เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 26, 2024, 11:40:18 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลักษณะของคนที่น่ารัก...  (อ่าน 1387 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 04:37:29 PM »

 หลงรัก ลักษณะของคนที่น่ารัก

- ไม่เป็นคนอวดดี
คือใครก็ตาม ถ้าชอบเป็นคนอวดดี  เช่น อวดรวย อวดเก่ง อวดยศศักดิ์ตำแหน่งของตน ชอบคุยอวดคนโน้นคนนี้ถึงความดีเด่นของตน
อย่างโน้นอย่างนี้ หรืออวดสมบัติของตน จนทำให้คนอื่นเบื่อฟังและรู้สึกหมั่นไส้ คนเช่นนี้แม้ตนเองจะมีคุณสมบัติหรือความดีเด่นจริง
ก็เป็นที่ชิงชังและเบื่อระอาของคนทั้งหลาย เพราะเขาไม่ชอบคนอวดดี ยิ่งถ้าตนไม่มีคุณสมบัติอันใดก็ยิ่งเป็นที่ชิงชัง ของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น
แต่คนที่มีนิสัยดีน่ารักนั้น เขาจะไม่โอ้อวด แม้จะมีดีอวดแต่เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน และบางคนถึงกับปกปิดคุณความดีของตน
ถ้าใครจะทราบก็ค่อยรู้เอาเอง คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่ เอ็นดู หรือเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย
และย่อมมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก เพราะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากบุคคลทั่วไป

- เป็นคนไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่เป็นผู้พูดพอประมาณ
คือ ใครก็ตามถ้าไม่รู้จักประมาณตนในการพูด พูดพล่ามพูดไร้สาระหรือพูดมากจนเกินไป จนคนทั้งหลายเบื่อฟังและรู้สึกรำคาญไม่อยากฟัง
อยากออกไปเสียให้ห่าง เมื่อคนนั้นพูด คนเช่นนี้แม้จะมีความรู้ความสามารถดี ก็หาเป็นที่รัก แลเป็นที่เคารพของคนทั้งหลายไม่
ถ้ายิ่งเป็นคนต่ำต้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น ฉะนั้น คนที่ฉลาดและน่ารักจึงพูดแต่พอประมาณไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่พูดมีสาระน่าฟัง เช่นพูดแนะนำหรือพูดสร้างสรรค์ เป็นต้น และเมื่อพูดสิ่งใดก็คิดใคร่ครวญก่อนแล้วจึงพูด คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย และย่อมได้รับความเอ็นดู ความเกื้อกูลจากคนทั่วไป

- เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
บางคนขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกระด้าง ขาดสัมมาคารวะชอบดูหมิ่นดูถูกคนอื่น เป็นคนไม่ยอมก้มหัวให้แก่ใคร
คนประเภทนี้หาความเจริญได้ยาก ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย เหมือนต้นไม้ที่ยืนต้นตาย หรือเหมือนรวงข้าวที่ลีบไม่มีเมล็ด
ไร้ค่า ยืนชูรวงโด่อยู่ไม่โน้มลง แต่คนที่น่ารักนั้นย่อมมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นนิสัยมีสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง เคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ที่เจริญกว่าตน ทั้งโดยวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ คนเช่นนี้ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก

สมดังพุทธพจน์ แปลความว่า ธรรมะ ๔ ประการ
คือ มีอายุยืน ๑ มีผิวพรรณผ่องใส ๑ มีความสุขกายสุขใจ ๑ มีกำลังกายกำลังใจ ๑ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติ
กราบไหว้อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ

ฉะนั้นผู้หวังให้ผลดีทั้ง ๔ นี้เกิดขึ้นแก่ตน ก็ต้องสร้างเหตุคือ นิสัยที่น่ารักด้วยการเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นนิจ

- รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาต่าง ๆ ในข้อตกลงหรือปรึกษาหารือต่างๆ ไม่ดึงดันเอาแต่ความเห็นหรืออำนาจตามอำเภอใจ
ของตนฝ่ายเดียว ย่อมรู้จักประนีประนอมในปัญหาต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งรุนแรงยืนยันขันแข็งในท่าที
หรือจุดประสงค์ของตนก็ผ่อนปรนลงบ้าง ไม่ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าปัญหาครอบครัว การทำงานหรือในข้อขัดแย้งต่าง ๆ
ทั้งนี้ก็เพื่อความสามัคคีถนอมน้ำใจกัน และความสงบสุขในครอบครัว ในหน่วยงานหรือในสังคม
ถ้าเมื่อฝ่ายหนึ่งหย่อนยานเกินไป อันอาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายได้ ก็มีทีท่าเข้มงวดเข้าไว้ให้ถูกระเบียบและกฎเกณฑ์
ก็จะทำให้เกิดความพอดีขึ้น คนเช่นนี้ สามารถดำเนินชีวิตไปอย่างสงบสุข ราบรื่นไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับใคร
จึงทำให้เป็นคนมีนิสัยน่ารักเพราะรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวนี้ ทำให้เกิดความพอดี ไม่เป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะ
เบาะแว้งและความขัดแย้งกับใคร ๆ เพราะไม่ตึง ไม่หย่อน จนเกินไป

- พูดจาอ่อนหวาน
การพูดจาอ่อนหวานเป็นเสน่ห์ประการหนึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่นไว้ได้ เพราะทำให้ผู้ฟังชื่นใจ สบายใจ ทำให้เป็นกันเอง
ทำให้ผูกมิตรไมตรีไว้ได้ จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย ผู้ที่พูดจาไม่น่าฟัง พูดขาดสัมมาคารวะ พูดไม่รู้ที่ต่ำที่สูงหรือพูดส่อเสียด
ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย การพูดจาอ่อนหวานนี้ จัดเป็นวาจาสุภาษิตประการหนึ่ง

วาจาสุภาษิตมีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ
เป็นคำจริง เป็นคำอ่อนหวาน เป็นคำมีประโยชน์ และพูดถูกกาลเทศะ

- พูดประกอบด้วยเมตตา คำพูดใด แม้จะเป็นคำจริง และเป็นคำอ่อนหวาน แต่ถ้าไม่มีประโยชน์แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไม่ให้พูด
เพราะไม่ได้ประโยชน์ หรือคำพูดใด แม้จะเป็นคำจริง คำอ่อนหวานและมีประโยชน์ แต่ถ้าพูดไม่ถูกกาลเทศะ พระองค์ก็ไม่ตรัสสอนให้พูด
เช่นกัน เพราะไม่เป็นวาจาสุภาษิต

แต่ถ้าคำนั้นปะกอบด้วยลักษณะ ๕ ประการ คือ
เป็นคำจริง เป็นคำอ่อนหวาน เป็นคำมีประโยชน์ พูดถูกกาลเทศะ และพูดด้วยเมตตาจิตแล้ว
พระองค์ก็ตรัสสอนให้พูดคำเช่นนี้ เพราะก่อให้เกิดคุณค่าให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นอันมาก
ทำให้เป็นที่รักของคนทั้งหลาย และจัดเป็นมงคลแก่ชีวิต

- เป็นคนเสียสละ
ไม่เอาเปรียบผู้อื่น คือใครก็ตามถ้ามีน้ำใจเป็นนักเสียสละ
ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวรู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว
ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ย่อมเป็นที่รัก ที่เคารพนับถือของคนทั้งหลายโดยทั่วไป เพราะการให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
และผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย การเป็นคนเสียสละหรือนักเสียสละในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง การเสียสละเงินทอง
หรือวัตถุสิ่งของเท่านั้น หากแต่หมายถึง การเสียสละกำลังกาย เสียสละกำลังสติปัญญาช่วยเหลือกิจการของผู้อื่น

ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ แปลความว่า
นรชนพึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต เมื่อระลึกถึงธรรม พึงสละทุกอย่าง คือ ทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต

นอกจากเสียสละแล้ว คนที่น่ารักต้องไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นด้วย คือ ไม่เห็นแก่ได้ หรือความสะดวกสบายส่วนตนแต่ฝ่ายเดียว
ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่คนที่มีลักษณะขี้เหนียว ไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์หรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉาน เป็นคนเห็นแก่ตัว
และเอารัดเอาเปรียบก็ย่อมเป็นที่เกลียดชัง

- เป็นคนกตัญญูกตเวที คือ ใครก็ตามถ้าเป็นคนมีความกตัญญูกตเวทีต่อท่านผู้มีพระคุณแก่ตนมาก่อน
คนนั้นจัดเป็นคนดี เป็นคนที่น่ารักและน่าเคารพนับถือ ยกย่อง จากคนทั้งหลาย เพราะเป็นการแสดงถึงพื้นฐานจิตใจของคนดี
ดังคำพระบาลีที่ว่า ภูมิ เว สาธุรูปานํ กตญฺญกตเวทิตา (ความกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นใจของคนดี)

กตัญญูกตเวทีนี้ แยกเป็น ๒ ศัพท์ คือ กตัญญู ศัพท์หนึ่ง และ กตเวที ศัพท์หนึ่ง

กตัญญู หมายถึง ผู้รู้อุปการคุณที่คนอื่นได้เคยทำแก่ตนมา
เช่น เคยเลี้ยงดูและเคยช่วยเหลือตนมา เป็นต้น
แม้ยังไม่ได้ตอบแทน แต่ถ้ารู้ถึงบุญคุณที่คนอื่นเคยกระทำแก่ตนมา ก็จัดเป็นคนกตัญญูแล้ว

ส่วน กตเวทีนั้น หมายถึง คนที่ได้ตอบแทนอุปการคุณที่เขาได้เคยทำแก่ตนมาแล้ว
เช่น ได้ตอบแทนอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ของตน หรือต่อคนที่เคยช่วยเหลือตนเป็นต้น
คนที่รู้บุญคุณที่ผู้อื่นเคยทำมาแล้วแก่ตน และได้ตอบแทนเช่นนี้ จัดเป็นคนกตัญญูกตเวที ย่อมเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลายที่พบเห็น
และย่อมมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้มาก เช่น คนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ของตนเป็นต้น

ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มาตาปิตุอุปฏฐานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตนํ แปลว่า การเลี้ยงดูมารดาบิดาเป็นมงคลอย่างสูงสุดของชีวิต
คือ ใครก็ตาม ถ้าได้เลี้ยงดูมารดาบิดาของตน จะมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ไม่ตกอับ
ถ้าจะตกอับบ้างก็ด้วยอำนาจกรรมชั่วในปางก่อนติดตามมา แต่ต้องเจริญรุ่งเรืองในที่สุด
เพราะได้บุญมากอันเกิดจากการเลี้ยงดูมารดาบิดาของตนนั่นแล ข้อนี้พิสูจน์ดูก็ได้คือถ้าผู้ใดยังมีพ่อแม่ ทั้ง ๒ ยังมีชีวิตอยู่
หรือยังอยู่คนใดคนหนึ่ง โดยเราเอาเสื้อผ้า อาหาร หรือเงินทองไปมอบให้แก่ท่าน หรือได้เลี้ยงดูท่านด้วยความจริงใจในอุปการคุณของท่าน

- เป็นคนไม่มีนิสัยริษยา เสียดสีผู้อื่น
คือใครก็ตาม ถ้าเป็นคนมีนิสัยริษยาผู้อื่น เห็นใครเขาได้ดีทนอยู่ไม่ได้ รู้สึกเร่าร้อนใจ ไม่สบายใจในความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของผู้อื่น
และพยายามกลั่นแกล้งกีดกันต่อผู้ที่ดีเหนือกว่าตน ไม่อยากให้เขาได้ดีเหนือตน เช่น เห็นเขาสบายกว่าตน เขารวยกว่าตน
เขามีทรัพย์สมบัติแลเกียรติยศชื่อเสียงเหนือกว่าตน หรือไม่อยากให้เขาดีเสมอตน ก็มีความเร่าร้อนใจ ที่เรียกว่า อิจฉาตาร้อน
ต้องการให้ผู้นั้นเสื่อมไป หรือไม่ได้รับสิ่งที่ดีนั้นเหนือตน หรือเหนือกว่าดีกว่าคนที่ตนรักใคร่นับถือ คนเช่นนี้ย่อมมีใจต่ำ และจิตใจที่ร้อนผ่าวเมื่อเห็นคนอื่นเขาได้ดี เป็นคนขาดมุทิตา คือ การพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นเขาได้ดีแท้ที่จริง ความริษยาเป็นพิษต่อจิตใจของผู้ริษยาเอง
คือทำให้ใจเร่าร้อน ไม่สงบสุข แม้คนที่ถูกริษยาเขาจะทุกข์หรือไม่ก็ตาม แต่คนที่ริษยาก็มีความเดือดร้อนแล้ว เพราะสร้างไฟริษยาขึ้นเผาใจตนเอง บางคนไม่ใช่มีนิสัยริษยาอย่างเดียว แต่ยังมีนิสัยเสียดสีผู้อื่นอีกด้วย คือกระทำหรือพูดกระทบกระแทกให้คนอื่นเขาเจ็บใจ เพราะเขาทนในความสุขความเจริญของผู้อื่นไม่ได้ คนเช่นนี้นอกจากตนเองจะเดือดร้อนแล้ว ก็ยังทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย และเป็นที่เกลียดชังของคนที่มีใจเป็นธรรมทั้งหลาย

แต่คนใดที่มีนิสัยไม่ริษยาเสียดสีผู้อื่น และพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นเขาได้ดี
เช่นเห็นเขาสวย เขารวย เขามียศตำแหน่งฐานะดี ก็แสดงความยินดีต่อผู้นั้นด้วยจริงใจ เหมือนอย่างพ่อแม่เห็นความเจริญรุ่งเรืองของลูก
ก็รู้สึกปลื้มใจยินดีอย่างเหลือล้น และด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนเช่นนี้ย่อมได้รับความสุขใจ และเป็นที่รักใคร่ยกย่องของคนทั้งหลาย
เพราะเป็นผู้มีใจสูงประกอบด้วยคุณธรรม ฉะนั้น การเป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น จึงนับว่าเป็นลักษณะของคนที่น่ารักประการหนึ่ง

- เป็นคนมีนิสัยสุขุม รอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน
คือใครก็ตามไม่ว่าจะทำงาน จะลุก จะเดิน จะเจรจาปราศรัย ก็ทำด้วยความนิ่มนวล สุขุมรอบคอบ มีนิสัยเรียบร้อย สำรวม ละมุนละม่อม
ไม่โฉ่งฉาง มีกิริยามรรยาทน่าเลื่อมใส น่ารัก น่าเอ็นดู ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็น่าเคารพนับถือ น่าบูชา และทำงานด้วยความเรียบร้อยไม่ประมาท
ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ผลงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นที่พอใจของผู้พบเห็น ทั้งเป็นคนไม่อวดดื้อถือดี ไม่ยกตนข่มท่าน
ให้เกียรติแก่คนทั้งหลาย คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่เคารพ รักใคร่ นับถือ ยกย่อง ของคนทั่วไป ทั้งได้รับความไว้วางใจให้ทำงานที่ต้องไว้วางใจสูง
ที่มีเกียรติ หรือตำแหน่งสูง เพราะมีลักษณะนิสัยเป็นที่ประทับใจของคนทั่วไป

แต่ในทางตรงกันข้าม หากว่าผู้ใดมีนิสัยขาดความสุขุมรอบคอบ ไร้มารยาท ทำงานด้วยความประมาทเลินเล่อ ทำให้การงานเสียหาย
และมีนิสัยกดขี่ข่มเหงผู้อื่น ยกตนและพวกพ้องของตนว่าดีแต่ผู้เดียว แต่ข่มผู้อื่น แม้เขาจะดีก็พูดไม่ให้กำลังใจ คนเช่นนี้ไม่ค่อยมีใครอยากคบค้าสมาคม ไม่มีใครพอใจให้ทำงานหรือทำงานด้วย

ฉะนั้น คนดีทั้งหลายจึงพยายามหลีกเลี่ยงนิสัยที่ตรงกันข้ามนี้เสีย แล้วพยายามฝึกอบรมนิสัยของตนเอง ให้สุขุมรอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน เพราะย่อมเป็นไปเพื่อความน่ารัก อันมีผลสะท้อนเป็นความสุขความเจริญทั้งแต่ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม
 
คนที่มีลักษณะนิสัยน่ารักนั้น ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย นำความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาแก่ตน และสังคมส่วนรวมได้อย่างไร ส่วนคนที่มีลักษณะนิสัยตรงกันข้าม ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย และนำความเสื่อมมาสู่ตนและโดยส่วนรวมอย่างไร

เมื่อทราบชัดเช่นนี้ก็พึงฝึกอบรมตนให้มีลักษณะที่น่ารัก ๙ ประการ
- ไม่เป็นคนอวดดี
- ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ
- เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
- รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
- พูดจาอ่อนหวาน
- เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
- เป็นคนกตัญญูกตเวที
- เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น
- เป็นคนมีนิสัยสุขุม รอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

ก็จะเป็นที่รักใคร่ชอบใจของคนทั้งหลาย
ซึ่งย่อมเป็นไปเพื่อความสุขความเจริญทั้งแก่ตนเอง และสังคมโดยส่วนรวม ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์

 Smiley คัดจากบทเทศนา ของ พระธรรมวิสุทธิกวี เจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร


บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 05:01:45 PM »


     ย๊าวววววว ยาว

         ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า

                
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 06:31:46 PM »


     ย๊าวววววว ยาว

         ขอบคุณค่ะ



อ้าว......พี่ ปู
   Grin
บันทึกการเข้า

คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 08:52:41 PM »


     ย๊าวววววว ยาว

         ขอบคุณค่ะ
ว่าแล้วนิ  เห็นปล้ำชวนน้าวัฒน์  ไปค้างหาดใหญ่ คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
SaSa
Hero Member
*****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 1290


“โกธํ ปญฺญาย อุจฺฉิ” ระงับโกรธด้วยปัญญา


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 09:20:55 PM »

ขอบคุณครับ...จะพยายามทำให้ได้ทุกข้อ จะได้เป็นคนที่น่ารักกับเขาบ้า้ง... Grin
บันทึกการเข้า

ประสบการณ์ (Experience)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ความรู้ (Knowledge)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2008, 10:51:35 PM »


เมื่อทราบชัดเช่นนี้ก็พึงฝึกอบรมตนให้มีลักษณะที่น่ารัก ๙ ประการ
- ไม่เป็นคนอวดดี
- ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ
- เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
- รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
- พูดจาอ่อนหวาน
- เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
- เป็นคนกตัญญูกตเวที
- เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น
- เป็นคนมีนิสัยสุขุม รอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

***หาเผื่อผมซักคนสิครับ***
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2008, 01:48:09 AM »


เมื่อทราบชัดเช่นนี้ก็พึงฝึกอบรมตนให้มีลักษณะที่น่ารัก ๙ ประการ
- ไม่เป็นคนอวดดี
- ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ
- เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
- รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
- พูดจาอ่อนหวาน
- เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
- เป็นคนกตัญญูกตเวที
- เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น
- เป็นคนมีนิสัยสุขุม รอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

***หาเผื่อผมซักคนสิครับ***

 Smiley พื้นฐานคนไทยเรา ยุคเดิมน่าจะเป็นวิถีทางปฎิบัติกันในสังคมมาช้านาน คนไทยเราจึงเป็นคนที่น่ารักมากในสายตาของคนต่างชาติ
แต่ทุกวันนี้คนยุคเราละเลย เด็กยุคใหม่มองเป็นเรื่องไร้สาระ ผลก็เกิดกับสังคมที่เราอยู่ ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอครับ เริ่มที่ตัวเรา ครอบครัวเรา สังคมของเรา ผลดีตกกับเราแน่นอนครับ 
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2008, 03:11:58 AM »

ขอบคุณครับ...

ผมจะพยายามเป็นคนน่ารักครับ...คิก คิก
บันทึกการเข้า
NISA-SA
Jr. Member
**

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 37


NISA-SA


« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2008, 04:34:30 PM »

 Wink ขอบคุณค่ะ ข้อคิด ดี ๆ ทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ .. จะพยายามเป็นคนน่ารัก ของทุก ๆ คน  หลงรัก
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 22 คำสั่ง