เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 08, 2024, 01:48:25 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดช่อง9 ตอนนี้ดูสารคดี ที่ สปป. ลาว การจับปลาด้วยหลี่  (อ่าน 4990 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 10:35:49 PM »

ผมติดตามมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแถวๆบ้านผมคนอื่นเขาทำกันเรียกโพงพางไม่ทราบอันเดียวกันไม๊
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 10:45:08 PM »

ปลาชุมจริงๆครับ
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
☆ *~PLOY~* ☆
Hero Member
*****

คะแนน 62
ออฟไลน์

กระทู้: 4190



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 10:50:50 PM »

                               http://www.9dern.com/rsa/view.php?id=1387

                                                 

                                                     หลี่...ดักปลา

เมื่อถึงช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูแล้งเข้าสู่ฤดูฝน หลังจากสนุกสนานในงานประเพณีสงกรานต์เสร็จแล้ว เด็กๆ ก็ยังไม่ต้องไปเรียนเพราะปิดเทอมใหญ่อยู่นั่นเอง พ่อพาไปตัดไม้ไผ่มากองรวมไว้ เรากะขนาดความยาวประมาณ 1.50 เมตรต่อท่อน เอามาผ่าและจักเป็นเส้นเล็กๆ ตากแดดไว้

พ่อเข้าไปหาเครือเถาวัลย์ในป่าข้างบ้าน รูดใบทิ้งเหลือแต่เส้นเถา เอามาเตรียมไว้ ผมตามพ่อไปด้วย ยังไม่มีอะไรทำก็หาคล้องกะปอมเอาไว้ลาบไปในตัว หน้าแล้งมะม่วงกำลังเข้าไคล ย่างกะปอมให้เหลืองสวย สับให้ละเอียดใส่เครื่องลาบเข้าไป ดึงรสเปรี้ยวด้วยมะม่วงพิมเสน น้ำปลาแดกและผงนัวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อร่อยจนลืมอิ่มล่ะครับ

เมื่อได้ตอกและเถาวัลย์จนเพียงพอแล้ว พ่อก็พาสานเฝือก เถาวัลย์ทำหน้าที่ยึดตอกแต่ละเส้นเข้าด้วยกัน จนเป็นผืน เราถักกันไว้หลายผืน เพราะต้องกางเฝือกให้กว้างเท่าขนาดของลำห้วย แล้วยังต้องเหลือเอามาทำตัวลี่อีกด้วย

เมื่อได้เฝือกครบตามจำนวนที่ต้องใช้งานแล้ว เราก็เริ่มกรรมวิธีสร้างตัวลี่ เราตั้งเสาดักลำห้วยด้วยระยะห่างต้นละ 1 เมตร เว้นช่วงกลางให้ห่างไว้ 2 เมตร เพื่อเป็นตัวลี่ ในช่องห่างตรงกลางนั้นก็ตั้งเสายาวไปตามลำน้ำอีก 5 เมตร 2 ด้าน ทำโครงโดยรอบ จึงเริ่มผูกเฝือกเข้ากับโครงลี่ ปลายหางลี่จะค่อยๆ ยกระดับสูงขึ้นจนพ้นน้ำ เพื่อให้ปลาที่ไหลมาตามลำห้วยมากองกันอยู่ที่หางลี่ สะดวกในการเก็บรวมรวบ ด้านหน้าลี่ต้องเอาดินเหนียวมาอุดตามรอบรั่วให้ดี ปลาจะได้ไม่หนีไปไหน

 พอฝนเทลงมา น้ำในลำห้วยเริ่มไหล ปลาก็เหมือนตกลงมาพร้อมกับฝน หน้าที่ยามลี่ก็เริ่มต้น ผมช่วยพ่อปลูกกระต๊อบมุงหญ้าคาเล็ก ๆ ไว้ที่หางลี่ เราเตรียมอุปกรณ์เช่นหมอน มุ้ง ผ้าห่มไปไว้ในกระต๊อบ กะละมังซักผ้าสังกะสีเก่า เอาดินใส่ไว้เกือบเต็มทำเป็นเตาไว้ก่อไฟ หาฟืนมาเตรียมไว้ให้พร้อม

ปริมาณปลาที่จับได้ในแต่ละวัน มากบ้าง น้อยบ้าง แต่พอลมหนาววอยๆ พัดผ่านเข้ามา ฝนกำลังจะตกลาฟ้า ดูเหมือนปลาจะมาออหน้าลี่เต็มไปหมด ปลาช่อนตัวเขื่องๆ ลอยกันเต็มไปหมด พอมีอะไรให้ตกใจก็กระโดดกันโผงผาง สุดท้ายก็มาเจอกันที่หางลี่ ซึ่งเราถือเป็นคิลลิ่งฟิลด์ 555

ผมก่อไฟสุมฟืนไว้ในกะละมัง ดำน้ำลงไปงมดินเหนียวมาห่อปลาช่อนตัวเขื่อง ค่อย ๆ วางปลาช่อนโอบดินเหนียวเข้ากองไฟอย่างทะนุถนอม ด้วยกลัวว่าปลาจะตกใจจนทำให้เนื้อไม่หวาน ชะอุ๊ย!! ยังดิ้นขลุกขลัก สงสัยตอนห่อดินเหนียวแล้วลืมทุบหัว 555

ลมหนาวโชยมาจนขนลุกซู่ คะเนประมาณชั่วหม้อข้าวเดือด ดินเหนียวแห้งเป็นสีน้ำตาลหม่น น้ำหยดจากปลาโดนไฟดังฉี่ๆ พ่อเอาไม้คีบเจ้าปลาดินเหนียวออกมาจากกองไฟ บรรจงแกะดินเหนียวออก ผมมองเนื้อปลาขาวจั๊วะพลางกลืนน้ำลาย เอื๊อก! ดินเหนียวจะช่วยแกะเกล็ดปลาออกให้โดยอัตโนมัติ ข้าวเหนียวเย็นชืดที่เราเอามาทำข้าวจี่ก็เหลือมหอมน่ากินยิ่งนัก พ่อแกะแก้มปลาส่งให้ ผมจ้ำลงไปในถ้วยปลาแดก อื๋อ.. หวานอร่อยยิ่งนัก ผักโหบเหบที่เก็บจากนาเป็นผักแนมอย่างดี

ในบางครั้งชีวิตก็ใช่จะเรียบรื่นเสมอไป เรากำลังสนุกกับการจับปลาเข้าข้อง ปลาช่อน ปลาเข็ง ปลาขาว ปลาเซือม ฯลฯ งูเจ้ากรรมไม่รู้โผล่มาตอนไหน เราสองคนพ่อลูกกระโดดหนีกันจนลี่จะหัก ก็นึกว่างูเห่าหรืองูมีพิษน่ะสิ ที่ไหนได้ เจ้างูกินปลา จับปลากินจนหลงน้ำ เผลอไหลเข้ามาในลี่ ให้เป็นที่อกสั่นขวัญแขวน และกลับกลายเป็นผัดเผ็ดชั้นดีในมื้อเย็นนั้นเอง 5555
                                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2008, 10:54:32 PM โดย ☆ *~PLOY~* ☆ » บันทึกการเข้า

[URL=h
nattapat_me
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 234



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 11:09:58 PM »

แถวบ้านผมใช้วิธีทิ้งพุ้มโดยใช้กิ่งไม้ทั้งสดและแห้งกลองรวมไว้ในแม่น้ำแล้วนำอาหารและสิ่งเน่าเปลื่อยทิ้งไว้ให้ปลามากินอาหารและอยู่อาศัยทิ้งไว้ประมาณสามถึงสี่อาทิตย์แล้วก็ใช้อวนล้อมรอบแล้วค่อยๆนำกิ่งไม้ออกจากที่ล้อมอวนไว้แล้วก็ถึงขั้นตอนจับปลาโดยค่อยๆลากชายอวนหรือตีนอวนเข้าฝั่งได้ปลาเป็นตันๆเหมือนกันและอาจได้กุ้งแม่น้ำอีกต่างหาก ที่แม่น้ำเจ้าพระยาจังหวัดสิงห์บุรี
บันทึกการเข้า
YUNE
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 67


« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 11:43:43 PM »

ผมติดตามมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแถวๆบ้านผมคนอื่นเขาทำกันเรียกโพงพางไม่ทราบอันเดียวกันไม๊

น่าจะคนละอย่างกันครับ
โพงพางปลาเข้าแล้วจะออกไม่ได้ จากนั้นเราก็ยกขึ้นแล้วจับ
ส่วนหลี่เหมือนกับการต้อนให้ปลาขึ้นมาเกยตื้น โดยอาศัยกระแสน้ำ
ผิดถูกอย่างไรผู้รู้บอกด้วยครับผม  คิก คิก
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 21 คำสั่ง