เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 26, 2024, 04:20:17 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 15 16 17 [18] 19
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผมรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของ ปตท. เป็นอย่างยิ่ง ช่างประเสริฐอะไรเช่นนี้.......  (อ่าน 44574 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 18 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #255 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2008, 05:53:31 PM »

ผลของการแปรรูปบริษัท  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #256 เมื่อ: มกราคม 23, 2009, 11:28:32 AM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าน JongrakN และ ท่าน Jakrit

ปตท มูลค่าเดิมที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรอันเป็นสมบัติชาติ รวมกับมูลค่าเพิ่มจากการบริหารจัดการ

ส่วนหนึ่งเป็นของผู้ถือหุ้น เป็นของทีมงาน จุดเหมาะสมที่คืนให้ส่วนรวมยังมองไม่ออก แต่จากการที่มีการสนใจเฝ้าดูวิจารณ์และเปิดเผยข้อมูล ข้อวิจารณ์ ออกสู่สาธารณะ  มองว่า สถานการณ์โดยรวมควรจะเป็นไปได้ด้วยดี

แด่ เพื่อนสงค์ คมกฤช และพี่อุ๊  ด้วยความนับถือ
บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
cobra-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 86
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 557


36003


« ตอบ #257 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 10:45:42 AM »

อ่านเจอในเว๊บของผู้จัดการครับ ลองอ่านดูนะครับ  เศร้า อ๋อย
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9520000028201
บันทึกการเข้า



Uploaded with ImageShack.us
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #258 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 12:09:15 PM »

150,000 ล้าน ที่ต้องคืนให้หลวง
มูลค่าตลาดรวมของ ปตท. ประมาณกว่า 400,000 ล้าน
ท่านที่ชอบเล่นหุ้น งานเข้าแล้วล่ะ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #259 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 02:07:22 PM »

คิดเอง ฝันเอง .... จะคิดให้เป็นอย่างไรก็ได้  คิก คิก

ปี ๒๕๕๑ ปีที่ราคาน้ำมันแพง และ "คิดกันว่า" บริษัทในธุรกิจน้ำมันต้องกำไรตูดบาน ....  อ๋อย



ตัวเลขแสดงว่ากำไรลดลงกว่า ๔ หมื่นล้าน .... แสดงว่าเงินที่จะจ่ายเป็นภาษีการค้าย่อมลดลง ...... แสดงว่าเงินที่จ่ายเป็นเงินปันผลสำหรับผู้ถือหุ้นลดลง (รัฐบาลถืออยู่ร่วม ๆ ๗๐%) ....

อย่าแปลกใจที่รัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มเพดานภาษีสรรพสามิต เผลอ ๆ อาจมีการปรับฐานผู้เสียภาษีเงินได้ในปีหน้าอีก (ให้มีคนต้องเสียภาษีมากขึ้น) ฯลฯ  ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #260 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:14:56 PM »

คิดเอง ฝันเอง .... จะคิดให้เป็นอย่างไรก็ได้  คิก คิก

ปี ๒๕๕๑ ปีที่ราคาน้ำมันแพง และ "คิดกันว่า" บริษัทในธุรกิจน้ำมันต้องกำไรตูดบาน ....  อ๋อย



ตัวเลขแสดงว่ากำไรลดลงกว่า ๔ หมื่นล้าน .... แสดงว่าเงินที่จะจ่ายเป็นภาษีการค้าย่อมลดลง ...... แสดงว่าเงินที่จ่ายเป็นเงินปันผลสำหรับผู้ถือหุ้นลดลง (รัฐบาลถืออยู่ร่วม ๆ ๗๐%) ....

อย่าแปลกใจที่รัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มเพดานภาษีสรรพสามิต เผลอ ๆ อาจมีการปรับฐานผู้เสียภาษีเงินได้ในปีหน้าอีก (ให้มีคนต้องเสียภาษีมากขึ้น) ฯลฯ  ขำก๊าก ขำก๊าก


 Smiley
http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/FS/031220080653T02.xls
งบปี 51 เทียบกับ ปี 50
ปตท. และลูกๆ จ่ายภาษีเพิ่มขึ้นครับ

ถ้าหุ้นที่ผมถือ เช่น  SIRI
จ่ายค่าน้ำมันถูกลง  เช่น จากลิตรละ  30  เหลือ  20 บาท
แล้วรัฐบาลเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคล จาก 30%  อีก 5%    เป็น  35%
รวมถึงลดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เสีย 0% ลง จาก 150,000 บาท  เหลือ  0 บาท  ทำให้เงินได้สุทธิ 1-500,000 บาทแรกต้องเสียภาษี 10%
**************
งบของ SIRI เฉพาะส่วน
จะเป็นดังนี้
กำไรเพิ่ม  (30-20)                              10   บาท
หักภาษีนิติบุคคล(35%*10)           3.5  บาท
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น  (10-3.5)                      6.5 บาท

สมมุติจ่ายปันผลที่เพิ่มขึ้นทั้งจำนวน
เงินได้                                            6.5          บาท
ภาษี ณ ที่จ่าย                                - 0.65       บาท
ผมรับเช็ค(6.5*0.9)                     5.85      บาท


สิ้นปี
เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(6.5*10%)                              - 0.65       บาท
หัก เครดิตภาษี ณ ที่จ่าย                                                       +0.65     บาท
 หัก เครดิตเงินปันผล (6.5*35/65)                                       +3.5        บาท
บวก  ภาษีที่คำนวนจากเครดิตเงินปันผล(3.5*10%)               -0.35        บาท
เบ็ดเสร็จได้เงินคืนจากสรรพากร อีก                                            3.15        บาท

รวม แล้ว  น้ำมันลดลง  10 บาท  เป็นกำไรของผมซะ 9 บาท(5.85+3.15)   
จ่ายค่าเดินทางถูกลงอีก   ก็เหลือเงินไปซื้อกระสุนได้อีกโข
********
ฐานภาษีคิดแบบนักลงทุนรากหญ้า   ถ้าปีนึงท่านมีเงินปันผลเป็นล้านก็ไม่จำเป็นต้องคิดแบบผมก็ได้
 Smiley
                                                 

บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #261 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:27:19 PM »

ผู้ถือหุ้นใหญ่ ปตท.
Book Closing Date as of    05/09/2008 -

Total Shareholders 39,392 % Shares in Scripless Holding  99.05

PTT
Rank Major Shareholders Type #                                                       Shares (Shares)                                                  % Shares
1 กระทรวงการคลัง Local Juristic Person                                  1,459,885,575                                                    51.69
2 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)                   217,900,000                                                     7.72
3 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)                     217,900,000                                                      7.72
4 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD Foreign Juristic Person           49,018,548                                                       1.74
5 NORTRUST NOMINEES LTD. Foreign Juristic Person                            49,008,507                                                       1.74
6 CHASE NOMINEES LIMITED 42 Foreign Juristic Person                        46,500,400                                                        1.65
7 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY Foreign Juristic Person  37,918,065                                                         1.34
8 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด Local Juristic Person                                  36,380,372                                                        1.29
9 MELLON BANK,N.A. Foreign Juristic Person                                         30,000,065                                                       1.06
10 สำนักงานประกันสังคม Local Juristic Person                                        23,793,600                                                      0.84
11 HSBC BANK PLC-CLIENTS GENERAL A/C Foreign Juristic Person        20,688,900                                                       0.73
12 กองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ Local Juristic Person                       17,850,000                                                            0.63
13 THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED Foreign                    15,181,497                                                       0.54
14 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON Foreig   14,694,107                                                          0.52
15 INVESTORS BANK & TRUST COMPANY Foreign Juristic Person          14,354,425                                                          0.51
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #262 เมื่อ: มีนาคม 13, 2009, 10:58:12 AM »

คุณ Chayanin ยังแม่นรายละเอียดเหมือนเดิม  คิก คิก

ภาษีจากอะไรที่จ่ายเพิ่มขึ้นครับ  คิก คิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 13, 2009, 11:06:58 AM โดย Jakrit97 » บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #263 เมื่อ: มีนาคม 13, 2009, 12:22:49 PM »

คุณ Chayanin ยังแม่นรายละเอียดเหมือนเดิม  คิก คิก

ภาษีจากอะไรที่จ่ายเพิ่มขึ้นครับ  คิก คิก

ดูในหมายเหตุประกอบงบ  หัวข้อ  ภาษีเงินได้   
ภาษีเพิ่มจากภาษีปิโตรเลียม(ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ ปตทสผ. ถูกสรรพากรยื่นตีความเงินได้ของ สผ.  ส่งผลให้ต้องมาเสียภาษีปิโตรเลียม จากเดิมที่เป็นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร หรือเปล่า)
แต่เรื่องกำไรมากน้อย ผมว่าไม่สำคัญอะไรหรอกครับ
สิ่งสำคัญ คือสิ่งที่คนไทยเกือบทั้งหมดแบกภาระตอนนี้มากว่า   ทั้งภาระราคาน้ำมัน  และ  ภาระความโลภของคนบางพวก

บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #264 เมื่อ: มีนาคม 13, 2009, 02:26:50 PM »

ผมยกสรุปผลประกอบการให้ดู เพราะปีที่แล้วเห็นมีแต่คนด่าว่าน้ำมันแพง ปตท.รวยสะดือปลิ้น ..... Grin Grin

ส่วนยุคนี้ เห็นว่าคนไทยแบกภาระมาก เพราะราคาน้ำมัน และความโลภของคน ....  Huh Huh Huh ผมคิดตามไม่ทัน ช่วยขยายความให้นิ๊ดได้ไหมครับ  Wink
บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #265 เมื่อ: มีนาคม 13, 2009, 03:08:59 PM »

ความโลภ  ก็คือการเอา ปตท.มาเข้าตลาด   เดิมรัฐวิสาหกิจมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งคือ................
พอเป็น บมจ. มีวัตถุประสงค์คือ................................
เมื่อเข้าตลาดแล้วก็มุ่งทำกำไร  คือทำยอดรายได้(ทั้งปริมาณ  และ ราคา)
ไม่นับรายการเอาสมบัติสาธารณะมาใช้ประโยชน์โดยมิชอบ 
สินค้าจำเป็นขั้นพื้นฐาน อย่างน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง  ราคาที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงมีผลต่อค่าครองชีพของคนส่วนใหญ่(รวมถึงพวกแมงเม่าที่ถือ PTT ไม่กี่หุ้น)
เมื่อคนจำนวนมากจ่ายเงินให้ ลูกครึ่งเอกชนลูกครึ่งรัฐวิสาหกิจนี้   เงิน 100 บาท นี้เมื่อหัก ค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่างๆ  เหลือเป็นกำไรก็กลับคืนไปยัง กระทรวงการคลัง 51.69 %
  อีก48.31 ก็ไปสู่ผู้ถือหุ้นที่เหลือ  จำนวนผู้ถือหุ้นที่เหลือนี้เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมดของไทย คงไม่ถึง1%
ทีนี้พอจะเข้าใจหรือยังครับ      คุนบางกลุ่มร่ำรวยว่า จากการ ที่คนเดือดร้อนไปทั่ว  จะไม่ให้เรียกว่าโลภเห็นแก่ตัวได้อย่างไร
 Smiley
ที่ว่า  ก. คลังถือหุ้น  ปตท. 75 %
ขอที่มาของข้อมูลด้วยได้มั๊ยครับ
ผมอ่านดูยังไงก็ 51 %


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 13, 2009, 03:39:36 PM โดย Chayanin » บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #266 เมื่อ: มีนาคม 15, 2009, 04:06:20 PM »

เรื่องเกือบ ๗๐% ผมอาจจะดูผิด แต่ผมเขียนว่า รัฐบาล ซึ่งผมหมายถึงรัฐฯ ไม่ใช่กระทรวงการคลังที่เดียว ....

เอ... ตอนนั้น ปตท. เข้าตลาด ไม่รู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร (ตัว ปตท. เอง) คงไม่ได้เข้าตลาดเพื่อกระจายหุ้นดี ๆ ให้คนไม่ถึง ๑ % ของประเทศกระมังครับ

ครั้งหนึ่ง เจ้าพ่อกาแฟ เพื่อนนายกทักษิณ เอาบริษัทของตัวเองเข้าตลาด โดยให้เหตุผลว่า อยากให้รายย่อยได้มีหุ้นดี ๆ ถือ .... ผมฟังแล้วไม่สนใจเลย ..... ซึ่งก็ถูกต้อง เพราะเมื่อเจ้าของได้เงินแล้ว ก็ปล่อยให้บริษัทขาดทุนไป (ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเลขต่อ)

การนำ ปตท. เข้าตลาด ย่อมมีเหตุผล ... เงินที่ได้จากการขายหุ้น (สิทธิความเป็นเจ้าของ) ก็ต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ....

มูลค่าของปตท. ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเข้าตลาด ไม่ได้เกิดจากการปั่นราคาหุ้นของตลาดรอง แต่เกิดจากการดำเนินงานของตัวบริษัทเอง เมื่อคนในตลาดหุ้นเห็นผลการดำเนินงานดี ก็สนใจเป็นเจ้าของเอง .... เมื่อคนสนใจมาก แต่ของมีจำกัด ราคามันก็ขึ้น

เรื่องพื้น ๆ แบบนี้คงไม่ต้องบอก

ผมเคยอ่านจากที่ไหนสักแห่ง เขาบอกว่า .... รายได้จากเงินปันผลของ ปตท. เมื่อเข้าตลาดแล้ว มากกว่า รายได้จากเงินนำส่งตอนที่ ปตท. เป็นของรัฐฯ ๑๐๐% อีกครับ .... ท่านว่าความเติบโตแบบนี้ มันงอกขึ้นเองโดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่มหรือไม่  ยิ้มีเลศนัย

เรื่องวัตถุประสงค์ของการตั้ง ปตท. .... ผมมองว่ายังเหมือนเดิม (เหมือนตอนที่เป็นของรัฐ ๑๐๐%) โดยดูจากการที่ ปตท. "ยอม" ซื้อ LPG ราคา ๙๐๐ มาขายในราคา ๓๐๐ โดยไม่ได้มีการทำสัญญาให้มั่นเหมาะกับรัฐบาลก่อน ว่าจะต้องหาเงินมาชดเชยอย่างไร (ช่วงนั้นเห็นแต่สัญญาลม ๆ) และการ "ยอม" ลดราคาขายน้ำมันดีเซลลงลิตรละ ๑ บาท (ราคาหน้าโรงกลั่น) ....

ถ้าเป็นเอกชนจ๋า จะทำแบบนี้หรือไม่ ..... ดูเจ๊เกียวเป็นตัวอย่าง น้ำมันแพง ขึ้นราคา น้ำมันลด หาตัวไม่เจอ  ขำก๊าก ขำก๊าก

ผมถึงเห็นว่าการนำเอากำไรของบริษัทจากปีที่ผ่านมา ปีที่เราบอกกันว่าน้ำมันแพงหูตูบ และบริษัทน้ำมันต้องกำไรกันตูดบาน ชนิดขูดได้เป็นขูด รีดได้เป็นรีด ... ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไร ....

ท่าน Chayanin ช่วยผมหาหน่อยครับว่า ปตท. ขายหุ้นเข้าตลาดนั้น เขาเอาเงินไปทำอะไร .... ถ้าไม่ขายเอาเงิน กู้ธนาคารได้หรือไม่ ....
บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #267 เมื่อ: มีนาคม 16, 2009, 09:43:24 AM »

เรื่องเกือบ ๗๐% ผมอาจจะดูผิด แต่ผมเขียนว่า รัฐบาล ซึ่งผมหมายถึงรัฐฯ ไม่ใช่กระทรวงการคลังที่เดียว ....

เอ... ตอนนั้น ปตท. เข้าตลาด ไม่รู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร (ตัว ปตท. เอง) คงไม่ได้เข้าตลาดเพื่อกระจายหุ้นดี ๆ ให้คนไม่ถึง ๑ % ของประเทศกระมังครับ

ครั้งหนึ่ง เจ้าพ่อกาแฟ เพื่อนนายกทักษิณ เอาบริษัทของตัวเองเข้าตลาด โดยให้เหตุผลว่า อยากให้รายย่อยได้มีหุ้นดี ๆ ถือ .... ผมฟังแล้วไม่สนใจเลย ..... ซึ่งก็ถูกต้อง เพราะเมื่อเจ้าของได้เงินแล้ว ก็ปล่อยให้บริษัทขาดทุนไป (ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเลขต่อ)

การนำ ปตท. เข้าตลาด ย่อมมีเหตุผล ... เงินที่ได้จากการขายหุ้น (สิทธิความเป็นเจ้าของ) ก็ต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ....

มูลค่าของปตท. ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเข้าตลาด ไม่ได้เกิดจากการปั่นราคาหุ้นของตลาดรอง แต่เกิดจากการดำเนินงานของตัวบริษัทเอง เมื่อคนในตลาดหุ้นเห็นผลการดำเนินงานดี ก็สนใจเป็นเจ้าของเอง .... เมื่อคนสนใจมาก แต่ของมีจำกัด ราคามันก็ขึ้น

เรื่องพื้น ๆ แบบนี้คงไม่ต้องบอก

ผมเคยอ่านจากที่ไหนสักแห่ง เขาบอกว่า .... รายได้จากเงินปันผลของ ปตท. เมื่อเข้าตลาดแล้ว มากกว่า รายได้จากเงินนำส่งตอนที่ ปตท. เป็นของรัฐฯ ๑๐๐% อีกครับ .... ท่านว่าความเติบโตแบบนี้ มันงอกขึ้นเองโดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่มหรือไม่  ยิ้มีเลศนัย
เรื่องวัตถุประสงค์ของการตั้ง ปตท. .... ผมมองว่ายังเหมือนเดิม (เหมือนตอนที่เป็นของรัฐ ๑๐๐%) โดยดูจากการที่ ปตท. "ยอม" ซื้อ LPG ราคา ๙๐๐ มาขายในราคา ๓๐๐ โดยไม่ได้มีการทำสัญญาให้มั่นเหมาะกับรัฐบาลก่อน ว่าจะต้องหาเงินมาชดเชยอย่างไร (ช่วงนั้นเห็นแต่สัญญาลม ๆ) และการ "ยอม" ลดราคาขายน้ำมันดีเซลลงลิตรละ ๑ บาท (ราคาหน้าโรงกลั่น) ....

ถ้าเป็นเอกชนจ๋า จะทำแบบนี้หรือไม่ ..... ดูเจ๊เกียวเป็นตัวอย่าง น้ำมันแพง ขึ้นราคา น้ำมันลด หาตัวไม่เจอ  ขำก๊าก ขำก๊าก

ผมถึงเห็นว่าการนำเอากำไรของบริษัทจากปีที่ผ่านมา ปีที่เราบอกกันว่าน้ำมันแพงหูตูบ และบริษัทน้ำมันต้องกำไรกันตูดบาน ชนิดขูดได้เป็นขูด รีดได้เป็นรีด ... ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไร ....

ท่าน Chayanin ช่วยผมหาหน่อยครับว่า ปตท. ขายหุ้นเข้าตลาดนั้น เขาเอาเงินไปทำอะไร .... ถ้าไม่ขายเอาเงิน กู้ธนาคารได้หรือไม่ ....
Smiley
สีแดง   ผมรู้ดี  แต่ไม่ใช่คำตอบที่ไขข้อคาใจ  ส่วนเรื่องที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่ดีนั่นแหละที่น่าห่วง  สู้เป็นเศษกระดาษแล้วปั่นไปปั่นมาน่าจะดีกว่า  คนเจ็บจังๆคงไม่กี่หมื่นคน

สีเขียว   ปตท.เสกเงินไม่ได้หรอกครับ  คุณพูดถูกที่สุดเลย กำไรที่ได้มามันมาจากอะไร  รายได้ที่เพิ่มขึ้น  แล้วอะไรที่ลดลง รวมถึง  ปันผลให้วัดครึ่งกรรมการครึ่งนึงซึ่งเติบโตสูงนั้น  เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับคุณ ผมไม่กล้าเถียง
สีม่วง      ผมมันคนทำงานกับตัวเลข   ผมจะสนใจกำไรสุทธิทางบัญชี   และกำไรที่เป็นกระแสเงินสด  จากงบที่ผู้สอบบัญชีรับรอง
แล้วดูว่ามันไปหา ก. คลังกี่บาท  ไปหา เอกชนบางกลุ่มกี่บาท   ไอ้โฆษณาทวงบุญคุณ เสียงหล่อๆ ที่ออกทีวี มันไม่เข้ารูหูผมเท่าไหร่
สีเทา      ถ้าผมจะฮุป ปตท.  หาก ปตท. หาเงินกู้ได้  แล้วผมจะฮุปได้หรือ   ดูอย่าง  TPI  สิครับ

ตกลงตอนนี้กระทรวงการคลัง  ถือหุ้นเท่าไหร่แล้วครับ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #268 เมื่อ: มีนาคม 16, 2009, 12:28:37 PM »

เรื่องเกือบ ๗๐% ผมอาจจะดูผิด แต่ผมเขียนว่า รัฐบาล ซึ่งผมหมายถึงรัฐฯ ไม่ใช่กระทรวงการคลังที่เดียว ....

เอ... ตอนนั้น ปตท. เข้าตลาด ไม่รู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร (ตัว ปตท. เอง) คงไม่ได้เข้าตลาดเพื่อกระจายหุ้นดี ๆ ให้คนไม่ถึง ๑ % ของประเทศกระมังครับ

ครั้งหนึ่ง เจ้าพ่อกาแฟ เพื่อนนายกทักษิณ เอาบริษัทของตัวเองเข้าตลาด โดยให้เหตุผลว่า อยากให้รายย่อยได้มีหุ้นดี ๆ ถือ .... ผมฟังแล้วไม่สนใจเลย ..... ซึ่งก็ถูกต้อง เพราะเมื่อเจ้าของได้เงินแล้ว ก็ปล่อยให้บริษัทขาดทุนไป (ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเลขต่อ)

การนำ ปตท. เข้าตลาด ย่อมมีเหตุผล ... เงินที่ได้จากการขายหุ้น (สิทธิความเป็นเจ้าของ) ก็ต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ....

มูลค่าของปตท. ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเข้าตลาด ไม่ได้เกิดจากการปั่นราคาหุ้นของตลาดรอง แต่เกิดจากการดำเนินงานของตัวบริษัทเอง เมื่อคนในตลาดหุ้นเห็นผลการดำเนินงานดี ก็สนใจเป็นเจ้าของเอง .... เมื่อคนสนใจมาก แต่ของมีจำกัด ราคามันก็ขึ้น

เรื่องพื้น ๆ แบบนี้คงไม่ต้องบอก

ผมเคยอ่านจากที่ไหนสักแห่ง เขาบอกว่า .... รายได้จากเงินปันผลของ ปตท. เมื่อเข้าตลาดแล้ว มากกว่า รายได้จากเงินนำส่งตอนที่ ปตท. เป็นของรัฐฯ ๑๐๐% อีกครับ .... ท่านว่าความเติบโตแบบนี้ มันงอกขึ้นเองโดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่มหรือไม่  ยิ้มีเลศนัย
เรื่องวัตถุประสงค์ของการตั้ง ปตท. .... ผมมองว่ายังเหมือนเดิม (เหมือนตอนที่เป็นของรัฐ ๑๐๐%) โดยดูจากการที่ ปตท. "ยอม" ซื้อ LPG ราคา ๙๐๐ มาขายในราคา ๓๐๐ โดยไม่ได้มีการทำสัญญาให้มั่นเหมาะกับรัฐบาลก่อน ว่าจะต้องหาเงินมาชดเชยอย่างไร (ช่วงนั้นเห็นแต่สัญญาลม ๆ) และการ "ยอม" ลดราคาขายน้ำมันดีเซลลงลิตรละ ๑ บาท (ราคาหน้าโรงกลั่น) ....

ถ้าเป็นเอกชนจ๋า จะทำแบบนี้หรือไม่ ..... ดูเจ๊เกียวเป็นตัวอย่าง น้ำมันแพง ขึ้นราคา น้ำมันลด หาตัวไม่เจอ  ขำก๊าก ขำก๊าก

ผมถึงเห็นว่าการนำเอากำไรของบริษัทจากปีที่ผ่านมา ปีที่เราบอกกันว่าน้ำมันแพงหูตูบ และบริษัทน้ำมันต้องกำไรกันตูดบาน ชนิดขูดได้เป็นขูด รีดได้เป็นรีด ... ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไร ....

ท่าน Chayanin ช่วยผมหาหน่อยครับว่า ปตท. ขายหุ้นเข้าตลาดนั้น เขาเอาเงินไปทำอะไร .... ถ้าไม่ขายเอาเงิน กู้ธนาคารได้หรือไม่ ....
Smiley
สีแดง   ผมรู้ดี  แต่ไม่ใช่คำตอบที่ไขข้อคาใจ  ส่วนเรื่องที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่ดีนั่นแหละที่น่าห่วง  สู้เป็นเศษกระดาษแล้วปั่นไปปั่นมาน่าจะดีกว่า  คนเจ็บจังๆคงไม่กี่หมื่นคน
ไม่เข้าใจครับ ไม่เข้าใจว่าข้องใจตรงไหน .... ผมแค่เล่าเรื่อง เพื่อแสดงว่า การนำหุ้นเข้าขายในตลาด มันควรจะมีจุดประสงค์ทางการเงินบางอย่าง เช่น นำเงินไปล้างหนี้ นำเงินไปสร้างโรงงาน .... ใครที่บอกว่าอยากขายให้คนอื่นถือหุ้นดี ๆ พวกนี้ให้คิดได้เลยว่าโกหก .... คนขายล็อตเตอรี่ชอบบอกว่า นำรางวัลมาให้ .. ก็ถ้ามันถูกรางวัล ทำไมไม่เก็บไว้เองล่ะ  อ๋อย

ส่วนข้อความ "ส่วนเรื่องที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่ดีนั่นแหละที่น่าห่วง" ยิ่งทำให้ผมงงครับ .... Huh ... ถ้าไม่รังเกียจช่วยขยายความให้ฟังก็ดีครับ

สีเขียว   ปตท.เสกเงินไม่ได้หรอกครับ  คุณพูดถูกที่สุดเลย กำไรที่ได้มามันมาจากอะไร  รายได้ที่เพิ่มขึ้น  แล้วอะไรที่ลดลง รวมถึง  ปันผลให้วัดครึ่งกรรมการครึ่งนึงซึ่งเติบโตสูงนั้น  เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับคุณ ผมไม่กล้าเถียง
อะไรที่ลดลงครับ ....

อ้างถึง
และในปี 2545 ซึ่งเป็นปีแรกของการเปลี่ยนระบบจากการจ่ายเงินนำส่งเข้าสู่รัฐ เป็นการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินปันผล ปตท.ได้จ่ายเงินให้รัฐเป็นจำนวน 17,240 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2544 ที่มีการนำเงินส่งรัฐ 11,269 ล้านบาท

และในครึ่งปีแรกของปี 2548 นี้ ปตท.และบริษัทในเครือได้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผล เป็นเงิน 25,911 ล้านบาท

อ้อ... กรรมการไม่ได้ปันผลนะครับ ของแบบนี้ คงทราบอยู่แล้ว ....

สีม่วง      ผมมันคนทำงานกับตัวเลข   ผมจะสนใจกำไรสุทธิทางบัญชี   และกำไรที่เป็นกระแสเงินสด  จากงบที่ผู้สอบบัญชีรับรอง
แล้วดูว่ามันไปหา ก. คลังกี่บาท  ไปหา เอกชนบางกลุ่มกี่บาท   ไอ้โฆษณาทวงบุญคุณ เสียงหล่อๆ ที่ออกทีวี มันไม่เข้ารูหูผมเท่าไหร่
นโยบายจ่ายปันผลของ ปตท. ดูเหมือน ไม่ต่ำกว่า ๒๕% ของกำไรสุทธิ หลังหักสารพัดแล้ว .... จะว่าไปท่านก็ทราบอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังมีกี่หุ้น งวดนี้ปันผล ๒ บาทต่อหุ้น ก็คูณเข้าไป ....

โฆษณาผมก็ไม่ชอบดูครับ แต่ดูจากการกระทำ ....  ขำก๊าก

สีเทา      ถ้าผมจะฮุป ปตท.  หาก ปตท. หาเงินกู้ได้  แล้วผมจะฮุปได้หรือ   ดูอย่าง  TPI  สิครับ
ตกลงตอนนี้กระทรวงการคลัง  ถือหุ้นเท่าไหร่แล้วครับ

ถึงผมก็ทำงานกับตัวเลข แต่มันเป็นเลขฐานสอง จึงไม่ค่อยเข้าใจว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน นี่มันเป็นอย่างไร มากดี หรือน้อยดีครับ ช่วยอธิบาย  คิก คิก คิก คิก
อ้างถึง
หลังปี 2540 ทุกบริษัทประสบปัญหาขาดทุน และภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น เพราะค่าเงินบาทตกต่ำลง ทำให้ภาระหนี้เมื่อคิดเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันราคาผลิตภัณฑ์อยู่ในช่วงขาลง หลายบริษัทอยู่ในขั้นไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้

ปตท.เองก็อยู่ในภาวะต ึงตัว อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในอัตรา 5:1แต่ประโยชน์ที่ได้จากการแปรรูป และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ ทำให้ ปตท.ได้รับเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนประมาณ 26,000 ล้านบาท โดย ปตท.ได้นำมาลดหนี้สินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบางส่วน ซึ่งมีผลให้โครงสร้างทางการเงินของ ปตท. แข็งแรงขึ้น มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2 : 1 ในระยะแรก

และมีเงินสดเพียงพอ สำหรับให้ความช่วยเหลือบริษัทในเครือที่ประสบปัญหาทางการเงิน
บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #269 เมื่อ: มีนาคม 16, 2009, 02:55:01 PM »

ผมว่าคุณชักมีอารมณ์ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้อารมณ์แปรปรวนนะครับ  จริงๆแล้วคุณน่าจะอายุมากกว่าผมไม่ต่ำกว่า 10 ปี  ผมให้คุณคิดเองตอบเองจากโจทย์ที่ผมถามดีกว่า

ก่อนแปรรูป

1.ทรัพยากรพลังงาน(เอาเฉพาะในเขตอธิปไตย)
2.ผู้บริโภค
3. ปตท.(การบริหารงาน+บุคคลากร)
4.ผุ้ถือหุ้น ปตท.
เอาแค่สี่องค์ประกอบเหล่านี้มีสภาพเป็นอย่างไร
และหลังแปรรูป  4 องค์ประกอบดังกล่าวเปลี่ยนแปลงอย่างไร

และที่สำคัญสุดกระแสเงินสด ไหลจากไหนไปไหน  มีความแตกต่างระหว่างแปรรูป กับไม่แปรรูปอย่างไร

ส่วนเรื่องความชอบธรรมผมแค่อยากชี้ให้คุณรู้ว่า   ผิดชอบชั่วดีในการบริหารของ ปตท.  เป็นอย่างไร
ตอนผมเข้ามาในตลท. ในฐานะแม่งเม่าตัวเล็ก ผมก็รักหลง ปตท.  แต่เมื่อ มีการฟ้องร้องของมูลนิธิผู้บริโภค  และติดตามกระบวนการทางกฏหมายที่ดำเนินอยู่  และจากคำพิพากษาของศาลที่ให้คืนของหลวง 13,000 กว่าล้าน  และยังมีที่ สตง. แจ้งมาอีก 30,000 ล้าน  ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า   ถ้าคุณทำธุรกิจแบบมีธรรมมาภิบาลจริงๆ  สุจริต จริงๆ  กำไรของคุณจะเป็นอย่างไร   และ   ราคาที่เหมาะสมของ ปตท. จะเหลือเท่าใด
นี่เฉพาะในฐานะของคนทำมาหากินนะครับ  ถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยก็พึงระวังไว้   แต่ถ้าเป็นคนวงในก็หวังแค่ว่าความจริงเป็นอย่างไรก้หัดยอมรับ  เมื่อศาลตัดสินมาว่าให้คืนทรัพย์สมบัติชาติ   คุณก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  หูตึง  มีสีหน้า อารมณ์เสีย  ก็อย่าคุยกันดีกว่า   
ผมเก็บแรงไว้ไป  เตะขาเจาะยางดีกว่า  ขอให้มีความสุขกับ ปตท.นะครับ





บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
หน้า: 1 ... 15 16 17 [18] 19
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 22 คำสั่ง