เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 19, 2024, 01:24:14 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มารู้จักซับไพรม์กัน รู้แล้วจะหนาว!  (อ่าน 4413 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 01:12:55 PM »

ย้อนรอยวิกฤติการเงินสหรัฐฯ [3 ต.ค. 51 - 19:48]
 
ไหนๆก็เขียนเรื่องวิกฤติการเงินสหรัฐฯมาหลายวันแล้ว วันนี้ผมขอ ย้อนรอยวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ ให้เห็นกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่า วิกฤตินี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ข้อมูลนี้ผมไปค้นมาจากวารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเก่าของปีที่แล้ว ซึ่ง ดร.สุธี โมกขะเวส ผู้เชี่ยวชาญการบริหารความเสี่ยง ได้บรรยายไว้เป็นฉากๆอย่างละเอียดเลยทีเดียว

เมื่อหยิบขึ้นมาอ่านใหม่ แล้วเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็ยิ่งขนลุก นึกไม่ถึงว่าตลาดเงินในโลกทุนนิยมตะวันตกจะชั่วร้ายขนาดนี้

จุดเริ่มต้นของปัญหา “ซับไพร์ม” ที่เป็นต้นตอวิกฤติการเงินยุคใหม่ เกิดจากคนอเมริกัน 6 ล้านคน ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีเงินได้ แต่ไปขอกู้เงินซื้อบ้านจากสถาบันการเงิน ด้วยวิธีการกู้ที่เรียกว่า Loan to Value สินเชื่อตามมูลค่าบ้าน โดยกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน แถมยังไม่ต้องมีเงินดาวน์อีกต่างหาก
เงินกู้แบบนี้เรียกว่า No Doc Loan หรือ No Document Loan เป็นการกู้เงินที่ไม่ต้องมีเอกสาร ไม่ต้องบอกว่ามีเงินเดือนเท่าไร สามารถผ่อนส่งบ้านได้หรือไม่ ที่สำคัญคือสามารถกู้ได้เท่ากับมูลค่าบ้าน

ไม่น่าเชื่อว่าระบบสินเชื่อบ้านในสหรัฐฯจะเหลวแหลกขนาดนี้

ฝ่ายสถาบันการเงินผู้ให้กู้ ก็มีรายได้จากค่าธรรมเนียมการปล่อยกู้ และไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงของลูกหนี้เหล่านี้จะเบี้ยวหนี้ เพราะเมื่อปล่อยกู้ออกไปแล้ว ก็นำสินเชื่อบ้านพวกนี้ไปทำ Securitization เป็นตราสารหนี้ที่เรียกว่า Mortgage Back Securities หรือ MBS ตราสารนี้ที่มีบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

จากนั้นก็ขายสินเชื่อพวกนี้ออกไปจากบัญชี ความเสี่ยงจากการถูกเบี้ยวหนี้ก็ถูกขายออกไปให้กับสถาบันการเงินที่รับซื้อตราสารหนี้เหล่านี้ไป
ด้วยวิธีนี้ทำให้การปล่อยสินเชื่อบ้านในสหรัฐฯ เป็นไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ เพราะสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ก็ไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากขายออกไปแล้ว
สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้ “ซับไพร์ม” จะเร่งขาย MBS ออกไป เพื่อให้ได้เงินสดก้อนใหม่มาปล่อยกู้ต่ออีกรอบ หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

ทีนี้ก็มาถึง Investment Bank หรือ วานิจธนกิจ หรือ ธนาคารเพื่อการลงทุน แล้วแต่จะเรียก เป็นสถาบันการเงินที่ทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป มีความเชี่ยวชาญในการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างมากกว่าการปล่อยกู้

เมื่อเห็นว่าตราสารหนี้ MBS มีกำไรดี ก็ไปซื้อมา แล้วแบ่งออกเป็นกองๆ ตั้งชื่อเสียใหม่อย่างโก้หรูว่า Collateral Debt Obligations หรือ CDOs ที่คนไทยเรารู้จักกันดี เพราะมีแบงก์ไทยเจอไปหลายแบงก์
ซีดีโอเหล่านี้มีทั้งความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงปานกลาง และความเสี่ยงต่ำ ดังนี้

1. Equity กลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง แต่ถ้าตลาดบ้านตก กลุ่มนี้จะถูกเทขายก่อน แต่สภาพคล่องไม่มีเงินลงทุนในก้อนนี้ก็จะหายไปทันที

2. Mezzanine เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง จะถูกเทขายตามมา

3. Investment Grade Bond เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ มีสัดส่วนถึงร้อยละ 80 ของตราสาร MBS ถ้าเกิดวิกฤติตลาดบ้านตก ก็ยังขายได้เงินคืนบ้าง ซีดีโอกลุ่มนี้แหละที่วานิจธนกิจนำไปให้สถาบันจัดอันดับอย่าง มูดี้ส์ หรือ เอส แอนด์ พี จัดเรตติ้งให้สูงในระดับ AAA ทำให้ธนาคารแห่ไปซื้อลงทุนกันมาก

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านในสหรัฐฯขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกหนี้จึงไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ซีดีโอเหล่านี้ก็ขายดิบขายดี จนมีมากถึง 62 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยิ่งได้ Hedge Fund กองทุนความเสี่ยงเข้ามาปั่นด้วย ราคาและวงเงินก็ยิ่งบานไปใหญ่

ธนาคารที่ปล่อยกู้ให้เฮดจ์ฟันด์ เมื่อเห็นราคาหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ก็ยิ่งปล่อยกู้ให้มากขึ้น เฮดจ์ฟันด์ก็ได้เงินไปซื้อ CDOs จากวานิจธนกิจมากขึ้น สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ “ซับไพร์ม” ก็เร่งปล่อยกู้มากขึ้น เพื่อนำสินเชื่อบ้านมาขายเป็นซีดีโอได้มากขึ้น เพื่อนำเงินมาปล่อยกู้ให้มากขึ้น กลายเป็นวงจรวิบัติอย่างนี้ สุดท้ายก็พังพินาศอย่างที่เห็น.
 
 http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=106276
62 ล้านล้าน us$ หรือ 2100 ล้านล้านบาทที่กระจายอยู่ในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก ใครบอกว่าไม่กระทบไทยโกหกแล้วครับหนักยิ่งกว่าต้มยำกุ้งปี 40  อีกครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
แมวบ้า(น)
Sky is the limit, so do with it what you can
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 84
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15900


เช้าไดร์ฟ บ่ายชิพท์ เย็นพัตท์ สักวันเราจะเป็นโปร


« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 01:49:15 PM »

ขอบคุณครับ  ไหว้ ....... ตาย ตาย ตาย ตาย  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

CrazyCat CrazyGlock CrazyDog ^v^
แมว 084-128-9257

V for Vendetta
wasanami
Hero Member
*****

คะแนน 272
ออฟไลน์

กระทู้: 4804



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 02:04:49 PM »

เวรกรรม..

ฉ้อฉล และ ความโลภแท้ๆ เลย
บันทึกการเข้า

มาใช้ dropbox กันเถอะ
https://www.dropbox.com/link/39.XpsLIhKCKt?lk=564ddba31492c671
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 02:15:19 PM »

ว่ากันว่าลงถึงก้นเหวแล้วครับพี่แมวเพราะ วอเรนบัพเฟ็ทเจ้าสำนักเต่าพิฆาต( value investment) เข้ามาช๊อปปิ้งของถูกๆกันแล้วสองวันก่อนก็ ซื้อGoldman sack เมื่อวานก็ซื้อ  GE  เดี๋ยวพี่ฮาก็มาฟันธงว่าถึงกันเหวหรือยังครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 02:48:49 PM »

ว่ากันว่าลงถึงก้นเหวแล้วครับพี่แมวเพราะ วอเรนบัพเฟ็ทเจ้าสำนักเต่าพิฆาต( value investment) เข้ามาช๊อปปิ้งของถูกๆกันแล้วสองวันก่อนก็ ซื้อGoldman sack เมื่อวานก็ซื้อ  GE  เดี๋ยวพี่ฮาก็มาฟันธงว่าถึงกันเหวหรือยังครับ
62 million million us$ ถ้าถึงก้นเหวต้องหนักกว่านี้ครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
ตี๋ br
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1484
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10239



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 03:19:25 PM »

กลัวมันจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยด้วยครับ  ตกใจหน้าซีด ไหว้
บันทึกการเข้า
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 04:44:10 PM »

ขอบคุณครับ
ตังค์ไม่ได้หายไปไหน   แล้วตังค์ไปอยู่ที่ใคร

ห่วงแต่เงินนั้นจะถูกกักเอาไว้  ไม่ให้ไหลเข้าไปทำงานในระบบเศรษฐกิจ 
บริโภคลด
ยอดขายลด
เงินเดือนลด
ไล่ออก
รายได้ต่อหัวลด
ความเชื่อมันลด
วนไปมา
รู้แต่งานนี้ คนรวยยิ้ม   คนรากหญ้าอ๊วก
ใครร้องเพลง  ฝนเอยทำไมจึงตกได้คงเข้าใจ
 


บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 04:53:22 PM »

...ขอบคุณครับ.. ไหว้
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
ก๊วยเจ๋ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 2848



« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 05:03:20 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 05:29:27 PM »

กลัวมันจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยด้วยครับ  ตกใจหน้าซีด ไหว้

ไม่ต้องกลัวมันกระทบการส่งออกแน่ครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 06:43:20 PM »

กลัวมันจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยด้วยครับ  ตกใจหน้าซีด ไหว้

ไม่ต้องกลัวมันกระทบการส่งออกแน่ครับ Grin Grin Grin
ตอนนี้สถาบันการเงินไทย รวมทั้งกองทุนตราสารหนี้ ที่ซื้อตราสารหนี้เหล่านี้เอาไว้ก็ต้องแทงยอดขาดทุนครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
Earthworm
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 211
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1359


« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 08:13:36 PM »



    บางแห่ง ก็แจ้งมาว่า 500ล.บ้าง 3000ล.บ้าง  คงไม่ค่อยมีผลกระทบ หรอก   



                                              แฮ่ๆๆๆๆๆ  ถ้า สามพันล้านแล้วเฮียยังบอกว่าไม่กระทบกับกองทุนเนี่ย  เอาส่วนไหนคิดครับ ที่มันหายไม่ใช่แค่ดอกนะจ๊ะ ต้นละจะเอาคืนมาได้บ้างไหมละครับ ผลประกอบการที่แจ้งว่ากำไรเท่านู้นเท่านี้ บวกลบคูณหารให้ดีๆละกัน และไอ้ สามร้อย ห้าร้อย หรือสามพันล้านนี่ มันเป็นตัวเลขจริงหรือเปล่าครับ ที่ห่วงไม่ใช่ของแบงค์หรอก ห่วงพวก ประกันสังคม กบข. อะไรพวกนั้นมากกว่าครับ ว่าเอาไปลงมากน้อยแค่ไหน อีกหน่อยคงมีข่าวเอา อึ! มาราดประท้วงให้เห็นอีกมั้งครับ

             
บันทึกการเข้า
หนวดหิน
Full Member
***

คะแนน 134
ออฟไลน์

กระทู้: 430


« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 08:20:36 PM »

ขอบคุณครับ..เปิดหูเปิดตาจริงๆ
บันทึกการเข้า

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=68256.0 ..ว่าแล้ว ลบจนได้ ควายเหลือง-ควายแดง
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 09:27:52 PM »

โอ้... ตายแน่ครับ...

ขอบคุณคุณขวัญมากครับ...
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2008, 09:55:58 PM »

จุดเริ่มต้นของปัญหา “ซับไพร์ม” ที่เป็นต้นตอวิกฤติการเงินยุคใหม่ เกิดจากคนอเมริกัน 6 ล้านคน ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีเงินได้ แต่ไปขอกู้เงินซื้อบ้านจากสถาบันการเงิน ด้วยวิธีการกู้ที่เรียกว่า Loan to Value สินเชื่อตามมูลค่าบ้าน โดยกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน แถมยังไม่ต้องมีเงินดาวน์อีกต่างหาก
เงินกู้แบบนี้เรียกว่า No Doc Loan หรือ No Document Loan เป็นการกู้เงินที่ไม่ต้องมีเอกสาร ไม่ต้องบอกว่ามีเงินเดือนเท่าไร สามารถผ่อนส่งบ้านได้หรือไม่ ที่สำคัญคือสามารถกู้ได้เท่ากับมูลค่าบ้าน

ไม่น่าเชื่อว่าระบบสินเชื่อบ้านในสหรัฐฯจะเหลวแหลกขนาดนี้

มันเป็นกลไกของการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์
อเมริกา  ถึงจุดอิ่มตัวในธุรกิจนี้   จึงต้องเล่นกับเงินด้วยการปั่นราคาให้สูงเกินจริง
สร้างค่านิยม  เปลี่ยนงาน รายได้สูงขึ้น  ต้องเปลี่ยนบ้านหลังใหญ่ขึ้น
ในเมื่อปั่นราคาให้บ้านแพงขึ้นทุกวัน  จึงให้กู้ได้ง่ายขึ้น  วงเงินสูงขึ้น  และยึดบ้านง่ายขึ้น เพราะยึดแล้วขายต่อได้กำไร
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 22 คำสั่ง