ผมเห็นด้วยกับ กับความเห็นนายสมชาย(ฮา) และเข้าใจถึงเจตนา ที่ต้องการชี้ให้เห็นปัญหา.เท่านั้น.. และนายสมชาย(ฮา) อยู่ในกรอบของการร่วมแชร์ความเห็น.
แต่ผมก็ยังเห็นว่า สิทธิทางการเมือง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง ที่จักต้องมีความเสมอภาค ๑ คน คือ ๑ เสียงสวรรค์ . ที่ สุภาพบุรุษนักการเมือง พึงปฎิบัติต่อกัน โดยไม่ซื้อเสียไม่ใช้วิชามาร.. แม้จะเป็นเรื่องยาก. แต่ก็ใช่ว่า จะเป็นไปไม่ได้.
จะต้องแยก ออกมาจาก กลยุทธที่เลว ต่ำทรามของนักเลือกตั้ง. ที่ รธม. ๕๐ ที่มุ่งกำจัดที่ นักการเมืองเลว ไม่ใช่ปิดทางของพลเมือง ผู้ลงคะแนน.
จะต้องแยก นักการเมืองที่ขึ้นมายึดกุมอำนาจรัฐ.. จะต้องมีระบบตรวจสอบที่มีคุณภาพ
เข้าไปแทรกไม่ได้ และคนที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้ หากกระทำผิดกฎหมาย จะต้องถูกลงโทษอย่างรวดเร็ว ให้เกิดความรังเกียจ ประเภท ถ้าทำเลว มันย่อมฉุดคนอื่นลงไปด้วย
สำนึกจะเกิด ระบบการตรวจสอบพวกกันขึ้นมาไม่ให้ถลำลึก ทั้งหมดนี้ รธม.๕๐ มีอยู่
ระบบจะต้องกำจัด นักการเมืองที่เลว ให้สิ้นการกระทำที่เลว ไม่ใช่เพียงให้มันเกิดการแก้ตัวได้
อีก .. จะต้่องใช้ไม้แข็ง ต้องยุบพรรค .. และให้เกิดระบบควบคุมกันเองในพรรคการเมืองขึ้น
ไม่ใช่้ให้มันมาเกี่ยง ลงโทษเฉพาะคนที่เลว เท่านั้น. ถ้าคนที่เลวเป็นกรรมการพรรค
จะต้องล้มพรรคมันเสีย ไม่แยกว่าจะเคยเป็นพรรคเทพ มาก่อนหรือไม่
ตรงนี้ คือความเสมอภาค เมื่อกระทำความเลว
มันต้องยอมเจ็บปวด รวดร้าว กันบ้าง ลดความเห็นแก่ตัวทำเพื่อตนเพื่อพวกพ้อง เพื่อโคตรของบิดา มันลงไปบ้าง
คนการเมือง มอง นักการเมืิอง คือผู้ที่ต้องมีคุณธรรม เป็นผู้รับอาสา จะต้องมีความมเสียสละ
ให้มากกว่าชา่วบ้านเขา .. เสนอตัวมาเป็นผู้รับใช้ จะต้องเกิดสำนึกให้สอดคล้องด้วย
ไม่ใช่ให้มาเป็นนายประชาชน อย่างที่ นักการเมืองเลว มันกระทำอยู่นี้.
ดีสนับสนุน. เลว ต้องกล้าคัดค้าน . ไปจนถึงโค่นมันลงจากอำนาจ เพราะขืนปล่อยไว้
มันย่อม ก่อความเีสียหายให้กับบ้านเมือง กระทบไปทั้งประเทศ ให้กับคนที่เลือก
และไม่ได้เลือก..
จุดนี้ คือระบบจะส่วงเสริมให้ นักการเมือง จะยิ่งแข่งกันอาสาทำดีให้กับชาติบ้านเมือง
เป็นด้านหลักขึ้นมา ที่จักข่มให้นักการเมืองที่ยังคิดเลว หาเวที สำหรับพวกมันยากยิ่ง