ล่าสุด............
นายเบอร์ 4 นายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือนายสุชาติ นาคบางไทร ไปกล่าวไว้..........
.
.
.
.
อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. ของขึ้นบนเวทีสนามหลวง ซัดเบื้องสูง นปช.ตาเหลือก ตัดบทพัลวัน
ที่ท้องสนามหลวง สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณสนามหลวงฝั่งสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ได้ที่มีการจัดงานรำลึก " 35 ปี 14 ตุลา ประชาธิปไตยอยู่ใต้อุ้งเท้าใคร เมื่อกบฎได้รับการปกป้อง " เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ได้มีประชาชนสวมเสื้อแดงนับพันคนเดินทางมาร่วมชุมนุมกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจาก กลุ่มอาสาสมัครที่ใช้ชื่อว่า "นักรบพระเจ้าตาก" ที่พกไม้ด้ามจอบเดินตรวจตราการชุมนุมตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม
ระหว่างนั้น นายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือนายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีสตรีผู้สูงศักดิ์ และสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรง โดยได้ระบุตอนหนึ่งว่า "เสียดายที่ผมไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไม่เช่นนั้น...ตายห่าแน่นอน" ทำให้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในกรรมการบริหาร นปช.ต้องรีบขึ้นเวทีประกาศว่า เป็นเพียงความเห็นของนายสุชาติเพียงคนเดียว ซึ่งนายสุชาติจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบไม่เกี่ยวกับข้องกับการดำเนินกิจกรรมใดของเวที นปช.
ต่อมาเวลา 18.30 น. บรรดาแกนนำ นปช. และอดีตคนเดือนตุลาฯ ที่เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล อาทิ นายวีระ มุกสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นายอดิศร เพียงเกษ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ และนายวิสา คัญทัพ ฯ ได้ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยรำลึกเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 โดยเนื้อหาสว่นใหญ่โจมตีกระบวนการศาลยุติธรรมไทยที่ปล่อยให้มีการแทรกแซงจากกลุ่มอำมาตยาธิปไตย ที่เป็นการทำลายเจตนารมณ์วีรชนเดือนตุลาฯ และทำลายระบอบประชาธิปไตยพร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมได้ช่วยกันต่อต้านระบอบอำมาตยาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวยืนยันว่า กิจจกรรมในวันนี้ (14 ต.ค.) เป็นการจัดงานครบรอบ 35 ปี 14 ตุลา ของ นปช. และกลุ่มคนผู้รักในระบอบประชาธิปไตย ที่ประกาศตนว่า จะไม่เข้าร่วมกับมูลนิธิ 14 ตุลา ที่มีกรรมการหลายคนไปรับใช้เผด็จการรัฐประหาร โดยอยากเรียกร้องให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันต่อสู้กับ ป.ป.ช. องค์กรเถื่อนที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย และทำตัวอารยะขัดขืนไม่อาจปล่อยให้องค์กรเถื่อนแห่งนี้มีอำนาจเหนือว่า องค์กรที่มาจากการตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้
ด้านนายจตุพร ยังได้กล่าวถึงการรณรงค์จัด "ม็อบตีนตบ" ตอบโต้กลุ่มพันธมิตร ว่า เรื่องนี้แค่ต้องการเตือนสติบรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรว่า ไม่ใช่พันธมิตรจะเป็นผู้มีสิทธิรุกไล่แต่ฝ่ายเดียว ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่เห็นด้วยกันกลุ่มพันธมิตรก็มีสิทธิตอบโต้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าในการรณรงค์นี้จะไม่มีการจัดตั้งมวลชน สุดแต่ว่าประชาชนคนไหนมีปัญญา ที่จะกระทำได้ก็ทำไป อย่างน้อยก็จะทำให้พวกพันธมิตรเคารพในสิทธิมนุษยชนของผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่ทุกคนต้องเคารพสิทธิ์ของพันธมิตรเพียงฝ่ายเดียว
นอกจากนี้นายจตุพร ยังกล่าวต่อว่า การจัดรายการ "ความจริงวันนี้" ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน และแขกรับเชิญพิเศษที่ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้เมื่อวันที่ (13 ต.ค.) คือนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นายสมัครยังได้กล่าวฝากนายจตุพรมาว่า จะพยายามหายให้ทันเพื่อมาร่วมรายการดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังมีแขกพิเศษที่จะเข้าร่วมรายการด้วยอีกคนคือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ด้านนายสมยศ กล่าวว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ตนพร้อมด้วยเครือข่าย 24 มิถุนาประชาธิปไตย จะเคลื่อนไหวรณรงค์เอาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ 7 ต.ค. ในส่วนที่ยังไม่มีการเปิดเผยคือการใช้อาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรที่บริเวณหน้ารัฐสภา และบริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งสองด้าน วันนี้พวกเรากำลังต่อสู้กับทรราชย์สายพันธุ์ใหม่ ที่มาในคราบการเมืองภาคประชาชนส่วนการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ที่นัดหมายไว้ในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ต.ค. นั้น คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากรัฐสภาปิดทำการ
ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ได้ขึ้นเวที่ปราศรัยกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่อาจเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 35 ปี 14 ตุลา ว่า ตนจะไม่ร่วมสังฆกรรมร่วมกับมูลนิธิ 14 ตุลา เด็ดขาด เพราะเนื่องจากได้เป็นทาสรับใช้ให้กับเผด็จการ 19 ก.ย. 49
http://www.naewna.com/news.asp?ID=128229