อันนี้เป็นข้อความที่อยากให้คนไทยทุกท่านได้อ่านกันค่ะ เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญานนะคะ
แต่ที่ผมจะเล่า เป็นเรื่องราวต้นตอของแนวคิดนี้ ยาวหน่อย แต่ลองอ่านกันดูครับ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ที่จะทำให้คุณรู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ครับ
หลังจากวันนี้ที่ได้ไปร่วมรายการ และ ได้พูดคุยกับทั้งทาง ผอ เจ้าหนาที่จากมูลนิธิสืบ และนายกท่องเที่ยว
เรื่องราวคร่าวๆก็คือว่าเหตุการณ์มันเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่มีการอยากสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง และมีการขอแก้ พรบ มากมาย แต่สุดท้ายตกไป
ตามกติกาว่าไว้ว่า มิให้ เอกชน มีสิทธิสร้างสิ่งปลุกสร้างในเขตป่า แต่ให้ทางราชการเท่านั้นที่สร้างได้
เมื่อแก้กฏไม่ได้ จึุงมีการพูดคุยว่า เอกชนกล้ามั้ยหล่ะ ที่จะสร้างแล้วยกให้รัฐ เออ เอามั้ย
โฮะๆๆ ใครวะจะบ้า สร้างไปเปลี่ยนรัฐบวม ต้องมาลุ้นอีกว่าจะต้องไปจ่ายอีกเท่าไหร่
มันเลยตกไป
และก็ได้มีแนวคิดอยากสร้างธุรกิจจากป่า แต่แล้วด้วยเหตุว่า กฏมันแข็ง เลยไม่มีใครสนใจ
ราว 10 ปีผ่านไป ไวดั่งโกหก ล่วงเลยมาจนถึงเหตุการณ์คราว เสม็ด เสร็จทุกรายมีปัญหาเรื่องว่า มีเอกชนรุกที่เข้าไปใช้งาน ทำธุรกิจ
รัฐจริงไปร่างกฏขึ้นมาเพื่อให้เอกชนใช้พื้นที่ได้ โดยรัฐเป็นคนจัดที่ทาง ต้องทำตามรัฐบอก ไม่งั้น ออกไปซะ กฏนี้ก็แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ช่วงเวลานั้น มีแนวคิดของใครไม่รู้ บอกว่าอยากแปลงสิทรัพย์เป็นทุน
ก็เลยไปควักโปรเจ็คนี้กลับมา 555
แต่แล้ว พรบ 2504 นั้น แข็งโป๊กดั่งอะไร เลยทำไม่ได้ แต่แล้วก็ได้มีการพยายามตรา พรบ ใหม่เกิดขึ้น
บังเอิญว่า รัฐบวมชุดนั้น โดนรัฐประหารซะก่อน (เขียนถูกมะ) และแล้วมาถึงรัฐบวมชุดปัจจุบัน
ไม่ต้องคิดมากครับ เขาก็เลยไปขุดมันกลับมา แนวคิดเรื่องแปลงสินทรัพย์เป็นทุน และ แนวทางแก้ พรบ มันมาเป็นเรื่องจริงจังมากมาย
จาก คุณสมศักดิ์ เทพxxx นั่นแหล่ะ
พอดีแกสนิทกะนักธุรกิจ และด้วยความหวังดีต่อชาติ แกเลยไปคุยกะนักธุรกิจรายใหญ่ ว่า เนี่ย อุทยาน มีปัญหา อยากมาแก้มะ
แต่ทำไม อีตา ผอ พูดกะ ผม สองรอบไม่เหมือนกันวะ (แกบอกว่า มีการให้นักธุรกิจลงไปเลือกมาว่าอยากไปทำ ไปช่วย!!! ที่อุทยานไหน) ตัดกลับไปนักธุรกิจใจดีต่อ นักธุรกิจใจดีก็เลยสนใจ ตาเป็นมันอ่ะ กอรปกับมี คนคนนึง ที่เขาคอยช่วยนักธุรกิจ
ล่าสุดก็ลงไปดูพื้นที่กันมา ตา ผอ บอกว่าเขาลงไปเฉยๆ เล่นๆ ไม่จริงจัง (ก็คิดกันเองนะ)
ส่วนหัวหน้าอุทยานหรือ ก็ได้แต่ทำหนังสือคัดค้าน
ฝากมูลนิธิสืบ ก็หัวเดียวกระเทียมลีบ จนมาเจอเรา
ส่วนนายกท่องเที่ยว ตัดแกไปเถอะ ที่ไหนมีที่ให้แกไปทำทัวร์ แกไม่คิดอะไรมาก
แต่ตอนนี้ พรบใหม่ ยังไม่มา เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสืบบอกว่า คุณอรอนงค์แก ระงับไปละ แต่การให้สัมปทานนั้นเขาไม่ต้องใช้ พรบใหม่ครับ
เขาไปตัดยีน มาจากกฏที่เอามาแก้ปัญหา เกาะเสม็ด มาใช้กับอุทยานที่เหลือครับ
ง่ายๆคือ เขาเอากฏระเบียบการเช้าใช้พื้นที่ที่เขียนมาเพื่อแก้ปัญหาเกาะเสม็ดมาใช้
มีข้อนึงเขียนไว้ว่า พื้นที่ 8000 ตรม ให้สิทธิใช้งานได้ 30 ปี
เก่งเนอะ ไปตัดต่อกันมาได้
นี่ไง รียูสเอเบิ้ลลลลล ของจริง เก่งอ่ะ
ก็สรุปว่า ไม่ต้องมี พรบใหม่ ก็ทำได้นะฮะ
อีก 20 วัน คุณวิชิต ที่แกลงไปดูสถาณที่กับนักธุรกิจ จะเกษียณละ ไม่รู้ว่าแกจะมีผลงานอะไร ฝากไว้ในอ้อมอกคนไทยบ้างเนอะ
20 วันอันตรายนะพี่น้องงงงง
มันบังเอิญมากที่ คุณหมูล่องหน เอาเรื่องนี้มาเล่า และพวกเรารวมตัวกันไปสร้างโป่ง
บังเอิญที่เสียงเราไปถึงใครหลายคน
บังเอิญว่ามูลนิธิสืบได้รับรู้ว่า ไม่ใช่มีแค่เขาเท่านั้นที่อยากอนุรักษ์ธรรมชาติ
บังเอิญที่ว่าวันนี้ท่านรอง วิชิต ไม่สามรถมาร่วมรายการได้ และ อีก 20 วันจะเกษียณ
อ้อ
บังเอิญด้วยว่า วันนี้ก็มีการย้ายตำแหน่ง ผอ ในกระทวงด้วย
แว่วๆว่า ตำแหน่งนี้ขายดี มีราคา น่าสนใจ ใครอยากได้ป่าว
เอาเถอะ
มาถึงตรงนี้ ไม่มีข้อสรุปอะไร ผมพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้รับรู้มา ให้ทุกคนได้รับฟัง
จะเชื่อ ก็ตามใจ
จะไม่เชื่อ ก็ตามใจ
จะงง ก็ตามใจ
แต่ข้อมูลที่ให้โปรดใช้วิจารณะยานในการรับสารครับ
เราไม่บังคับกัน
ประชาธิปไตยแบบเราคือ เรามีสิทธิออกเสียงและความคิดได้ครับ
ทั้งหมดที่เล่า คือแนวความคิด และ แนวทาง ที่มันน่าจะเป็นไป
ยังไงลองตรึกตริงกันดูครับว่าสมควรหรือไม่
และมันมีข้อเท็จจริงอย่างไร
ขนาดคนที่มาวันนี้ในรายการทุกท่าน ยังถอนใจอ่ะครับ
ถ้าเราไม่ช่วยกัน
คงไม่เหลืออะไรแล้ว
ผมไม่ได้อยากให้คุณเชื่อ แต่อยากให้คุณพิจารณาดูครับ ว่ามันน่าเชื่อหรือไม่
ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากคัดค้าน แนวคิดนี้ รบกวนส่งเมล์ ชื่อ และ หมายเลขบัตรประชาชนมาที่ saveournp @ hotmail.com ครับ
รวบรวมมาเยอะๆก็ดีครับ
รับเรื่อยๆ มาก่อนวันที่ 12 กันยายน เราจะนับยอดเพื่อส่งจดหมายคัดค้านฉบับแรก
หลังจากนั้นส่งมาได้เรื่อยๆครับ
ทำ Forward mail ส่งไปเยอะๆก็ดีครับ
ช่วยกันนะครับ