ชอบจริงๆทหารเนี่ย....ตอนมัธยมก็ฝันอยากเข้านายร้อย
แต่กรรม ดันตัวเล็กแถมโง่อีก...
อ้อ..! พึ่งรู้มาไม่นานนี้เองว่าไทยเราก็มีซีลด้วย..
เคยได้ยินแต่จู่โจมทำลายใต้น้ำกองทัพเรือ...ไม่นึกว่าจะเป็นซีล
ใครรู้รายละเอียด..เล่าให้ฟังทีครับ
***ประวัติหน่วย***
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังทางเรือของทั้งฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ต่างก็ได้ส่งหน่วยรบพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยรบขนาดเล็ก ที่ได้รับการฝึกให้มีขีดความสามารถเหนือทหารทั่วไป เข้าปฎิบัติการเพื่อทำลายกองเรือ สิ่งก่อสร้าง และสถานที่ ที่มีความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้าม ทำการก่อวินาศกรรม และ ปฎิบัติการลับอื่น ๆ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ภารกิจของหน่วยรบพิเศษ ได้มีการพัฒนาทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบ รวมทั้งการพิจารณาหายุทธวิธีใหม ่ๆ เพื่อให้การปฎิบัติภารกิจประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ปี พ.ศ. 2495 กระทรวงกลาโหม มีความคิดที่จะจัดตั้ง หน่วยทำลายใต้น้ำ โดยมีตัวแทนจากทุก ๆ เหล่าทัพ และ เจ้าหน้าที่จาก ทร.สหรัฐฯ ประจำหน่วย MAAG (MILITARY ASSISTANCE ADVISORY GROUP) ที่ประชุมมีมติให้ ทร.จัดตั้งหน่วยฝึก แต่เกิดปัญหาเนื่องจากครูผู้ฝึกสอนฝ่ายอเมริกันไม่พร้อม จึงระงับการฝึกไว้ ปี พ.ศ. 2469 บริษัท SEA SUPPLY เสนอให้การสนับสนุนการฝึก ให้กับกำลังพลของ ทร. และ ตร. ซึ่งผ่านการโดดร่มมาแล้ว กำลังพลชุดแรกมี ข้าราชการทร.จำนวน 7 นาย ตร.จำนวน 8 นาย เดินทางไปเข้ารับการฝึกใน วันที่ 4 มี.ค2496 โดยทราบเพียงแต่ว่าสถานที่ฝึกมีชื่อว่าเกาะ Z (ZULU) หลังจากนั้น 61วัน ชุดฝึก ได้เดินทางกลับ โดยมีผู้สำเร็จการฝึกนักทำลายใต้น้ำรุ่นแรกจำนวน 15 นาย หลังจากนั้นกองเรือยุทธการได้มีความคิดที่จะดำเนินการฝึก จึงขออนุมัติ ทร.จัดตั้งหน่วยฝึกและอบรมหน่วยทำลายใต้น้ำ เมื่อ 24 พ.ย. 96 โดย ร.ท. วิศนุ ปราบศากุน ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผ.บ.หน่วยฝึกฯ มีทหารอเมริกันและผู้ผ่านการฝึกในต่างประเทศมาแล้วเป็นครูฝึก รุ่นแรกนี้มีผู้เข้ารับการฝึกจำนวน 62 นาย สำเร็จการฝึกจำนวน 14 นาย ซึ่งเป็นการฝึกระดับต้น (PRIMARY COURSE) หลังจากนั้นทร. อนุมัติให้ข้าราชการ ไปอบรม นทต.ระดับสูง(ADVANCE COURSE) ณ.ที่ใดไม่มีใครทราบเพราะเป็นความลับสุดยอด หลังจากเสร็จสิ้นการฝึก ทำให้พวกเขามีขีดความสามารถมากขึ้น ปี พ.ศ.2489 ทร. อนุมัติ จัดตั้งอัตรา หมวดทำลายใต้น้ำ บก.กร. หลังจากนั้น 1 ปี มีการเปิดการฝึกรุ่นที่2 หน่วยฝึกตั้งอยู่ที่เรือหลวงท่าจีน(ลำเก่า) ปี พ.ศ. 2502 ย้ายที่ตั้งมาที่เกาะพระ ปี พ.ศ. 2514 ปรับปรุงการจัดกำลังพลเป็น แผนกปฏิบัติงานชายฝั่ง กองการฝึกปฏิบัติการฝ่ายการศึกษา กฝร.จัดกำลังพลเป็น 2 หมวด (นักทำลายใต้น้ำจู่โจม และ นักทำลายใต้น้ำ) วัน ที่ 18 มิ.ย. 2519 ย้ายอาคารที่ทำการใหม่มาทางตะวันออกของเกาะพระ โดยมี พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธี และได้บันทึกในสมุดเยี่ยมหน่วยว่า พิธีเปิดตึกที่ทำการหมวดทำลายใต้น้ำจู่โจม ในวันนี้เป็นพิธีที่มีเกียรติยศยิ่ง 20 กว่าปีมาแล้วที่หน่วยนี้ได้ถือกำเนิดมาแต่ไม่เคยมีที่ทำการเป็นของตนเองเลย บัดนี้หน่วยนี้มีที่ทำการอันสง่างามกับเป็นหน่วยงานที่มีคุณค่าต่อกองทัพเรือ และ ประเทศเป็นอย่างมาก ขออวยพรให้หน่วยงาน และตึกที่ทำการอันสง่างามนี้ จงสถิตย์สถาพรชั่วกาลนานเทอญ วัน ที่ 18 มี.ค.2534 กองทัพเรืออนุมัติให้ใช้อัตราหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ มีการจัดอัตราระดับกรม ประกอบด้วย กองบังคับการ ,กองรบพิเศษ 1,2,3 ,โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ และ กองสนับสนุน โดยมี น.อ. นคร อรัณยะนาค ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือเป็นท่านแรก
๑๗ เม.ย. ๒๕๔๗
๔๙ ปี วันสถาปนาหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ วันนี้เมื่อปี พุทธศักราช ๒๒๗๗ เป็นวันที่พระมหากษัตริย์ไทยผู้ยิ่งใหญ่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชสมภพ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถทางด้านการดำเนินกลยุทธ ในการทำสงครามนอกแบบ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และตามลำน้ำเพื่อกอบกู้เอกราช ทางหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงให้ถือเอาวันนี้เป็นวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นผู้นำในการกอบกู้อิสรภาพกลับคืนมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ และทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงของสยามประเทศ พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งทั้งการรบทางบกและทางน้ำ ทรงเชี่ยวชาญในการทำสงครามแบบกองโจร ทั้งในพื้นที่ทุรกันดาร ตามลำน้ำ และตามชายฝั่งทะเล ทรงใช้กำลังทหารขนาดเล็ก ที่มีความเชี่ยวชาญ กล้าหาญ แข็งแรง เข้ารบตัดรอนกำลังข้าศึกหลายครั้ง จนสามารถนำทัพพิชิตกองทัพอันยิ่งใหญ่ของข้าศึก พระลักษณะอันเข้มแข็งเฉียบขาด พระปรีชาสามารถ และกลยุทธในการทำสงครามแบบกองโจรของพระองค์ล้วนเป็นแบบอย่างของการดำเนินการสงครามพิเศษทางเรือในปัจจุบัน
นับตั้งแต่อดีต จวบจนปัจจุบัน ข้าราชการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ได้น้อมนำพระจริยวัตร และพระลักษณะดังกล่าวของพระองค์มาเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และ องค์ยุทธวิธี ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันรูปแบบการทหารจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ปฏิบัตินั้นก็คือทหารที่ต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มีวินัย ฉลาดเฉลียวสามารถแก้ไขสถานการณ์ เฉพาะหน้า ซึ่งเป็นแบบอย่างของทหารในกองกำลังของพระองค์
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้เติบโตขึ้นมาตามกาลเวลา นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมวดทำลายใต้น้ำขึ้นในปีนี้มีอายุ ๔๙ ขวบปี ทางหน่วยไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการพัฒนาทุกด้าน ควบคู่กันไปแม้จะประสบปัญหาเศรษฐกิจยุคฟองสบู่แตกทั้งนี้ด้วยพระบุญญาบารมี แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั่นเอง
ในการพัฒนา
- ทางด้านการฝึกหัดและศึกษา ในปีที่ผ่านมา มีกำลังพลของหน่วยได้รับทุนการฝึกและศึกษาในต่างประเทศ หลายคนเช่น หลักสูตร BASIC UNDERWATER DEMOLITION/SEAL ที่ USA. ซึ่งผู้ที่ผ่านหลักสูตรเหล่านั้นก็ได้นำความรู้ เทคนิคใหม่ ๆ มาพัฒนาการฝึกในหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม พัฒนาการฝึกยุทธวิธีของหน่วยด้วย อีกทั้งยังมีผู้ที่ได้รับทุน ADVANCED CLEARANCE DIVING จากประเทศออสเตรเลีย และก็ได้นำความรู้มาพัฒนาในด้านการดำน้ำภายในหน่วยให้มีความทันสมัย ปลอดภัยยิ่งขึ้นรวมทั้งนี้มีผู้ได้รับทุน ด้านการปราบปรามการก่อการร้ายสากล หัวข้อ CRISIS RESPONSE TEAM , USA. และ GSG-9 , จากประเทศเยอรมัน
สำหรับการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ ในหน่วยทางโรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือก็ได้ทำการเปิดหลักสูตร นักเรียนนักทำลายใต้น้ำ จู่โจมชั้นต้น ทุกปี เพื่อที่จะคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถมาบรรจุในหน่วยทดแทนกำลังพลที่ต้องปลดประจำการออกไป นอกจากนั้นทางหน่วยยังได้รับ ความไว้วางใจจากกองทัพเรือให้มีการฝึก นักเรียนนายเรือ ในหลักสูตรนักเรียนปฏิบัติการใต้น้ำ หรือทำให้นักเรียนนายเรือมีการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจและสร้างให้พวกเขามีลักษณะบุคลิกภาพการเป็นผู้นำอีกทั้งมีความสามารถในการดำน้ำแบบ SCUBA (SELF CONTAINED UNDER WATER BREATING APPARATUS) อีกด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอนาคตของพวกเขาเมื่อออกรับราชการเป็นนายทหารประจำเรือ อย่างน้อยพวกเขาสามารถใช้ความรู้ความสามารถในการดำน้ำแก้ไขข้อขัดข้องเบื้องต้นคือการสำรวจใต้ท้องเรือ และยังนำไปดำสันทนาการตามพื้นที่ในหมู่เกาะ ในกองเรือภาคต่าง ๆ อีกด้วย
อีกทั้งหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ยังได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบหลักสูตร การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์จากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในปีนี้จะมีการเปิดหลักสูตรเป็นรุ่นที่ ๙ ในแต่ละปี มีนักเรียนที่เข้ามารับการฝึกประมาณ ๖๒ คน รวมทั้งข้าราชการจากกองทัพเรือ และเอกชนจากหลายสาขา กลุ่มนักดำน้ำอนุรักษ์เหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ที่จะรักษาหวงแหนทรัพยากรใต้น้ำของประเทศ เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาออกไป จะมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในเชิงอนุรักษ์ทุกปี เช่น การวางทุนดำน้ำบริเวณหมู่เกาะทะเลอันดามัน และการดำน้ำเก็บของตามชายหาดพัทยา สัตหีบ โดยร่วมกับเอกชน ห้างร้าน องค์กรท้องถิ่น
รูปแบบการสอนในแต่ละหลักสูตรได้มีการพัฒนาปรับปรุงตลอดเวลาให้มีความเหมาะสมกับเวลาที่เปลี่ยนไป นอกเหนือจากหลักสูตรเหล่านั้นทาง โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ. ยังได้สนับสนุนกรมพลศึกษาในหลักสูตร BASIC LIFE SAVING และ การดำน้ำของกรมประมงและกรมป่าไม้ด้วย
- งานสนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษไปสนับสนุนกองเรือภาค ๑, ๒, ๓ กองเรือป้องกันฝั่ง และหน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขงชุดปฏิบัติการพิเศษนี้เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จอยู่หลายงาน อย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ งาน ลากเรือ PAK ONE มาจม ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษ เก็บข้อมูล สำรวจตัวเรือ นำมาวางแผน อีกทั้งข้อมูลซึ่งเป็นภาพถ่ายใต้น้ำทั้งภาพนิ่ง และ VDO เป็นการทำงานรูปแบบใหม่ คือ นำภาพประมวลจากการสำรวจมาวางแผน ซึ่งทำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง ก่อนที่จะทำการระเบิดปล่อย GAS LPG ในถังให้เรือจม ลง โดยสมบูรณ์
แม้กระทั่งงานการสอนการดำน้ำ ให้กับนักเรียนดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ของกองเรือภาค ๒ กลุ่มนักเรียนนั้นมาจากหลายชนชั้น หลายระดับอาชีพ ในท้องถิ่นทำให้กองทัพเรือได้ใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น สำหรับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองเรือภาค ๓ ก็มีการทำงานอนุรักษ์ร่วมกับองค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกรมประมง กรมป่าไม้ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในการวางทุ่นดำน้ำ เพื่อรักษาสภาพปะการังที่สวยงามที่เคยติดระดับ TOP TEN ของโลก ในหมู่เกาะสิมิลัน และในหมู่เกาะบริเวณนั้น นอกจากนั้นยังเป็นชุดที่ทำงานลับตรวจจับอาวุธสงครามได้หลายครั้งให้กับ กองเรือภาค ต่าง ๆ เสมอมา
- ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่ ต.แสมสาร ก็ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย จากเกาะที่เคยเป็นพื้นที่ธรรมดา ปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งความรู้ ทางด้านพืช สัตว์ ทรัพยากร ทางธรรมชาติทั้งบนเกาะและชายฝั่ง โครงการได้ดำเนินการขยายไปอย่างรวดเร็วมีการสำรวจเกาะในประเทศไทยเพิ่มขึ้นหลายสิบเกาะ มีนักวิชาการสาขาต่าง ๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาร่วมกันทำงานกับหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ นอกจากการศึกษาแล้ว กองทัพเรือยังสามารถรักษาผลประโยชน์ทรัพยากรบนเกาะของประเทศ เราได้อีกด้วย ซึ่งนอกเหนือจากการลาดตระเวนของเรือในน่านน้ำไทย ปัจจุบันมีเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ ขอเข้าชมและทัศนศึกษาธรรมชาติวิทยาในเกาะแสมสารหลายคณะ
- ทางด้านยุทธวิธี การรบในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินเข้าชนตึก WORLD TRADE และเพนตากอน การรบแบบต่อต้านการก่อการร้าย ทางหน่วยก็มีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา มีการคิดค้นยุทธวิธีใหม่ ๆ ไม่ให้มีความล้าสมัย แม้ว่าจะถูกจำกัดด้วยงบประมาณก็ตาม
- ทางด้านกำลังพลของหน่วยฯ ในแต่ละปี สถิติการสำเร็จการศึกษาของนร.นทต. จู่โจมโดยเฉลี่ยประมาณ ๓๐% ของผู้เข้ารับการฝึก หลังจากนั้นจะมาพัฒนาขีดความสามารถในหลักสูตรขั้น ADVANCE ทำให้ข้าราชการมีความรู้ ความสามารถพื้นฐาน ความเข้าใจในรูปแบบการปฏิบัติเดียวกันและเกิดแนวความคิดในการทำงานประจำชุดปฏิบัติการพิเศษต่อไป
ในแต่ละปียังมีการฝึกร่วมกับ US NAVY SEAL อีกปีละ ๕ ครั้ง อีกทั้งมีการฝึกร่วมกับทหาร ตำรวจ ที่เป็นหน่วยรบพิเศษ อื่น ๆ ด้วย ทำให้ขีดความสามารถของกำลังพลนักทำลายใต้น้ำสูงขึ้น
- ทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ แม้งบประมาณที่ได้รับจะน้อย ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทางหน่วยเหนือก็ยังให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหา อาวุธและยุทโธปกรณ์ ที่จำเป็นมาทดแทน รวมทั้งได้จัดหาอาวุธที่ใช้ในการต่อต้านการก่อการร้ายสากลนำเข้ามาทดแทนชุดเดิมอีกด้วย
- ทางด้านอาคารสถานที่ ทางหน่วยมีการพัฒนาที่ตั้งหน่วยในปัจจุบันให้มีความสะอาด เรียบร้อย สวยงามตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการจัดสร้างสนามยิงปืนขึ้นมา เพื่อสะดวกต่อการซักซ้อมและการสนับสนุนในพื้นที่ ในขณะนี้ยังทำการสร้างห้องอาคารจำลอง สำหรับการฝึกการเข้าห้อง CQB ( CLOSE QUARTER BUILDING ) ซึ่งมีความจำเป็นต่อการพัฒนาขีดความสามารถของชุด ASSULT (โจมตี) นอกจากนั้น ทางหน่วยได้จัดทำพิพิธภัณฑ์ นทต. จู่โจม ขึ้นมาสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลในอดีต ผลงานของหน่วย วิธีการรบต่าง ๆ อาวุธ อุปกรณ์การดำน้ำในสมัยแรก อีกทั้งยังมีถ้วยชามสังคโลกจากงานโบราณคดีใต้น้ำ พ.ศ. ๒๕๑๗ และ ที่ยึดได้จากเรือออสเตรเลียไทด์ ซึ่งได้รับ การสนับสนุนจากกรมศิลปากร อีกทั้ง ยังมีเรื่องราวรูปภาพของเรือ PAK ONE ที่เป็นข่าวใหญ่ในประเทศ อีกด้วย ภาพเหตุการณ์จมเรือคราม อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจของ นทต. จู่โจม จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผลงานที่ผ่านมา เช่นงานสนับสนุนการจัดงานชุมนุมลูกเสือโลก การสนับสนุน ทร.ในการรักษาความปลอดภัยในงานประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC สนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษในการตรวจค้นไม้สักเถื่อน บริเวณหนองน้ำพุ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย และ ประวัติของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ
- ด้านการข่าว มีชุดปฏิบัติการพิเศษ เป็นเบื้องหลังความสำเร็จการจับการขนยาเสพติดใน พื้นที่ทางทะเลอันดามัน ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่มาแล้ว และ ยังมีชุดที่ดูแล ความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านกองเรือยุทธการอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับ ปปส. หาข่าวสารด้านยาเสพติด และ ผู้กระทำการผิดกฎหมาย สามารถจำกุมผู้กระทำผิดได้หลายครั้ง
- ทางด้านการบริการและสังคม ในแต่ละปีหน่วยสงครามพิเศษทางเรือมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่ บุตร ธิดา ของข้าราชการที่เรียนดี และบำเพ็ญประโยชน์ในสถานที่ ๆ สำคัญอีกด้วย เช่น วัดต่าง ๆ อีกทั้งยังได้จัดงานบุญทอดกฐิน ซึ่งได้รับความสำเร็จไปด้วยดี
- ทางด้านการกีฬา เป็นการง่ายที่จะพัฒนานักกีฬาบางประเภท จาก นทต.จู่โจม เนื่องจากมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ในช่วง ปีที่ผ่านมา มีนักกีฬา จากนสร. ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือ คือ ได้รับรางวัลที่ ๑ การแข่งขันการวิ่ง CROSS COUNTRY และมีการได้รับไตรกีฬา อันดับ ๑ ของประเทศ นอกจากนั้น ยังได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ ประเภท ปัญจกีฬาสาขา SPORT ADVENTURE ที่ได้เดินทางไปแข่งระดับโลก ที่เกาะฮ่องกงอีก กีฬาประเภทพายเรือ ว่ายน้ำและโปโลน้ำ ทางหน่วยก็นำชัยมาให้แก่ กองเรือยุทธการ เกือบทุกปี
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ในปี ๔๗ นี้ก็จะมีอายุครบ ๔๙ ปี เป็นหน่วยที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ทั่วไป เพราะมีการฝึกที่หนัก เป็นที่รู้จักว่า มีสัปดาห์นรก คนที่สามารถผ่านหลักสูตรนี้ได้คงต้องเป็นคนที่มีความแข็งแรงอดทนเหนือมนุษย์ อื่น สำหรับเหตุผลของหลักสูตรนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ที่ต้องฝึกให้หนัก และแข็งแรงนั้นเนื่องจาก ภารกิจที่กองทัพเรือได้มอบหมายให้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นภารกิจที่เสี่ยงอันตราย เข้าถึงระยะประชิดใกล้ข้าศึก ใช้กำลังทั้งกายและใจ อาศัยการทำงานเป็นทีม มีปฏิฏาณไหวพริบ จงรักภักดีต่อประเทศชาติ ดังตัวอย่างภารกิจที่จะเสนอ คือ
- การลาดตระเวนของหน่วยรบขนาดเล็ก
- การรบในป่า
- การแทรกซึมทางน้ำโดยเรือเร็วเข้าโจมตีที่หมาย
- การดำน้ำโจมตี และดำน้ำก่อวินาศกรรมเรือ
- การรบแบบกองโจร
- ต่อต้านการก่อการร้ายสากล
- การหาข่าวทางลับ
- การกระโดดร่มเข้าที่หมายที่กำหนด
- วัตถุระเบิด และ การทำลายใต้น้ำ
- ปฏิบัติตามภารกิจที่กองเรือยุทธการ และ กองทัพเรือมอบหมาย
คงจะเห็นแล้วว่าทำไมมนุษย์กบ หรือนักทำลายใต้น้ำเหตุใดจึงต้องถูกร่างหลักสูตรให้นาน ๗ เดือน และมีหัวข้อการฝึกที่ แตกต่างมากมายจากหลักสูตรรบพิเศษ อื่น ผู้ที่จะมายืนอยู่ในจุดนี้ ต้องมีความพร้อมที่จะเสียสละ และเหน็ดเหนื่อย พร้อมที่จะฝึกศึกษาหาความรู้ความชำนาญ ให้เท่าทันต่ออาวุธ ยุทธวิธี และอุปกรณ์พิเศษที่จะใช้ ต่อไป
ในปีที่ผ่านมานั้น นสร.ได้รับความไว้วางใจจากกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ ในการมอบหมายกิจที่สำคัญ มากมาย และ สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าจะได้รับภารกิจมากมาย นสร. ก็ยังคงดำเนินการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าในทุกด้าน เพื่อความเหมาะสมและ ทันสมัย โดยระลึกอยู่เสมอว่าในอายุ ๔๙ ขวบปีของ นสร.กร.นั้น พวกเราจะ ดำรงความพร้อมให้สูงสุดเพื่อคอยรับใช้กองทัพเรือ และประเทศชาติต่อไป
***ภาระกิจ***
1 . จัดเตรียมกำลังพลสำหรับปฏิบัติการ การสงครามพิเศษทางเรือและปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบ รวมทั้งการฝึกและศึกษาเกี่ยวกับการสงครามพิเศษทางเรือ เป็นหน่วยกำลังรบขึ้นตรงต่อกองเรือยุทธการ โดยมี ผบ.นสร. เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
2. กองรบพิเศษ ปฏิบัติการการสงครามพิเศษทางเรือ และปฏิบัติกิจพิเศษอื่น ตามที่ได้รับมอบหมาย
3. โรงเรียนสงครามพิเศษทางเรือ ฝึกและศึกษาอบรมทดสอบ ประเมินผล เกี่ยวกับการสงครามพิเศษทางเรือ และปกครองบังคับบัญชาผู้เข้ารับการฝึกและศึกษาของ นสร.
4. กองสนับสนุนหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ สนับสนุนการส่งกำลังบำรุง การบริการให้แก่หน่วยในความรับผิดชอบของ นสร.