หมาป่าไปค้นข้อความที่เคยเขียนเอาไว้เมื่อต้นปี 2006 (ตอนนั้นคุณทักษิณยังเป็นนายกฯอยู่เลย)
เอามาแชร์เผื่อเจอด่านนะครับ
ขอร้องนะครับ หากท่านคิดจะพาอาวุธปืนไปในรถ ห้ามแสดงความจริงใจเกินสมควร
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2006, 04:34:15 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้หมาป่าเดียวดายงานเยอะมากกก ได้นอนเฉลี่ยวันละ 3-4 ชั่วโมงเลยไม่ได้เข้ามาแวะเวียนเวป อวป. เท่าใด
มีเรื่องมาเล่าเพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ขอรับ
ตอนต้นเดือนวันที่ 8-10 กพ. ผมไปดูงานถ่ายหนังของลูกค้าที่เมืองกาญจนบุรีมา
เขาถ่ายแถวเส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรีกันครับ
เลิกประชุมตอนสักหกโมงเย็นก็ขับไปเมืองกาญฯเจอรถติดในกท. กว่าจะไปถึงโรงแรมที่พักก็เกือบห้าทุ่ม
ทางเปลี่ยว มืด อ้างว้าง แต่อุ่นใจขอรับ (อาจจะเป็นเพราะกรมทางหลวงท่านทำถนนไว้ดีมาก มีแผ่นสะท้อนแสงกันขับแหกโค้งตลอดทาง หมาป่าตัวนี้เลยอุ่นใจ ฮิฮิ)
วันกลับ คืนวันที่ 10 ขับออกจากทองผาภูมิ ประมาณ สองทุ่มครึ่ง ก็ยังอุ่นใจอยู่ดี (บอกแล้วว่ากรมทางหลวงท่านทำถนนดี)
สักห้าทุ่มเศษ ขับมาถึงนครปฐม
เจอด่านตำรวจกลางไฮเวย์ 8 เลนเลยล่ะครับ รถติดยาวเชียว
คาดว่าท่านตั้งด่านดักคนเดินทางเข้าเมืองหลวง เพราะจะมีการชุมนุมของคุณสนธิในวันที่ 11 กพ.
พอผมขับชะลอจะผ่านด่าน ด้วยความเป็นคนโอ่อ่าผ่าเผย และหน้าตาดูไม่มีพิษมีภัย ใส่แว่นตัวผอมแห้ง
ผมก็เลยขอแสดงความจริงใจ ด้วยการลดกระจกติดฟิล์มกรองแสง และเปิดไฟในเก๋ง ยิ้มสบตาคุณตำรวจที่โบกมืออยู่
เคยอ่านจากบางกระทู้ว่า พฤติกรรมเช่นนี้ตำรวจท่านจะตรองว่าผู้กระทำไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ ท่านจะโบกให้ผ่านไปเร็วๆ
พับผ่าสิครับ ท่านโบกให้หักรถเข้าขวาจอดในช่องที่กันด้วยกรวยยางทันทีเลย
ตำรวจอีกท่านเดินเข้าหา ไม่ยิ้มละไม หรือแสดงท่าว่าชื่นชมไอ้หมอที่อยู่ในรถว่ามันให้ความร่วมมือตำรวจใดใดทั้งสิ้น
ท่านขออนุญาตตรวจค้นโดยพลัน โดยขอให้เปิดเก๊ะหน้ารถ และส่องไฟฉายกราดไปทั่วรถเลย
รวมทั้งขอดูใบอนุญาตขับขี่
อู๊ย ท่านส่องใบขับขี่ผมและมองหน้ากลับไปกลับมาอยู่นานเลยล่ะครับ ก่อนจะคืนให้
แต่ยังไม่ถึงขั้นรื้อค้นอย่างละเอียดนะครับ
ผมเลยได้เรียนรู้ว่า นี่ถ้าหากผมบังอาจคิดจะนำพาอาวุธปืนไปในรถล่ะก้อ จะต้องปฏิบัติตนเหมือนคนขับรถคันอื่นๆทำเมื่อผ่านด่านตรวจ
ไม่ต้องแส่เปิดกระจก เปิดไฟเก๋ง เพราะว่าดูจริงใจเกินเหตุ คนทั่วไปเขาไม่ทำกัน
ตำรวจท่านมองว่า พิรุธ ต้องเอาเสียหน่อย
รถคันอื่นเขาขับมาตามปกติ ชะลอรถ ตำรวจโบกให้ผ่านโดยเร็วทุกคันเชียว
พอผ่านมาได้โดยตำรวจไม่ได้ค้นพบสิ่งของหรือการกระทำอันใดที่เป็นการละเมิดกฏหมาย
ขับมาอีกสัก 4-5 กิโล คราวนี้เจออีกด่าน
เป็นด่านตำรวจ ผสมเจ้าหน้าที่มหาดไทย ยืนกันสิบยี่สิบคน
คราวนี้หมาป่าเดียวดาย ทำเหมือนพี่น้องท่านอื่น ชะลอรถแต่ไม่เปิดกระจก เปิดไฟเก๋ง เฮ้อ รอดไม่ต้องโดนเรียกให้เสียเวลาแฮะ
เรื่องก็เป็นดังนี้แหละครับ เอามาเล่าสู่กันฟังขอรับ