เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 05:33:21 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: CZ BRNO ZKM 451 452 455 456 New in The Box หน้า 9  (อ่าน 178388 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2008, 08:26:12 PM »

ความตั้งใจเดิม เมื่อ 2-3 เดือน ก่อน คิดไว้ว่า หลังจากจบเรื่อง H&H แล้ว ก็จะบอกเล่า เรื่องปืน CZ  ก็รอจน .22 Mag  และ  Scout เข้ามา ก็คงเริ่มได้  หลังจาก จับแก้ผ้า เพื่อ เสพสุข มันไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ สงสัยเราคิดผิดแล้ว เพราะหลังจาก แก้ผ้า  ปืน CZ ตั้งแต่ปี  1948-2008 นี้ มันไม่เหมือนกับเลย  มีราง วางแหวนรัดกล้อง 3 แบบ มีชุดลั่นไก เกิน 6 แบบ  มีลำกล้องและ ศูนย์  เกิน 5 แบบ  ชุด  Lock Action  เกิน  4 แบบ แล้วตูข้า จะเล่าถึงเมื่อ ใด จึงแล้วเสร็จ  สงสัย ปืน 1 เข่ง  อะไหล่ 1 กระจาด คงต้อง จับหมกลงหีบ ต่อไป                           ตัวอย่าง





[/quote]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2012, 12:18:54 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 10:38:22 AM »

ไหว้ ไหว้

          ก่อนกาลอื่นใดๆ ต้องกราบขออภัยท่านทั้งหลายร้อย ที่วนเวียนเข้ามาอ่านแล้วไม่มีอะไรในก่อไผ่เลย  ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ มี

เหตุการณ์ ทางบ้านเมือง ทางธุรกิจ และการหนีเที่ยว บวกกับ ไม่มีความสุนทรีในอารมณ์ ที่จะเล่าสู่กัน อีกทั้ง เล่าได้ช้ามาก (พิมพ์ ไม่ใช่ นาง

พิม) เพราะ เกรงกลัว ว่า จะเขียนผิด ไวยากรณ์  ก็ต้องคอยเปิด  พจนานุกรม ทำให้ล่าช้า ก็ อย่าว่ากัน นะท่าน ( กลัวว่า จะมีผู้ประท้วง ว่า

ชอบใช้คำผิด )

   ก่อนที่ กระผม จะฝอยฟุ้ง มุ่งสนุก เล่าเรื่อง .22 CZ นั้น  ก็ขอให้ท่าน ได้ อ่าน และเข้าใจ ก่อนว่า ไอ้ปืนลูกกรด .22 ไม่ใช่ 2 ห้อย นั้นมันคือ

อะไรกันแน่ ความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็น เสาเข็มและเป็นพื้นฐาน


  หลายท่านคงจะรู้ดีอยู่แล้ว  แต่ กระผมว่า อีกหลายสิบ % ยังไม่รู้ ท่านที่รู้แล้ว ก็อ่านใหม่ หรือ ไม่ก็อย่าอ่าน ให้ ท่านที่ยังไม่รู่อ่านก็แล้วกัน

นี่เป็น ข้อความของท่าน วิจิตต์  ศิริเทียร   ท่านว่าไว้ดังนี้ครับ

8953   

                 
                                          กระสุนลูกกรดขนาด.22

           ในระหว่างกระสุนทั้งหลายทุก ๆ ขนาด  ทุก ๆ แบบ  ทุก ๆ ชนิด  เพื่อใช้กับปืนสำหรับประชาชนในโลกปัจจุบัน  กระสุนลูกกรด

ขนาด.22 แบบ   Long Rifle  นับว่าเป็นกระสุนซึ่งมีบทบาทอันสำคัญอย่างพิสดารยิ่งยวดที่สุด

           สถิติการผลิตกระสุนปืนของทุก ๆ โรงงานบนพื้นพิภพแสดงให้เห็นได้ขัดเจนแจ่มแจ้งทีเดียวเชียวว่า    กระสุนลูกกรด.22 L. R.  นับ

ว่าเป็นกระสุนที่มีปริมาณการผลิตมากที่สุด  โรงงานวินเชสเตอร์ซึ่งจัดว่าเป็นโรงงานผลิตกระสุนชั้นมาตรฐานโรงหนึ่งกำลังผลิตกระสุนแบบ

นี้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 4 ล้านนัด  จึงจะทันกับปริมาณการใช้ในการยิงปืนในขณะนี้ ( พ.ศ. 2500 )

           ความสำคัญของกระสุนลูกกรด .22 L.R.  เป็นที่ทราบกันดียิ่งทั่วไป  ทุกหนทุกแห่งทุกชาติทุกประเทศที่มีการใช้อาวุธปืนกระสุนนี้มิ

ใช่จะเป็นกระสุนสำหรับใช้ในการยิงปืนเพื่อความร่าเริงและเพื่อความบันเทิงผ่อนคลายอารมณ์เป็นส่วนใหญ่แต่เพียงอย่างเดียวดังที่เข้าใจ

กัน  กระสุนนี้เมื่ออยู่ในเมืองของผู้ชำนาญก็จะมีอานุภาพอันพิสดารใช้ในการล่าวัวแดง  ยิงกวางขนาดใหญ่ ๆ หรือสังหารเสือดำและเสือดาว

ได้  ที่ระยะใกล้ ๆ ภายใน 10 หลา

           ถ้าจะกล่าวถึงการฝึกหัดยิงและฝึกหัดใช้ปืนไรเฟิลแล้วกระสุนลูกกรดจะเป็นกระสุนขั้นมาตรฐานเบื้องแรกซึ่งจะหลีกเลี่ยงเสียมิได้   

เพื่อผลอันแน่นอนในการฝึกหัดยิงให้แม่นยำในราคาค่าใช้จ่ายอันย่อมเยา

           ในประวัติศาสตร์แห่งอาวุธปืนตอนหนึ่งได้บันทึกไว้ว่าภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1  เยอรมนีได้หลีกเลี่ยงกฎบัตรข้อบังคับของ

สันนิบาตชาติในด้านการจำกัดสิทธิในการผลิตอาวุธปืนเพื่อใช้ในราชการทหาร  โดยการคิดประดิษฐ์ปืนเล็กยาวใช้กระสุนลูกกรด

ขนาด .22  L.R.  ขึ้นฝึกกองทัพอาสาสมัครของประชาชนให้ชำนาญในการใช้อาวุธปืน  แบบของปืนเล็กยาวที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้เป็นอย่าง

เดียว,   มีน้ำหนักเป็นอย่างเดียว  และมีเครื่องกลไกเป็นแบบเดียวกันกับปืนเล็กยาวแบบ K A R 98  ซึ่งเป็นอาวุธปืนอันมีชื่อเสียงโด่งดัง

ระบือลั่นทั่วไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ของกองทัพบกแห่งเยอรมนี [ Brno หรือ CZ .22 ก็ลอกเรียนแบบมาเช่นกัน]

           คำว่า  “ลูกกรด”  เป็นคำชื่อภาษาไทยซึ่งนิยมใช้เรียกและเข้าใจกันได้อย่างดีภายในประเทศไทยโดยเฉพาะเท่านั้น  จนถึงปัจจุบัน

ข้าพเจ้าก็ยังค้นไม่พบและก็ยังไม่ทราบว่า  ท่านผู้ใดเป็นบุคคลแรกซึ่งเป็นผู้ขนานนามนี้  ในทัศนะของข้าพเจ้าและอาจกล่าวได้ว่าในทัศนะ

ทั่ว ๆ ไปแล้ว  คำว่า “ลูกกรด”   ก็เป็นคำซึ่งเหมาะที่สุดสำหรับใช้เรียกปืนและกระสุนแบบนี้   ข้าพเจ้าจึงขอคำนับและปรบมือให้เป็นเกียรติ

ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยความจริงใจยิ่ง

           กระสุนลูกกรดขนาด .22   ตามภาษาสากลเรียกว่า .22  Rimfire  Cartridges  และปืนลูกกรดขนาด .22  ก็เรียกว่า  The Small

bore  Rifles Cal.  .22  Rimfire

           ข้ออันควรจำไว้ก็คือ   กระสุนลูกกรดเมื่อยิงแล้วนำเอาปลอกกระสุนไปอัดใหม่อีกไม่ได้  เพราะถ้าจะนำไปทำการอัดใหม่นั้นทำให้เป็น

การยุ่งยากมากไปกว่าผลิตขึ้นใหม่เสียอีก  และผลที่ได้จากการอัดกระสุนใหม่ก็ไม่ดีเท่าคุณภาพเดิม

           คำว่า   “.22 “  ในด้านหลักวิชาการและโดยทั่ว ๆ ไป หมายถึงขนาดความยาวของเส้นผ่าศูนย์กลางของลำกล้อง  วัดจากส่วนสูง

ของสันเกลียวจากด้านหนึ่งของลำกล้องไปยังส่วนสูงของสันเกลียวของด้านตรงกันข้ามได้เท่ากับ .220  การวัดลำกล้องของปืนแบบนี้ใช้

เป็นมาตรฐานของสากลนิยม   และถ้าจะวัดจากส่วนลึกของร่องเกลียวจากด้านหนึ่งไปยังส่วนลึกของร่องเกลียวของด้านตรงกันข้ามก็จะได้

เท่ากับ .224 นิ้ว

           แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  ในทางด้านปฏิบัติแล้วก็เป็นการยากที่โรงงานผลิตอาวุธทุกๆ โรงงานจะทำการเจาะรูลำกล้องและขูดร่องเกลียว

ได้ตรงและแน่นอนตามมาตรฐานดังกล่าวแล้วนั้นเนื่องด้วยเหตุนี้  รูลำกล้องของปืนที่ผลิตออกมาจากแต่ละโรงงานย่อมหาให้โตเท่า ๆ กัน

ได้ยาก
           ตามหลักปฏิบัติซึ่งได้กระทำกันเรื่อย ๆ ตลอดมา   รูของลำกล้องปืนซึ่งวัดจากส่วนสูงของสันเกลียว  อาจจะเป็น .218 นิ้ว หรือ

ถึง .219 นิ้วก็ได้   ทั้งนี้หมายความว่าโรงงานผลิตอาวุธทุก ๆ โรงงานพยายามรักษามาตรฐานในการเจาะรูลำกล้องไม่ให้เล็กกว่า .216 นิ้ว 

และอย่างโตที่สุดก็ไม่ให้เกิน  .222 นิ้ว

           ในการเซาะร่องเกลียวก็เช่นเดียว   ก็ได้พยายามรักษามาตรฐานในความกว้างของลำกล้องไว้  นั่นก็ได้แก่ความยาวของเส้นผ่าศูนย์

กลางของลำกล้อง  ซึ่งถ้าวัดจากส่วนลึกของเกลียวไปยังส่วนลึกของเกลียวด้านตรงกันข้ามแล้วก็จะไม่เล็กกว่า .222 นิ้วและก็จะไม่โตเกิน

กว่า  .228 นิ้ว

           ดังได้กล่าวมาแล้วนั้นก็จะได้ทราบชัดแล้วว่า  ลำกล้องปืนขนาด .22  ก็อาจแบ่งออกได้เป็น 2 พวกอันเนื่องมาจากหลักการเจาะลำ

กล้องและเซาะร่องเกลียวไม่เท่ากัน  นั่นก็คือ  พวก .22 ขนาดเล็ก  และ .22 ขนาดใหญ่

           พวก .22 ขนาดเล็กก็ใช้ทำเป็นลำกล้องของปืนลูกกรดขนาด .22 และปืนไรเฟิลขนาด .22 Hornet

           ส่วนพวก .22 ขนาดใหญ่ ก็ใช้ทำเป็นลำกล้องของไรเฟิลขนาด .22  W.C.F. ( Winchester  Centre – Fire )  และ  .22

 Remington  เป็นต้น

                                              กระสุนลูกกรดแบบ  Long  Rifle  หรือ .22 L.R.

           กระสุนแบบนี้เป็นกระสุนซึ่งมีอนาคตสดใสมากที่สุดในระหว่างกระสุนปืนลูกกรดและกระสุนปืนทั้งหลาย  และยังเป็นที่คาดหมายกัน 

ว่าจะเป็นกระสุนที่ยังคงมีความนิยมอยู่คู่กับโลกไปจนถึงกัลปาวสาน  เป็นกระสุนชั้นมาตรฐานของทั่วโลก  โรงงานผลิตปืนไรเฟิลทุกโรงงาน

ผลิตปืนขึ้นใช้กับกระสุนนี้ออกจำหน่ายทั้งนั้น  และในทำนองเดียวกันโรงงานผลิตกระสุนทั่วโลกก็ผลิตกระสุนแบบนี้ออกจำหน่ายด้วยเช่น

กัน  อาวุธปืนในโลกทั้งหมดในปัจจุบัน   ปรากฏว่าเป็นอาวุธซึ่งสร้างขึ้นเพื่อใช้ยิงกระสุนนี้มากที่สุดเกินจะคณานับ   มีทั้งปืนไรเฟิลยาว   มี

ทั้งปืนสั้น ปืนพก  และรวมทั้งปืนแบบ “คอลท์ตราควาย”  ด้วย

           การใช้จ่ายในการผลิตกระสุนแบบนี้นับว่าถูกไม่แพงการที่ราคากระสุนแบบนี้ในประเทศไทยสูงมากก็เนื่องจากภาษีขาเข้าสูงมากเกิน

ไป  เพราะรัฐบาลเก็บค่าภาษีถึง  55 สตางค์ต่อ 1 นัด  ซึ่งเป็นอัตราสูงกว่าราคาของถึงเกือบ 2 เท่าตัว ( ในปัจจุบันอัตราภาษีคิดเป็น

27.5% ของราคา )

           หัวกระสุนของหัวกระสุนแบบนี้ทำด้วยตะกั่ว  และตะกั่วผสมทั้งนั้น  มิใช่เป็นหัวกระสุนแบบที่มีเปลือกแข็ง  บางครั้งผู้ใช้จะเห็นหัว

กระสุนเป็นสีต่างๆ  เช่นสีทองแดงและสีเงินเป็นต้นนั่นก็หมายความว่า  ทางโรงงานผลิตกระสุนได้ใช้น้ำมันหล่อลื่นอย่างแข็งผสมกับสี

บรอนซ์ทาเคลือบหัวกระสุนไว้

           หัวกระสุนของกระสุนลูกกรดผลิตโดยโรงงานวินเชสเตอร์ซึ่งเรียกกันว่าหัว  “Kopperclad”  และของโรงงาน  Western   ซึ่งเรียก

ว่า  “Lubaloy”  นั่นใช้วิธีนำหัวตะกั่วไปฉาบโลหะเคลือบไว้โดยการชุบด้วยไฟฟ้า

           อานุภาพของกระสุนแบบ .22 Long Rifle  นี้ถ้าจะพิจารณาถึงความเชี่ยวชาญและความชำนาญของผู้ใช้แล้ว  ก็มีอานุภาพสูง

มากอย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียว

           ข้าพเจ้าเคยถูกถามว่า  กระสุนแบบลูกกรดขนาดนี้ใช้ยิงช้างได้ไหม ?  ถ้าจะพิจารณาถึงคำถามนี้แล้ว   ก็อาจตอบได้ว่า  ช้างทุกตัวมี

จุดอ่อน  หรือบริเวณที่มีกระดูกบาง ๆ  3 แห่งคือที่บริเวณดั้งจมูก  หรือที่เรียกกันว่าเนินน้ำเต้า  ตรงเหนือโคนงวงใต้ตาแห่งหนึ่ง  และที่ขมับ

ทั้งสองข้างตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างตาและรูหู  ที่ตรงบริเวณดังกล่าวนี้  ในระยะ 12 หลา  หัวกระสุนลูกกรดแบบนี้ชนิดหัวตัน  สามารถ

เจาะทะลุทะลวงไปถึงสมองของช้างได้แน่นอน  แต่จะให้ข้าพเจ้าใช้ปืนลูกกรดล่าช้าก็เห็นจะไม่เอาแน่  เพราะฝีมือในการยิงของข้าพเจ้ายัง

ไม่ถึงขั้นจับวางได้ดังเข่นนั้น  และอีกประการหนึ่งใจก็ยังไม่เยือกเย็น  และกล้าพอที่จะเดินไปหาช้างป่าใกล้ถึงระยะ 12 หลาได้  ทุก ๆ ครั้งที่

ข้าพเจ้าอยู่ในป่า  และได้ทราบว่าช้างป่าผ่านมาใกล้ก็รู้สึกตื่นเต้นเสียแล้ว  ถึงแม้ว่าจะระงับจิตใจอยู่ได้  แต่ก็ปรากฏว่า  ลูกสะบ้าที่หัวเข่าทั้ง

สองเต้นอยู่เสมอ  จะบังคับให้หยุดสั่นสักเท่าไรก็ไม่สำเร็จ

           ระยะความแม่นยำหรือระยะยิงหวังผลไกลสุดของกระสุนนี้อยู่ในระยะ 75 หลา  ระยะยิงหวังผลหมายถึงระยะไกลสุดที่ปืนสามารถ

ประสิทธิผลได้โดยผู้ยิงมิต้องทำการเล็งอย่างประณีตเท่าไรนัก  โดยมิต้องคำนึงถึงทางลม  มิต้องคำนึงถึงความโค้งของวิถีกระสุน  หรือ

ภาพลวงตาอื่น ๆ ใดมาประกอบในการเล็ง

           มิสเตอร์  F.C.  Ness   เลขานุการนายกสมาคมยิงปืน “NRA”  แห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวยืนยันว่า   ในยามลมสงบกระสุนนี้สามารถ

ใช้แข่งขันยิงเป้าด้วยปืนไรเฟิล   โดยการอาศัยศูนย์กล้องได้ไกลถึงระยะ  300 หลา   แต่เพื่อในการล่าสัตว์แล้วมิควรให้เกินระยะ 100 หลา 

เพราะระยะ 100 หลานี้ แรงปะทะของกระสุนเหลือเพียง 60% ของแรงปะทะต้นที่ตรงปากลำกล้องเท่านั้น  และระยะที่เกินกว่า 100 หลาขึ้น

ไปแล้ว  วิถีของกระสุนจะโค้งต่ำมาก  ต้องอาศัยการคำนวณเข้าช่วยในการเล็งจึงวางกระสุนได้ตรงเป้าหมาย  ถ้าตั้งกระบอกปืนทำมุม 30

องศากับเส้นระดับน้ำทะเล  กระสุนจะวิ่งไปได้ไกลถึง 1 ไมล์

           จากการทดลองโดยอาศัยกระสุนแบบยิงเป้า  ซึ่งเป็นกระสุนมาตรฐานและอาศัยเครื่องอุปกรณ์ช่วยยิง  ก็ได้พบว่า  ความสั้นและ

ความยาวของลำกล้อง  ทำให้อัตราความเร็วของกระสุนที่ระยะ 41 ฟุตแตกต่างกันดังนี้


ความยาวของลำกล้องเป็นนิ้ว               ความเร็วของกระสุนเป็นฟุตต่อ  1 วินาที
52                                                  1105
47                                                1132
43                                                1119
39                                                  1115
35                                                1122
31                                                1125
28                                              1129
24                                                     1129
20                                                      1119
16                                               1132
12                                               1134
8                                                1135
5                                                1099
4                                                1000
2                                                   789

           ลักษณะและแบบต่างๆของกระสุนลูกกรดแบบ .22 Long  Rifle  ซึ่งได้ผลิตออกจากโรงงานสร้างกระสุนทั่วๆ ไป  นอกจากจะเป็น

กระสุนไม่มีหัวเพื่อการแสดงกล  และการส่งเสียงให้อาณัติสัญญาณในการกีฬาแล้ว  อาจจะแยกออกได้พอเป็นสังเขปดังนี้คือ

           ก.  กระสุนสำหรับใช้ในกีฬาล่าสัตว์   กระสุนเพื่อการนี้ที่นิยมใช้กัน  จัดว่าเป็น
   
                กระสุนชั้นความเร็วสูงทั้งนั้นนั่นก็คือกระสุนแบบ  High  Velocity,  แบบ

                Super  Speed  และกระสุนแบบ Super-X  เป็นต้น  กระสุนจำพวกนี้มีหัว

                กระสุนผิดแผกแตกต่างกันไป  ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเหตุ

                การณ์ที่จะใช้ซึ่งอาจแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้

    1.     กระสุนหัวตัน  มีน้ำหนัก 40 เกรน  มีความเร็วต้น 1,335 ฟุต  ต่อ 1

วินาที  มีความเร็วเหลืออยู่ที่ระยะ 100 หลาประมาณ 1,045 ฟุตต่อ

วินาที  มีแรงปะทะต้น 158  ฟุตปาวนด์และแรงปะทะที่ 100 หลา 97ฟุตปาวนด์

    2.    กระสุนหัวรู  หนัก 37 เกรน  มีความเร็วต้น  1,365 ฟุตต่อ 1 วินาที
 
ส่วนที่ระยะ 100 หลาเหลือ 1,040 ฟุตต่อ 1 วินาที  และแรงปะทะต้น

146 ฟุตปาวนด์ที่ระยะ 100 หลา เหลือ  86 ฟุตปาวนด์

    มูลเหตุที่กระสุนหัวรูแตกหรือบานตัวได้รวดเร็วกว่ากระสุนหัวตันก็เนื่องจากหลักการใช้อากาศที่ขังตัวอยู่ในรูของหัวกระสุนเป็นลิ่มตอกแทง

กระสุนในขณะที่อากาศถูกอัดตัวในเวลาที่กระสุนปะทะเป้าหมาย

   3.  กระสุนซึ่งมีหัวจีบบรรจุกระสุนลูกปรายเล็กๆสำหรับใช้ยิงนกกระจาบและนกเล็กอื่นๆ 

 
      ข . กระสุนสำหรับใช้ในการแข่งขันยิงเป้า  กระสุนแบบนี้แยกออกเป็น 2 ประเภท  คือประเภทที่ใช้สำหรับยิงกับปืนไรเฟิลยาว  และ

ประเภทที่ใช้สำหรับยิงกับปืนพก  ซึ่งมีแรงปะทะและความเร็วต่ำกว่ากระสุนซึ่งใข้สำหรับในการล่าสัตว์  เพราะต้องการให้ปืนมีแรงสะท้อน

ถอยหลังน้อย  แต่ราคาของกระสุนนั้นแพงกว่า  หรือสูงกว่าราคาของกระสุนแบบใช้สำหรับล่าสัตว์  เพราะการบรรจุกระสุนใช้สำหรับการยิง

เป้าต้องใช้ความประณีตมาก  เพื่อต้องการรักษาระดับของวิถีกระสุนของทุกๆ นัดให้เหมือนกันและเป็นแบบเดียวกัน  กระสุนแบบนี้มีความเร็ว

ต้นประมาณ 1,145 ฟุตต่อ 1  วินาที  และที่ระยะ 100 หลาเหลือ 975 ฟุตต่อ 1 วินาที   และแรงปะทะต้นประมาณ 84 ฟุตปาวนด์
         
      การใช้กระสุนลูกกรดโดยทั่วๆ ไป  ก็เพื่อการล่าสัตว์เป็นอาหาร  และการล่าสัตว์เพื่อทำสตัฟฟ์อัดเป็นตัวไว้โชว์และไว้จำหน่าย  ถ้าเป็น

การล่าเพื่อเป็นอาหาร  ก็นิยมใช้แบบ .22 L.R. ทั้งนั้น  แต่ถ้าเป็นการล่าเพื่อทำสตัฟฟ์แล้ว  มักนิยมใช้แบบ .22 ชนิดหัวจีบ  บรรจุกระสุนลูก

ปลาย  และกระสุนแบบ .22 Short  และในกรณีที่ใช้สำหรับยิงเป้าปืนยาวเพื่อการแข่งขันก็ใช้แบบ .22 L.R.  แต่สำหรับปืนพกหรือปืนสั้นเพื่อ

การแข่งขันมักนิยมใช้ปืนและกระสุนแบบ .22 Short



           คุณประโยชน์ของกระสุนลูกกรดมีหลายประการ  รวมทั้งในการป้องกันตัวและทรัพย์สิน  ถ้าจะกล่าวถึงในกรณีซึ่งมีบุคคลใดที่จำเป็น

จะต้องใช้วิธีรอนแรมอยู่ในป่าในดงหรือล่องไพรเป็นเวลานานๆ   และบุคคลผู้นั้นมีความปรารถนาจะได้มีอาวุธปืนเพียงกระบอกเดียว  เพื่อ

เป็นการสะดวกในการนำติดตัวไปแล้วก็ควรจะพิจารณาปืนลูกกรดเถิด  จะประเสริฐที่สุด  เพราะกระสุนลูกกรดนั้นน้ำหนักเบา  สามารถนำติด

ตัวไปได้หลาย ๆ ร้อยนัดถ้าเป็นกระสุนไรเฟิลขนาดใหญ่แล้ว   เพียงจำนวน 100  นัดเท่านั้นก็มีน้ำหนักมากอยู่   และเมื่อผู้ใช้ได้คุ้นเคยกับ

ปืนและกระสุนแล้ว   จะรู้สึกว่าสามารถใช้กระสุนนี้ได้อย่างพิสดารและน่าภูมิใจ  ดังสุภาษิตสากลบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า  “Beware  of  the 

man  with  only  one  gun; he  can  do  amazing  tings “  ถึงแม้เสือขนาดใหญ่ ๆ ก็จะตายด้วยลูกกระสุนลูกกรดเพียงนัดเดียว  ถ้า

สามารถวางกระสุนให้ตรงแสกหน้าของเสือนั้นได้   ส่วนปืนซึ่งควรจะเลือกใช้ก็ควรจะพิจารณาปืนเดี่ยวยาวแบบลูกเลื่อน  ถ้าในกรณีที่

ปรารถนาจะได้อาวุธยาว   แต่ถ้าต้องการอาวุธสั้นก็ควรเป็นแบบปืนพก  “ลูกโม่”  เพราะปืนดังกล่าวทั้งสองแบบนี้  เหมาะแก่การใช้รอนแรม

ในป่าอย่างสมบุกสมบันได้   โดยไม่ต้องคอยระวังรักษามากเท่าไรนัก  ส่วนประกอบก็น้อยชิ้น  และถึงแม้จะมีละอองฝุ่นตกลงไปในเครื่อง

กลไกบ้าง  ก็มิค่อยมีการติดขัดในการปฏิบัติงาน

           ในกรณีที่ต้องการปืนลูกกรดยาวเพื่อการฝึกหัดยิงปืนแล้วก็ควรจะเลือกใช้แบบลูกเลื่อนเช่นกัน   เพราะปืนไรเฟิลขนาดใหญ่มิได้มี

แบบอัตโนมัติ   มีแต่ไรเฟิลแฝดและแบบลูกเลื่อนทั้งนั้น   ผู้ฝึกหัดต้องหัดยิงและหัดปิดและเปิดลูกเลื่อนให้คล่องแคล่วว่องไวจนเข้าขั้น   

ซึ่งกระทำให้เป็นไปได้อย่างสัญชาติญาณจึงจะจัดว่าเป็นการใช้ปืนเป็นได้อย่างดีและได้อย่างปลอดภัย

           ศิลปในการปรับหรือตั้งศูนย์เพื่อการล่าสัตว์   สำหรับปืนไรเฟิลยาวลูกกรด .22 L.R.  ก็ควรพิจารณาเพื่อความเหมาะสมดังนี้คือ

                  ถ้าเป็นปืนแบบใช้ศูนย์กล้อง

           ตั้งกระสุนยิงเป้าที่ระยะ 20 หลา ที่ระยะ 50 หลา กระสุนจะสูงจากแนวเส้นเล็ง 1.3 นิ้ว  ที่ระยะ 85 หลา   กระสุนจะวิ่งพบกับแนวเส้น

เล็งอีกครั้งหนึ่ง  นั่นก็หมายความว่ากระสุนวิ่งเข้าเป้าหมายอีกเป็นครั้งที่ 2  ที่ระยะ 100 หลา  กระสุนจะวิ่งต่ำจากแนวเส้นเล็ง 2 นิ้ว  ที่ระยะ

125 หลาต่ำ 6.5 นิ้ว  ที่ระยะ 150 หลา  กระสุนต่ำกว่าแนวเส้นเล็ง 12 นิ้ว

                   ถ้าเป็นปืนแบบศูนย์เปิดธรรมดาหรือศูนย์รู

           ควรตั้งที่เป้าระยะ 10 หลาก่อน  การตั้งเป้าของศูนย์กล้องและศูนย์รูต่างกัน  ทั้งนี้เนื่องจากศูนย์กล้องติดอยู่สูงจากเส้นแนวศูนย์

กลางของลำกล้องปืนมากกว่าศูนย์เปิดหรือศูนย์รู

           กระสุนตรงเป้าครั้งแรกที่ระยะ 10 หลา  ที่ระยะ 50 หลาสูงจากแนวเล็ง 1.3 นิ้ว  กระสุนวิ่งตรงเป้าอีกครั้งหนึ่งที่ระยะ 75 หลา  ที่

ระยะ  100 หลา  ต่ำจากแนวเล็งประมาณ 3 นิ้ว.

                                    กระสุนลูกกรดขนาด .22 แม็กนั่ม


           ในฤดูใบไม้ผลิเมื่อปี พ.ศ. 2510  โรงงานผลิตกระสุน “วินเชสเตอร์”  ได้นำกระสุนลูกกรดแบบใหม่  ซึ่งทางโรงงานได้คิดประดิษฐ์

ขึ้น  ไปมอบไว้ให้กับสมาคมปืนไรเฟิลแห่งสหรัฐฯ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ชมโดยให้สมญากระสุนนี้ว่า  “ลูกกรดแม็กนั่ม” .22 WRF.  Magnum

           กระสุนนี้มีกำลังเป็นที่สนใจของนักนิยมปืนมาก  เพราะเป็นกระสุนลูกกรดซึ่งมีอานุภาพสูงกว่ากระสุนลูกกรดแบบ .22 L.R.  ซึ่งเรา

กำลังนิยมกันในปัจจุบัน

           ลำกล้องของปืนซึ่งจะเหมาะสมที่สุดกับกระสุนนี้ก็คือลำกล้องที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางจากสันเกลียวถึงสันเกลียวตรงกันข้ามเท่า

กับ .219 นิ้ว  และเส้นผ่าศูนย์กลางจากร่องเกลียวถึงร่องเกลียวเท่ากับ .224 นิ้ว

           หัวกระสุนของกระสุนนี้ตามตัวอย่างที่ได้แสดงไว้   เป็นหัวเปลือกแข็งชนิดหัวรู  หนัก 40 เกรน

           ในการทดลองยิงด้วยปืนไรเฟิลซึ่งมีลำกล้องยาว  24 นิ้วก็ได้ค้นพบว่าที่ระยะ 50 หลา  ความเร็วของกระสุนยังคงเหลือสูงอยู่ถึง   

1,660 ฟุตต่อ 1 วินาที  และระยะ 100 หลา  เหลือ 1,390 ฟุตต่อ 1 วินาที  ส่วนที่ระยะ 150 หลา  ก็ยังคงเหลือถึง 1,180  ฟุต  กำลังปะทะ

ต้นที่ปากกระบอกเท่ากับ 355 ฟุตปาวนด์ที่ 110 หลา  เท่ากับ 170 ฟุตปาวนด์  และที่ระยะ 150 หลา 125 ฟุตปาวนด์

           กระสุนนี้เมื่อใช้ยิงด้วยปืนพกรีวอลเวอร์ซึ่งมีลำกล้องยาว  6.5 นิ้ว  ความเร็วต้นได้เท่ากับ 1,550  ฟุตต่อ 1 วินาที  และแรงปะทะต้น

เท่ากับ  210  ฟุตปาวนด์  ซึ่งปรากฏว่ามีแรงปะทะต้นสูงกว่ากระสุนขนาด .38 Special  เสียอีก

           เนื่องจากกระสุนนี้มีความเร็วต้นสูงถึง  2,000  ฟุต  ต่อวินาที  ดังนั้น  วิถีของกระสุนจึงราบมากกว่าวิถีของกระสุน .22 L.R.  และมี

อานุภาพไกลกว่าอีกถึงเกือบเท่าตัว
 


ข้อแก้ตัว

  http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=62328.0  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2008, 04:35:14 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 20, 2008, 10:09:58 PM »

   หลังจากที่ ข้าพเจ้า ลง บทความ ของท่าน วิจิตต์  เกี่ยวกับ .22 แม็กนั่ม ไปนั้น ท่านลูกซองสั้น ก็ได้ส่งข่าวมาว่า มันน่าจะผิด

เรื่อง ปี  ค.ศ. และ พ.ศ. หลังจาก ที่ได้ เปิดดู  ตำรา ท่าน แล้ว ก็เป็น ปี พ.ศ. 2510 กระผมเข้าใจว่า น่าจะเป็น การตรวจทาน ที่ ผิดพลาด 

น่าจะเป็น พ.ศ. 2501

   หลังจากการ ตรวจดู  ในหนังสือ Cartridges Of  The World  แล้ว มันน่าจะเป็น เช่นนี้ คือ  ในปี  พ.ศ. 2501  [ 1958] Winchester   ได้ 

นำกระสุน  ไปมอบให้กับ สมาคมยิงปืน  NRA และ ใน ปี พ.ศ. 2502  (1959) จึงได้เริ่มผลิต 

ในชื่อว่า Winchester Magnum Rimfire { WMR}

  ปืน Ruger และ  S&W ได้ทำปืนลูกโม่ ออกมาก่อน ตามด้วย Savag  ทำปืน กระเทย .22 WMR  / .410  และปืน ไรเฟิล กระบอกแรก ที่ ใช้

กับกระสุน ขนาดนี้คือ  Winchester Mod 61 เมื่อปี ค.ศ. 1959 (2502)  แต่ปืนรุ่นนี้ ทำ ระหว่างปี 1932-1963 

รวม ถึงกระสุนลูกกรด  .22 Shot  .22 LR   และ .22 WMR จำนวน 342000  กระบอกที่ขายออกไป

แล้วหน้าตามันเป็น เช่นไร

หน้าตามัน เป็นเช่นนี้ครับ  ปืนกระบอกนี้ ถูก สร้างขึ้นเมื่อปี  ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502 ) ยังสาวทึมทึกอยู่เลยครับ

กระสุนยังไม่มีโอกาส เสียบ รู รังเพลิง




 












     ไหว้ ไหว้ ต้องขออภัยทุกท่านที่เข้ามาอ่าน แล้ว มันไม่ไปถึงไหนเลย  ลึกๆในใจมีเรื่องที่จะเล่ามากมาย  ดันมัวแต่จ้องหน้าสาวเจ้า ไม่รุก ลวนลาม

ปากว่ามือถึงสักที ที่เป็นเช่นนั้น ก็ด้วยเงื่อนไข ของเวลา ที่น้อยนิด  และ  อารมณ์ ที่สุนทรี  ที่ไม่ได้ดังใจ บางครั้ง นาย จอนนี่ ก็ช่วยได้บ้าง

บางทีก็เลยเถิด จนต้อง ถ่ายเทลงขยะ  แถม ปิดประตูใส่กุญแจ ห้ามถามห้ามโต้แย้งอีกต่างหาก ที่ทำเช่นนั้น ก็เพราะว่า ตั้งใจจะเล่าให้จบ

ก่อน แล้วจึงเปิดให้ถาม เพื่อ เรื่องเล่าจะได้ต่อเนื่องตามอารมณ์  เพราะ คำถามบางคำถาม อาจจะมีคำตอบ ในเรื่องที่จะเล่าต่อๆไป       

  ผมเชื่อว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ท่านต้องมี ปืนยาว CZ ลูกกรด สักรุ่น อยู่ในครอบครอง มานานมากแล้ว ไม่นานนัก เพิ่งจะมี และ กำลังจะมี

ท่านก็เลยมีคำถาม คาใจอยู่มาก ทั้งๆที่ มันเป็นแค่ ปืนยาวลูกกรด เท่านั้น
   
      เรื่องที่ ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ ข้าพเจ้าคุยโม้ไปวันๆ 
   
    ทุกตัวอักษร ที่ ข้าพเจ้า เล่านี้ เกิดจากการได้ จับแก้ผ้า ลูบ คลำ เล้าโลม ข่มขืนใจ ให้ได้ เสพสม ตาม ที่โหยหา แห่งก้นบึ่ง ของ หัวใจ

อาจจะถูกหรือผิด ข้าพเจ้าก็ขอรับไว้แต่ผู้เดียว ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ ก็เก็บไว้ศึกษา ถ้าไม่เอาไหนไร้สาระ ได้แต่คุยฟุ้งมุ่งแต่น้ำ

ไม่มีเนื้อ   ก็ อย่าไปสนใจอ่าน ให้เสียเวลา ก็แล้วกัน
     
    ท่านทั้งหลาย จะรู้ไหมว่า อันปืนลูกกรด CZ .22 นี้   ถ้าเราได้เจาะเลือด เพื่อตรวจ DNA แล้วไซ้  มันก็คือ ทายาท ผู้สืบสาย

พันธุ์   มาจากปืน Mauser    ตั้งแต่สมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และภายหลัง สงครามโลก ครั้งที่ 2  ประมาณปี 1948  ปืน ลูกกรด CZ  ที่

มีพ่อพันธุ์ เป็น เยอรมันชนนี้ ก็ได้ผลผลิต ถือกำเนิด เกิดมาที่เมือง  โนบราเซียร  เอ้ยไม่ใช่ ต้อง บราโน

ประเทศ เช็คโก สโลวาเกีย [ Brno Czechoslovakia]  ภายหลัง ม่านเหล็ก ถูกทำลาย ก็เลย แยกเป็น 2 ประเทศ 

สาธารณรัฐ  เช็ค [Czech Republic] และ  สโลวาเกีย [ Slovakia]   

  ในกาลครั้งนั้น  ยังใช้ชื่อว่า Brno CZ   ก็มี  Mod  1 2 3 4 5 และภายหลังจากแยกประเทศแล้ว ก็ใช้  ชื่อยี่ห้อว่า CZ  Mod  452 และ 453 
   

ข้าพเจ้าจะเล่าแต่รุ่นที่ ชอบ และหรือ มีโอกาส ปลุกปล้ำ ข่มขืน  เท่านั้น หลายรุ่นที่ไม่มี หรือ รุ่นที่ไม่ชอบและไม่คิดที่จะชอบ

ก็มี Mod  3  Mod 4   วามิ้นท์ และ เจ็กกลัว  จะไม่กล่าวถึง เพราะไม่ชอบนั่งเทียนเล่า ชอบเปิดไฟสว่างๆ   ที่ไม่ชอบ เพราะมันเหมาะสำหรับ

ทนแบก แบกทน ของลำกล้องที่โตเป็นข้าวหลาม  หรือ ยาวสุดเสียงสังข์ เข้า สนามเท่านั้น 

  แต่ข้าพเจ้าชอบแบบเบาๆที่จะสะพายไปเดินเล่นกลางทุ่งโล่งและดงทึบ  ตามสันดานดิบแห่งสายพันธุ์ มนุษย์  ที่บริโภค เนื้อสัตว์

 ปืนลูกกรด Cz แบบลูกเลื่อน นี้ มิใช่มีแต่ แบบ ที่เราเห็นกันคุ้น ตา แต่มันมีแบบ ลูกเลื่อนนัดเดียว จริงๆ  คือ  Mod ZKM  468  Garden Gun

ไม่ใช่ แค่ทำ  ซอง บรรจุกระสุน พลาสติก หลอกๆๆ  ปืนกระบอกนี้ ทำขึ้นเมื่อปี 1950 ดังภาพต่อไปนี้ครับ







9443


8738


9420


9409

9410


9427



9434


8759


8765


ระบบ ลูกเลื่อนเป็นแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไรนัก

หลังจากยิงออกไปแล้ว ก็เปิดลูกเลื่อน เวลาดึงลูกเลื่อน ออก จะ ค่อนข้างหนัก เพราะ ต้องดึง สปริง เพื่อ ให้ขอรั้ง ทำงาน ดีดกระสุนออกมา

เฉกเช่น เดี่ยวลูกซอง เมื่อ ผลัก ลูกเลื่อน กลับ  ก็หนัก เพื่อ อัดสปริง เข็มแทง ชนวน 

เข็มแทงชนวน เมื่อเราลดลงไปแล้ว ก็สามารถขึ้นนก  ได้โดยการดึง ปุ่มท้ายลูกเลื่อน

การ Save นั้น ทำไดโดยการ ดึง ท้ายลูกเลื่อน แล้ว หมุนไปตามเข็มนาฬิกา  เมื่อจะยิงก็ ดึงแล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกา

ถ้าท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยประการใด ก็ ถามได้ที่นี่ครับ


http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=28.0





บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 11:26:11 PM »

      ต่อไปก็จะขอเล่าถึง ลูกกรด CZ ในกลุ่ม  Brno  Model  1 2 และ 5  ที่เป็นเช่นนี้เพราะ  ข้าน้อย มีความรู้น้อยนิดเท่านั้นครับ  และคง เล่าได้

ไม่ละเอียด ลออ เท่ากับ ชาวแยงกี้  แถม ภาษา ต่างด้าวไม่ค่อยจะแข็งแรง จะแปลมาให้หมดก็ทำไม่ได้  ถ้าท่านต้องการรู้อะไรมากๆ  และ

ภาษา ต่างด้าว แข็งแรงก็ลองเข้าไป อ่านที่นี่ครับ

http://www.rimfirecentral.com/forums/showthread.php?t=212830

ข้าพเจ้าก็ขอเล่าตามแบบฉบับ ของข้าพเจ้าเองก็แล้วกัน











เริ่มจาก Mod 1  ก่อน  ดังที่เคยบอกแล้วว่า เจ้าปืนลูกกรด CZ นี้  ที่มีอายุ สูงต่ำ ระหว่าง ขา นาย มองโกล กับ

นาง รัสเซีย นั้น  1946-1956

  แต่ที่ข้าพเจ้าเคยข่มขืนนั้น เธอเกิดเมื่อปี 1950 และ 1952
 
เธอมีลำขาที่เรียวยาว 22 นิ้ว
 
ท้องนาง นอกจากแบบราบเรียบแล้ว ยังเว้า  จนเห็นซี่โครง  อีกต่างหาก




DNA มันมาจาก    Muser 98  ท่านจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ 

ท่านก็ ทัศนา  กันเอง ก็แล้วกัน  นี่เป็น รุ่นแรก ผลิ ดอกออกผล  อวัยวะ สุดสงวน  เกือบ เหมือนกันเลย เพียงแต่ผิด ขนาด  ยังกับ ชาว

เยอรมัน กับ เวียดนาม 






เมื่อต้องการ ชักลูกเลื่อน ออก  เพื่อ ทำความสะอาด  ขืนแช่ไว้ กุดแน่  ก็ ดึงไกมาข้างหลัง แล้วยกตูด ถอยออกมา

และแล้วในภายหลัง ก็ได้  พัฒนา การตั้ง ไก และ  หยุดไก   ให้ประหลาดๆ  ในปี 1952




ไอ้นี่ถ้าจะเพี้ยน  ประเภท พี่ไม่ต้อง น้องทำเอง ต้อง ถีบไก คุณเธอ ไปข้างหน้า  แล้วจึงถอน  ออกได้

ท่านจะเห็นข้อแตกต่าง

สกรู หมายเลข 1 นั้น  เอาไว้  คอยยับยั้ง หลังจาก เสร็จกิจ ไม่ให้เลยเถิด [ Trigger Stop]

สกรู หมายเลข 2 นั้น เอาไว้ยัน จ่อที่ปากหลุม สะกิด ก็ลงเลย ไม่ต้องยักแย่ยักยัน นาน  หมายถึง  ดันให้ เซียร์ [Sear]ไก กับ เซียร์ เข็มแทง

ชนวน แนบแน่น ไม่มีช่องว่าง ให้ยึกยัก แต่ เมื่อ เราขันมันขึ้นไปจนสุดแล้ว  เวลาจะเอา ลำลูกเลื่อน ออก ต้องผลักเจ้าไกนี่ไปด้านหน้า  เท่า

นั้น จึงจะถอนออกได้










เรามาดูกันจะ จะ  เลยว่า มันต่าง กันอย่างไร

 

ศูนย์ หลังนั้น  มี 3 ใบ 




ระบบ นิรภัย แตกต่างจาก ที่เราเห็นกัน ในปัจจุบัน



                               ระบบ นิรภัย แตกต่างจาก ที่เราเห็นกัน ในปัจจุบัน


คำเตือนสำหรับ ท่าน ที่ ใช้ ปืน Mod 1 นี้ พึงระวัง เมื่อ ขึ้น ลำแล้ว อย่าได้ คิดว่าต้องเหนี่ยวไก เท่านั้น จึงลั่น เจ้ารุ่นนี้ มัน พิเรนทร์

( คำ คำนี้  เป็น  ว.  นอกคอก  นอกแบบ กว่าจะค้นได้ใช้เวลานานมาก นี่แหละหนา ภาษาไทย ต้องพิมพ์ ให้ถูก  )   
 

ผลักไกไปด้านหน้า ก็ลั่นได้ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2008, 08:45:27 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 28, 2008, 12:00:11 AM »

      ต่อมาก็เป็นรุ่น  CZ Brno Mod 2  หรือ ที่เรารู้จัก กันทั่วไปว่า รุ่น CZ 452 ทำระหว่างปี 1956-1989


เจ้ารุ่นนี้ได้ขยาย ความยาวลำกล้องออกไปเป็น 24.8 นิ้ว
 
ศูนย์ หลังเป็น แบบ สะพาน ระยะ 25 เมตร ถึง 200 เมตร





โครงปืนได้แก้ไข  ให้รัดกุม สะโอด สะองค์  มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ไม่แข็งทื่อ เป็นไม้ท่อน เหมือน รุ่นพี่








ลูกเลื่อน นอกจาก จะเปลี่ยน ระบบ Save แล้ว ยังได้ เหลา ให้ดูเพรียวลมงามตาขึ้น  และได้แก้ไข จุด ขัดกลอน  ก้านลูกเลื่อน กับ โครงปืนให้

เล็กลง














ระบบนิรภัย { Save} ก็ เป็นแบบ กลอน ขวาง ทำให้ ใช้งานได้สะดวกขึ้น



 
โกร่งไกและ ช่องใส่ ซองกระสุน [ Magazine ]  ราบเรียบ ไม่เว้าเหมือน Mod 1




และที่มีการเปลี่ยนแปลง มากที่สุด เห็นที่จะเป็นชุดลั่นไก  และ  ชุดลั่นไก ที่เยี่ยมยอด นี้  ก็ใช้กันมา จนเกือบถึงประมาณปี 1998   

จึงได้มีการ  ปรับปรุง แก้ไข ให้  ดีขึ้น  ทำง่ายขึ้น และ ประหยัด กว่าแบบเก่า 

แต่ โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าว่า  เลวลงนะ
 




 Mod 1 และ  Mod  2  นี้  เกลียว ลำกล้อง จะเป็น 6 เกลียว  แต่ มี บางปี ที่ Mod 2 จะทำออกมา 12 เกลียว  เช่นปี 1967 1971 1973 1977 เป็นต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2008, 11:19:09 AM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 30, 2008, 06:40:09 PM »

                                 ต่อไป ก็  CZ Mod 5  ทำออกมาในช่วงปี 1958-1978  

         ลำกล้อง จะยาว 22  นิ้ว  มี ศูนย์  พับ 3 ใบ   จะมี ทั้ง 6 ร่อง เกลียว และ 12 ร่องเกลียว ( 1968 1972  1974  1978)

เป็นการ เอา  M 1 + M 2  =  M 5  คือ มีลำกล้อง เหมือน หรือ เกือบ เหมือน M 1  แต่ ใช้  โครงปืนของ M2

หลังจากที่ผสมพันธุ์  กันแล้วก็ออกมาเป็น  M 5

9452 m5


9079m5





     ปืนใน กลุ่ม นี้  จะมี สกรู ยึด  ตัวปืน กับ พานท้าย  เป็นแบบ ยุโรป โบราณ  คือ  ที่ ใต้ลำกล้อง หนึ่งตัว เพื่อ

ให้ตัวลำกล้อง แบบชิดกับราง พานท้าย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน    และ ที่หน้า โกร่งไก อีก หนึ่ง ตัว เพื่อ ยึด

โครงปืนให้แน่นหนา  ซึ่งต่างจาก ความเชื่อ ของ อเมริกันชน ในปัจจุบัน  ว่า ลำกล้องจะต้องลอย จากรางพานท้าย

แต่ โครงปืนจะต้อง ยึดให้แน่นที่สุด จึงมีสกรู ยึดที่หน้าโกร่งไก หนึ่ง ตัว และ  ที่หลังโกร่งไก อีก หนึ่งตัว

แต่ถ้ายังเกรงว่าจะมีการ ขยับตัวได้ ก็ต้อง ถึงขนาด ใช้ กาว ที่ไม่มีการหดตัว มาอุดช่อง ว่างให้แน่น

เหมือนกับ พวก ปืนไรเฟิลขนาด ใหญ่  ที่กลัว ว่า เมื่อปืนขยับตัวได้ขณะยิงแล้ว จะทำให้พานท้ายแตกได้


9083



และ จุดนี้  ที่ทำให้ การขัดกลอน มั่นคงขึ้น  คือ มีการฝังลูกปืน ไว้ที่ก้านลูกเลื่อน และ มีเบ้า ที่ โครงปืน

 ก็ถูกยกเลิกไป ในปัจจุบัน


9089



อีกเช่นกันปืน ในกลุ่มนี้  จะมีรางสำหรับ ให้ติดตั้ง กล้อง นั้น จะมีความกว้าง 16 มม  ในขณะที่อเมริกันชน

ปืนขนาด .22 LR  รางจะกว้าง  3/8 นิ้ว ( มันน่าจะ  คือ คือ ใกล้เคียง กับ  11 มม นะ แต่ไม่ใช่ดังที่คิด ครับ )

ซึ่งเป็นที่น่า ปวด เศียร เวียน เกล้า มาก ในการที่จะ หา ขาติดตั้งกล้องที่ดีๆ  สำหรับ นักเลงปืนติดกล้อง

ที่ชอบเอาเปรียบ สัตว์ ในยุค เก่าๆ  30-15 ปี ที่แล้ว

  
9086



ส่วน ซองกระสุน นั้น มีทั้ง แบบบรรจุ 10 นัด และ 5 นัด  มีส่วน ประกอบ ทั้ง สังกะสี  เหล็ก และ พลาสติก

9169


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2012, 08:49:50 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2008, 08:44:46 PM »



                                ของเล่น สำหรับ CZ Brno ในกลุ่ม นี้มีอะไรบ้าง

 
                           โปรดรอสักครู่ ขอไป รื้อ จาก  กระจาดก่อน ว่ามีอะไร ที่จะเอามาใช้ได้




                              อ้อ หาพบแล้ว  มี

1    ชุดลั่นไก ของ Timney และ AUTOMATION SOLUTIONS


เรามาดู ของ Timney  ก่อน

9579


5779


5780


ถอดของเก่า ออกแล้ว ใส่เจ้านี่เข้าไปไม่ยาก  แต่ ที่ยากคือ ต้องใช้ฝีมือ ในการ เซาะไม้ออก เล็กน้อย

และการ ตั้งไก ก็ต้อง ตั้งจนพอใจก่อน จึงประกอบปืน เข้ากับพานท้าย มิเช่นนั้น จะเป็นดังนี้

พอตั้งได้ดังใจแล้ว  ประกอบ เข้าที่ ขัน สกรู แน่น ได้ที่  เอาละนะ บรรจุกระสุน  ก็จะเกิดอาการนี้

คือ เหนี่ยวไกยิง แล้วปืนไม่ลั่น  หรือ ปิด ลูกเลื่อน แล้ว ปืนลั่นเลย  ที่เป็นเช่นนั้น

เพราะ  ปืนที่ลอยตัว อยู่  กับปืนที่ ถูกจองจำ การตั้งน้ำหนักไก จะต่างกัน 

( สำหรับ ท่าน ที่ ชอบ ปรับ แต่ง ไก  ให้ เบา )


ทีนี้เรามาดู เจ้า AUTOMATION SOLUTIONS

5763


5768


ฝรั่ง ก็ ทำออกมา หลอก ล้วงเงินไปจากกระเป๋าเรา  จนได้
 
แถมใส่ยากใส่เย็น  เพราะ ของเดิมลูกปืนจะถูกฝังไว้  ในสะพาน

 แต่เจ้าตัวนี้ ต้อง จับยัด ดิ้นไปดิ้นมา  ลูกปืนก็กระเด็นหาย

ไอ้คนทำมันคงรู้ เลย แถมลูกปืนมาให้  แต่ก็ต้อง ไปหาซื้อ  มาเพิ่มจนได้
 
แถมเวลาใส่  ต้องตั้งสติ อารมณ์ ดีๆ มิเช่นนั้น ไม่ สมอารมณ์ หมายแน่


2   สกรู  ที่  สามารถเปลี่ยน  จาก หัวบาก เป็น  รูเหลี่ยม

9582


ไอ้นี่ดี ครับ เหมาะสำหรับ  พวกพ้องพันธมิตร  ที่ชอบแก้ ชอบรื้อ

 สกรูของเดิม จะได้ไม่หัวแตกหัวแตน ถึงแม้นจะละแวดระวัง ยังไงก็ต้องมีผิดพลาด
 
แต่ดูแล้ว  ทำเองน่าจะได้  ดังเช่นท่าน Steel Shots ทดลองทำ

 





ขอพักก่อนครับ วัน หน้า ค่อย ว่ากันต่อ
บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 09:36:40 PM »



                        3   ขากล้อง และ แหวน รัดกล้อง
7408


ข้อนี้เป็นที่ น่าปวด หัวมาก  เพราะ รางกว้าง 16 มม นั้นมัน ประหลาด จากปืนทั่ว ไป
 
จะเล็กก็ไม่เล็ก จะใหญ่ก็ไม่ใหญ่ พวก คอมมู ชอบทำอะไรประหลาดๆ ต่างจากชาวบ้าน

 ถึงแม้ ทางโรงงาน ก็มีทำออกมาครับ แต่ กล้องมันเล็กจุดจู๋  ใหญ่ไม่ถึงใจ ( 7/8 นิ้ว)

ยาวก็ไม่สุดเสียงสังข์

9585


 ด้วย ความ โง่เขลา ด้อยปัญญาในสมัยเด็ก  เห็น ว่ากล้อง เป็น ฝ้ามัวหมอง

เลยถอด มันทิ้งไป เพื่อที่จะหาของใหม่มาทดแทน แต่ กาลเวลา
 
ผ่านเลย มาหลายสิบปีแล้วก็ยังไม่สามารถ หากล้องมาใส่ทดแทนได้
 
ถ้ามีท่านใด พอจะรู้แหล่งที่ ซ่องสุม ก็ขอความกรุณาชี้เบาะแส ด้วยครับ
 
9586


ส่วนเจ้านี่ ค้นหาอยู่นาน ก็ มีสายลับ กระซิบ  ว่าให้ไปหาเจ้านี่มา
 
นอกจากจะ ใช้กับ กล้องทั่วไปแล้ว ยังเอากล้อง ของ CZ Zkk 600 ,602 มาใช้ได้ด้วย
 
โดยการเอาเจ้า แผ่น รางนี้ สวมทับ รางปืน แล้ว ขัน สกรู ให้แน่น จากนั้นก็ เอากล้อง ของ CZ เสียบใส่

 เมื่อไม่ต้องการใช้ก็ถอดออก เมื่อ ใส่กลับเข้าไปใหม่ การยิง ก็จะมีการผิดพลาด เล็กน้อย จนถึงไม่ผิดเลย
 
แต่ถ้าไม่มี กล้อง ของ CZ ก็ ใช้แหวนรัดกล้อง ที่เขาทำมา นี่ก็ดี เพราะ ที่แผ่นรางนี้ มีรูเจาะไว้ และใต้แหวนรัดกล้อง จะมีสมอ เมื่อต้องการ

ถอดเข้าถอดออก ก็ มีปัญหาเรื่อง คลาดเคลื่อน เล็กน้อย จน ถึงไม่มีเลยเช่นกัน

7413


9108 p



8847



ตัวต่อไป ก็นี่ครับ ไอ้ เวร Warne  ทำออกมา ได้เยี่ยมยอดมาก

เป็นผลงานที่ทำออกมา เพื่อ  CZ Brno 16 มม โดยแน่แท้ 

มีทั้ง แบบมี สมอ [ W/ LUG]  และ ไม่มีสมอ [ W/O LUG]

แม้นรูกล้องจะแค่ 1 นิ้วก็ตาม  แต่ น่าเสียดาย  ที่ หยุดการทำลูกเสียแล้ว

ครั้งสุดท้ายที่ พอจะพบ เห็น ก็ประมาณ ปี 1999  อีกเช่นกัน ท่านใดรู้แหล่งซ่องสุม กรุณา แจ้งเบาะแสด้วยครับ

9598


แม้ในปัจจุบัน จะมีทำออกมา สำหรับ CZ 527  16 มม  ที่นึกว่า น่าจะใช้ได้ จึงสั่งมา

และแล้ว ก็ต้อง  กล่าวคำอำลา  ลาก่อนนะน้อง เราเข้ากันไม่ได้

9595


9589


เจ้านี่เป็นของ CZ แท้ ๆ ทำมาใช้กับ CZ 527  แต่ มีปัญหา หน่อยเดียว คือมี กระดูกงอกออกมา

เพื่อ เอาไว้ขัด ขาเวลาถอดเข้าถอด ออก  ถ้านำมาใช้กัน .22 แล้วไซ้ ก็ ถากหรือจามมันออกไป

นอกจากนี้ก็มีของ Millett  Angle- Loc ที่เป็นนางฟ้าขา หนีบ  แต่มุมที่หนีบ  ไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไร แล้วจะเล่าที่หลัง   




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2008, 10:15:46 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2008, 09:51:15 PM »

           ต่อไป ก็จะพูดถึง CZ   ยุค Millennium  CZ ยุคนี้ เป็น ยุคราคาลอยตัว ที่เป็นเช่นนั้น

เพราะ ทางโรงงานไม่สามารถ ทำปืนเก็บไว้ก่อน เช่นที่แล้วๆมา  ทางโรงงานจะทำปืนได้ก็ต่อเมื่อ

มีตัวแทนจำหน่ายสั่งพร้อมใบอนุญาต นำเข้า จากนั้นจึงไปขออนุญาตนำเข้าวัสดุ จากรัฐบาล

 แล้ว ทำ ตามจำนวนเท่าที่สั่ง  ราคาจึงขึ้น กับวัสดุ ที่ซื้อมาทำในขณะนั้น ซึ่ง ร้อยละเก้าสิบ
 
มีแต่แพงขึ้นไม่มีถูกลง ถ้า คิดจะซื้อ CZ ในอนาคต ต้องทำใจ

 เอ้าเรามาว่าเรื่องของเราต่อ  บ่นไปก็ ไร้บอย 

9150


9153


9154


ครับนี่เป็นปืน จะเล่าถึง บางท่าน อาจจะแย้งว่า ทำไมไม่ เล่า CZ 452 -2E ZKM 

และ  CZ 452-2E ZKM Lux (ดิลุก ณ คลองถ่าน  แขวง บูรพาภิรมณย์ ) ที่ไม่เล่าเพราะไม่มี
 
 ซึ่ง มันก็ไม่ได้ต่าง จาก 452 อเมริกัน ในชุดโครงสร้าง แต่แตกต่าง ที่ลำกล้องยาว 24 นิ้ว

มี ศูนย์ สะพาน  และ สกรูที่ยึด กับพานท้ายเท่านั้น ส่วน อื่นๆ ก็เหมือนกัน

  ปืน CZ รุ่น Millennium นี้นอกจากขายแพงกว่ารุ่นเก่าแล้ว  โครงสร้างและชุดลั่นไก

ยังทำคุณภาพที่เลวลง เห็นได้ชัดๆ ก็ บ่อแม็ก เป็นพลาสติก แม็ก ก็เป็น พลาสติก

ชุดลั่นไก ก็ ทำ หยาบและ ง่ายขึ้น (ตามความคิดส่วนตัว)  ส่วนดีก็มีไม่ใช่ไม่มี
 
รางติดกล้องทำออกมา ให้หาขากล้องได้ง่ายขึ้น แม้นจะปวดหัวเล็กน้อยกับ

ขนาด 11 มม ในรุ่นทั่วไป และ 3/8 นิ้ว ในรุ่น อเมริกา  แม้นถ้าดู แบบฉาบฉวย

 หน้าท้องที่ ราบเรียบ แผ่อ้าซ่า อือฮือ ขาวจั๋วฮ้อเจี๋ย เกือบเท่ากัน แต่ กลีบร่องตาลเฉาะ

หาเท่ากันไม่  ต้องแหวกว่ายเจาะลึก ค้น หาทุกซอกทุกเหลือบ ในภายภาคหน้า
 
         9092


9083


9491


 9104



ภาพข้างบนนี้ ท่านจะเห็นความ แตกต่างกัน ของชุดลั่นไก  452 รุ่นเก่า  รุ่นใหม่  และ 453

ไกของ453 ทำออกมาเพื่อให้ปรับ การลากไกและน้ำหนักไกได้ตามต้องการ แล้ว ยังสามารถ

ที่จะผลักไกไปข้างหน้า แล้วแตะเพียงเบาก็ลั่นได้ ระบบนี้ มันเหมาะสำหรับ ใช้ในสนามในร่ม 

ค่อนข้างอันตราย ในสนามกลางแจ้ง

9159


ภาพนี้  เป็นส่วนในร่มผ้า ของ 452 อเมริกาน่า .22 วิน แม็ก  จะเห็นซองเสียบแม็ก ที่เป็นเหล็ก
 
ที่ต้องจำเป็นต้องใช้ เหล็ก ก็เพราะ  ต้องอาศัย บ่อแม็กเป็นตัวยึด ระหว่าง โครงปืนกับพานท้ายไม้ 
 
การยึด ของปืน รุ่นอเมริกานี้ ดังที่ได้เล่ามาแล้วว่า จะมีที่ หน้าโกร่งไกและหลังโกร่งไก
 
ไอ้ตัวหลังโกร่งไกนี่ น่าจะเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ปืน .22 แม็ก นี้ ยิงสู้ปืน .22 ธรรมดา ไม่ได้
 
ถ้าท่านย้อนไปหาดูรูปปืน .452 อเมริกาน่า ขนาด.22  ธรรมดาจะเห็นว่า
 
ที่โครงปืนท้ายลูกเลื่อนจะมีปุ่มเหล็ก เพศเมียที่ห้อย ลงมา ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

 เพระถูกขึงพืด  อย่างแน่หนา เพื่อ ให้ ไอ้สกรูตัวผู้ ที่เสียบ จากหลังโกร่งไกขึ้นไป เสียบรูตัวเมีย
 
เพื่อ ให้กอดกระฉับแน่นหนา ไม่ดีดดิ้น
 
            แต่กับปืน .22 แม็ก นี้ ไอ้เจ้าปุ่มรูตัวเมียนี้สามารถ เลื่อนไปมาได้ เพื่อ ล่อเป้าให้ตรงกับ

 เดือย ตัวผู้ ที่ร้อย ขึ้นมา ทิ่มใส่  ไม่เท่านั้น ห้องหอที่ให้เจ้า 2 ตัวนี้  วาดลวดลาย

 พันตรูกันในพานท้าย คงต้องเรียกว่าโพลงมากกว่า มันช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร

ถึงแม้นจะกอดรัดฟัดเหวี่ยง กันแนบแน่นแค่ไหน มันก็ยังคงมีการส่ายขยับดีดดิ้นเมื่อถึงจุด------

กระสุนลั่น  คงต้องใช้วิธีอุดโพรง ให้แน่นกระชับจะได้ไม่มีที่ให้ดีดดิ้น

9175


9178



ปืนที่จะเล่าถึงอีกกระบอก ก็ เป็นรุ่น ลูกเสือ [Scout] ปืนกระบอกนี้จะสั้น เป็นท่านเติ้ง เสี่ยวผิง

หรือ เติ้งเสี่ยวหาญ เพราะมันสั้น ทั้งพานท้าย และ ลำกล้องจู๊ดจู๋  เหมาะสำหรับเด็กๆที่

เริ่มจะหัดยิงปืน เป็นปืนที่เล็กและน้ำหนักเบา มีจุดยึด ระหว่าโครงปืนกับ พานท้ายแค่ จุดเดียว

แม็ก ก็เป็น พลาสติก ใส่ได้นัดเดียว ศูนย์ หลังก็เป็นเสากระโดงหางจรเข้ แบบง่ายๆ
 
9172


 รอลุ้นผู้ว่า กทม  แล้วมาต่อกันวันหลัง


บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2008, 09:23:16 PM »

    เอ้ามาว่ากันต่อ หลังจาก สูดดมแก็ส น้ำตา  จนน้ำตาไหลพราก ยิ่งกว่า ปืนเป็นรอย  เสียอีก

ลืมบอกไปอีกอย่าง ชุดลั่นไก ของ .22 แม็กนั่ม นั้น จะยาวกว่า ของ .22  เล็กน้อย ครับ
 
ถ้าท่านจะหา ของเสริม ก็ตรวจดู รายละเอียด สักหน่อย


ปืนCZ ในยุคนี้ Millennium  นี้ทำออกมาแปลก  คือปุ่มลูกเลื่อน บางรุ่น หรือ รุ่นเดียว กัน

แต่ สั่ง  ต่างกรรมต่างวาระ  ปุ่มลูกเลื่อน ก็จะมีทั้ง ตัน และ กลวง ครับ ยังหาเหตุผลไม่ได้

ทำไม ทางโรงงาน จึงทำออกมา ต่างกัน

ถ้าพูดถึงขาและแหวนเพื่อติดกล้อง สำหรับ ปืน CZ แล้วน่าปวดหัว และน่าตกใจ ครับ

ที่น่าตกใจเพราะ มันมีราคาตั้งแต่ $ 8   ถึง $160 แล้วแต่ ความต้องการ ใช้งาน และ

ความสามารถ ส่วนบุคคล ที่จะล้วง ครุฑ จาก ผบ ทบ ครับ
 
ถ้า ถูกหน่อย ก็ จะไปเสียค่า กระสุน มาก สำหรับ ตั้งกล้อง ทุกครั้ง เมื่อต้องการใช้งาน

ถ้า แพงหน่อย  ก็จะประหยัด ค่า กระสุนเมื่อต้อง การใช้งาน

ไอ้นี่ยังไม่เท่าไร ที่หนักกว่านั้น ก็ คือ การที่จะหา ให้มันพอดีกับราง นะท่าน
9160

 
รูปรางปืนนี้  ท่านคงจะดูออกว่า 16 มม นั้น มันต่างจาก 11 มม และ 3/8 นิ้ว

แต่ 11มม กับ 3/8 นิ้ว นั้นมัน แทบจะเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกันครับพี่น้อง

ดังรูปข้างล่างนี้
   
Img 228


ที่นี้ท่านคงจะเข้าใจ ละนะครับ ว่า  ราง แถบยุโรป กัน อเมริกัน  นั้นมัน ต่างกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ
 
ถ้าท่าน ซื้อ  ชุด ติดตั้งกล้อง จากโรงงาน CZ  ท่านจะใช้ได้ กับ 452 ธรรมดาเท่านั้น

ไม่สามารถจะใช้กับ 452 อเมริกานาได้ และพึงนึกถึงสักนิดว่า เจ้า แหวนรัดกล้อง นี้

จะต้อง มีความสูงอย่างน้อย เกิน 10 มม หรือ .400 นิ้ว ครับ ก้านลูกเลื่อนจึงจะไม่ เบียดเสียดกล้อง

ส่วนที่ว่า ขาแบบ ปูดำหนีบนิ้ว   อ้อมันก็เป็นแบบหนีบ ทั้งนั้น

ท่านก็เลือกที่ แคมข้างหนึ่งแข็งตายตัว อีกข้างดุกดิกได้ ซิครับ
 
เมื่อ สอดเสียบเข้าไปแล้ว ก็หนีบแต่ด้านเดียว ยังไง ลำของพี่กล้องก็อยู่ตรง กลาง  รู น้องปืน
 
แต่ ไอ้ที่ แคมมันดุกดิกไม่อยู่กับที่ ( Millett Angle- Loc ) นั้น มันต้อง ช่วยกัน ดึงแขน  และดึงขา

รวมแล้ว สี่  ทิศ ไม่อย่างนั้น มันดิ้น ยัดไม่ค่อยจะเข้า เมื่อเข้าแล้ว ทีนี้ก็ถูกหนีบ ท่านแน่ใจแค่ไหน ว่า
 
ไอ้แขนและขา ทั้ง สี่นั้น มันรัดแนบแน่นกับเอว ที่คอดกิ่วหรือ อ้วนท้วน เท่าๆกัน  เพื่อที่จะให้เจ้า

ลำของพี่กล้อง วางตรงกับ รูของน้องปืน   นั้น ไม่ง่าย

หัวใจของการ ติดตั้งกล้อง  คือ  เมื่อเราติดตั้งกล้องไปแล้ว จะมีการปรับแต่ง ให้ กากบาท ในกล้อง

เข้าหากลุ่มกระสุน ที่ยิงออกจากลำกล้อง ไปบนเป้า นั้น เล็กน้อยเท่านั้น

(ปรับกากบาทให้เขาหากลุ่มกระสุน ไม่ใช่ ปรับกลุ่มกระสุน ให้เข้าหากากบาท ) 

ซึ่งอาจจะประมาณ  1 รอบ  ของที่ปรับ ซ้ายขวาหรือสูงต่ำ หาใช่ที่หมุนจนสุดแล้ว
 
กากบาท ยังไม่ไปถึงจุดที่กระสุนตก นั่นหมายถึง  เจ้าปูน้อยของท่าน  มันกำลังเซ็ง

ที่ท่าน จิ้มไม่ ตรงรูสักที  แถมล่มปากอ่าวอีกต่างหาก  แล้วยังดันทุรัง จน เส้นสาย ขาด

ฉะนั้น ท่านต้องจัดท่าทาง ให้เข้าที่  ทั้งซ้ายขวา แคมเธอคงช่วยได้ แต่ สูงต่ำ นี่ซิ ต้องอาศัย

 นาง ซิม (แผ่นโลหะบางๆใช้สำหรับหนุน )  ถ้าไม่มีก็ ตัวถัง นาง แป็ปซี หรือ นายไฮ ชาเขียว

 ก็ได้ครับ

เล่ามาตั้งนาน ไม่ ทราบ ว่า ข้าพเจ้า สื่อสารให้ท่าน เข้าใจ หรือไม่

ถ้า อย่างไร ก็ ถามได้นะครับ เมื่อ  ข้าพเจ้า เปิดประตู ให้ท่าน เคาะ ป๊อก ๆๆ
บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2008, 10:53:20 AM »


      ต่อไปก็เรื่อง ความ ยาวของลำกล้อง ว่า  สั้น ดีกว่าหรือ ยาวดี กว่า

ในปืน .22LR เคยอ่านพบเมื่อ หลายสิบ ปีมาแล้ว ว่า ลำกล้องยาวๆ เป็น มะเขือ กับ

สั้นๆ เป็นแตงร้าน แบบไหนจะแม่นและแรง ดีกว่ากัน

ฝรั่งอั้งม้อ  พี่แกเอา Win Mod 52  ซึ่งในขณะนั้น เป็นปืนลูกกรดที่ ดีที่สุด ของ แยงกี้ 

ที่มีลำยาว 24 นิ้ว เมื่อยิงแล้วก็ วัด ความเร็ว และ ความแม่นไว้

จากนั้นก็ คลิป ออก ทีละ 1 นิ้ว เจ้าของปืนคง เจ็บปวดจนน้ำตา เล็ด
 
แล้วก็ยิงและวัด ทุกๆ 1 นิ้วที่ตัด  จนกุด เป็นขันทีหรือไม่นั้น จำไม่ได้ครับ

ท่านใดมีข้อมูลก็ช่วย บอกเล่าเก้าสิบ ก็ดีครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า

แต่ที่จำได้  คือ ลำที่เหมาะเจาะ ที่ สุด  อยู่ที่  16 นิ้ว ครับ

จึงไม่น่าตกใจที่  Ruger 10/22 จึงมีลำ ใกล้เคียง นี้  และ

 ณ ปัจจุบัน CZ ก็ทำ รุ่น  452 American  ออกมา มีลำยาว 16 นิ้วครับ

และที่ถกเถียง กันว่า เกลียว ในลำ  ที่ว่า 6 หรือ 12 ร่องเกลียว แบบไหนที่จะควง 

ให้ได้ความสุนทรีถึงจุดสุดยอด ดีกว่ากัน
 
ขอ ตอบว่า 6 หรือ 12   นั้น ไม่ใช่เลขเด็ด  ที่เด็ด กว่าก็คือลีลา ครับ


เมื่อ สมัย เก่าก่อน หรือ  สมัย UBC ที่เราดูหนัง คาวบอย  ก็จะมีการ ท้าดวล ระหว่าง ผู้ไม่ดีกับผู้ดี โดยการ ใช้ ไพ่  ไปติดไว้ที่เสา แล้ว ให้ผู้

ไม่ดี ก็ยิงก่อนตาม บท  ที่ผู้กินกับ ก็สั่งอาหารมา  ผู้ไม่ดี ก็ยิงไปตรงกลาง ไพ่  ลิ้วล้อ ก็ ตบมือ นายแน่มาก  แล้ว  บท ต่อมา ผู้ ดี ก็ต้องยิงไป

 ที่ ไพ่ใบนั้น  ปรากฏว่า  มี รูเดียว  ไม่มี รู  สองหรือสามอย่าง  ตามผี ต้นมะขาม สนามหลวง  ผู้ชมก็ โห่ร้อง ฮ่วยแตก ไม่เอาไหน  แค่นี้ก็ ล่ม

ปากอ่าว  ผีมะขามก็ออกมาแก้ตัว ไม่จริง ไม่จริง เขา ยิงหนูจริงๆ  นี่ไงในรู มี กระสุน สองเม็ด  ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ไม่มีทางที่ กระสุนจะ

ยิงเข้าไปที่จุดเดียวกัน พอดี  ยกเว้น ว่าเป็นกระสุนคนละขนาด ถึงแม้จะเป็น ปืนกระบอกเดียวกัน ในเวลาเดียวกันก็ตามที่ 

จึงได้ มีการ บัญญัติ คำว่า  กลุ่มกระสุน สำหรับ ปืนลูกเดี่ยว  และ ม่านกระสุน  สำหรับปืนลูกซอง 

ทำไมจึง เป็นเช่นนั้น  เพราะ มันเป็นไปไม่ได้ที่ กระสุนจะเข้าไปอยู่ในรูเดียวกัน

โดยไม่มีการเหลื่อมล้ำต่ำสูงซ้ายขวา
 
การ ที่ ปืนจะมีกลุ่มกระสุนที่ดี  ได้นั้นมันต้องเริ่มจาก นี่ครับ
 
ปลอกกระสุน ทุกนัด จะต้อง มี ขนาด ที่ เท่ากัน รวม ทั้ง ความหนาบาง

แก็ป และ ดินปืน  ชนิดเดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน ไม่ขาดไม่เกิน
 
หัวกระสุนต้องเป็นโลหะชนิดเดียวกัน มีความหนาแน่น เท่ากัน
 
ความหนาบางของ สิ่งที่ใช้เคลือบ หัวกระสุนจะต้อง เท่ากันตลอดหัวกระสุน

จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ ทำให้  กระสุนชนิดนี้มีราคาแพงมาก

เมื่อได้กระสุนที่ดีมาแล้ว ใช่ว่าจะทำให้ปืนยิงแม่น  เพราะ

หน้าลูกเลื่อน จะต้อง มีขนาดที่พอเหมาะกับจานท้าย ไม่หลวมไปหรือ ฟิตไป เมื่อ ปิดลูกเลื่อน

รังเพลิงที่ลูกกระสุนเข้าไปนอน มี ความกว้าง และ ยาว พอดีกับ กระสุนนั้นๆ

เพราะ กระสุนแต่ละยี่ห้อ ย่อมมีรูปทรงที่แตกต่างกัน เล็กน้อย
 
รอยต่อระหว่างรังเพลิงกับเกลียวลำกล้อง มีความเรียนร้อย หรือไม่

เส้นผ่าศูนย์ กลาง ของ ลำกล้อง ได้ขนาดที่พอดีกับหัวกระสุน หรือไม่

 เพราะ ปืนแต่ละกระบอก และหัวกระสุนแต่ละนัด ย่อมไม่เท่ากัน

เมื่อหัวกระสุนวิ่งหมุนตัวผ่านเกลียว แล้วดีดตัวครั้งสุดท้ายเพื่อให้หลุด จากปลายลำกล้องนั้น

 ที่ปากลำกล้องจะต้องมีการขัดแต่งให้ราบรื่น ไม่มีการ สะดุด

กระสุนต้องวิ่งฝ่า ลม ไปยังเป้าหมาย  ลมนั้น พัดด้วยความเร็ว เท่ากันหรือไม่

นี่เป็น เหตุ และ ผล ของ ปืน ที่จะยิงแม่น หรือไม่แม่น
 
มัน ไม่ได้อยู่ที่ ความยาวของลำกล้อง หรือ จำนวนเกลียว

บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2008, 06:39:43 PM »

                         บทความ ของท่าน วิจิตต์ ศิริเทียร์ ครับ

                                                     แนวทางของหัวกระสุน

    หัวกระสุนของลูกปืนที่ยิงต่อไปทุกๆนัด มิได้มีแนวทางเหมือนกันหรือมีแนวทางอย่างเดียวกัน

   ในการยิงเป้า ผู้ยิงจะพบว่า กระสุนทุกนัดที่ยิงออกไปถูกเป้าหมายทุกๆครั้งนั้น มิได้ถูกเป้าหมายตรงจุดๆเดียวกันหรืออีกนัยหนึ่ง

กระสุนนัดหลังมิได้พุ่งไปถูกเป้าตรงพอดี หรือวิ่งไปลอดรูของกระสุนนัดแรกที่ปรากฏอยู่ในเป้า อย่างดีที่สุดก็ตรงจุดเดียวกัน แต่ยังมีการ

เหลือมล้ำต่ำสูงซึ่งกันและกัน

   นอกเหนือไปจาก ทางลม ความร้อนหนาวของอากาศ การแตกต่างของกำลังดินขับและอื่นๆแล้ว แนวทางของหัวกระสุนยังตกอยู่

ภายใต้อิทธิพลของความแตกต่างแห่งความสมดุลของหัวกระสุนเองด้วย

   การหมุนตัวของกระสุนเองในอากาศอันเนื่องมาจากเกลียวในลำกล้องมีลักษณะคล้ายคลึงกับการหมุนของลูกข่าง

   ลูกข่างซึ่งประดิษฐ์ได้อย่างสมดุลดีจะไม่มีเสียงคราง “หึ่งๆ” ที่ปลายเดือยของลูกข่างจะจิกอยู่บนดินที่จุดเดียวกันเสมอไม่ว่า

ลูกข่างนั้นจะโอนเอนหรือตะแคงควงไปรอบๆทิศทางใดก็ตาม

   ลูกข่างซึ่งส่งเสียงคราง ก็คือลูกข่างซึ่งไม่มีการสมดุลในการสร้าง ปลายเดือยของลูกข่างไม่จิกอยู่บนดินตรงจุดๆเดียวปลาย

เดือยของลูกข่างแบบนี้หมุนรอบตัวเอง และหมุนตีวงเป็นวงกลมรอบจุดสมมุติ ซึ่งเป็นจุดที่ปลายเดือยควรจะจิกจี้อยู่

   ในทำนองเดียวกันหัวกระสุนซึ่งส่งเสียงหวีดไปในอากาศดังเช่นในภาพยนตร์ ซึ่งในตอนยิงกันมีเสียง “เฟี้ยวๆ” นั้นก็หมายความ

ว่าหัวกระสุนนั้นๆไม่ได้สมดุลในขณะวิ่งแหวกอากาศหัวกระสุนแบบนี้หมุนรอบตัวเองจริง แต่ยอดแหลมของหัวกระสุนส่ายเป็นวงรอบๆแนว

เส้นสมมุติซึ่งหัวกระสุนควรจะวิ่งตรงไป

   จุดสมดุลของการหมุนตัวลูกข่างอยู่ที่ปลายเดือย จุดสมดุลของแนวการหมุนตัวของหัวกระสุนอยู่ที่ปลายกระสุน

   เส้นแนวสมดุลของการหมุนตัวของลูกข่างคือ เส้นซึ่งลากจากจุดปลายเดือยของลูกข่างผ่านกึ่งกลางความกว้างของเดือยขึ้นไป

จรดปลายยอดของตัวลูกข่าง เส้นแนวสมดุลของการหมุนตัวของหัวกระสุนก็ทำนองเดียวกัน คือเส้นแกนกึ่งกลางของหัวกระสุนนั่นเอง


   หัวกระสุนของกระสุนทุกนัดที่วิ่งออกไป เป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของธรรมชาติ และนอกเหนือไปจาก

ความต้านทานของอากาศแล้ว หัวกระสุนยังต้องถูกอำนาจความดึงดูดของโลกดูดให้ลงต่ำเข้ามาสู่พื้นดินเป็นลำดับๆด้วย


   แนวสมดุลของหัวกระสุนซึ่งตกอยู่ในอำนาจความดึงดูดของโลกก็ควรจะต้องยึดถือเป็นหลักพิจารณาในการแตกต่างของแนวทาง

ของหัวกระสุนด้วย

   เมื่อหยิบมีดหงายคมขึ้น เอาหัวกระสุนวางขวางบนคมมีด เมื่อท่านพยายามวางหัวกระสุนให้ขวางอยู่บนคมมีดได้โดยที่หัวกระสุน

ไม่ตกลงมา เส้นตรงซึ่งลากจากคมมีดขึ้นไปตัดหัวกระสุนคือเส้นสมดุลแห่งความดึงดูดของโลกของหัวกระสุนนั้นๆ

   จุดสมดุลแห่งความดึงดูดของโลก อยู่ในบริเวณเส้นนี้แต่อยู่ในแกนกลางของหัวกระสุน คือที่จุดๆหนึ่งภายในหัวกระสุน

   จุดสมดุลของการหมุน แนวสมดุลของการหมุน จุดสมดุลของความถ่วงเฉพาะ (ความดึงดูดของโลก) เส้นสมดุลของความเฉพาะ

เหล่านี้ของหัวกระสุนแต่ละหัวไม่ตรงอยู่ที่เดียวกัน ดังนั้นการวิ่งของกระสุนแต่ละนัดในอากาศจะมีแนวของการวิ่งเป็นอย่างเดียวกันไม่ได้

   การที่จุดและเส้นสมดุลต่างๆดังกล่าวของหัวกระสุนทุกนัดไม่เหมือนกันและไม่อยู่ตรงจุดเดียวกันก็เนื่องมาจากในเวลาปัจจุบัน

 มนุษย์มิสามารถจะผลิตหัวกระสุนแต่ละหัวให้เหมือนกันและมีน้ำหนักแน่นอนเท่ากันได้ ดังจะได้วินิจฉัยเป็นลำดับต่อไป

   ประการแรกซึ่งควรจะกล่าวถึงก่อนอื่นคือ หัวกระสุนของปืนไรเฟิลปัจจุบันส่วนมากกอปรด้วยไส้โลหะผสม เปลือกแข็งซึ่งสร้าง

ด้วยโลหะผสมและน้ำมันหล่อลื่นอย่างแห้งบางๆเคลือบผิวนอกของหัวกระสุนไว้

   ความหนาและบางในการเคลือบน้ำมันหล่อลื่นบนผิวของหัวกระสุนก็เป็นการยากอยู่แล้วที่จะทำให้ได้ระดับสม่ำเสมอกันตลอดไป

บนหัวกระสุนอันเดียวกัน บนหัวกระสุนหัวหนึ่งหัวใด ถ้าน้ำมันที่เคลือบไว้ข้างหนึ่งหนามากกว่าอีกข้างหนึ่ง ก็ย่อมจะทำให้ข้างที่น้ำมันหนา

หนักกว่าซีกซึ่งมีน้ำมันบาง และทำให้ซีกซึ่งมีน้ำมันเคลือบบางทำให้เส้นและจุดสมดุลต่างๆผิดแผกไปจากที่หัวกระสุนก่อนจะถูกเคลือบ

น้ำมัน ดังนี้จะเห็นได้ว่าแม้แต่กรณีของหัวกระสุนอันเดียวก็ยังยากอยู่แล้ว ดังนั้นในกรณีของหัวกระสุนหลายๆหัวจะเป็นการง่ายอย่างไรได้


   ถ้าเราตัดปัญหาของความหนาบางของเปลือกกระสุนในหัวกระสุนอันเดียวกันก็ยังไม่เท่ากันทุกส่วนตอนไป หัวกระสุนแต่ละหัวก็

จะมีเส้นและจุดสมดุลเหมือนกันไม่ได้แน่นอน

   ไส้ในโลหะของหัวกระสุนอีกประการหนึ่ง การผสมของโลหะซึ่งเป็นไส้ในจะได้สัดได้ส่วนเท่ากันไปทุกแห่งไม่ได้ และนอกจากนั้น

การหล่อหัวตะกั่วหรือการยัดไส้เข้าไป มิใช่จะได้ผลดีเสมอไป ยังจะต้องคำนึงถึงโพรงอากาศข้างในอีกด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ในตอนไหนของ

หัวลูกปืน โพรงอากาศที่กล่าวนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของจุดและเส้นสมดุลต่างๆของหัวกระสุนแต่ละนัดให้แตกต่างกันไป


   ที่กล่าวมาแล้วก็จะเห็นได้ว่า กระสุนทุกนัดจะยิงไปยังจุดเดียวกันนั้นไม่ได้ พึงสังวรไว้ด้วยว่า อย่าใช้อาวุธปืนหยอกล้อผู้ใดเป็น

อันขาด มนุษย์ มิสามารถจะบังคับกระสุนปืนได้อย่างใจ ถึงแม้ฝีมือจะดีอย่างไรก็ตาม

   ดังเหตุผลที่กล่าวมาแล้วจะหยั่งให้ทราบว่า แนวการวิ่งของกระสุนในอากาศของกระสุนทุกๆนัดไม่เหมือนกัน

   การแตกต่างในแนวการวิ่งของกระสุนในอากาศ อาจจำแนกหรือจัดได้เป็น 3 อย่าง

1.   แนวการวิ่งอันสมดุลดี ปลายของหัวกระสุนมิได้เบนหรือเอียงไปทางทิศใดเลย และลำตัวและท้ายของหัวกระสุนก็รักษาระดับตรง

ไปข้างหน้าได้ดี วิถีกระสุนโค้งก็จริง แต่การโค้งมิได้หมายความว่าหัวกระสุนจะพุ่งโค้งต่ำและยกท้ายขึ้นสูงตามลงมาหาพื้นดินดังที่บุคคล

ส่วนมากเข้าใจ การลดต่ำลงของวิถีกระสุนอันแท้จริง คือการลดระดับความสูงของแท่งของหัวกระสุนทั้งแท่งลงมาทั้งๆที่หัวกระสุน ลำตัว

ของหัวกระสุนและท้ายกระสุนยังอยู่เป็นแนวตรงได้ระดับเดียวกันไปข้างหน้าเสมอ กระสุนซึ่งมีการสมดุลเป็นอันดีจะเจาะเป้ากระดาษเป็นรู

กลมเท่ากับขนาดความโตของหัวกระสุน และปลายของหัวกระสุนจะเป็นส่วนที่ถูกเป้าก่อนเสมอ เพราะการหนุนตัวของหัวกระสุนได้ประคอง

หัวกระสุนให้ชี้พุ่งไปข้างหน้าตลอดกาล


    พึงจำไว้ว่า ความต้านทานของอากาศทำให้ความเร็วซึ่งวิ่งพุ่งไปข้างหน้าของหัวกระสุนลดลงเร็วกว่าความเร็วของการหมุนตัวของหัว

กระสุนเอง เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนของการลดความเร็วของทั้งสองอย่างแล้ว กระสุนหมดกำลังของการวิ่งพุ่งไปข้างหน้าก่อนที่การหมุน

ตัวเองจะหมดกำลังไป


2.   แนวการวิ่งชนิดเผยอหัว ในข้อแรกท่านทราบดีแล้วว่าหัวกระสุนซึ่งมีความสมดุลดี หัวกระสุนลำตัวและท้ายกระสุนวิ่งพุ่งไปข้าง

หน้าได้ระดับกันดี ในข้อนี้การวิ่งของหัวกระสุนมิได้เป็นเช่นดังกล่าว นั่นก็คือกระสุนไม่มีความสมดุลอย่างเหมาะสม การวิ่งของกระสุนแบบนี้ก็

คล้ายคลึงกับเรือซึ่งบรรทุกของหนักอยู่ทางท้าย และปล่อยให้หัวเรือเชิดลอยขึ้นบนพื้นน้ำวิ่งไปข้างหน้า แทนที่จะเอาปลายของหัวกระสุน

พุ่งไปก่อนกลับเอาส่วนล่างของปลายกระสุนเป็นส่วนซึ่งทำการแหวกอากาศ เมื่อแนวของการวิ่งของหัวกระสุนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ กระสุน

จะเสียความเร็วไวเข้า และจะเจาะเป้าเป็นทางยาวมิใช่เป็นรูกลม


3.   แนวการวิ่งแบบที่ 3 ก็คล้ายกับลูกข่างซึ่งไม่ได้ความสมดุลกำลังอ่อนกำลังของการหมุนตัวอยู่ คือปลายเดือยตีวงกว้างและหัว

ลูกข่างก็ส่ายตีวงกว้างเช่นกัน อำนาจทะลุทะลวงของกระสุนแบบนี้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าถูกสัตว์แล้วจะทำให้เกิดการช็อคมากกว่า

ธรรมดา เพราะกระสุนดิ้นตัวอยู่เสมอ ตีซ้ายป่ายขวายุ่งไปหมด

นอกจากการแตกต่างในความสมดุลของหัวกระสุนเป็นต้นเหตุของการแตกต่างของแนวการวิ่งแล้วยังมีสมมุติฐานอื่นๆอีกหลายประการ แต่จะ

กล่าวเพียงสมมุติฐานที่สำคัญๆเพื่อประดับความรู้ไว้เป็นสังเขป

และนี่ ก็ ท่าน Ancientบรรยาย ได้ชัดเจนมาก รวมทั้งรูปภาพ ดิ้นได้

Ancient 
Silver Member    http://thaiblades.com/forums/showthread.php?t=55987


บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2008, 10:37:12 PM »


หลังจากที่เสียเงินเสียทอง ซื้อ เจ้ารากหญ้า  มาด้วย หยาดเหงื่อ และ น้ำบ่อน้อย ในช่องปาก

จน น้ำกระเซ็น แล เลือดตาแทบกระเด็น  นายและนาง ห้าง  อาเฮีย อาเจ้ อาซ้อ  ก็ไม่ยอมลดราคาให้

สินสอดทองมั่น ก็เสียไปแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ  ตายเป็นตาย

จัดการ ตกแต่ง เสริม สวย  ให้มัน เป็น ไฮโซ ไฮซ้อ ไปเลย

ทีนี้ละ ท่าน ได้กระอักเลือด เป็นลิ่มๆ แน่แท้

หลังจากขุดคุ้ย ค้นหา เป็น สิงห์ Google ก็ไม่สามารถหาพานท้าย

ที่  ต้องการแบบ Mini Sniper แบบรูปนี้ได้
 
8968


9016


อันเนื่องจากภาพ ข้างบนนี้ เราก็มาเริ่ม  ออกเดิน ทาง  ค้นหา
 
 ไปหาซื้อไม้ ได้ที่ถนนสายไม้  แถว ๆ  ไม่แถว ละ บางโพ เลย มุด มัน ทุกร้าน หา ร้านที่มีไม้

มาจาก นอกราชอาณาจักรไทย จนพบ ว่า มีไม้ บีส  ที่ ขาว สวย ตัวเบา  แต่  เหนียวแน่น

 ท่าน มักจะขาย ยกแผ่น  มีตำหนิ  ด่างพร้อย  ขาแตกลายงา มีลูกตา มากหลาย

 ท่านก็ไม่ยินดียินร้าย ยากซื้อก็ซื้อ ไป  ไม่ตัด ไม่แบ่ง ใหญ่ยาว ก็ต้องไม่ง้อ

ท่านก็ต้องวัดใจและวัดดวง  เลือก ไอ้ที่ มันหนา สัก 4 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว ยาวสัก 40 นิ้ว

เป็นอย่างน้อย และ เป็น สีเหลี่ยม คางหมูก็ได้   แล้ว เอามา ถากๆไส ๆ

 จากนั้นก็ จับ มันโยน ทิ้งไว้ ในที่ร้อน ๆไม่ใช่ตากแดดนะ

 เดี๋ยวมันจะกลายเป็น ปลาหมึกย่างตัวงอ

 













และจากนั้น ท่านก็  สืบเสาะค้นหา ว่า ในหมู่ ท่านมีใคร ครอบครอง เจ้า Bell & Carlson ที่ใช้กับ 10/22

 9068


แล้วก็สืบค้นต่อไป ว่า ศิลปิน ชาว มอญ ที่ เหลาพานท้าย  แถวๆ ปากเกร็ด  อยู่แห่งใด ก็ เอาไปให้  ท่าน ศิลปิน จัดการ

แปลงร่าง จากไม้ท่อน เป็น พานท้ายปืน
9073



จากนั้น ก็  รื้อ ชุด อลูมิเนียม สำหรับ ปรับ ความสั้น ยาว  บิดซ้าย ขวา  ของ นาย เบล ขาสั้น
 
และ  ชุดปรับ รองแก้ม สูงต่ำ ซ้ายขวา ของ  นาย พาราซี่ [ Perazzi] 

วิ่ง ไป บางประกง อ้อนวอน นะ อาตี๋ นะ  ทำให้เฮียหน่อย และ อย่าทำ สี เป็นหม้อหุงข้าว ละ

ทำสีให้มันเป็น ลูกกวาด ด้วยนะ อาตี๋ 

9074


ส่วนไม้ ก็นั่งรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ เมื่อไรที่ ศิลปิน  จะมี อารมณ์ สุนทรี ดังฟังเพลงสุนทราภรณ์
 
สักที่ ก็ต้องทำใจรอ  เมื่อได้มา ก็จัดการย้อม ด้วยสีย้อมไม้  สัก หลาย เพลา
 
จนได้ สี สมใจนึกแล้วก็  นั่งตากลม มอง เมื่อไร จะแห้งแหงแก๋  แล้วจึงเริ่มลงมือ 

ลง เจ้า Ture Oil  จนเป็นที่น่าพอใจ
9044


ในขณะที่ เฝ้า รอ  กลุ่ม ศิลปิน บรรเลง  ไม้และอลูมิเนียม

ท่านก็  ค้นหาอุปกรณ์ เสริม ดวง  เสริมอึ๋ม ให้ ดูไฮโซ  หน่อย ก็ได้ 

ส้นสูง ของ นาย กระเท่เล่  [  Talley  Ring 600004 ]

ทีนี้ ก็ต้องหา แว่นสายตา ของ นาย ลูโบ๋ [ Leu 60390 Leupold 6.5-20X56 VX-L]
 
ส้น ยางก็ต้อง นายอำเภอ มอแกน ชักสูงชักต่ำได้ [Morgan Curved Pad]
 
ขาทรายก็ หา นาย ปากเจิ่อ Parker Hale มาใส่เท่ๆ

 เมื่อ ได้ ครบ อาการ 32 แล้ว ก็ จับมันมารวมกัน

ส่งขึ้นเวที  ประกวด  ส่วนจะได้ตำแหน่ง หรือไม่ นั้น ไม่ ทราบได้

เพราะ หลังจาก ตกแต่ง ถ่ายภาพ มา ให้ นักดูถ้ำมองแล้ว

ก็ จับยัดลง เข่ง ต่อไป ด้วยประการเช่นนี้แล

สุดท้าย ปืนที่ ถูกแสนถูก ท่านก็ทำให้มันแพงแสนแพงได้

แต่ ท่านต้องรู้ตัวเองก่อน ว่า ทำเพื่อ อะไร และคุ้มค่ากับการทำหรือไม่

และ ในที่ สุด ท่านก็ มักจะหยิบ ปืน ที่ ออกมาจากโรงงาน
 
 ออกไปเดิน ท่อมๆ  ในทุ่งโล่ง ที่เป็นโลกแห่งความสุข ของท่าน

ขอขอบคุณ ทุก ท่าน ที่ หลง เข้ามาให้ความสนใจอ่านครับ

บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2008, 10:45:53 PM »

 เยี่ยม เยี่ยม คิก คิก คิก คิก


295


 หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก

                      ที่ว่า แม่น นั้น ต้อง กลุ่มเล็กแค่ไหน  จึงแม่น

                ปืนที่แม่นที่สุด  คือ  ปืนที่อยู่ในมือท่าน เมื่อต้องใช้งาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 14, 2008, 11:19:49 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2008, 10:49:07 PM »

และเมื่อ ช่าง หลาวไม้มา  หลวมโครกเขก ไม่กระชับ แนบเนื้อนาง ที่ก็ต้อง สืบเซาะ วิธี อุดช่องว่าง ของ ท่าน Real  ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
หน้า: [1] 2 3 4 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.218 วินาที กับ 24 คำสั่ง