เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 07:47:32 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ร้านค้าขายปืนใหม่... ได้กำไรเท่าไหร ?  (อ่าน 8627 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Hommali
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

กระทู้: 1079


« ตอบ #60 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2008, 11:30:23 PM »

   คนซื้อปืนและคนขายปืนคือคนในวงการเดียวกันที่จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน  ถ้าคนขายปืนอยู่ไม่ได้คนซื้อปืนก็จะเดือดร้อน  การมานั่งตำหนิติเตียนกันคงไม่ได้ประโยชน์อะไร  ลองมองหาต้นเหตุของปัญหาและหาวิธีการแก้ไขจะดีกว่า

คิดว่ายังไม่มีใครตำหนิใครหรอกนะครับ..กำลังแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ว่า..
ปืนแพงมาจากอะไร..เนื่องจากราคามันเป็นตัวเลข ก็ต้องมาแจงกันดู..
ถ้ากำไรเยอะก็แพง..ที่มาหลักของกำไรก็ Demand & Supply
ถ้าตลาดเสรี..มันคงไม่แพง แต่นี่ตลาดควบคุม ก็มีคนปั่นราคากันได้ครับ
หากต้องการให้ราคาลด ก็ต้องว่ากันที่ละส่วน
- ต้นทุนปืนจากต่างประเทศ คงลดไม่ได้
-โควต้านำเข้าและภาษี ลดได้ โดยราชการผู้ควบคุมกฏระเบียบ
- ค่าการตลาด คิดว่าไม่ได้มากมายอะไร มีหนังสือดีๆ แหล่งความรู้เยี่ยม ๆให้หาความรู้
- ค่าใช้จ่ายขายของร้าน คิดว่าไม่มาก
- "เงินนอกระบบ" น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปืนราคาแพง
เลยแยกกันไม่ออกว่าราคาขายกับต้นทุนที่ต่างกันมากๆ เป็นส่วนของ
"ค่าใช้จ่ายนอกระบบ" หรือ "กำไร"เท่าไร ผมเชื่อว่าถ้าจะทำให้ปืนราคาถูก
ต้องรู้ตัวเลขของ "ค่าใช้จ่ายนอกระบบ" และ"กำไร" ครับ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #61 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2008, 12:44:49 AM »

ผมว่าไปๆ มาๆ ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรเป็นอันดับสองรองจาก อุปสงค์ อุปทาน ที่ทำให้ขึ้นราคามากท่สุดที่ขายได้ ก็คือค่าใช้จ่ายนอกระบบนี่แหละครับ

ราคาจริงที่ขึ้นเราเห็นชัด แต่นอกระบบเรา (ผม) ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปเท่าไหร่

ก่อนเหตุรัฐบาลกีดกันการซื้อปืน และเหตุทางใต้

ค่าใช้จ่ายนอกระบบ  มีผลน้อยมากครับ
อยู่ที่ประมาณปีละสามหมื่นห้าพันบาท ต่อใบอนุญาต  หารตัวปืน เอาเฉพาะปืนสั้นก็ได้  ตก 1,166 บาท/กระบอก  ถ้ารวมปืนยาวก็เหลือแค่ 437.50 บาท
ส่วนประเด็นรัฐบาลกีดกัน  ก็ไม่มีผลทำให้ปืนแพง  เพราะเขาจำกัดที่ใบ ป.3   ที่จริงจะทำให้ปืนถูกลงด้วยซ้ำ   เพราะทำให้ Demand ลดลง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2008, 12:47:34 AM โดย สุพินท์ » บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #62 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2008, 08:51:47 AM »

งั้นประเด็นสำคัญ น่าจะอยู่ที่ว่าไม่มีผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเข้าตลาดได้อย่างเสรี   จำนวนร้านทุกวันนี้เป็นจำนวนเดียวกะเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน ......  เลยมีการผูกขาดโดยอัตโนมัติ   โดยกลุ่มเล็กๆ

บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #63 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2008, 09:08:25 AM »

เมื่อคำนวนในมุมมองของผู้ค้า 
-ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่เพราะไม่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดได้
-ขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถเพิ่ม อุปทานของสินค้าได้  เพราะมีโควต้ากำหนดตายตัว  ไม่สามารถขยายกิจการออกไปอีกได้  เท่าไหร่ก็เท่านั้น
- ผู้ค้าย่อมคิดคำนวนต้นทุนค่าเสียโอกาสเมื่อเที่ยบกะธุรกิจอื่น  สมมุติว่าปืนสั้น 1 โควต้า  30 กระบอก  ได้กำไร กระบอกละ 60,000 บาท ทั้งปีจะได้กำไร สูงสุดที่ 1,800,000  และไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้  แต่สามารถเร่งการขายได้เร็วๆเพื่อถือครองสภาพคล่อง  ในสายตาคนทำธุรกิจกำไรจากการค้าปืนเพียงอย่างเดียวกำไรน้อย (สำหรับร้านเล็กที่ถือครองโควต้า 1-2 ใบ)
-ธุรกิจที่ที่ทำกำไรได้เยอะ กลับเป็นการรับฝากขายกระสุนปืน  ขายปืนมือสอง    สำหรับร้านใหญ่จะเป็นการตั้งตัวเป็นตัวแทนแบรนด์สินค้าในประเทศ พร้อมประมูลขายสินค้าให้ส่วนราชการ  หรือ หาทางออกมาขายปืนสัวสดิการแก่กำลังพล เพราะแม้กำไรจะน้อยกว่าแต่สามารถสร้างตลาดที่ใหญ่กว่าได้ และยังมีการรับค่ามัดจำ เพื่อหมุนสภาพคล่องในธุรกิจได้อีก
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
Hommali
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

กระทู้: 1079


« ตอบ #64 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 04:18:06 AM »

ขอบพระคุณผู้การสุพินท์ คุณโทน 37 และท่านอื่น ๆ มากๆเลยครับ..สำหรับข้อมูลเชิงลึกของราคาปืน
โดยเฉพาะข้อมูล "ค่าใช้จ่ายนอกระบบ" ที่ได้จากผู้การ ทำเอาผมแปลกใจมากครับ..ทำไมน้อยจัง
ผมพอจะมองเห็นรางๆครับว่าราคาปืนที่แพงนั้น..

- มาจากการตั้งกำไรสูงของร้านค้าปืน..
- ร้านค้าปืนต้องเอากำไรมากเพื่อให้คุ้มค่าต่อการลงทุน..
- ร้านค้าปืนเอากำไรมากได้เพราะ Demand สูงกว่า Supply
- Supply จำกัดเพราะมีโควต้านำเข้า (ควบคุมปริมาณ)
- Demand สูงเพราะมีการขอและออกใบอนุญาตกันมาก

ถ้าต้องการให้ปืนราคาถูก..
1. เพิ่มปริมาณนำเข้าให้สอดคล้องกับ Demand 
2. กำหนดให้"อาวุธปืน"เป็นสินค้าควบคุม ที่ต้องแจงต้นทุนและกำหนดราคาขาย เพื่อไม่ให้ค้ากำไรเกินควร
    (เช่น กำไรไม่เกิน 20%ของต้นทุน)
3. ส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตอาวุธปืนในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณ Supply
     
  ซึ่งแน่นอนว่า 3 ข้อนี้  ส่งผลให้ร้านค้าปืนเดือดร้อนเพราะกำไรน้อยลง ทำให้ ร้านค้าปืนต้อง "พัวพัน"กับผู้กำหนด
  โควต้า  อย่างใกล้ชิด เพื่อคงปริมาณนำเข้าที่เหมาะสมสำหรับร้านค้า (ที่จะได้กำไรสูง) และ/หรือไม่ให้ปืนเป็นสินค้า
  ควบคุมราคา และ/หรือไม่ต้องให้มีการผลิตอาวุธปืนในประเทศเพื่อจำหน่าย และที่สำคัญก็จะกระทบต่อ "อำนาจ"
  และแหล่ง "รายได้นอกระบบ"ของผู้กำหนดโควต้า

มีอีกข้อ ทางด้าน Demand
4. ลดปริมาณใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน โดยการเข้มงวดการออกใบ ป.3 (ซึ่งจะกระทบกับประชาชนทั่วไปที่ต้อง
    การครอบครองปืน และกระทบต่อ "อำนาจ" และ"รายได้นอกระบบ" ของผู้ออกใบอนุญาต)

มีผู้เล่น 2 กลุ่มที่คานอำนาจกันอยู่คือ 1. ร้านค้าปืนและผู้คุมกฎ 2. ประชาชนที่ต้องการครอบครองปืนและผู้ออกใบอนุญาต ทางเลือกที่กระทบกับทั้งสองฝ่ายน้อยที่สุด น่าจะเป็นข้อ 2 ครับ

เป็นไปได้ไหมครับ..
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #65 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 09:11:07 AM »

- Demand สูงเพราะมีการขอและออกใบอนุญาตกันมาก

 ก็ไม่เชิง  การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนยุ่งยากพอสมควร น่าจะเป็นการลด Demand  แต่ทันทีที่ใบ ป 3 ออก  เลิกคิดเรื่อง Demand Supply  ไปได้เลย  เพราะ 90 % ต้องซื้ออยู่แล้ว  (ผีถึงป่าช้า)   ไม่อยากปล่อยให้ใบอนุญาตหมดอายุ  เนื่องจากขั้นตอนการขอยุ่งยากกลัวขอใหม่ไม่ได้อีก



1. เพิ่มปริมาณนำเข้าให้สอดคล้องกับ Demand 

ร้านปืนเล็กที่ไม่มีธุรกิจประมูลงานส่วนราชการ กลับชอบ  เพราะสามารถขยายกิจการไปได้ กำไรต่อหน่วยอาจลดลงแต่ตลาดกว้างกว่าเดิมเยอะ

3. ส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตอาวุธปืนในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณ Supply

ไม่จำเป็น  แค่ใช้ระเบียบเดิมที่เคยอนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถสั่งนำเข้าอาวุธปืนเข้ามาใช้เองได้  ราคาปืนสั้นก็ลดลง 20,000 -30,000 บาทต่อกระบอก

มีผู้เล่น 2 กลุ่มที่คานอำนาจกันอยู่คือ 1. ร้านค้าปืนและผู้คุมกฎ 2. ประชาชนที่ต้องการครอบครองปืนและผู้ออกใบอนุญาต ทางเลือกที่กระทบกับทั้งสองฝ่ายน้อยที่สุด น่าจะเป็นข้อ 2 ครับ

อำนาจอยู่ที่มหาดไทย  และยังมีปัญหาทางการเมืองมาเกี่ยวข้องอีก  เลยไม่มีใครมาจับเรื่องนี้จริงจัง  เพราะกลัวเป็นข่าวถูกโจมตี  เช่น ธุรกิจอบายมุขอืน  ไม่มีใครอยากมาแตะ เพราะจะเป็นเป้าที่ถูกโจมตีได้ง่าย

อย่าง นโยบายของนาย 23  ที่เคยให้ระงับการออกใบอนุญาตซื้อปืน ไปช่วงหนึ่ง  แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  แต่ก็ทำให้ ระบบการของอนุญาตของชาวบ้านตาสีตาสายากขึ้นมาก    นอกจากนั้นยังมีแนวคิดยึดอาวุธปืนจากพลเมืองดีอีก  คนที่มีแนวคิดริดรอนอำนาจของประชาชนเท่านั้นที่จะทำแบบนี้  มีแต่รัฐบาลเผด็จการที่อยากจะกดหัวประชาชนเท่านั้นที่จะยึดปืนในมือประชาชน  ...  พอคนไม่มีอาวุธในมือหรือเข้าถึงอาวุธได้ยากขึ้น  ก็จะสร้างกลุ่มอันธพาลการเมืองแบบ เรดการ์ด  เข้าไปครอบงำอีกครั้ง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2008, 11:57:44 AM โดย โทน73 » บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
ARMSCOR
Sr. Member
****

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 590


« ตอบ #66 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 11:18:19 AM »

http://www.gun.in.th/webboard/index.php/topic,52856.0.html
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #67 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 01:13:34 PM »

ผมว่าไปๆ มาๆ ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรเป็นอันดับสองรองจาก อุปสงค์ อุปทาน ที่ทำให้ขึ้นราคามากท่สุดที่ขายได้ ก็คือค่าใช้จ่ายนอกระบบนี่แหละครับ

ราคาจริงที่ขึ้นเราเห็นชัด แต่นอกระบบเรา (ผม) ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปเท่าไหร่

ก่อนเหตุรัฐบาลกีดกันการซื้อปืน และเหตุทางใต้

ค่าใช้จ่ายนอกระบบ  มีผลน้อยมากครับ
อยู่ที่ประมาณปีละสามหมื่นห้าพันบาท ต่อใบอนุญาต  หารตัวปืน เอาเฉพาะปืนสั้นก็ได้  ตก 1,166 บาท/กระบอก  ถ้ารวมปืนยาวก็เหลือแค่ 437.50 บาท
ส่วนประเด็นรัฐบาลกีดกัน  ก็ไม่มีผลทำให้ปืนแพง  เพราะเขาจำกัดที่ใบ ป.3   ที่จริงจะทำให้ปืนถูกลงด้วยซ้ำ   เพราะทำให้ Demand ลดลง

ขอบคุณมากครับท่านผู้การ โอ้ โควต้าตัวแสบ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #68 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 01:18:46 PM »

มีผู้เล่น 2 กลุ่มที่คานอำนาจกันอยู่คือ 1. ร้านค้าปืนและผู้คุมกฎ 2. ประชาชนที่ต้องการครอบครองปืนและผู้ออกใบอนุญาต ทางเลือกที่กระทบกับทั้งสองฝ่ายน้อยที่สุด น่าจะเป็นข้อ 2 ครับ
ผมว่า ผู้ออกใบอนุญาตฯ เป็นกลุ่มเดียวกับผู้คุมกฎครับ ที่ผมประโยชน์ต่างกันชัดเจนน่าจะเป็น

๑ ผู้คุมกฎระเบียบ (ไม่สนใจอะไร) โดยมีผู้ออกใบฯ เป็นกลุ่มย่อย (ตามน้ำจากใต้โต๊ะ ซึ่งที่จริงถ้าผู้คุมกฎให้นำเข้ามากๆ น้ำจะไหลแรงขึ้น)

๒ ร้านค้า อยากทำงานน้อย ได้เงินมาก ถ้าเพิ่มการนำเข้า ก็ต้องทำงานมากแข่งกัน ถึงได้เงินมาก

๒ ประชาชน ก็ต้องซื้อตามกำลังทรัพย์
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #69 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 01:37:24 PM »

อือม์ ถ้ามาดูต้นตอว่า "ทำไมปืนแพงถึงเป็นปัญหา?" จะเห็นว่า ๑ คนที่จำเป็นไม่มีปัญญาซื้อ และ ๒ คนอยากเล่นปืนซื้อเพิ่มยาก

ดังนั้น เรื่องการออก ป๓ มากหรือน้อย ผมว่าตัดไปได้เลย เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ประชาชนพลเมืองดีพึงมี ประชาชนทุกๆ คนมีสิทธิในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ในสถานการณ์ที่ฝ่ายรัฐช่วยคุ้มครองไม่ได้จริงทั้งในเมือง ในชนบท ภาคเหนือ หรือภาคใต้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นก็ต้องถือเป็นสมมติฐานพื้นฐานตามธรรมชาติ ไม่ใช่ปัจจัยผิดปรกติที่ต้องควบคุมหรือสามารถเปลี่ยนแปลงได้

สำหรับผลกระทบต่อฝ่ายใดนั้น ตัดเรื่องอีโก้ส่วนตัวหรือหน่วยงาน หรือผลประโยชน์ใต้โต๊ะไปเลย เพราะถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องแก้ไข อย่างโควต้า เกิดขึ้นมาอย่างไม่มีหลักการ แล้วก็คงที่มา ๑๖ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่มตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

ดังนั้น ถ้าโควต้าเพิ่มจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแน่ ถ้าถึงระดับสินค้าควบคุมได้ ผมเห็นด้วยครับ แต่ในระดับภาพรวม เสียงส่วนมาก และนักการเมืองบางกลุ่มไม่ชอบแน่ๆ เรื่องนี้พูดให้ทุกคนฟังยาก ยิ่งสื่อแล้วมักมีอุดมคตินิยมค้ำคอ ยากที่จะให้ยอมรับว่ารัฐคุ้มครองคนในสังคมไม่ได้จริง จนเป็นความจำเป็นที่แต่ละคนต้องใช้สิทธิ "ใช้กำลัง" ป้องกันตนเอง

บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #70 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 04:39:31 PM »

มีผู้เล่น 2 กลุ่มที่คานอำนาจกันอยู่คือ 1. ร้านค้าปืนและผู้คุมกฎ 2. ประชาชนที่ต้องการครอบครองปืนและผู้ออกใบอนุญาต ทางเลือกที่กระทบกับทั้งสองฝ่ายน้อยที่สุด น่าจะเป็นข้อ 2 ครับ
ผมว่า ผู้ออกใบอนุญาตฯ เป็นกลุ่มเดียวกับผู้คุมกฎครับ ที่ผมประโยชน์ต่างกันชัดเจนน่าจะเป็น

๑ ผู้คุมกฎระเบียบ (ไม่สนใจอะไร) โดยมีผู้ออกใบฯ เป็นกลุ่มย่อย (ตามน้ำจากใต้โต๊ะ ซึ่งที่จริงถ้าผู้คุมกฎให้นำเข้ามากๆ น้ำจะไหลแรงขึ้น)

๒ ร้านค้า อยากทำงานน้อย ได้เงินมาก ถ้าเพิ่มการนำเข้า ก็ต้องทำงานมากแข่งกัน ถึงได้เงินมาก

๒ ประชาชน ก็ต้องซื้อตามกำลังทรัพย์

ให้การบ้านอีกหนึ่งข้อ
ผู้คุมกฎ  เป็นกลุ่มเดียวกับผู้อนุมัติปืนสวัสดิการหรือไม่
และการอนุมัติปืนสวัสดิการ  มีผลประโยชน์แฝงเร้นอยู่หรือไม่
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #71 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 05:32:45 PM »

ตีกิน .. คนอื่นซื้อขายยาก  แต่ตัวเองขายเองและพิจารณาใบอนุญาตเอง
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
ahu
กฎหมายทำให้เสมอภาค ปืนทำให้เท่าเทียม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 162
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1331



« ตอบ #72 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 06:14:18 PM »

กระทรวงนี้อยู่แถวสนามหลวง.....นั่นเอง
บันทึกการเข้า

"เศรษฐกิจพอเพียง"     หนึ่งตำบล.......หนึ่งภรรยา  Grin  Grin


มีไว้    หน้าใหญ่....ใจร้อน    นอนวัด
มีไว้    ปลอดภัย....อุ่นใจ    ไกลคุก
ARMSCOR
Sr. Member
****

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 590


« ตอบ #73 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2008, 11:11:44 PM »

   แนวความคิดในการควบคุมและจำกัดสิทธิของผู้ถือครองอาวุธปืนมีมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ.2500 แล้วและเข้มงวดขึ้นมาโดยลำดับ  ถึงแม้จะเปลี่ยนไปกี่รัฐบาลก็ตาม  ยังไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนเลยที่ออกกฏหมายเพิ่มสิทธิให้กับคนใช้ปืน ถ้าจะตำหนิคงต้องตำหนิรัฐบาลแทบทุกชุดที่ผ่านมา  ลองอ่านดู  http://203.113.86.134:8085/ebook/index.jsp?booktype=5
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2008, 03:09:58 PM »

ตอบการบ้านครับท่านผู้การ

1. ผู้คุ้มกฎ คือกลุ่มผู้อนุมัติและขายปืนสวัสดิการครับ

2. ส่วนผลประโยชน์ คงแฝงอยู่ แต่ไม่ค่อยเร้นเท่าไหร่ครับ เห็นจะๆ ว่า สวัสดิการ เทารัส 85SS 36,000 ในขณะที่ผมเคยซื้อหน้าร้านมา 30,000 ส่วนลูกโม่สมิทที่ราคาดีลเลอร์ซื้อจากนอกประมาณ 500 ดอลก็ขายประมาณ 45,000 หรือกว่านั้น
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 22 คำสั่ง