เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 08, 2024, 01:46:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องย่อ ปราสาทเขาพระวิหาร  (อ่าน 3213 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
bonparadorn
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 6


« เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 03:44:53 AM »

สมัยที่เขมรเสียเอกราชให้ฝรั่งเศส และไทยถูกขู่และต้องยอมเสียดินแดนให้ฝรั่งเศสไปบางส่วน รัฐบาลไทยจึงเขียนแผนที่ร่วมกับฝรั่งเศส
ขีดเส้นแดนที่สันปันน้ำ  สันปันน้ำคือแนวไหลของน้ำเวลาฝนตก ลองดูตามภาพแนวสันปันน้ำของเขาพระวิหารมีลักษณะเป็นหน้าผาด้วย ซึ่งตามหลักการสากลในการแบ่งแดนนิยมใช้กัน สังเกตุได้จาก ถนน คลอง แม่น้ำ หน้าผา สันปันน้ำ ไม่ว่าจะแบ่งตำบล เขตอำเภอ จังหวัด ประเทศ แม้แต่แบ่งทวีปยังใช้แนวริมทะเล ไม่ขีดเส้นตรงถ้าภูมิประเทศตรงนั้นมีสิ่งเหล่านี้อยู่

ต่อมาฝรั่งเศสกินยาไม่เขย่าขวด เห็นเขาพระวิหารเป็นครัวซอง ขีดแผนที่ขึ้นใหม่ให้กินแดนไทยเข้ามาในบริเวณเขาพระวิหารจนสุดทะเล
โดยไม่มีไทยเข้าร่วมลงนาม ไทยตอนนั้นต้องเก็บตัวเพราะฝรั่งเศษมีเรือปืนไฟ(ไฮเทกโนโลยี่สุดๆแระเรือปืนไฟเนี่ย) จนฝรั่งเศษแพ้สงคราม
เขมรมีเอกราชอีกครั้ง เกิดการแย่งชิงอำนาจกันเอง เขมรแดง เขมรเขียว จ้าวสีหนุ(จีนหนุนหลังและตอนนั้นจีนเป็นคอมมิวนิสต์) เขมรที่หนีสงครามได้มาหลบอาศัยพื้นที่ทับซ้อนที่ว่านี้ และไทยตอนนั้นจะไล่ก็น่าเกลียดเกินไปเขาหนีสงครามมา  และเจ้าสีหนุ
ได้เป็นรัฐบาลในภายหลัง ศาลโลกช่วงนั้นคือประเทศโปรตุเกตุซึ่งเข้าขากันดีกับจีน ก็ช่วงนั้นเป็นคอมมิวนิสต์เหมือนกัน ศาลโลกเลยให้เขาพระวิหารเป็นของเขมร โดยที่ไทยไม่ยอมรับคำตัดสิน แดนไทยเลยมาอยู่ที่บันไดหัก เขมรพยามส่งเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลก แต่ยูเนสโก้ไม่รับพิจรณาเพราะไทยยังไม่ยอมรับคำตัดสิน จนมาถึงช่วงกาลีครองเมืองนี่หละ
ที่ไปลงนามยินยอม  ขนาดศาลสั่งว่าเรื่องนี้ไม่ชอบด้วยกฏหมาย สั่งให้ยับยั้ง มันยังประวิงเวลา ถ่วงเวลา จนเขาพิจณาเสร็จแล้ว และประกาศเป็นมรดกเรียบร้อย มรดกโลกจะลงทะเบียนแค่ตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้างไม่ได้ ที่ดินบริเวณนั้นจะเป็นส่วนนึ่งของมรดกโลกด้วย
ตอนนี้เขมรกั้นแดนชัดเจนแล้ว ไม่ช้ามันคงทำถนนขึ้นอ้อมมาได้ ไทยคงยืนยิ้ม อิ่มใจถ้าไทยยื่นขอร่วมเป็นเจ้าของประสาทเขาพระวิหารร่วมกันกับเขมร   ทำไมไม่ยื่นร่วมกัน  คำตอบน่าจะอยู่ตรงสีแดงกับสีส้มที่ผมเน้นไว้
หรือท่านว่ายังไงครับ?? อวป ทั้งหลาย

ปล. ข้อมูลอาจมีการผิดพลาดเนื่องจากเกิดไม่ทัน แต่ศึกษามาจ้า




ที่ต่ำๆนั้นหละเขมร ที่สูงๆฝั่งไทยครับ เขมรต้องเดินปีนหน้าผาขึ้นมาครับ  หน้าผาคือแนวน้ำไหลครับ หรือเส้นแดนนั้นเอง น่าจะมีแม่น้ำผ่านแบบสาระวินมันจะได้อ้างไม่ออก
บันทึกการเข้า
bonparadorn
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 04:06:40 AM »




ธงเคยปักอยู่ที่ ปลายหน้าผาครับ ทหารไม่ยอมนำธงชาติลง ถอนเสาทั้งเสาเลย และไม่ยอมให้ถ่ายรูปอื่นๆอีกโดยหวังว่าจะได้นำกลับมาวางที่เดิม
บันทึกการเข้า
ScaRECroW
Full Member
***

คะแนน 31
ออฟไลน์

กระทู้: 378


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 07:42:36 AM »

ผมว่าบางทีอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มจะช่วยได้ครับ เขียนอะไรเกี่ยวประวัติศาสตร์เนี่ย มันมีด้านไม่ยาก เพราะได้มีการบันทึกรายละเอียดกันไว้บ้างแล้ว ลองเขียนแบบเรียงลำดับอะไรเกิดก่อนอะไรเกิดหลังดูบ้าง น่าจะช่วยได้ครับ
บันทึกการเข้า

הִנֵּה מַה טוֹב וּמַה נָּעִים שֶׁבֶת אָחִים גַּם יַחַד
Hine(y) ma tov u’manayim Shevet akh-im gam ya-khad
"How good and pleasant it is when brothers live together in harmony."
http://www.youtube.com/watch?v=8DmvdcZfS4c
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 07:54:02 AM »

ขอบคุณ จขกท. ครับ... สรุปสั้นๆ แบบคนที่สงสัยจะได้เข้าใจ...

ส่วนที่ว่าตรงไหนถูก ตรงไหนผิด เช่นไร... คนอ่านจะได้มีประเด็นไปค้นเฉพาะจุดนั้นครับ...

นายสมชายจุดประเด็นก่อนเลยว่า"เขตปราสาท"กับ"เขตแดนประเทศ"นั้นแตกต่างกันอย่างไร... และ"เขตเชิงธุรการ"แตกต่างกันอย่างไร... ใครเป็นคนให้ความเห็นเรื่องนี้เอาไว้ที่ไหนบ้าง เนื่องในโอกาศอะไรครับ...
บันทึกการเข้า
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 12:28:40 PM »

ตอนนี้เขมรกั้นแดนชัดเจนแล้ว ไม่ช้ามันคงทำถนนขึ้นอ้อมมาได้ ไทยคงยืนยิ้ม อิ่มใจถ้าไทยยื่นขอร่วมเป็นเจ้าของประสาทเขาพระวิหารร่วมกันกับเขมร   ทำไมไม่ยื่นร่วมกัน  คำตอบน่าจะอยู่ตรงสีแดงกับสีส้มที่ผมเน้นไว้

 Smiley Smiley Smiley ... มีการตัดถนนขึ้นมาตามไหล่เขา ... มาจากฝั่งเขมร ... นานหลายปีแล้วครับ ... แต่เป็นถนนดินเดิม ๆ ... โดยพวกที่ใส่หมวกสีฟ้า ... เพื่ออำนวยความสะดวกให้ ... ทหารเขมรเก่าที่เป็นลูกจ้างกู้ระเบิด ... ขึ้นมาทำงาน ... ไม่รู้ว่าเป็นหนึ่งในแผนการที่วางไว้ล่วงหน้าของเขมรหรือปล่าว ...  Huh Huh Huh
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 15, 2008, 12:31:55 PM โดย สหายเล็กน้อย » บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
bonparadorn
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2008, 04:17:36 PM »

คนไทยใช้พื้นที่นั้นมามากกว่า 500 ปีแล้ว เขมรได้แต่มอง มองจากด้านล่างมาจะเหมือนลอยฟ้าอยู่

อ้างถึง
เมื่อปี 2442 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานภาพข้าหลวงต่างพระองค์ มณฑลอีสาน สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผู้ค้นพบปราสาทแห่งนี้ แล้วทรงจารึก ร.ศ. ที่ค้นพบ (ร.ศ. 118) และพระนามของพระองค์ไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า...
“118 สรรพสิทธิ”
ก่อนที่กัมพูชาจะมาอ้างสิทธิการเป็นเจ้าของในอีกกว่า 60 ปีต่อมา

ค้นพบบอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2442
บันทึกการเข้า
andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2008, 12:51:32 AM »

เคยไปเที่ยวครั้งเดียวครับเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เลยถ่ายรูปนี้มา  ที่มองเห็นลิบๆตรงปากกระบอกปืนคือฐานทหารพราน ผามออีแดง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 16, 2008, 08:24:42 AM โดย andaman » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.108 วินาที กับ 22 คำสั่ง