บ้านเรานั้นไม่เคยให้ความสำคัญต่อชีวิตนักบินมาตลอดโดยเฉพาะนักบินทหาร ซึ่งเป็นความกดดันลึกๆของนักบินมาตลอด กองทัพฯควรให้ความสำคัญกับบุคคลากรด้านนี้ให้มากหน่อยครับ ไม่ใช่เงินอย่างเดียวที่ให้หรอก ดูอย่างกองทัพฯสิงค์โปร์นั้นดูแลนักบินอย่างดีแทบจะไม่มีใครลาออกไปอยู่สายการบิน
ผมว่าการเปรียบเทียบมันมีมากกว่า 1 วิธีครับ นอกจากการเปรียบเทียบกับ "ผู้เหนือกว่า" บางทีก็ควรเปรียบเทียบกับ "ผู้ด้อยกว่า" ด้วยครับ แล้วถ้าจะเปรียบเทียบก็ควรเปรียบเทียบในทุก ๆ เงื่อนไขด้วย ตัวอย่างเช่น นักบินของ ทอ.อเมริกัน ได้รับเงินค่าฝ่าอันตรายไม่มาก แล้วพอเลิกบินไปทำงานนั่งโต๊ะ เงินเพิ่มทั้งหลายก็ เลิกได้รับ ทอ.สิงคโปร์ก็อาจจะเป็นแบบนี้เหมือนกันนะครับ
ขณะที่ นักบินของ ทอ.ไทย เห็นน้อง ๆ ที่ผมรู้จักที่ไม่ได้เป็นนักบินบอกว่า รับกันไปจนเกษียณ ด้วยการเขียนระเบียบให้มาบินกันคนละสิบชั่วโมงสิบสองชั่วโมง แล้วรับเงินเพิ่มเหล่านั้น
พ๊อยท์ของผมคือ ถึง ทอ.ไทยจะดูแลนักบินได้ไม่ดีเท่า ทอ.สิงคโปร์ แต่ ทอ.ไทยดูแลนักบินดีกว่า ทหารเหล่าอื่น ๆ ไม่ใช่เหรอครับ <- - - น้อง ๆ เหล่านั่นบอกมาเหมือนกันครับ
ใช่ครับเพราะ ทอ.หน่วยหลักคือนักบิน ทบ.คาดว่าทหารม้า ส่วนทร.คือกัปตันเรือ
ที่เขียนมาว่าบ้านเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับชีวิตนักบินเท่าไหร่นั้น ส่วนหนึ่งคือการดูแลนักบิน แต่ส่วนที่สำคัญคือการฝึกนักบิน ความสมควรเดินอากาศของเตรื่องบินที่มีอยุ่กับจำนวนนักบินประจำฝูงมันสัมพันธ์กันหรือไม่ และการฝึกนั้นมีการฝึกกันอย่างไรบ้าง ฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินเมื่อเข้าสภาพอากาศไม่ดีนั้นทำการฝึกบ่อยแค่ไหน การฝึกจำลองสถาณการณ์ฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดับ เครื่องยนต์ไฟไหม้หรือเครื่องยนต์หลุด ฝึกกันปีละกี่ครั้ง สิ่งต่างๆเหล่านี้มันมาจากชีวิตจริงครับ ยิ่งฝึกมากเมื่อเกิดสถานณ์การคับขันสิ่งที่ฝึกมาเป็นสิ่งที่ทำให้เราและผู้โดยสารรอดตาย ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมนักบินต้องได้รับการฝึกฝนตลอดเวลาจนกว่าจะเลิกบิน
งั้นคงต้องให้ทหารบกมาให้ข้อมูลละกันนะครับว่า ทหารม้า มี
เงินเพิ่มค่าฝ่าอันตรายไหม ให้ทหารเรือมาบอกอีกเหมือนกันว่ากัปตันเรือมีเงินเพิ่มค่าอะไรบ้างไหม นอกเหนือจากเงินประจำตำแหน่ง
เรื่องฝึกเรื่องอะไรที่กล่าวมามันคงไม่เกี่ยวหรอกครับ ที่ท่านว่ามาทั้งหมดมันคนละง่ามกับที่ผมพยายามจะบอกครับ ซึ่งก็คือ เวลาเปรียบเทียบ มันเปรียบเทียบได้มากกว่าหนึ่งด้านน่ะครับ โดยเฉพาะเรื่อง "ผลประโยชน์" จากสัมมาชีพ จะตั้งหน้าตั้งตาเอาไปเทียบกับ "ผู้ที่เหนือกว่า" อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องดูด้านของ "ผู้ที่ด้อยกว่า" ด้วยน่ะครับ
แล้วถึงผมจะไม่ได้เป็นทหาร ผมก็ยกย่อง ชื่นชม คนที่มาเป็นทหารนั้นคือผู้ยอมเสียสละเหมือนกันทุก ๆ คน
ถ้าทหารนักบินมีทัศนคติแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ได้เยอะกว่าคนอื่นตั้งเยอะแล้ว ยังเห็นว่าไม่ดีพอ ผมว่าน่าเป็นห่วงครับ
ในเมื่อมันเรียกว่าเงินค่าฝ่าอันตราย ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับว่าใครที่ควรจะได้บ้าง และใครที่ไม่ควรจะได้....ผมได้ยินคำเสียดสีแบบนี้มานานแล้วครับจากเพื่อนๆ เวลาที่เค้าเห็น Slip เงินเดือนของนักบิน แต่พอมีเหตุการณ์อากาศยานตกทีไร ทุกคนที่ไม่ได้เป็นนักบินจะพูดเป็นเสียงเดียวกันครับ ว่าให้ Ku เดือนละแสนก็ไม่อยากมาเป็นนักบิน ทำหน้าที่อื่นที่เท้าติดพื้นดีกว่า คิดดูเองแล้วกันว่าราชการที่ว่าเหนียวเรื่องเงินสุดๆ ยังให้ค่าตอบแทนนักบินมากๆ เพราะอะไร ถ้ามันไม่เสี่ยง...ผมมีประสบการณ์ที่เคยเจอมาครับ ขนาดเครื่องที่ฝูงผม Grounded (สถานภาพไม่สามารถทำการบินได้) ทั้งฝูง แต่เมื่อมีภารกิจเอาหน้า เพื่อสนองความต้องการของผู้บังคับบัญชาชั้นสูง นายท่านก็สามารถสั่งให้เครื่องทั้งหมดกลับมาบินได้ (โดยที่ไม่ได้มีการแก้ไขอะไรกับตัวเครื่องเลย)
เห็นน้อง ๆ เขาว่า ๆ กันว่าในสลิปเงินเดือนของทหารนักบิน มีเงินเพิ่มดังนี้
เงินเพิ่มนักบิน ทำไมถึงได้ เพราะเป็นนักบิน
เงินเพิ่มค่าฝ่าอันตราย ได้เพราะฝ่าอันตราย ทำไมถึงได้ เพราะเป็นนักบิน
เงินเพิ่มค่าผู้บังคับอากาศยาน ได้เพราะบังคับอากาศยานได้ ทำไมถึงได้ เพราะเป็นนักบิน
ที่กล่าวข้างต้นผมอาจจะผิดนะครับ ถ้ามันไม่จริงก็คงต้องขอโทษนะครับ แต่ถ้ามันจริงมันก็น่าแปลกเหมือนกันนะครับ
แล้วทำไมมันไม่เป็นแบบนี้บ้าง
เงินเพิ่มผู้ทำลายวัตถุระเบิด ได้เพราะเป็นนักทำลายวัตถุระเบิด
เงินเพิ่มค่าฝ่าอันตราย ได้เพราะระเบิดมันอันตราย ทำไมถึงได้ เพราะเป็นนักทำลายวัตถุระเบิด
เงินเพิ่มค่าถอดชนวนระเบิด ได้เพราะบังคับให้ระเบิดมันไม่ระเบิดได้ ทำไมถึงได้ เพราะเป็นนักทำลายวัตถุระเบิด
แล้วทำไมนักทำลายวัตถุระเบิด พอเลิกทำหน้าที่นักทำลายวัตถุระเบิด แล้วให้งดรับเงินเพิ่ม ถ้าเขียนระเบียบให้ไปทำลายวัตถุระเบิดปีละ 3 ลูก เพื่อรักษาความสามารถ แล้วให้รับเงินเพิ่มไปจนเกษียณไม่ได้บ้าง
อย่างที่บอกแหละครับว่า เวลาเปรียบเทียบน่ะ อย่ามองที่สูงกว่าอย่างเดียว มองลงไปดูคนที่เขาด้อยกว่าบ้าง
ก็ยืนยันอีกทีนะครับ ถ้าที่กล่าวไปมีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษนะครับ แต่เด๊ววันหลังจะลองขอให้น้อง ๆ แอบสแกนสลิปเงินเดือนของทหารนักบินมาให้ดูอีกทีนะครับ
ทหารคือผู้เสียสละ ครับ จะเอาความเสี่ยงเป็นข้ออ้าง มันไม่ฟังแปลกไปหน่อยเหรอครับ