เป็นบทความจากเดลินิวส์ วันที่ 22 สิงหาคม 2548
http://www.dailynews.co.th/col/col.asp?strdate=20050822&columnid=12549เป็นมุมมองหนึ่งจากคอลัมนิสท์หนังสือพิมพ์ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เห็นมาอย่างไรเขียนไปอย่างนั้น : อาวุธปืนทำไม ในบ้านเราจึงมีข่าวใช้ อาวุธ ปืน ยิงเข้าใส่กันปรากฏตาม หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ไม่เว้นแต่ละวัน
โกรธกันก็ยิง แก้แค้นก็ยิง ป้องกันตัวก็ยิง หรือแม้กระทั่งหยิบปืนมาทำความสะอาดก็พลาดกลายเป็นยิงเข้าใส่ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเราพกปืนกันง่ายเสียเหลือเกินพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ได้มีการแก้ไขฉบับสุดท้าย คือ แก้ไขฉบับที่ 8 พ.ศ. 2530 มาตราที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนมี 3 มาตรา คือ มาตรา 8 ทวิ เป็นเรื่องข้อห้าม ข้อจำกัดในเรื่องการพกปืน มาตรา 22 เป็นบทบัญญัติ เรื่องการให้มีอาวุธปืนติดตัว มาตรา 72 ทวิ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนบทบัญญัติในมาตรา 8 พบว่า เราสามารถพกปืนโดยไม่ผิดกฎหมายได้หลายวิธีด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่ ถ้าเป็น อาวุธปืนของตนเอง และ ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ได้ ตามกฎหมาย (ป.4) อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคลนั้น ผู้ใดจะซื้อต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ต้องยื่นคำร้อง ป.1 มีใบอนุญาตให้ซื้อได้ตาม ป.3 และมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุน ป.4 กำหนดใช้ได้ 3 กรณี คือ สำหรับป้องกันตัวหรือทรัพย์สินสำหรับการกีฬา สำหรับการยิงสัตว์
กรณีปืนเถื่อนคือ ปืนไม่มีทะเบียน มีโทษแค่ จำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี และ ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท
กรณี ปืนผิดมือ คือ ปืนมีทะเบียน (ทะเบียนจะออกให้ผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ) แต่อยู่ในความครอบครองของคนอื่น มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท
สำหรับ ใบพกพาทั่วราชอาณาจักร หรือในเขตจังหวัด ป.12 ผู้ใดประสงค์มีใบพกพาต้องยื่นคำร้องแบบ ป.1 ต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ใบพกจะออกให้ตามแบบ ป.12
บุคคลที่ควรออกใบอนุญาตให้มีใบพก นอกจากจะเป็นผู้มีใบ ป.4 แล้ว ต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ตัวอย่างเช่น เป็นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมทรัพย์สินของรัฐบาล ข้าราชการตั้งแต่หัวหน้าแผนกหรือเทียบเท่าขึ้นไป ผู้มีหน้าที่ในการปราบปราม หรือการปฏิบัติงานในการฝ่าอันตราย
ตามมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง ห้ามพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผยเป็นที่ปรากฏต่อสายตา โดยไม่จำกัดว่าเป็นเวลาและสถานที่ใด และห้ามพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชน ที่มีลักษณะพิเศษ อันได้แก่ การนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใดแม้จะพกมิดชิดก็ตาม ย่อมผิดกฎหมาย
และประการสำคัญ กฎหมายยกเว้นให้อีก ถ้าพกเพื่อประโยชน์ต่อไปนี้คือ มีเหตุจำเป็น และ เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เช่นต้องขับรถไปส่งสินค้าต่างจังหวัด และมีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย อ้างว่าจำเป็นป้องกันสินค้าของตนซึ่งอาจถูกปล้น
บันทึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 0503 (ส)/27663 ลง 30 ก.ย. 25 เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปที่สาธารณะ มีแนวทางในการสั่งไม่ฟ้องดังนี้
ได้นำอาวุธปืนใส่กระเป๋าไว้ใน ช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด
ได้นำอาวุธปืน ใส่กระเป๋า ใส่กุญแจแล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด
ไปเก็บเงินลูกค้าต่างจังหวัด นำอาวุธปืนติดตัวมาด้วยโดย แยกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้นำไว้เบาะหลังรถยนต์ห่ออาวุธปืน และซองบรรจุกระสุน แยกคนละห่อ เก็บไว้ในกระโปรงท้ายรถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ
นอกจากนี้ผู้ที่มีสิทธิพกพาอาวุธปืนได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตคือ เจ้าพนักงานบางประเภท ลูกจ้าง เจ้าพนักงานบางประเภท เช่น เจ้าหน้าที่ที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อย ทหาร ตำรวจ ซึ่งขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ป้องกันทรัพย์สินที่สำคัญของรัฐ
เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งพกพาอาวุธปืนไปไหนต่อไหนได้ เห็นมีเพียงทหารเหล่า สห. เจ้าหน้าที่การเงินโดยต้องแต่งเครื่องแบบประกอบ ทหารที่มีหน้าที่รักษาการณ์ ภายนอกภายในออกทำการฝึกเป็นอาทิ
เรื่องอาวุธปืนนี้นั้น มีหลักอยู่ว่า ถ้าไม่มี ถ้าไม่พกพาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เมื่อไม่ใช้ก็ไม่มีการฆ่ากัน
จึงไม่สงสัยว่า ทำไม ประเทศเพื่อนบ้านของเราไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ การเป็นเจ้าของปืนถือว่า ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ยกเว้นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ
ที่มาเลเซีย กฎหมายอาวุธปืน ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 ใครมีปืนไว้ในครอบครอง มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว
การมีปืนไว้ในครอบครอง อาจมีประโยชน์ อยู่บ้างเช่น มีไว้เพื่อป้องกันตัว แต่โดยรวม แล้ว มีพิษภัยมากกว่ามีประโยชน์
สมควรหรือยัง ที่ไทยจะรื้อกฎหมายเกี่ยวกับการมีปืนไว้ในครอบครองแล้วนำออกมาปัดฝุ่นกันเสียที ไม่ใช่ปล่อยให้พกพาและใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยมีข้ออ้างว่ามีไว้เพื่อป้องกันตัวอยู่ร่ำไป.
อนุภพ