เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 17, 2024, 03:17:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รอง สวป. บอก ปืนมีไว้เก็บ ขณะจะยิงซ้อมในสนาม ใช่หรือครับ?  (อ่าน 11036 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Mango
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 352


"รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต"


« ตอบ #60 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 07:23:00 PM »

แหม..ดีครับกระทู้นี้  Grin เป็นอย่างข้างบนครับร้อยตำรวจเอกขึ้นไปพกได้ แต่ ครับ มีแต่ ถ้าไปราชการนอกเครื่องแบบก็ต้องพาไปโดย
ปกปิดนะครับ โดยปกติทั่วไปผมกับลูกน้องจะไม่แสดงให้คนอื่นรู้โดยเด็ดขาดว่าเป็นตำรวจและพกปืนไปด้วย Smiley ไม่อย่างนั้นก็สืบอะไรก็ไม่ได้ Smiley
อ้อ...ถ้าไม่อยู่ในเวลาปฏิบัติหน้าที่ก็เหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไปครับ แล้วส่วนใหญ่รวมทั้งผมด้วยถ้าไปเที่ยวห้างฯ ไปธุระ ไม่พกปืนไปด้วยหรอกครับ...หนัก  Grin แต่ระเบียบก็คลุมไปถึงนะครับเพราะตำรวจไปไหนๆก็เป็นตำรวจ เกิดมีคนรู้จักว่าเป็นแล้วเกิดเหตุอะไรซักอย่างนี่
บอกว่าไม่เกี่ยวไม่ได้เข้าเวรฯ นี่อ้างไม่ได้นะครับ Undecided
ถูกต้องครับพี่วีระศักดิ์....เห้นด้วยอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่คนนึง
บันทึกการเข้า
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #61 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 08:07:17 PM »

ตำรวจมีกฎหมายกำหนดหน้าที่และอำนาจของตำรวจไว้ชัดเจนมากและการเป็นตำรวจคือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมเป็นพื้นฐานของอำนาจหน้าที่(คือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมงและพื้นที่อำนาจคือทั่วราชอาณาจักร)ส่วนการเข้าเวรของตำรวจเป็นหน้าที่เฉพาะที่เพิ่มขึ้นจากหน้าที่พื้นฐาน เช่น ทำหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ช่วงเวลา 08.00-16.00 น.นี้คือหน้าทีเฉพาะที่เพิ่มจากหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยพื้นฐานที่ตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติ ฉะนั้นแม้ว่าจะออกเวรสายตรวจหลัง16.00 น.ไปแล้ว ตำรวจก็ยังคงเป็นตำรวจที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและมีอำนาจตาม ป.วิอาญา ในเรื่องจับกุมเหตุซึ่งหน้าฯหรือจับกุมตามหมายจับ ตลอดเวลาที่ยังรับราชการเป็นตำรวจ ส่วนการพกพาอาวุธปืนติดตัวของตำรวจ ก็สามารถที่จะพกพาได้ตามปกติแม้ว่าจะเลยเวลา 16.00 น.แล้วก็ตามเพราะมีอำนาจพื้นฐานคือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมอยู่แล้ว ถ้าได้พกมาเพื่อปฏิบัติการตามหน้าที่นี้และโดยปกติ ก็จะมีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับตำรวจอยู่แล้วตาม ระเบียบตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 22 บทที่ 13 ข้อ 6 ซึ่งออกให้โดยมีอายุใบอนุญาต 6 เดือน และเป็นใบอนุญาตที่ไม่ได้ออกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จึงสามารถพกพาได้แบบเปิดเผยและสามารถพกพาเข้าไปที่ชุมชน งานนมัสการ รื่นเริงต่างๆได้แต่ต้องพกพาไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการสืบสวนปราบปรามรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยระบุชัดเจนว่าทั้งในและนอกเครื่องแบบ ส่วนข้าราชการตำรวจที่มียศตั้งแต่ ร้อยตำรวจเอกขึ้นไป ระเบียบท่านว่าไม่ต้องมีใบอนุญาตพกพานี้ ท่านก็สามารถพกพาได้(ผมก็มีใบอนุญาตชนิดนี้ติดตัวอยู่)
จนท.ที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๘ ทวิ  (๑) ได้แก่ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน   ทหารและตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่  
ไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตใด ๆ เลย
ตร.ออกระเบียบมาในลักษณะ  "เกินดีกว่าขาด"


  ข้อความข้างบนผมยกมาจากกระทู้หนึ่ง ครับ ขอบคุณครับ  ไหว้

   ขอให้เข้าใจโดยทั่วกันนะครับ ตัวที่เน้นสีแดง คือ ท่านผู้การสุพินท์ ท่านได้กรุณาบอกไว้ ชัดเจนแล้วครับ
ไม่เกี่ยวกับชั้นยศใดๆ ทั้งสิ้น สำคัญที่เป็นเจ้าพนักงานตามที่กฎหมายยกเว้นหรือไม่ ไม่สำคัญว่าแต่งเครื่องแบบหรือไม่
 สำคัญที่ว่าในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ครับ ตัวผมเอง ทำงานนอกเครื่องแบบมาตลอดครับ จะแต่งเครื่องแบบก็ตอนไป
ขึ้นศาลกับไปร่วมงานพิธีที่สมควรต้องแต่งเครื่องแบบเพื่อให้เกียรติงานสถานที่และบุคคล ครับ

                           เรื่องที่ท่าน จขกท เล่าให้ฟัง นี้ มันเป็นเรื่อง ของคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จริง น่าขายหน้าจริงๆ
อุตส่ามียศมีตำแหน่ง พูดจาแบบนี้เสียหายครับ เสียหายจริงๆ แต่แบบนี้ก็มีให้เห็นมากพอสมควร ตัวผมเองก็เจอบ่อยๆ
แต่ เจอแล้วก็ผ่านไป ครับ เพราะอธิบายยังไง คนแบบนี้ก็ไม่รับ ไม่เข้าใจ เค้าคิดว่าเค้าใ..ญ่กว่าผมครับ (ผมมันแค่ ผู้หมู่ ครับ)   
  ขำก๊าก

ผู้หมู่แต่รู้จริงครับ ขอยกย่อง  ตร ไม่ว่าเวลาไหนแม้ออกเวรก็เป็น ตร มีเหตุตอนออกเวรแล้วไม่สามารถอ้างได้ว่าออกเวรแล้ว ออกแน่ออกจาก ตร เลย คนที่มาอยู่หน้าที่ตรงนี้ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ เทศกาลไม่เคยรู้จัก หยุดวันที่เขาไม่หยุดกัน ครอบครัวมาทีหลัง หน้าที่มาก่อน แต่คนทัวไปมองแค่ภาพที่ไม่ดีก่อน เหมือน รอง ผบช น บอกว่า ตร ต้นทุนทางสังคมมันน้อย มีปากก็เหมือนไม่มีครับ ฟังอย่างเดียวเดี๋ยวคนอื่นเขาพูดเอง ว่ากันไปครับ
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
GiG_Glock
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 224



« ตอบ #62 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 08:57:26 PM »

อย่างนี้เรียก ท่านรอง  แอ๊คอาร์ท   รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
Ch@i-Yo.
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 452



« ตอบ #63 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 09:08:49 PM »

สืบทราบมาแล้วครับชื่อท่านรอง เต่า เศร้า
เต่าล้านปี ...
บันทึกการเข้า

" Forgive your enemies  but  never forget their names "... J.F.K. ...
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #64 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 09:29:47 PM »

เมืองไทย ยังมีเจ้าหน้าที่ ที่คิดอย่างนี้อีกเยอะนะครับ
ขออย่าให้ได้เจอเลย
บันทึกการเข้า
Enruoblem
Hero Member
*****

คะแนน 84
ออฟไลน์

กระทู้: 1755



« ตอบ #65 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 10:02:06 PM »

สงสัยว่าทำไมต้องเรียก "ท่านรอง" ด้วยครับ??  

ผมสงสัยจริงๆ เห็นใช้กันเกลื่อน พร่ำเพรื่อ เอะอะก็ท่านนั้น ท่านนี้ บ่อยครั้งที่ได้ยินแล้วเอียน หลายคนก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผม

ผู้ใดมีข้อมูลที่อ้างอิงได้เำกี่ยวกับที่มาที่ไป ของการใช้คำเรียก "ท่าน..."  ขออธิบายเป็นวิทยาทานด้วยครับ

หมายเหตุ: ถ้าเห็นว่าข้อความของผมไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่เหมาะสม จะลบก็ได้ครับ
คงมาจากเจ้าขุนมูลนาย ถูกใจทั้งคนเรียกและคนถูกเรียกครับ

ผมจะใช้เรียกคนที่รู้จักและเคารพ  นอกนั้นใช้คุณครับ มองว่าทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง มีคนกลุ่มเดียวสังคมอยู่ไม่ได้ เด็กเก็บจานในร้านอาหารก็มีความสำคัญในสังคม เคยเห็นนั่งร่วมโต๊ะกับผู้บริหารธนาคารทั้งชุดกันเปื้อน แต่ไม่ใช่เมืองไทยนะครับ ที่กล่าวกันไว้ว่า คนไทยนอบน้อมกับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์และคนมีตังค์ ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ เราถึงได้มีนายทะเบียนที่มีอำนาจสุดๆ เกียวกันไม๊ครับ
บันทึกการเข้า

S76C+,C++
sinop
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #66 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 10:14:23 PM »

 แบร่ ยี๊ กิ๊วก๊าว อ๋อย บู่ แลบลิ้น คิก คิก ตกใจหน้าซีด
เก่งมาแม่นข้อกฎหมายขอให้ได้เป็น  รอง  ไปจนเกษียณอายุราชการเลยครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
หมื่นขุนราม
Jr. Member
**

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 28



« ตอบ #67 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 10:34:26 PM »

3 จังหวัดฃายแดนใต้ ยินดีต้อนรับครับท่านรอง
-------------------ด้วยความเคารพ-------------
บันทึกการเข้า

ก่อนที่จะเอามือล้วง..ปืนในกระเป๋ากางเกง ....จงเอื้อมมือลงไปผูกเชือกรองเท้าให้แน่นเสียก่อน....คริ  คริ
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #68 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 11:11:02 PM »

แบร่ ยี๊ กิ๊วก๊าว อ๋อย บู่ แลบลิ้น คิก คิก ตกใจหน้าซีด
เก่งมาแม่นข้อกฎหมายขอให้ได้เป็น  รอง  ไปจนเกษียณอายุราชการเลยครับ ไหว้

 ไหว้ ด้วยคนครับ  ไหว้




ถึงจะเรียก "ท่าน" ก็ด้วยดาวบนบ่าที่หลวงให้มาติดเท่านั้นแหละครับ...

แต่จะเคารพรึ จะด่า....

ก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติของแต่ละบุคคล...


ส่วนกรณีรองเต่า...

พึน้องก็เห็นกันอยู่...ว่าสรรเสริญกันไปในทางใด... แบร่
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #69 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 07:42:33 AM »

หวังว่าไม่ใช่สนามที่ผมไปยิงประจำนะครับ เพราะส่วนใหญ่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบ
มาใช้ซ้อมประจำและแต่ละนายมีอัธยาศัยดี ส่งเสริมให้พลเมืองดีมีใช้อาวุธได้ถูกต้อง
ตามกฏหมาย เพื่อป้องกันตนเองและอาจช่วยเรื่องงานตำรวจได้อีกแรง
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
PATRIOT.
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 94



« ตอบ #70 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 08:19:44 AM »

อย่างท  รอง (ไม่รู้รองจริงป่าว) เป็นตำรวจ ถึงแม้ออกเวรแล้วแต่ถ้าเห็นความผิดซึ่งหน้า ก็ต้องแสดงตัว เข้าจับกุม   ในลักษณะนี้ ถ้าท่านเห็นว่าเป็นความผิด ทำไมไม่จับละครับ อย่างนี้ถือว่าท่านละเว้นฯ  หรือป่าวครับ มีความผิดนะครับ เจ้านาย ย ย ย ย  ย  ย ย
บันทึกการเข้า
AI.MAKER
สู้เพื่อลูก!!!!ปืน
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 431


อัตตนา โจทยัตตานัง


« ตอบ #71 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 09:46:20 AM »

สงสัยว่าทำไมต้องเรียก "ท่านรอง" ด้วยครับ??  

ผมสงสัยจริงๆ เห็นใช้กันเกลื่อน พร่ำเพรื่อ เอะอะก็ท่านนั้น ท่านนี้ บ่อยครั้งที่ได้ยินแล้วเอียน หลายคนก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผม

ผู้ใดมีข้อมูลที่อ้างอิงได้เำกี่ยวกับที่มาที่ไป ของการใช้คำเรียก "ท่าน..."  ขออธิบายเป็นวิทยาทานด้วยครับ

หมายเหตุ: ถ้าเห็นว่าข้อความของผมไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่เหมาะสม จะลบก็ได้ครับ
คงมาจากเจ้าขุนมูลนาย ถูกใจทั้งคนเรียกและคนถูกเรียกครับ

ผมจะใช้เรียกคนที่รู้จักและเคารพ  นอกนั้นใช้คุณครับ มองว่าทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง มีคนกลุ่มเดียวสังคมอยู่ไม่ได้ เด็กเก็บจานในร้านอาหารก็มีความสำคัญในสังคม เคยเห็นนั่งร่วมโต๊ะกับผู้บริหารธนาคารทั้งชุดกันเปื้อน แต่ไม่ใช่เมืองไทยนะครับ ที่กล่าวกันไว้ว่า คนไทยนอบน้อมกับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์และคนมีตังค์ ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ เราถึงได้มีนายทะเบียนที่มีอำนาจสุดๆ เกียวกันไม๊ครับ

ต้องแก้ค่านิยมตรงนี้กันครับ เพราะคงยังเป็นความเคยชินในสังคมบ้านเรา

เพื่อนผมเป็นคนเยอรมัน ได้รับงานมาเป็นผู้บริหารใหญ่ประจำประเทศไทย จริงๆแล้วอยู่ทีเยอรมันเขาก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางๆเท่านั้น(ระดับหัวหน้าแผนก) พอมาอยู่สาขาที่เมืองไทยแถวปราจีนบุรี ใหญ่ซะเต็มประดาและสุขสบายซะจนเคยตัว สั่งคนไทยเป็นทาสเลย เพราะระบบพินอบพิเทาเกินเหตุของเราทำให้เพื่อนผมเคยตัว ทั้งรถประจำตำแหน่ง คนขับ เลขา อยากไปไหนไปทั้งงานและส่วนตัว เวลาประชุมก็ไม่มีใครกล้าหือกล้าทัดทาน  จะเอาอะไรบอกเดี๋ยวมีคนจัดให้ กาแฟตอนเช้าไม่ถูกปากจะเอากาแฟจากบราซิล ก็ต้องวิ่งจัดหาจัดซื้อกันข้ามประเทศมาประเคน

วันย้ายไปประเทศอื่นหมอนั่นดิ้นรนสารพัดเพื่อให้ได้อยู่เมืองไทยต่อ แต่ไม่สำเร็จ วันจะย้ายไปพนักงานจัดเลี้ยงส่งที่ต่างจังหวัดกันใหญ่โตยังกับงานวัด ไม่ใช่เพราะรักอะไรหมอนี่หรอกแต่เป็นธรรมเนียมที่เขาทำกันมา เพราะหมอนี่พนักงานเกลียดมากกว่ารักครับ  ลงไว้เป็นอุทธาหรณ์ ขนาดฝรั่งที่ไม่เคยมีอำนาจหรือเจ้ายศเจ้าอย่างมาก่อน พอมาถูกพินอบพอเทามากๆเข้าก็นิสัยเปลี่ยนไป ลุ่มหลงไปในทันที 

ไม่อยากเจออย่าง ท่านๆทั้งหลาย ก็ควรเลิกค่านิยมแบบนี้ เพราะเรื่องการเคารพให้เกียรติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงามมันคนละเรื่องกับค่านิยมระบบเจ้าขุนมูลนายครับ

บันทึกการเข้า

toygun
Hero Member
*****

คะแนน 194
ออฟไลน์

กระทู้: 3027



« ตอบ #72 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 10:26:41 AM »

ตำรวจมีกฎหมายกำหนดหน้าที่และอำนาจของตำรวจไว้ชัดเจนมากและการเป็นตำรวจคือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมเป็นพื้นฐานของอำนาจหน้าที่(คือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมงและพื้นที่อำนาจคือทั่วราชอาณาจักร)ส่วนการเข้าเวรของตำรวจเป็นหน้าที่เฉพาะที่เพิ่มขึ้นจากหน้าที่พื้นฐาน เช่น ทำหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ช่วงเวลา 08.00-16.00 น.นี้คือหน้าทีเฉพาะที่เพิ่มจากหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยพื้นฐานที่ตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติ ฉะนั้นแม้ว่าจะออกเวรสายตรวจหลัง16.00 น.ไปแล้ว ตำรวจก็ยังคงเป็นตำรวจที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและมีอำนาจตาม ป.วิอาญา ในเรื่องจับกุมเหตุซึ่งหน้าฯหรือจับกุมตามหมายจับ ตลอดเวลาที่ยังรับราชการเป็นตำรวจ ส่วนการพกพาอาวุธปืนติดตัวของตำรวจ ก็สามารถที่จะพกพาได้ตามปกติแม้ว่าจะเลยเวลา 16.00 น.แล้วก็ตามเพราะมีอำนาจพื้นฐานคือมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมอยู่แล้ว ถ้าได้พกมาเพื่อปฏิบัติการตามหน้าที่นี้และโดยปกติ ก็จะมีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับตำรวจอยู่แล้วตาม ระเบียบตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 22 บทที่ 13 ข้อ 6 ซึ่งออกให้โดยมีอายุใบอนุญาต 6 เดือน และเป็นใบอนุญาตที่ไม่ได้ออกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จึงสามารถพกพาได้แบบเปิดเผยและสามารถพกพาเข้าไปที่ชุมชน งานนมัสการ รื่นเริงต่างๆได้แต่ต้องพกพาไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการสืบสวนปราบปรามรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยระบุชัดเจนว่าทั้งในและนอกเครื่องแบบ ส่วนข้าราชการตำรวจที่มียศตั้งแต่ ร้อยตำรวจเอกขึ้นไป ระเบียบท่านว่าไม่ต้องมีใบอนุญาตพกพานี้ ท่านก็สามารถพกพาได้(ผมก็มีใบอนุญาตชนิดนี้ติดตัวอยู่)
จนท.ที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๘ ทวิ  (๑) ได้แก่ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน   ทหารและตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่  
ไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตใด ๆ เลย
ตร.ออกระเบียบมาในลักษณะ  "เกินดีกว่าขาด"


  ข้อความข้างบนผมยกมาจากกระทู้หนึ่ง ครับ ขอบคุณครับ  ไหว้

   ขอให้เข้าใจโดยทั่วกันนะครับ ตัวที่เน้นสีแดง คือ ท่านผู้การสุพินท์ ท่านได้กรุณาบอกไว้ ชัดเจนแล้วครับ
ไม่เกี่ยวกับชั้นยศใดๆ ทั้งสิ้น สำคัญที่เป็นเจ้าพนักงานตามที่กฎหมายยกเว้นหรือไม่ ไม่สำคัญว่าแต่งเครื่องแบบหรือไม่
 สำคัญที่ว่าในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ครับ ตัวผมเอง ทำงานนอกเครื่องแบบมาตลอดครับ จะแต่งเครื่องแบบก็ตอนไป
ขึ้นศาลกับไปร่วมงานพิธีที่สมควรต้องแต่งเครื่องแบบเพื่อให้เกียรติงานสถานที่และบุคคล ครับ

                           เรื่องที่ท่าน จขกท เล่าให้ฟัง นี้ มันเป็นเรื่อง ของคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จริง น่าขายหน้าจริงๆ
อุตส่ามียศมีตำแหน่ง พูดจาแบบนี้เสียหายครับ เสียหายจริงๆ แต่แบบนี้ก็มีให้เห็นมากพอสมควร ตัวผมเองก็เจอบ่อยๆ
แต่ เจอแล้วก็ผ่านไป ครับ เพราะอธิบายยังไง คนแบบนี้ก็ไม่รับ ไม่เข้าใจ เค้าคิดว่าเค้าใ..ญ่กว่าผมครับ (ผมมันแค่ ผู้หมู่ ครับ)   
  ขำก๊าก

ผู้หมู่แต่รู้จริงครับ ขอยกย่อง  ตร ไม่ว่าเวลาไหนแม้ออกเวรก็เป็น ตร มีเหตุตอนออกเวรแล้วไม่สามารถอ้างได้ว่าออกเวรแล้ว ออกแน่ออกจาก ตร เลย คนที่มาอยู่หน้าที่ตรงนี้ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ เทศกาลไม่เคยรู้จัก หยุดวันที่เขาไม่หยุดกัน ครอบครัวมาทีหลัง หน้าที่มาก่อน แต่คนทัวไปมองแค่ภาพที่ไม่ดีก่อน เหมือน รอง ผบช น บอกว่า ตร ต้นทุนทางสังคมมันน้อย มีปากก็เหมือนไม่มีครับ ฟังอย่างเดียวเดี๋ยวคนอื่นเขาพูดเอง ว่ากันไปครับ
Grin Grinอันนี้ถูกใจ คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #73 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 10:27:19 AM »

สงสัยว่าทำไมต้องเรียก "ท่านรอง" ด้วยครับ??  

ผมสงสัยจริงๆ เห็นใช้กันเกลื่อน พร่ำเพรื่อ เอะอะก็ท่านนั้น ท่านนี้ บ่อยครั้งที่ได้ยินแล้วเอียน หลายคนก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผม

ผู้ใดมีข้อมูลที่อ้างอิงได้เำกี่ยวกับที่มาที่ไป ของการใช้คำเรียก "ท่าน..."  ขออธิบายเป็นวิทยาทานด้วยครับ

หมายเหตุ: ถ้าเห็นว่าข้อความของผมไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่เหมาะสม จะลบก็ได้ครับ
คงมาจากเจ้าขุนมูลนาย ถูกใจทั้งคนเรียกและคนถูกเรียกครับ

ผมจะใช้เรียกคนที่รู้จักและเคารพ  นอกนั้นใช้คุณครับ มองว่าทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง มีคนกลุ่มเดียวสังคมอยู่ไม่ได้ เด็กเก็บจานในร้านอาหารก็มีความสำคัญในสังคม เคยเห็นนั่งร่วมโต๊ะกับผู้บริหารธนาคารทั้งชุดกันเปื้อน แต่ไม่ใช่เมืองไทยนะครับ ที่กล่าวกันไว้ว่า คนไทยนอบน้อมกับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์และคนมีตังค์ ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ เราถึงได้มีนายทะเบียนที่มีอำนาจสุดๆ เกียวกันไม๊ครับ

ต้องแก้ค่านิยมตรงนี้กันครับ เพราะคงยังเป็นความเคยชินในสังคมบ้านเรา

เพื่อนผมเป็นคนเยอรมัน ได้รับงานมาเป็นผู้บริหารใหญ่ประจำประเทศไทย จริงๆแล้วอยู่ทีเยอรมันเขาก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางๆเท่านั้น(ระดับหัวหน้าแผนก) พอมาอยู่สาขาที่เมืองไทยแถวปราจีนบุรี ใหญ่ซะเต็มประดาและสุขสบายซะจนเคยตัว สั่งคนไทยเป็นทาสเลย เพราะระบบพินอบพิเทาเกินเหตุของเราทำให้เพื่อนผมเคยตัว ทั้งรถประจำตำแหน่ง คนขับ เลขา อยากไปไหนไปทั้งงานและส่วนตัว เวลาประชุมก็ไม่มีใครกล้าหือกล้าทัดทาน  จะเอาอะไรบอกเดี๋ยวมีคนจัดให้ กาแฟตอนเช้าไม่ถูกปากจะเอากาแฟจากบราซิล ก็ต้องวิ่งจัดหาจัดซื้อกันข้ามประเทศมาประเคน

วันย้ายไปประเทศอื่นหมอนั่นดิ้นรนสารพัดเพื่อให้ได้อยู่เมืองไทยต่อ แต่ไม่สำเร็จ วันจะย้ายไปพนักงานจัดเลี้ยงส่งที่ต่างจังหวัดกันใหญ่โตยังกับงานวัด ไม่ใช่เพราะรักอะไรหมอนี่หรอกแต่เป็นธรรมเนียมที่เขาทำกันมา เพราะหมอนี่พนักงานเกลียดมากกว่ารักครับ  ลงไว้เป็นอุทธาหรณ์ ขนาดฝรั่งที่ไม่เคยมีอำนาจหรือเจ้ายศเจ้าอย่างมาก่อน พอมาถูกพินอบพอเทามากๆเข้าก็นิสัยเปลี่ยนไป ลุ่มหลงไปในทันที 

ไม่อยากเจออย่าง ท่านๆทั้งหลาย ก็ควรเลิกค่านิยมแบบนี้ เพราะเรื่องการเคารพให้เกียรติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงามมันคนละเรื่องกับค่านิยมระบบเจ้าขุนมูลนายครับ


เยี่ยม เยี่ยม   พนักงานชาวญี่ปุ่น ในบริษัทที่ผมทำงานอยู่ก็เช่นกัน อยู่ที่นี่สะดวกสบาย มีโต๊ะทำงานเป็นเอกเทศ ใส่สูทมาทำงาน มีคนขับรถให้  เวลาประชุมด่าพนักงานคนไทย ไม่เกรงใจกันเลย......... ย้ายกลับญี่ปุ่น ผมไปเจออีกที โต๊ะทำงานนั่งรวมอยู่ในห้องการผลิต เสียงอึกทึกคึกโครมไปหมด ใส่ชุดพนักงานฝ่ายผลิต  ไม่เห็นทำเท่แบบอยู่เมืองไทยเลย...........   คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
k_attapon
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 93



« ตอบ #74 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 10:50:23 AM »

มี ปืนแล้ว ต้องหมั่นซ้อมให้เข้ามือครับ ไม่งั้นจะมีไว้ทำไมถ้าใช้ไม่เป็น เก็บไว้ขว้างใส่กันหรือไง แต่ว่า ควรระวังในการนำพาไปที่สนามครับ ควรปฏิบัติตามที่ กระทุ้ก่อน ๆ แนะนำให้เคร่งครัดครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 22 คำสั่ง