ผมอยากเห็นการเปิดเผย ลำดับบุคคลผู้เสียภาษีเงินได้สูงสุดด้วย
คุ้นๆทุกคนเลย
ผู้บริหารหลายคนได้ หุ้น IPO และ esop น่าจะเอาผลประโยชน์ตรงนั้นมาหาร 12 เดือนโผอาจจะพลิกนะครับ
ใช่เลยครับ... เงินเดือนที่เปิดเผยแค่นี้นับว่าน้อยมาก ก็แค่เดือนละไม่เกินสองล้านบาท ปีละ 24 ล้าน เสียภาษีไปที่ Rate สูงสุด+ใช้จ่าย เหลือเก็บเดือนละล้านกว่าบาท เต็มที่ก็เก็บตังค์ปีละ 20 ล้านบาท...
ลองดูบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองที่ประกาศก่อนเข้ารับตำแหน่งซิครับ(แปลว่าได้จากการเมืองยังไม่นับน่ะเนี่ย)... เอาที่เป็นพ่อค้า ทำการค้า ก่อนเข้ารับตำแหน่ง... เอาเงินทั้งหมดหารด้วยจำนวนเดือนยังไงก็เกินเดือนละ 2 ล้านบาทครับ...
เงินเดือนที่ประกาศมาเนี่ย ไม่ตรงกับความเป็นจริงมาก ขนาดทำตัวเลขให้ต่ำแล้วนะเนีย... ฮา
แถมอีกนิดครับ... เมื่อสมัยเกือบ 10 ปีที่แล้วนายสมชายยังรับราชการด้านข้อมูลการอนุญาต Work Permit ของชาวต่างชาติ... พบว่าฝรั่งในอุตสาหกรรมน้ำมันมีเงินเดือนเฉลี่ยประมาณ 1 หมื่นเหรียญอเมริกันครับ... ไม่ได้พิมพ์ผิดครับหนึ่งหมื่นเหรียญอเมริกัน...
ก็ไอ้พวกฝรั่งที่เดินเรียกแท็กซี่กลับบ้านเวลาเย็นๆ แถวตึกทานตะวัน ตึก SCB และแถวตึก ปตท. นั่นแหละครับ เงินเดือนๆละเกือบสี่แสนบาทไทย... เนี่ยถ้าเป็นประเทศแถวอัฟริกา มันถึงได้นิยมจับฝรั่งเรียกค่าไถ่... ฮา
นั่นมันสมัย 10 ปีก่อนครับพี่สมชาย สมัยนี้ต้องคูณ 3 - 5 ครับ
ผมว่ายังมีอีกเยอะที่มีรายได้(เงินเดือน)มากกว่านี้....
พวกบริษัทข้ามชาติ..ที่ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์.....พวกตัวเป้งๆ..รับเงินเดือนอย่างน้อยก็2บัญชี...อีกบัญชีจ่ายที่เมืองนอก...เข้าบัญชีที่นู้นเลย..
เพราะสถานะภาพยังเป็นพนักงานของบริษัทแม่อยู่....มาประจําในไทยก็รับเงินเดือนของบริษัทลูกในไทยอีกต่อหนึ่ง....
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในเมืองไทยเบิกได้หมด...ทั้งของลูกของเมีย....แทบไม่ต้องควักเงินตัวเองเลย....อิจฉามันจังวุ๊ยยย
ยืนยันว่าจริงด้วยคนครับ มาอยู่เมืองไทยมีทุกอย่าง นั่งในห้อง มีคนขับรถ บ้านมีสระว่ายน้ำ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเบิกได้(แม้กระทั่งผ้าอยามัยเมีย
อันนี้เพื่อนผมบ่นให้ฟังตอนมันรู้รายได้ของ Expat
) พอหมดวาระกลับไปอยู่ที่ บ. แม่ ก็นั่งคอกเหมือนเรา ขึ้นรถเมล์มาทำงานเหมือนเรา แต่มีเบนซืเปิดประทุนไว้ขับเล่น