อันนี้ละเอียดหน่อย มีภาพประกอบครับ
บ้านพักอาศัยทั่วไปแนะนำแบบที่ 5 ครับ
ถอด ADSL modem เดิมเก็บ แล้วใช้ เจ้า All-In-One ADSL Router + wireless ตัวเดียวสะดวกกว่าครับ
แต่ถ้าตึกหลายๆชั้น อาจต้องเป็นแบบที่ 6 เพื่อขยายสัญญาณ
จากเวป
http://www.isriya.com/column/byteculture/17-homenetworkป.ล. ราคาที่ระบุข้างล่างเป็นราคาตอนออกใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ถูกลงสองสามเท่าครับ
.
..
...
ติดตั้งเครือข่ายภายในบ้าน
11 March, 2005 - 09:57 in Byte Culture Howto Network
ติดตั้งเครือข่ายภายในบ้าน
ขอข้ามเรื่องความปลอดภัยไปตอนนึงนะครับ เผอิญมีผู้อ่านถามมาถึงการวางระบบเครือข่ายไร้สายภายในบ้าน ซึ่งช่วงนี้กำลังได้รับความนิยมจากราคาของ ADSL ที่ลดลง ผมเองก็เพิ่งวางระบบแลนไร้สายเหมือนกัน เลยมาแบ่งปันประสบการณ์เพื่อที่คุณผู้อ่านจะได้ประโยชน์ด้วย
ผมเหมาเอาเองว่าคุณผู้อ่านมีบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ส่วนตัว ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน ADSL (หรือไฮสปีดอินเทอร์เน็ตนั่นล่ะ ด้วยเหตุผลทางการค้าและการใช้งานทำให้ชื่อต่างกันออกไปครับ) ในบ้านมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ต้องการให้ทุกเครื่องต่ออินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งหมด แชร์ไฟล์ระหว่างเครื่องแต่ละเครื่องได้ เล่นเกมมัลติเพลเยอร์ได้ คร่าวๆ ประมาณนี้ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานโดยทั่วไปอยู่แล้ว
สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือสมาชิก ADSL ครับ ทุกวันนี้ทุกเจ้าต่างอัดโปรโมชั่นกันเต็มที่ การจะสมัครสมาชิกเจ้าไหนนั้น ควรดูคู่สายโทรศัพท์ว่าเป็นของใครก่อน ถ้าอยู่ในกรุงเทพและเป็นสายของทรู ก็แนะนำว่าควรจะใช้ของทรูทั้งระบบไปเลย ส่วนสายของ TOT และ TT&T มีไอเอสพีหลายๆ เจ้าให้บริการ (รวมถึง TOT เอง) อันนี้เลือกใช้กันตามสะดวกครับ หรือถ้ายังแม้แต่หมายเลขโทรศัพท์ โปรโมชั่นแบบติดตั้งทั้งระบบก็มีเช่นกัน
เมื่อมี ADSL เข้าบ้านแล้ว เรามาดูวิธีการใช้งานแบบต่างๆ กันตามรูปครับ
แบบที่ 1
จะเป็นแบบมาตรฐานที่บริษัทอินเทอร์เน็ตให้เรามาในชุดติดตั้ง คือมีโมเด็มสำหรับ ADSL หนึ่งตัว ก็เอาสายโทรศัพท์เสียบเข้ากับโมเด็ม และต่อโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ทยูเอสบี วิธีการเชื่อมต่อก็ใส่ชื่อและรหัสผ่านเหมือนกับต่อโมเด็มปกติ แค่นี้คุณก็จะได้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาใช้งาน ข้อดีของมันคือราคาที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลยนอกจากค่าสมาชิกรายเดือน เพราะโมเด็มจะแถมฟรีอยู่แล้ว ส่วนข้อเสียก็คือสามารถต่อได้อินเทอร์เน็ตได้เพียงเครื่องเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถใช้ความสามารถของวินโดว์ในการแชร์อินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องอื่นๆ ได้ เพียงแต่เครื่องหลักนี้ก็ต้องเปิดไว้ตลอดเวลาเช่นกัน รูปแบบนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวครับ ไม่ต้องต่ออะไรพิเศษประหยัดดี
แบบที่ 2
ถ้าเกิดมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องขึ้นมา ก็ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมครับ เราจะใช้โมเด็มที่แถมมาแปลงสัญญาณจากสายโทรศํพท์เข้ามา และใช้สวิตช์ซึ่งใช้กันในระบบแลนทั่วไปอยู่แล้วเป็นตัวกลาง กระจายสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์แต่ละตัวผ่านทางสายแลน นั่นหมายความว่าคุณต้องเดินสายแลนเอง ถ้าไม่มีสาย สามารถหาซื้อได้ตามร้านที่ขายพวกสายไฟและปลั้กตามห้างไอที ราคาแล้วแต่ความยาว แต่ทั่วๆ ไปไม่เกินเส้นละหนึ่งร้อยบาท ที่ห้ามพลาดคือคอมพิวเตอร์ต้องมีการ์ดแลนด้วย เมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ มีการ์ดแลนออนบอร์ดมาให้แล้ว ลองสังเกตหลังเครื่องว่ามีรูที่คล้ายๆ สายโทรศัพท์แต่ใหญ่กว่านิดหน่อย ถ้าไม่มีก็ซื้อมาเสียบเพิ่มเองได้ ราคาการ์ดละประมาณ 400-500 บาท หาซื้อได้ทั่วไป วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีสวิตช์และเดินเครือข่ายในบ้านอยู่แต่แรกแล้ว ถ้ายังไม่มีอะไรเลยก็ไม่แนะนำ เพราะมีวิธีที่ดีกว่านั้น
แบบที่ 3
ถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์สองเครื่องขึ้นไป และยังไม่มีเครือข่ายในบ้านเลย แนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ เพราะเรามีอุปกรณ์ที่รวมเอาความสามารถของโมเด็มกับสวิตช์เข้าด้วยกันเป็นอุปกรณ์เดียว ไม่เปลืองที่ ไม่ต้องเดินสายเยอะหลายจุดเท่าวิธีที่สอง สิ่งนี้เรียกว่า ADSL Router ครับ รุ่นมาตรฐานสามารถต่อคอมพิวเตอร์ได้สี่ตัว แชร์ไฟล์ได้ เล่นเกมระหว่างกันได้ และไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เหมือนแบบแรก เพราะ ADSL Router จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อให้แทน ที่สำคัญคือราคาตอนนี้ค่อนข้างถูก ประมาณสองพันถึงสามพันบาทก็ซื้อได้แล้ว หาซื้อได้ตามห้างไอทีทั่วไป ตามไอทีสโตร์ใหญ่ๆ อย่างเช่น IT City หรือ DataIT จะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ ถือเป็นโซลูชันที่คุ้มราคาที่สุดในตอนนี้เลยครับ
แบบที่ 4
ถ้ามีแต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ต้องต่อสายแลน ใช้แบบที่สามเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าเกิดมีโน้ตบุ้คที่มีระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN หรือชื่อทางการค้าว่า WiFi) ซึ่งปัจจุบันโน้ตบุ้ควางขายใหม่ทุกตัวมีหมดแล้ว จะเอาโน้ตบุ้คมาต่อสายแลนเล่นอินเทอร์เน็ตมันก็ไม่เข้าท่านักใช่มั้ยครับ นอนเล่นเว็บบนเตียงเท่กว่าเป็นไหนๆ แบบที่สี่นี้จะเป็นการแปลงแบบที่สองให้ใช้ระบบไร้สายได้ด้วย โดยเปลี่ยนสวิตช์ธรรมดาให้เป็นสวิตช์ที่มีระบบไร้สายแทน วิธีนี้ก็ไม่แนะนำ เพราะเรามีวิธีที่ห้าที่ดีกว่านั้น
แบบที่ 5
แบบที่ห้านี้เป็นการแปลงอุปกรณ์ของแบบที่สามครับ เวลาไปซื้อให้อ่านที่กล่องดีๆ ว่าเป็น ADSL Router + Wireless ราคาจะแพงกว่าหน่อยประมาณสี่ถึงห้าพันบาท แต่ถ้าคุณมีโน้ตบุ้คก็ยอมจ่ายแพงกว่านิดหน่อยดีกว่าครับ คุ้มกว่ากันเป็นไหนๆ เหมาะสำหรับบ้านที่คอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ไกลๆ กันจะได้ไม่ต้องเดินสายแลนให้เกะกะเปล่าๆ บ้านซักสามชั้นก็โอเคครับ สัญญาณครอบคลุมทั้งบ้านไหว (แต่ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ไหวแล้ว) ถ้าเป็นอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดก็สบายเลย ที่ต้องระวังนิดหน่อยคือควรเข้ารหัสความปลอดภัยในการใช้งานเครือข่ายไร้สายไว้ด้วย เผื่อบ้านข้างๆ จะมาแอบเล่นอินเทอร์เน็ตฟรีจากบ้านคุณนะครับ วิธีการอยู่ในคู่มืออยู่แล้ว หรือหาจากอินเทอร์เน็ตใน pantip.com ก็ได้ วิธีนี้ก็คุ้มสุดๆ สำหรับคนมีโน้ตบุ้คครับ
แบบที่ 6
ในกรณีที่บ้านเป็นคฤหาสถ์ก็ไม่ต้องเสียใจไปครับ เราสามารถขยายสัญญาณของเครือข่ายไร้สายได้ ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Wireless Access Point ให้ส่งสัญญาณจาก ADSL Router + Wireless ต่อกันไปเป็นทอดๆ วิธีการผมไม่ขอเขียนถึงนะครับ อุปกรณ์บางยี่ห้ออาจจะมีข้อจำกัดว่าต้องให้ยี่ห้อเดียวกันทั้ง Access Point และ Router และมีวิธีการที่ยุ่งยากกว่าปกติเล็กน้อย อันนี้สำหรับคนบ้านใหญ่ๆ ครับ
สรุปว่าวิธีการที่ผมแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่มีเครือข่ายในบ้านเลย คือวิธีที่สามกับห้าครับ ถ้าคุณมีแผนจะซื้อโน้ตบุ้คในอนาคตอันใกล้นี้ก็ให้ลงทุนซื้อแบบที่ห้าไปเลย เพิ่มอีกไม่กี่บาท นอกจากนี้ถ้าเป็นออฟฟิศขนาดเล็ก ยังมีรุ่นที่เป็น Print Server ได้อีกด้วย คือนำพรินเตอร์มาต่อกับตัว Router ได้เลย ไม่ต้องหาคอมพิวเตอร์มาแชร์พรินเตอร์อีกที แต่แน่นอนว่าราคาจะขยับขึ้นไปอีก ผมคิดว่าทุกวันนี้เครือข่ายในบ้านเป็นเรื่องจำเป็นไปแล้ว เพราะนอกจากความสามารถในการแชร์อินเทอร์เน็ตให้กับทุกเครื่อง การแลกเปลี่ยนไฟล์ผ่านเครือข่ายก็ย่อมสะดวกกว่ามาก ไม่ต้องโอนผ่านแผ่นดิสก์หรือแฟลชไดรว์กันอีกทอดหนึ่งด้วย ราคาประมาณสามถึงห้าพันบาท (รวมอุปกรณ์อื่นๆ เช่น การ์ดแลน สายแลน การ์ดไวร์เลส) ไม่น่าจะเป็นการลงทุนที่แพงเกินไป ขอให้สนุกกับเครือข่ายในบ้านครับ