ตำรวจที่ถืออาวุธของจริง อาจเป็นชุดคุ้มครองหน่วยปราบจราจลอีกที ไม่ได้ใช้ปะทะ เป็นไปได้ไหมครับ
(ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย เดาเอาครับ)
นายสมชายพอจะมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้างครับ... ไม่ได้เดา เพราะรู้จริงครับ...
โดยปรกติตำรวจปราบจลาจลจะเป็นหน่วยที่อ่อนแอที่สุดครับ... ต้องมีหน่วยคุ้มกัน ทำนองเดียวกับเรือฟรีเกตคอยคุ้มกันเรือสินค้า... และทำนองเดียวกับมีเครื่องบินไฟต์เตอร์คอยคุ้มกันเครื่องบินคาร์โกครับ...
สำหรับตามท้องเรื่องในกระทู้นี้... มีหน่วยคุ้มกันหน่วยปราบจราจลมาด้วยครับ ไม่ได้ใช้ปะทะ คือหน่วยนี้จะมีหน้าที่ยิงเปิดทางให้ปราบจราจลเข้าปะทะครับ...
ที่จริงเต็มสูตร... จะมีทหารสื่อสารวิ่งตามไปด้วย แล้วหากเป็นกรณีสำคัญ จะมีนายทหารฝ่ายยุทธการคอยวางแผนเข้าปะทะให้หน่วยปราบฯ แล้วก็จะมียานรบกวนอิเลกทรอนิกส์คอยรบกวนเรด้าร์ของฝ่ายตรงข้าม... นอกจากนี้หากเห็นว่าจำเป็น ผู้มีอำนาจอาจสั่งให้มีทหารม้า และปืนใหญ่สนับสนุนครับ... หากเป็นกรณีหลัง ที่มีปืนใหญ่สนับสนุน ก็จะมีตรวจการณ์หน้าคอยแฝงตัวชี้เป้าให้ปืนใหญ่ก่อน...
ทั้งหมดนี้เพื่อให้หน่วยปราบจราจลเข้าปะทะสะดวกๆ ครับ... ที่จริงยังไม่จบ ยังมีเรื่องการใช้อากาศยานเข้าสนับสนุนอีกด้วยครับ...
ผมก็เป็นผู้รู้จริงคนหนึ่งครับ เพราะอยู่ใกล้แหล่งข่าว
จริงอย่างที่พี่นายสมชาย (ฮา) ว่าไว้
วันนั้นน่ะนอกจากตำรวจคนที่เล็งปืนสมิธ ซึ่งแกเป็นกองคุ้มกันให้กับหน่วยปราบจราจลผู้อ่อนแอ
เบื้องหลังยังมีกองกำลังสนับสนุนพร้อมพรั่ง
ถ้าหน่วยปราบจราจลกลุ่มที่เข้าไปลุยกับพี่น้องพันธมิตรโดนลูกยื้อติดพันมากกว่านี้อีกสักห้านาที รับรองโรงพยาบาลรับไม่พอแน่
เพราะแหล่งข่าวบอกว่า ฮ.ตำรวจ 5-6 ลำเตรียมขึ้นจากสนามม้าแล้ว
บน ฮ. มีพลร่มของหน่วยนเรศวร 261 ร่วมครึ่งกองร้อย เตรียมเข้าช่วยเหลือหน่วยปราบจราจลที่อาจถูกพี่น้องฯจับเป็นตัวประกัน
นี่ยังดีนะครับ ที่เหตุการณ์ไม่ลามกลับไปที่แถวทำเนียบ
เพราะตำรวจชุดพิเศษที่ผ่านการฝึกจากหน่วยซีล ก็ถูกเรียกมาสนธิกำลัง...รออยู่ในคลองหลอดอีกหนึ่งหมวด
....เอาไว้รอช่วยเหลือหน่วยปราบจราจล