้อยค่าไป"
ระบบเศรษฐกิจของอเมริกาตั้งแต่สร้างชาตินั้นเชื่อกันมาว่า ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี (นิยม) จะนำความผาสุกด้านการกินดีอยู่ดีมาสู่สังคมโดยรวมมากที่สุด
คนแต่ละคนทำมาหากินกันไป ใครใคร่ค้าอะไรก็ค้า เวลามีคนมาค้าสินค้าอะไรเยอะขึ้น(จำนวนผู้ค้ามากขึ้น) ก็จะมีการแข่งขันให้ได้ราคาถูกลง และหรือมีคุณภาพดีขึ้น ผู้ซื้อผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์เพราะมีของดีราคาไม่แพง (กลไกตลาด)
อาจมีผู้ค้าบางรายที่ไม่สามารถปรับตัวในการแข่งขันได้ ก็ต้องฉิบหายขายตัว ออกจากตลาดไป (หรืออาจจะเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่สามารถแข่งขันได้ดีกว่าของเดิม)
รัฐบาลจะเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุดตามทฤษฎี ไม่ต้องกำหนดราคา เพราะดีมานด์ ซัพพลายของตลาดจะกำหนดสู่จุดที่เหมาะสมที่สุดเอง
ไม่ต้องกำหนดว่าจะมีสินค้าอะไรขายบ้าง ขายจำนวนเท่าใด เพราะเช่นกันดีมานด์ ซัพพลายก็จะกำหนดเอง
ผู้ผลิตผู้บริโภคกำหนดกันเอง รัฐบาลไม่ต้องเสือก ว่าจั๊งซั่น
เวลาพูดถึงสินค้านี่กินความรวมทุกอย่างนะครับ สบู่ ยาสีฟัน รถยนต์ และรวมถึงแรงงานที่ลูกจ้างขายให้นายจ้างเพื่อเอาเงินมาซื้อสินค้าตัวอื่นด้วย
คราวนี้ถ้าเศรษฐกิจไม่เสรีนิยมล่ะ เช่นเป็นเสรีนิยมแบบจำกัด หรือเป็นสังคมนิยม หรือเอาเต็มขั้นแบบคอมมิวนิสต์ไปเลย
รัฐบาลจะเข้ามาเกี่ยวมากขึ้น เพราะเล็งเห็นว่าปล่อยให้กลไกตลาดทำงานไปเต็มที่ อาจมีคนบางคนที่ปรับตัวมิได้ ทั้งฝั่งผู้ผลิต และผู้บริโภค
เช่น ผู้ผลิตมีน้อยแล้วฮั๊วกัน ผู้บริโภคต้องซื้อของแพง
จะรอให้ผู้ผลิตรายใหม่ๆเข้ามาเพื่อให้ราคาลดลง ผู้บริโภคก็อาจจะหมดตูดหรืออดตายไปเสียก่อน ความสมบูรณ์พูนสุขของสังคมก็ไปไม่ถึงจุดที่หวังกันเอาไว้
รัฐต้องเข้ามาแทรก เช่นกำหนดราคาขั้นต่ำหรือราคาสูงสุด หรือจัดแจงให้มีสวัสดิการบางอย่าง หรือกำหนดว่าควรมีผู้ผลิตกี่ราย
ทีนี้การกำหนดราคา หรือกำหนดอะไรก็ตาม พวกที่ไม่เห็นด้วยก็จะบอกว่า.....มันก็จะทำให้แรงจูงใจในการประกอบการมันอาจจะถดถอยไป เพราะตั้งใจทำมาค้าขาย(หรือทำงาน) กับค้าขาย(หรือทำงาน)แบบไม่ค่อยตั้งใจ ผลลัพธ์ไม่ต่างกันมากนัก ทำให้สังคมมีพวกขี้เกียจแฝงเร้น
ผมเขียนมา 3 พารากราฟแล้ว ไอ้เจ้าพารากราฟที่สองและสามน่ะไม่ค่อยเกี่ยวกับคำถามดอกครับ แต่ต้องมีไว้
พรรครีพับลิกันของอเมริกา ซึ่งออกทำนองอนุรักษ์นิยม จะสนับสนุนพารากราฟที่สองมากกว่า เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจเสรีนิยมนำประโยชน์มาสู่สังคมมากกว่า
ก็ชาติอเมริกาเขานำแนวคิดนี้มาสร้างชาติ
แต่ดั้งเดิม คนสนับสนุนแนวคิดนี้ก็ต้องถูกเรียกว่าอนุรักษ์นิยม (ในแบบของประเทศอเมริกา)
ส่วนพรรคดีโมแครต ที่อนุรักษ์นิยมน้อยกว่า ก็จะเชื่อว่ารัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซงกลไกตลาดบ้างตามสมควร ต้องจัดให้มีสวัสดิการด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านการเลี้ยงดูคนแก่เฒ่า คนด้อยโอกาส มากกว่าพวกรีพับลิกัน เลยอาจจะเอียงๆมาทางพารากราฟที่สามมากกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองพรรคล้วนแต่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมนะครับ มันไม่ขาวจัดดำจัด แบบแยกกันขาด ต่างกันที่ดีกรีของการแทรกแซงของรัฐบาลเท่านั้นเอง
โอย
เขียนมาถึงตรงนี้แล้วผมน่าจะเชื่อคำเตือนคุณต๊อกนะว่า คำถามมันกว้างมาก ตอบย๊ากยาก แถมตอบแล้วก็ไม่ครอบคลุมด้วย
แต่มีปัญญาตอบได้แค่นี้เอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปล. ผมว่าคำถามมันแปร่งๆ นิดนึง ถ้าถามว่า "ทำไมประเทศอเมริกาถึงสนับสนุนหรือเลือกใช้แนวทางเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม" มันจะไม่สับสนกับรูปคำนะครับ (อ่านคำตอบของพี่โทน 73 ดีๆ)