อาวุธปืน...
กระผมอ่านนิตยสาร อาวุธปืน มาร่วมสิบกว่าปีแล้วครับ แต่อาจจะมาอ่านกระทู้ในเวปนี้ได้ไม่นานเพียงปีสองปี
ไม่ได้สมัครสมาชิกเพราะรักที่จะอ่านมากกว่าเขียน แต่จุดเปลี่ยนของสังคมวันนี้ทำให้ต้องมาแสดงความเห็นบ้าง
แต่ขอพูดน้อยที่สุดด้วยความเคารพรักเพื่อนสมาชิกที่นี่ทุกท่าน
ถ้าขณะนี้ประเทศไทยเราสงบเรียบร้อยดีผู้นำก็ดีทุกคนรักสามัคคีกันดี อาจารย์เกิดตั้งคำถามเราว่าหากวันหนึ่งมีข้าศึกศัตรู
เข้ามาจะลุกล้ำหรือทำลายชาติบ้านเมือง เราจะช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไร .....ไม่ว่าคุณจะเป็นทหาร ตำรวจ ประชาชน
แน่นอนคุณมีคำตอบในใจ และผมเชื่อว่าคำตอบของคนไทยทุกคนจะไปในทิศทางเดียวกัน
อาจารย์ถามใหม่ว่าแล้วถ้าข้าศึกศัตรูที่ว่าเป็นคนไทยด้วยกันเองหล่ะ คำตอบของคุณอาจจะยังเหมือนข้อแรก
แต่ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนแล้ว แม้คนไทยส่วนใหญ่จะยังตอบเหมือนข้อแรกอยู่ แต่ญาติพี่น้องของคนไทยที่ขายชาติก็ยังมี
และเขาจะไม่ตอบเหมือนข้อแรกเช่นคุณ
คำถามข้อที่สามคือ ถ้าในอนาคตมีคนไทยด้วยกันเองนี่แหละโกงกิน คอรัปชั่น ขายชาติ แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองพวกพ้อง
แต่เขาไม่ใช่พลเรือนธรรมดา แต่เป็นทั้งผู้นำประเทศ มียศตำรวจ และเป็นข้าราชการ คำตอบของคุณจะเป็นอย่างไร
คุณยังตอบเหมือนข้อแรกอยู่ไหม
อาจารย์ถามถึงข้อนี้ ผมคิดว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยที่จะตอบไม่เหมือนข้อแรก
โดยเฉพาะถ้าผู้นำคนนั้น เป็นญาติคุณก็ดี เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคุณก็ดี เป็นหัวหน้าพรรคของคุณก็ดี เป็นเจ้าของกิจการบริษัทที่คุณ
ทำงานอยู่หรือถือหุ้นอยู่ก็ดี แจกเงินให้คุณใช้ก็ดี แจกบ้านแจกรถคุณก็ดี ออกค่าเจ็บไข้ให้คุณก็ดี ทำอาชีพเดียวกับคุณก็ดี
เป็นคนจังหวัดเดียวกับคุณก็ดี หรืออยู่ภาคเดียวกับคุณก็ดี
คุณยังตอบเหมือนข้อแรกอยู่ไหม
ณ ตอนนี้ คำถามเหล่านี้ไม่ใช่สถานการณ์สมมติ
และผมได้คำตอบแล้วว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบคำถามข้อสามขึ้น มีคนไทยอยู่ครึ่งประเทศที่ไม่ได้ตอบแบบข้อแรกแล้ว
มิหนำซ้ำชาวไทยยังแบ่งข้างกันเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน
ฝ่ายที่ได้ประโยชน์ และฝ่ายที่ไม่ได้ประโยชน์
และวันนี้ผมยังเห็นอีกว่า...
ฝ่ายที่ได้ประโยชน์แต่มาอยู่ข้างพันธมิตรก็มี
และฝ่ายที่ไม่ได้ประโยชน์แต่มาอยู่ข้างนายใหญ่ก็มี
ผมพยายามทำความเข้าใจว่าทำไม ทำไม และทำไม โจทย์ที่อาจารย์ถามมันดูเหมือนง่ายที่จะตอบ แต่ทำไมคำตอบจึงหลากหลาย
และไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
ผมจึงต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ ว่าที่แท้ซับซ้อน ยากแท้หยั่งถึง เหมือนเถาวัลย์พันเกี่ยวเลี้ยวลด
ส่วนผสมของความคิดของคนๆนึงมันมีมากมาย ก่อนจะกากบาทตอบคำถาม ก่อนจะเลือกข้างไหน
ความรักชาติ,ความเห็นแก่ตัว,คุณธรรม,ความโลภ,ความหลง,ความฉลาด,ความเขลา,ความหูเบา,ความเชื่อมั่น,
ภาพพจน์,ภาษา,ความจริง,สิ่งลวง,ข่าวลือ,หรือข้อเท็จจริง,ความกล้า,ความกลัว,ความดี,ความเลว และอีกมากมาย
มันซับซ้อนอยู่ในคนๆนึง
ที่สุดคำตอบจึงออกมาผิดความคาดหมายเช่นนี้
เหมือนกับที่ผมเคยคิดว่าถ้าคนเรารวยมากขนาดมีเงินเป็นหมื่นๆล้านแล้วคงเป็นที่พอใจไม่อยากได้อะไร
แต่ความจริงมันไม่ใช่เช่นนั้น
ความโลภ จริงๆที่เป็นบ่อเกิดแห่งปัญหา
รวยแค่ไหน ตราบที่มีกิเลส ก็ยังไม่รู้จักพอ
ผมจึงเห็นการเข่นฆ่า ตั้งแต่รุนแรงร่างระเบิด แขนขาขาด หัวขาด ไปถึงระดับขโมยขโจร ฉกชิงวิ่งราว
ล้วนมาจากความโลภ อยากให้ของเขาเป็นของๆเรา
อยากยึดไว้ซึ่งอำนาจ อยากกุมไว้ซึ่งกฎหมู่หรือกฎหมาย
ผมคงไม่ไปรบรากับท่านหรอก เมื่อผมเห็นสัจธรรมแล้ว
อาวุธปืนที่ผมมีไว้ ด้วยประสงค์เดียวคือ แม้หวังตั้งสงบจงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ
ไม่คิดจะเอาไปยิงใครที่เกลียดขี้หน้า แต่มีไว้เพื่อป้องกันตัว
ผมมิได้หวังปลุกระดม หรือเรียกร้องให้พี่น้องอาวุธปืนเลือกข้าง ผมเชื่อว่าในใจท่านมีวิจารณญาณที่เป็นส่วนผสมในใจท่านอยู่แล้ว
ว่าท่านอยู่ข้างไหน เพียงแต่ไม่ทุกคนที่แสดงออก
เพียงอยากฝากให้คนไทยทุกคนระลึกถึงสัจธรรม และยึดถือคุณธรรมเป็นที่ตั้ง
อย่าให้ความโลภ ความเห็นแก่ตัว หรือพวกพ้อง มาครอบงำ
ให้คุณธรรมนำสรรพสิ่งหรือกฎใดๆ
กฎหมายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อพฤติกรรมเปลี่ยนไป กฎหมายก็เปลี่ยนตาม
ประชาธิปไตย ก็มิใช่สิ่งที่ยึดถือเป็นที่หนึ่งได้ หากเป็นประชาธิปไตยในหมู่โจร
คุณธรรมคือสิ่งค้ำจุนโลกา
และคุณธรรมเท่านั้นที่จะหยุดกระสุนปืนหรือความรุนแรงใดๆ
ไม่ใช่จากจุดที่เหนี่ยวไก แต่หยุดที่จิตและใจของคุณ
แล้วภาพบนหนังสือพิมพ์ตอนนี้หรือที่ผ่านมาจะไม่เกิดขึ้นเลย
