ความเห็นส่วนตัวนะครับ
จากเรื่องของคุณเจ้าของกระทู้ และเรื่องของที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกตรองบอกว่า 11 กับ .45 ต่างกัน แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐของไทย (บางคน ซึ่งอาจมีเยอะเลยยยยยย) "ห่วยแตก" ครับผม ไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฏ ระเบียบ หรือเรื่องที่อยู่ในขอบอำนาจหน้าที่ของตน ซึ่งพอปฏิบัติงานไปจริงๆ เมื่อไม่แม่นในหลัก ในกฎระเบียบ อาจมีผลต่อการมีคำสั่งทางปกครองที่กระทบต่อสิทธิ์ของประชาชนอย่างเราๆ หน่ะคร้าบบบ คือมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตอะไร มีผลไม่เป็นคุณแก่ประชาชนทั้งหลาย ....ซึ่งเราก็ต้องพึ่งระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจทางปกครองของเจ้าหน้าที่ คือ ศาลปกครองครับ
กรณีคุณตำหนวดดด นั้น ผมมองได้ว่าตัวแกมีลักษณะ
1. นอกจากไม่แม่นกฏแล้ว ยังแสดงความไม่รู้จริงออกมา พูดผิดๆ ให้คนอื่นๆ เข้าใจไขว้เขวคิดว่าถูก ยิ่งพอเห็นว่าคุณยังไม่มีความรู้ ไปขอคำแนะนำกับเขา แกเลยเหมือนกับยกตัวยกตนลอยๆ วางก้ามเขียนเสือให้วัวกลัวเสียเลย (ต้องยอมรับความจริงว่า จนท.ตำรวจดีๆ มีเยอะมาก แต่นิสัยตำหนวดนอกแถวหลายๆ คนก็เป็นเช่นนี้นะครับ)
2. ตัวคุณตำหนวดนั่นแกมี CZ แกเองก็เลยแนะนำแต่ CZ มีความรู้อยู่แค่นั้น เพราะแกอาจไม่เคยใช้กล็อก หรืออาจไม่ชอบกล็อก ฯลฯ
บ้านเราเป็นสังคมนิติรัฐที่เริ่มพัฒนาทางกฎหมายเข้าที่เข้าทางขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอะไรต้องเป็นธรรม (ถ้าไม่ถูกก็ต้องโดนตรวจสอบและฟ้องร้องได้) คือต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายครับ ในกรณีนี้การมีอาวุธปืนกล็อกผิดในลักษณะเป็นอาวุธสงครามตามท่านตำหนวดหญ่ายยย ท่านนั้นอ้าง (มั่วๆ) หรือไม่ ก็ต้องดูตาม พรบ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ครับ โดย ผมเห็นว่า ไอ้เรื่องที่ จนท.บ้านเราหลายๆ คนคิดว่า 11 เป็นอาวุธสงครามนั้น น่าจะเป็นว่าปืนพกสั้นของกองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จนก่อนเปลี่ยนไปใช้ลูกเก้าให้สอดคล้องกับนาโต้นั้นเป็นขนาด 11 มม.ครับ บ้านเรากะเหรี่ยงไทยแลนด์เองก็เคยได้รับความช่วยเหลือทางต๊ะหานนน จากสหรัฐฯ อยู่ไม่น้อย ปืนทั้งหลายทั้งแหล่ของทหารก็ได้ฟรีเป็นสิบเอ็ดเสียไม่น้อย เมื่อรับมาใช้ในราชการทหารเราก็เป็นต้นเหตุให้ เจ้าหน้าที่-เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ไม่แม่นกฎและหลักก็รับรู้โดยไม่เข้าใจหลัก หรือเข้าใจผิด และนำไป "เม็มโมรี่" จำผิดๆ ถูกๆ เลอะเทอะ ไว้ซะเลยว่า"สิบเอ็ดเป็นอาวุธสงคราม" และ บอกต่อๆ สอนต่อๆ ไปเรื่อยๆ และเรื่องนี้พอเป็นอำนาจใจการใช้ดุลยพินิจของตนแต่ขี้เกียจหรือไม่ได้สนใจหรือขวนขวายหาความรู้ที่ถูกต้อง เอาง่ายเข้าว่าไว้ก่อนว่า อืมม รุ่นก่อนๆ สอนกันมาว่าสิบเอ็ดเป็นอาวุธสงคราม กรูก็เชื่อต่อกันมาเสียเลยยยย ปชช.หลายท่านก็ได้รับคำบอกคำสอนผิดๆ จากเจ้าหน้าที่ ก็ยิ่งไปกันใหญ่
ไม่มีตัวบทกฎหมายใดที่กำหนดไว้ว่าอาวุธปืน .45 เป็นอาวุธสงครามครับ และไม่ได้กำหนดไว้เช่นกันว่า ปชช.ทั่วไปครอบครองได้แค่ 9 มม. ครับ กฎหมายกำหนดให้ ปชช.ครอบครองปืนสั้นที่กระสุนหน้าตัดไม่เกิน .45 นิ้วครับ และถ้าเป็นอาวุธสงครามหรืออาวุธหนักจริง ที่กฎหมายมีเป้าประสงค์จะห้ามไม่ให้มี เพื่อรักษาให้สังคมมีความสงบเรียบร้อยนั้น จะต้องห้ามโดยเด็ดขาดครับ คือห้ามไม่ให้มีเลย เช่น ลูกระเบิด อาร์พีจี หรืออาวุธปืนเครื่องกระสุนหน้าตัดเกิน 11 ......ไม่ใช่เปิดช่องให้ใช้ดุลยพินิจอนุญาตให้มีได้ ถ้าเริ่มมีการให้ใช้ดุลพินิจอนุญาตได้แสดงว่าโดยหลักการแล้วกฎหมายอนุญาตให้มีหรือครอบครองได้ แต่ควบคุมโดยกำหนดให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่รัฐ
การครอบครองปืนอย่างถูกต้องนั้นก็ต้องพิจารณาว่าได้รับอนุญาตตามกฎหมายหรือไม่อย่างที่เรารู้ๆ กันครับ ศาลฎีกาท่านเคยมีคำพิพากษาวางหลักไว้ว่าการอนุญาตให้มีและครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนนั้น ก็พิจารณา
ตั้งแต่เริ่มต้นได้รับ ป.3 นะครับ เน้นว่า ป.3 ที่เป็นใบอนุญาตให้ซื้อหล่ะครับ เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเรื่องปืน ออก ป.3 ให้ ก็ถือว่าได้พิจารณาแล้วว่าผู้ได้รับอนุญาตมีสิทธิที่จะมีและครอบครองอาวุธปืนได้ตามกฎหมายครับ ป.4 เป็นใบแสดงยืนยันว่าให้สิทธิแก่ผู้ครอบครองปืนมีและครอบครองได้ ดังนั้นถ้าท่านเจ้าของกระทู้มีกล็อกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรละครับ (เว้นแต่จะเอาไว้ภูมิใจเล่นๆ ว่าเรามีอาวุธสงครามแว้ววววววว ตามความคิดของนายตำหนวดห่วยๆ ท่านนั้น)
ไอ้กระผมก็พล่ามมาเสียยืดยาวเลย แต่ถ้าจะเอาสั้นๆ ง่ายๆ คิดแบบชาวบ้านๆ ไม่ต้องอิงหลักการกฎบัตรกฎหมาย ก็คิดได้ว่า ถ้าเป็นอาวุธสงครามจริงหรือผิดกฎหมายจริง พี่น้องประชาชนเขาจะมีกล็อก (ซึ่งใช้ลูกเก้า พาราฯ ถูกต้องตามกฎหมาย) กันเกลื่อนบ้านเมืองไทย จนเป็นปืนยอดนิยมกันอย่างนี้หรือคร้าบบบบบบ และถ้าผิดจริง จะมีวางขายเกลื่อนทั่ววังบูรพาหรือครับ ต้องถูกบุกจับเหมือนกับมียาบ้า มีผง อยู่ในบ้านแล้วกั๊บบบบบบ