วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลา 20:23:55 น. มติชนออนไลน์ อ่านล่าสุด 2963 คน
บันทึก เล่าเหตุการณ์ วันที่ 7 ตุลาคม จาก ER แพทย์เวรรามาธิบดี
ณ โรงพยาบาล รามาธิบดี
เช้าตรู่วันอังคารที่ 7 ตุลาคม เวลาประมาณ หกโมงกว่า
ขณะนั้น ผมกำลังราวด์คนไข้ (การเดินดูอาการผู้ป่วยตอนเช้า) ในวอร์ดกระดูกตามปกติ
สัก 7.00 น.ได้ ก็มีโทรศัพท์จากห้องฉุกเฉิน รายงานเข้ามายังแพทย์เวรว่า มี ผู้ป่วยแขน และ ขา ขาดมาที่ ER(emergency room)
จากนั้น ก็มีประกาศฉุกเฉินจากทาง รพ.ว่า ขณะนี้ให้ทีมแพทย์แล้วพยาบาล เตรียมแผนรับมือกับ ผู้ป่วยบาดเจ็บจำนวนมาก
ผม ในฐานะแพทย์เวรคนนึง ก็วิ่งลงไปดูที่ ER ภาพที่เห็นคือ...
คนจำนวนมาก มีเลือดออกตามตัว ตามหัว แขน และขา มาออเต็มหน้า ER พอเดินเข้าไปใน ER ก็ต้องแสบตา เนื่องจาก
ควันจากแกซน้ำตา ที่ติดมากับตัวคนไข้ ยังไม่จาง กลายเป็น ER วันนั้นมีแต่แพทย์ พยาบาล ร้องไห้กันเป็นแถว (เพราะ แก็สน้ำตา)
ผมเองก็เป็นครั้งแรก ที่เจอกับเจ้าแก็สนี้ (ปกติเคยแต่ดูกับได้ยินทางทีวี)...ขอบอกว่า แสบตาโคตรๆ น้ำตาไหลพรากๆเลย ต้องหาแว่นกับ mask มาใส่
จากนั้นก็เข้าไปดูอาการคนไข้ ที่แจ้งว่า มือ และเท้าขาด (ใครที่อ่านเคยเป็นภาพ ผู้ชายที่เท้าขาด นอนอยู่ แล้วมีคนชุดเหลืองมานั่งข้างๆ นั่นแหล่ะ คนนั้นเลย)
จึงรีบนำเข้าห้องผ่าตัดด่วนเลย สัก 10 นาที คนไข้ก็มาถึงห้องผ่าตัด ตอนนั้น ห้องผ่าตัดเปิด 2 ห้อง ห้องนึงตัดเท้า ส่วนห้องผม ตัดมือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ผ่าตัดเสร็จ เวลาราวๆ 9 โมงนิดๆ ออกมาดูที่ ER อีกที ก็เรียบร้อย ไม่มีคนไข้มาแล้ว ก็ทำงานตามปกติ
สุดท้ายตาลุงที่ผมตัดมือไป ก็ขอออกจาก รพ.ไปเอง(ตอนแรกบอกว่าจะขอกลับไปรักษา ร.พ.ใกล้บ้าน)
แต่แล้วก็ไปขึ้นเวทีพันธมิตรตอนเย็น อย่างที่เป็นข่าว
ไม่รู้ว่าตอนนี้แผลที่ตัดไปเป็นไงมั่ง ติดต่อไม่ได้อีกเลย..
วันนั้นผมไม่มีเวรแล้ว (เวรผมคืนวันที่ 6 ต.ค. จะมาหมดกะตอน 8 โมงวันที่ 7 ต.ค. )
พอตอนเย็นสัก 4 โมง ก็เลิกงาน วันนั้นไม่มีเวร เลยว่างหน่อย เข้าฟิตเนส(ใน รพ.นั้นแหล่ะ เขามีฟิตเนสให้เจ้าหน้าที่)
ระหว่างที่กำลังวิ่งบนสายพาน ก็ดูทีวีไปด้วย ก็มีภาพข่าว กำลังชุลมุนเลย ไม่ทันคิด ก็มีเสียงรถพยาบาลจำนวนมาก วิ่งมา แล้วก็มีเสียงประกาศภาวะฉุกเฉิน แบบเมื่อเช้าเลย
ในใจผมก็คิด เอาอีกแล้วตู สงสัยงานเข้า.. ก็เข้าจริงๆครับ
สัก หกโมงเย็น กำลังกินข้าวอยู่ เพื่อนผมที่มันอยู่เวรวันนั้น ก็โทรมาบอกว่า ต้องการคนช่วยด่วน ใครที่ไม่ได้อยู่เวร และไม่ได้ออกไปไหน ให้มาช่วยกันที่ ER ด่วน ....ผมก็เลยเปลี่ยนเสื้อไปดูที่ ER
เอาอีกแล้วครับ แก็สน้ำตา อีกแล้ว แต่คราวนี้ดีหน่อย ที่ทาง รพ.เตรียมพวกเครื่องดูดควันกับหน้ากาาให้เรียบร้อย
แต่ตอนเย็นนี้หนักกว่าตอนเช้าครับ คือมีคนมาเพียบเลยครับ
ทั้งขาหัก แผลเหวอะ ขาขาด โดนสะเก็ดอะไรก็ไม่ทราบได้ ไม่ขอพูดถึง มากันเต็มเลย
ตอนผมไปถึงนั้น เพื่อนอบกว่า มีคนไข้ขาขาด ตอนนี้อยู่ ห้องผ่าตัดแล้ว 2 คนกำลังผ่ากันอยู่ คนไม่พอ เลยตามผมมาช่วย ที่ ER ตอนนั้นมีคนไข้ ขาหัก แผลเปิดรุ่งริ่งอีกคน ผมเลยต้องรับหน้าที่ผ่าตัดเคสนี้ เพราะเพื่อนต้องอยู่ standby ที่ er
ตอนนั้นที่ ER คนเยอะมาก ทั้งนักข่าว ทั้งคนไข้ ทั้งญาต และรวมถึงไทยมุง
ระหว่างกำลังไปห้องผ่าตัด ก็มีคนไข้ด่วนมา เป็นผู้หญิง เห็นพยาบาลบอกว่า มีแผลขนาดใหญ่ ที่หน้าอกด้านซ้าย ไม่หายใจแล้ว
ผมมองตามไป แต่ก็มีทีมแพทย์อื่นๆที่ ER ช่วยชีวิตกันอยู่ ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดู เพราะต้องไปเข้าห้องผ่าตัด
สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ลงข่าว ว่าถูกอะไรสักอย่าง ที่หน้าอก เสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน รพ.รามา (แต่จริงๆก็เสียระหว่างทางอ่ะแหล่ะ)
สักสองทุ่มก็ได้เข้าห้องผ่าตัด สภาพขาซ้ายหักสองท่อน แผลเปิดเหวอะ ขาขวา มีแผลเหวอะ แต่กระดูกไม่หัก มีทีมแพทย์เข้าสองทีม ทีมนึง ทำขาข้างซ้าย ส่วนผมทำข้างขวา... ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จ ออกมาประมาณ 5 ทุ่มแล้ว ไปดูที่ ER ก็เริ่มสงบแล้ว เลยกลับไปนอน
หลับเป็นตายเลย ตั้งแต่หกโมงเช้า ยันห้าทุ่ม เวรก็ไม่ใช่...พรุ่งนี้ต้องอยู่เวรอีกด้วย
ก่อนหลับก็ภาวนาว่า
ขออย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย
หมอเวรรามา..คนหนึ่ง..
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1223818271&grpid=01&catid=04