เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 14, 2024, 11:23:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 12 13 14 [15] 16 17 18 ... 23
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "บิ๊กป๊อก"จี้“สมชาย”สละเก้าอี้  (อ่าน 37710 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 35 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
a lone wolf
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 290
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2064



« ตอบ #210 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:46:14 AM »

 Cheesy
โชคดีที่เสาร์อาทิตย์ผ่านไปโดยไม่มีใครเจ็บใครตายเพิ่ม
ลุ้นกันอีกจนถึงวันพรุ่งนี้ (อังคาร)

หนักใจแทนเหล่าแม่ทัพเหมือนกันครับ
พูดหนักขนาดนั้นแล้วยังไม่ได้ผล

จริงเหมือนที่โบราณท่านว่าไว้ "คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ"

ทหารพูดแล้ว ยังไม่ยอม
สงสัยต้องถึงคิวข้าราชการพลเรือน

งานนี้ไม่ต้องพูด
...หยุดงานน่าจะประเสริฐกว่า...ข้าราชการพลเรือนหยุดงาน...ไม่มีใครเจ็บใครตาย...สื่อฝรั่งจะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มปาก (พับผ่าสิ บ้านเราเมืองเราทำไมต้องเกรงใจสื่อนอกขนาดนี้หนอ)

ทหารพูดอย่างนี้...ข้าราชการพลเรือนน่าจะกล้าได้มากขึ้นนะครับ Wink
บันทึกการเข้า

It's not the years in your life but the life in your years, that counts
showroom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #211 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:14:51 AM »

จากที่ คุณ นินนาท กล่าวไว้

....ผม ..."เชื่อ"มานานแล้ว
เช่นเดียวกับ คุณ deang และ คุณ SA-KE ...... เชื่อ
ในกรณี ของ ผบ.ทบ. ท่านนี้.....
.... ดูพฤติกรรม แนว "ถนอมตัว"  ของท่าน... มานาน...
ท่าน...........เป็นทหารโดยอาชีพครับ 
แต่ท่าน..."พึงใจ" จะเลือก..ใช้วิธี "แบบการเมือง" ...เสมอมา  ...นานแล้ว


ก็ยังดี ที่มีคนเข้าใจในสิ่งที่สื่อไป  ....
 นึกว่า กิน แป้งกันไป คนละมาก ๆ แล้วเข้าใจอะไรได้ ลำบากกันหมด


อย่างที่คุณ THIWATHIT     ได้ ให้เกียรติ กล่าวถึง

ทั้งท่าน โซโว ท่านประชาบดี 59 และท่าน แดง อ่านกระทู้จนจบเลยพอจับใจความได้ว่าเป็น "คนรุ่นเก่า"
ที่เคยได้รับประโยชน์และอำนาจจากการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเลว ๆ นักการเมืองที่ซื้อเสียงเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ จัดสรรตำแหน่งให้กับพวกพ้อง ข้าราชาการใหญ่คับเมืองทำตัวเป็นเจ้าเป็นนายคนที่จ่ายเงินเดือน(ภาษี) ให้พวกมัน
แต่เผอิญผมและส่วนใหญ่ในกระทู้ (ด้วยความเคารพ) "เป็นคนรุ่นใหม่" ที่ไม่เห็นผลประโยชน์ที่จะได้รับจากใครหรืออะไรก็ตาม มากไปกว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์


Aha … ผม นะคนรุ่นเก่า ...

เออ  คนแก่   แก่ก็แก่  ... แก่แล้วให้ได้ อย่างผมละกัน ..   อันดับแรก ลอง หาแฟน อีหนู น่ารัก ๆ  อายุ 21 ให้ได้ สักคน (ดูรูป)
ผม สอน คณิตศาสตร์ นร ป6 นักเรียน กระโปรงแดง แถว ชิดลม ... สอน เด็ก ม ปลาย เตรียมคนแข่ง โอลิมปิก
รร แถว ปากคลองตลาด ... ผม คลุกคลี กะ นักเรียน วิศว ปี 1 ทุกสาขา …….
ผม ขี่ sport bike 1000 cc ออกทริป แทบทุกเดือน ครั้งละ 500-2000 กม ...

ปล่อยตัวเป็นคน แก่ มะ ได้ หรอก ...... อะ ดิ ครับ

ข้อความ โดย Sukie Kamolsukoson   ได้กล่าวถึง  เผื่อ จา รู้จักมากขึ้น ...

จาก  http://dreamchaserthai.com/trip_special_report.html

The main reason I wanted to write about this trip was because the 4 people that went were completely different people, all from different background, all doing different things –the one thing that brought us together were our common passion for biking.

Ajarn Dang – age 54 from Mae Sot - still riding 1000cc sport bike (one crazy dude). He is professor of physics at university and is also staff coach of Thailand Physics Olympic team. Have dreadlocks down to his ass and too many earrings to even start counting. Ride a motorcycle to work everyday!

 Sukie – age 38 was in the music industry before, played guitar in a rock band, now doing Dreamchaser TV show

Jod – age 35 work for a government agency, educated in England and have a one of a kind customize Honda that he loves dearly. I do not come across too many people that rides more than I and Jod is one of them.

Knot – 24 from Chonburi – currently a graduate student studying in Canada. Enjoy skiing during the winter but misses home in Thailand.

The 4 of us couldn’t had been more different , yet, we had a hell of a time hanging out together.

จา อ่าน คน ต้องดูให้มาก ๆ หน่อย ไม่ใช่อ่านหนังสือไม่กี่ ตัวก็สรุป อย่างโน้นอย่างนี้
ผม ไม่ค่อยอ่านใคร เพราะอ่านทีไรผิดทุกที เลยเลิกอ่าน
ที่ กล่าวถึงจอมพล สฤษดิ์ กะ ท่าน เผ่า ก็ เพียงสะท้อน ให้ เห็น ว่า ท่าน ป้อก ท่านไม่ได้ คิด อย่างที่พูดออกมาหรอก

ใช้ IQ หน่อย ครับ  ก็ พยาม  ประนอม  แล้ว ... แต่บางคน ก็ เข้าใจ ลำบาก


 เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
ผมชอบข้อเขียนของพี่มากๆครับ แล้วก็สนุกเมื่อได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับมอเตอร์ไซ ชอบมากๆครับ อีกคนก็พี่ สมชาย ฮา  หลงรัก หลงรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2008, 09:17:11 AM โดย showroom » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #212 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:23:57 AM »


หลายท่าน อาจมองออก..  แต่ยัง เอาตัวของท่านเอง เข้าไปวัดใจ.  ไปตีความ คนอื่น

กองทัพ ที่ออกมาพูด ไม่ต้องแปรความอีกแล้ว..  แต่เป็นการบอกตรง ตรง ไมมีนัยยะ .  ว่า
กองทัพ เป็นของพระราชา เป็นพระราชอำนาจ.. เพื่อปกป้องประชาชน  ไม่ใช่ของนักการเมือง..

เป็นการปราม ไม่ให้ักล้ากระทำความรุนแรง.
ระดับการใช้คำ พฤติการณ์ จะใช้วิสัยทัศน์ชาวบ้าน ไม่ได้ ครับ  

จนมี นายกุเทพ  พยายามมาบิดเบือน เจตนาเพื่่อ ไม่ให้ พวกเขาเสียขวัญ

คนการเมือง และแม้แต่ นักการเมือง ในระบอบทักษิณ  ยังมองกันออก ต้องมีอาการขนหัวลุก
จนนาย กุเทพ   นายจาตุรน ต้องร้อนตัว.. ออกมาบิดเบือนคำพูด เพื่อเรียกขวัญ บรรดาเม็ด-เบี้ย

เบี้ย ย่อมต้องคิด และกระทำอย่างเบี้ย .. ขุน ย่้อมคิดอย่างขุึน.. มีกระทำที่ลึกซึ้ง ต่างออกไป.  เยี่ยม



บันทึกการเข้า

NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #213 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:26:47 AM »


หลายท่าน อาจมองออก..  แต่ยัง เอาตัวของท่านเอง เข้าไปวัดใจ.  ไปตีความ คนอื่น

กองทัพ ที่ออกมาพูด ไม่ต้องแปรความอีกแล้ว..  แต่เป็นการบอกตรง ตรง ไมมีนัยยะ .  ว่า
กองทัพ เป็นของพระราชา เป็นพระราชอำนาจ.. เพื่อปกป้องประชาชน  ไม่ใช่ของนักการเมือง..

เป็นการปราม ไม่ให้ักล้ากระทำความรุนแรง.
ระดับการใช้คำ พฤติการณ์ จะใช้วิสัยทัศน์ชาวบ้าน ไม่ได้ ครับ  

จนมี นายกุเทพ  พยายามมาบิดเบือน เจตนาเพื่่อ ไม่ให้ พวกเขาเสียขวัญ

คนการเมือง และแม้แต่ นักการเมือง ในระบอบทักษิณ  ยังมองกันออก ต้องมีอาการขนหัวลุก
จนนาย กุเทพ   นายจาตุรน ต้องร้อนตัว.. ออกมาบิดเบือนคำพูด เพื่อเรียกขวัญ บรรดาเม็ด-เบี้ย

เบี้ย ย่อมต้องคิด และกระทำอย่างเบี้ย .. ขุน ย่้อมคิดอย่างขุึน.. มีกระทำที่ลึกซึ้ง ต่างออกไป.  เยี่ยม


 Grin ตรงใจครับพี่ Grin
บันทึกการเข้า

showroom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #214 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:32:01 AM »


หลายท่าน อาจมองออก..  แต่ยัง เอาตัวของท่านเอง เข้าไปวัดใจ.  ไปตีความ คนอื่น

กองทัพ ที่ออกมาพูด ไม่ต้องแปรความอีกแล้ว..  แต่เป็นการบอกตรง ตรง ไมมีนัยยะ .  ว่า
กองทัพ เป็นของพระราชา เป็นพระราชอำนาจ.. เพื่อปกป้องประชาชน  ไม่ใช่ของนักการเมือง..

เป็นการปราม ไม่ให้ักล้ากระทำความรุนแรง.
ระดับการใช้คำ พฤติการณ์ จะใช้วิสัยทัศน์ชาวบ้าน ไม่ได้ ครับ  

จนมี นายกุเทพ  พยายามมาบิดเบือน เจตนาเพื่่อ ไม่ให้ พวกเขาเสียขวัญ

คนการเมือง และแม้แต่ นักการเมือง ในระบอบทักษิณ  ยังมองกันออก ต้องมีอาการขนหัวลุก
จนนาย กุเทพ   นายจาตุรน ต้องร้อนตัว.. ออกมาบิดเบือนคำพูด เพื่อเรียกขวัญ บรรดาเม็ด-เบี้ย

เบี้ย ย่อมต้องคิด และกระทำอย่างเบี้ย .. ขุน ย่้อมคิดอย่างขุึน.. มีกระทำที่ลึกซึ้ง ต่างออกไป.  เยี่ยม





พี่โรด ครับฟันธงได้ไหมครับว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ครับทิศทางก็เหมือนว่าพันมิตรชนะแล้วแต่รัฐบาลก็เหมือนจะไม่ยอม แล้วทางลงของแต่กลุ่มจะลงกันยังไงครับ เมื่อวานดูข่าว นายกกับผบ นั่งห่างกันสะไกลเลย พอขยับมานั่งใกล้ๆกันก็ดูเหมือนคนไม่ถูกกัน น่ารักไปอักแบบนะครับ ถ้าดูแบบไม่คิดมาก
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #215 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:58:46 AM »

การฟันธง ทางการเมืองนั้น จะต้องเข้าใจ ก่อนว่า การต่อสู้ ถูกจับคู่ ระหว่าง ดี-เลว   ธรรมะ-อธรรม

ฝ่ายใดอยู่กับ ฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ  ปลายทาง จะต้องชนะ นีีี่ คือสัจธรรม.  ไม่อย่างนั้น โลกเราจะมีแต่การฆ่าฟัน โจรร้าย จะขึ้นปกครองเมือง..  กฎหมายจะไร้ความหมาย.

แต่ในระหว่่างการต่อสู้ ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม  จะต้องใช้สติปัญญาแปรเป็นการกระทำ ช่วงชิงกัน
เพื่อหวังใ้ห้เกิดปริมาณ ก็คือคนที่มีคุณภาพ พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายในแนวทางของ ความดี.  ให้ได้ระดับหนึ่ง  ปริมาณคนของฝ่ายธรรมะ เมื่อถึงระดับหนึ่ง  .. จะเกิดคุณภาพ คือเกิดศัยภาพ ที่เรียกว่า "สุกงอม"
ที่จะกลายเป็น พลังอำนาจ .. และเป็นฝ่ายขึ้นเป็นด้านหลักของการต่อสู้  นั้นคือจุดแพ้ชนะ

แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้น มีต้นทุนทีั่ต่างกัน ฝ่ายธรรมะ เป็นรอง แบบฟ้ากับเหว.
แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า ความดีย่อมชนะความชั่ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม. 

ปละต่างฝ่าย ต่างดิ้นเพื่อเอาชนะ และหนีการตกเป็นรอง.

ฝ่ายมาร มันใช้ เงิน เป็นกำลังมาขับเคลื่อน ถ้า่ไม่มีเงิน มันเดินไม่ได้. เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายมาร
และใช้การบิดเบือนข้อเท็จจริง  ว่าตน คือฝ่ายธรรมะ   
ความสับสนที่ถูกบิดเบือนนี้ ถ้าไม่ใช้ปัญญา มองไม่ออกหรอกครับ ..

ปัจจุบัน การต่อสู้ยัง ก้าวพ้นกึ่งกลาง..  ค่อนไปทางปลายทางแล้ว ครับ.

ผมบอกได้เพียงหลักการเท่านั้น วิธีการ นั้นเป็นเรื่องของ คู่กรณี .. และผลที่ได้ คือพัฒนาการ ทางการเมือง ทางสังคม จะมีตามไปด้วย . เกินกว่า จะไปคาดเดา ได้ครับ 

เว้นแต่ว่าในปรากฎการณ์หนึ่ง ท่านที่มีหลักคิดแบบเดียวกับที่ผมมี.. ย่อมมองเห็นเบื้องหลัง และแนวทางเดิน มองอย่างวิเคราะห์ ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคีียง และตามกันทัน .. แต่ไม่ใช่การเดาโดยขาดข้อเท็จจริงครับ.




บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #216 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 10:15:40 AM »

การฟันธง ทางการเมืองนั้น จะต้องเข้าใจ ก่อนว่า การต่อสู้ ถูกจับคู่ ระหว่าง ดี-เลว   ธรรมะ-อธรรม

ฝ่ายใดอยู่กับ ฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ  ปลายทาง จะต้องชนะ นีีี่ คือสัจธรรม.  ไม่อย่างนั้น โลกเราจะมีแต่การฆ่าฟัน โจรร้าย จะขึ้นปกครองเมือง..  กฎหมายจะไร้ความหมาย.

แต่ในระหว่่างการต่อสู้ ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม  จะต้องใช้สติปัญญาแปรเป็นการกระทำ ช่วงชิงกัน
เพื่อหวังใ้ห้เกิดปริมาณ ก็คือคนที่มีคุณภาพ พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายในแนวทางของ ความดี.  ให้ได้ระดับหนึ่ง  ปริมาณคนของฝ่ายธรรมะ เมื่อถึงระดับหนึ่ง  .. จะเกิดคุณภาพ คือเกิดศัยภาพ ที่เรียกว่า "สุกงอม"
ที่จะกลายเป็น พลังอำนาจ .. และเป็นฝ่ายขึ้นเป็นด้านหลักของการต่อสู้  นั้นคือจุดแพ้ชนะ

แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้น มีต้นทุนทีั่ต่างกัน ฝ่ายธรรมะ เป็นรอง แบบฟ้ากับเหว.
แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า ความดีย่อมชนะความชั่ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม. 

ปละต่างฝ่าย ต่างดิ้นเพื่อเอาชนะ และหนีการตกเป็นรอง.

ฝ่ายมาร มันใช้ เงิน เป็นกำลังมาขับเคลื่อน ถ้า่ไม่มีเงิน มันเดินไม่ได้. เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายมาร
และใช้การบิดเบือนข้อเท็จจริง  ว่าตน คือฝ่ายธรรมะ  
ความสับสนที่ถูกบิดเบือนนี้ ถ้าไม่ใช้ปัญญา มองไม่ออกหรอกครับ ..

ปัจจุบัน การต่อสู้ยัง ก้าวพ้นกึ่งกลาง..  ค่อนไปทางปลายทางแล้ว ครับ.

ผมบอกได้เพียงหลักการเท่านั้น วิธีการ นั้นเป็นเรื่องของ คู่กรณี .. และผลที่ได้ คือพัฒนาการ ทางการเมือง ทางสังคม จะมีตามไปด้วย . เกินกว่า จะไปคาดเดา ได้ครับ 

เว้นแต่ว่าในปรากฎการณ์หนึ่ง ท่านที่มีหลักคิดแบบเดียวกับที่ผมมี.. ย่อมมองเห็นเบื้องหลัง และแนวทางเดิน มองอย่างวิเคราะห์ ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคีียง และตามกันทัน .. แต่ไม่ใช่การเดาโดยขาดข้อเท็จจริงครับ.


ว่าตามพี่ Ro@d ครับ... นายสมชายสรุปแบบไม่ยืดเยื้อ...

เหมือนกับเล่นไพ่กัน แล้วค่อยหงายไพ่ออกมา... ฝ่ายหนึ่งหงายไพ่ออกมาแล้วเป็นควีนครับ...
ทีนี้ก็รอให้ข่าวสารค่อยแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ... คนที่ยังไม่แน่ใจจะค่อยๆแน่ใจ แน่ใจว่าตำแหน่งที่ตนยืนนั้นอยู่ตรงไหนครับ...

คนที่สมองกลวง เห็นแต่ประโยชน์ที่ตนได้รับแค่โครงการประชานิยม ก็จะแยกออกว่าใครกันที่เหนื่อยทุกข์ยาก จับแต่งานที่ยิ่งใหญ่มองไม่เห็นปลายทางมาตลอด จนครองใจคนไทยทั้งมวลได้... แล้วใครกันที่โยนเศษเงินเพื่อซื้ออำนาจ และแสวงประโยชน์เข้าตระกูลตัวเองจากสมองกลวงของคนกลุ่มใหญ่...

แต่การที่ยอมรับว่าสมองตนเองกลวงนั้น ไม่ง่ายครับ... สำคัญว่าเราต้องเว้นที่ เว้นทางให้คนลงจากหลังเสือ(ที่จริงหลังหมา)... แบบเดียวกับ 66/23 เว้นที่ให้คนหลงผิด มีที่ยืนในสังคมไงครับ... ม่ายงั้นก็เป็นการบีบให้สู้แบบ"สุนัขจนตรอก"...

แต่สำหรับพวกหัวๆ ที่หลอกล่อให้คนอื่นหลงผิด... พวกนี้เว้นที่ยืนให้ไม่ได้ครับ...
จะเอากันถึงตายก็เกินไป... เอาแค่เอ็นร้อยหวายออก กับเอายากันยุงจิ้มลูกตาก็พอ...

ทั้ง 111 คนนั่นแหละครับ... ฮา
บันทึกการเข้า
showroom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #217 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 10:21:01 AM »

การฟันธง ทางการเมืองนั้น จะต้องเข้าใจ ก่อนว่า การต่อสู้ ถูกจับคู่ ระหว่าง ดี-เลว   ธรรมะ-อธรรม

ฝ่ายใดอยู่กับ ฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ  ปลายทาง จะต้องชนะ นีีี่ คือสัจธรรม.  ไม่อย่างนั้น โลกเราจะมีแต่การฆ่าฟัน โจรร้าย จะขึ้นปกครองเมือง..  กฎหมายจะไร้ความหมาย.

แต่ในระหว่่างการต่อสู้ ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม  จะต้องใช้สติปัญญาแปรเป็นการกระทำ ช่วงชิงกัน
เพื่อหวังใ้ห้เกิดปริมาณ ก็คือคนที่มีคุณภาพ พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายในแนวทางของ ความดี.  ให้ได้ระดับหนึ่ง  ปริมาณคนของฝ่ายธรรมะ เมื่อถึงระดับหนึ่ง  .. จะเกิดคุณภาพ คือเกิดศัยภาพ ที่เรียกว่า "สุกงอม"
ที่จะกลายเป็น พลังอำนาจ .. และเป็นฝ่ายขึ้นเป็นด้านหลักของการต่อสู้  นั้นคือจุดแพ้ชนะ

แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้น มีต้นทุนทีั่ต่างกัน ฝ่ายธรรมะ เป็นรอง แบบฟ้ากับเหว.
แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า ความดีย่อมชนะความชั่ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม. 

ปละต่างฝ่าย ต่างดิ้นเพื่อเอาชนะ และหนีการตกเป็นรอง.

ฝ่ายมาร มันใช้ เงิน เป็นกำลังมาขับเคลื่อน ถ้า่ไม่มีเงิน มันเดินไม่ได้. เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายมาร
และใช้การบิดเบือนข้อเท็จจริง  ว่าตน คือฝ่ายธรรมะ  
ความสับสนที่ถูกบิดเบือนนี้ ถ้าไม่ใช้ปัญญา มองไม่ออกหรอกครับ ..

ปัจจุบัน การต่อสู้ยัง ก้าวพ้นกึ่งกลาง..  ค่อนไปทางปลายทางแล้ว ครับ.

ผมบอกได้เพียงหลักการเท่านั้น วิธีการ นั้นเป็นเรื่องของ คู่กรณี .. และผลที่ได้ คือพัฒนาการ ทางการเมือง ทางสังคม จะมีตามไปด้วย . เกินกว่า จะไปคาดเดา ได้ครับ 

เว้นแต่ว่าในปรากฎการณ์หนึ่ง ท่านที่มีหลักคิดแบบเดียวกับที่ผมมี.. ย่อมมองเห็นเบื้องหลัง และแนวทางเดิน มองอย่างวิเคราะห์ ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคีียง และตามกันทัน .. แต่ไม่ใช่การเดาโดยขาดข้อเท็จจริงครับ.






อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับพี่โรด และของพี่สมชายด้วยครับ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
SA-KE
เมื่อเดินผิด ย่อมมิใช่มนุษย์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 702
ออฟไลน์

กระทู้: 3612


เรารักในหลวง


« ตอบ #218 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 11:54:20 AM »

      สำหรับผมนัยที่ พันธมิตรฯ กล่าวถึง ผบ.ทบ. ผมไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่ ? มันขึ้นอยู่กับสถานะการ์ณที่เป็นอยู่และวิธีการเดินของแต่ละกลุ่มมากกว่า หล่อมากหน่อยก็เป็นพระเอก  หล่อน้อยหน่อยก็เป็นพระรอง  คนระดับนี้จริงอยู่มี โลภ โกรธ เกลียด แต่ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ ยังแยกแยะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มันก็จบ โอกาสที่ ผบ.ทบ.จะพลิกกลับมาแก้ข้อกล่าวหามันไม่ยากเลย ถ้ากล้าที่จะทำหรือจะให้เหตุการ์ณบังคับก็แล้วแต่  ถ้าจะมองแบบเผินๆ คงหนีไม่พ้นที่ความซวยจะหันกลับไปสู่พันธมิตร ฯแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไร?ในกอไผ่ โดยเฉพาะ "คุณสนธิ " สำหรับผมแล้ว เขามีอะไรหลายๆอย่าง? ที่เป็นจุดแข็งและมีบ้างที่เป็นจุดอ่อนแค่จุดเล็กน้อยในสิ่งที่ที่ต้องมองข้ามไปบ้าง ( ทั้งๆที่บางครั้ง ผมก็รำคาญแกจริงๆ..!! ) แต่ผมชอบและต้องนับถือใจคนประเภทนี้ กล้าที่จะแลก กล้าที่จะล่อ เป็นคนที่มีความมั่นใจตัวเองค่อนข้างสูงมาก ปากชวนคนและในทำนองเดียวกันก็เป็นปากพาเลิกเหมือนกัน แต่ถ้ามั่นคงในเป้าหมายของอย่างนี้สำหรับผมไม่ใช่ประเด็นครับ

      แต่ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับผม ใคร?กลุ่มใด? จะเก็บกวาดบ้านนี้ให้เข้าที่เข้าทางต่างหากและสุดท้ายแล้วจะไปในทิศทางไหน?  พันธมิตรฯ เรียกร้องการเมืองใหม่ แต่ในเมื่อไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ยังสงสัยเลยว่าจะใช้อำนาจทางใดที่จะเปลี่ยนแปลงไปถึงจุดนั่นได้ อันนี้ต่างหากที่ผมกำลังสงสัย การที่จะหักล้างเก็บกวาดในคราเดียวกันค่อนข้างยาก คงไม่มีใครยอมใคร? กับสิ่งที่จะตามมาและเป็นสิ่งที่ควรหลีกเหลี่ยงที่สุด  แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้..ก็แหล่วแต๋ว่ะ... Cheesy

     ในฐานะเบี้ยและในฐานะประชาชนอย่างผม จะรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่บางครั้ง การค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนต แล้วบังเอิญไปเจอข้อความหรือเจอข่าวไอ้พวกเวปอัปปรีย์ เหล่านั่น ที่ยังคงเวียนว่ายตายเกิดโดยที่ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบให้ความรู้ ให้ข้อมูลบางอย่างออกมา หรือกรุณาช่วยทำอะไร?ก็ได้สักอย่างให้มันสาญสูญไป บอกตรงๆผมผิดหวังกับผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ เรื่องอื่นจะยกพวกตีกันก็พอไหว แต่เรื่องสถาบัน หัวเด็ดตีนขาดยอมไม่ได้ จริงอยู่หลายคนรักสถาบันเหมือนกัน ผมไม่เถียง แต่สิ่งที่ต่างกันคือหน้าที่  ผมไม่อยากให้รู้สึกเลยว่า ไอ้คำเท่ห์ๆ เหล่านั่นมีค่าแค่แปะไว้บนผนังเท่านั่นเอง

     พวกที่ชอบอ้างประชาธิปไตยจ๋า  คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่ผมเขียนเสมอมาเป็นอย่างไร? ณ เวลานี้  ไม่ว่าจะฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ หรือ ระบอบทักษิณ จริงๆแล้วเบื้องลึกเบื้องหลังเป้าหมายทั้งสองฝ่ายพุ่งไปที่ฝ่ายทหาร  ทุกยุคทุกสมัยบ้านเราหนีไม่พ้นจริงๆกับที่คำพูดที่ว่า "ผู้ถืออาวุธคือผู้ที่มีอำนาจ"   ที่พันธมิตรฯ ปฎิเสธการรวบอำนาจเพี่อการเปลี่ยนแปลงเป็นการเมืองใหม่นั่นจริงหรือที่ปฎิเสธการยึดอำนาจจากฝ่ายทหาร ??  ระบอบทักษิณเองก็ประกาศป่าวๆว่า ต่อต้านการรัฐประหารโดยฝ่ายทหาร เพื่อประชาธิปไตย ไอ้นี้ก็โคตะระเว่อร์จริงๆ  ประชาธิปไตยอะไร?ของพวกเองหรือ??

    ผมมิได้กังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากนัก และไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคลคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ  เราถกตามแต่สถานะการ์ณที่กำลังจะเกิดขึ้น  แต่สุดท้ายไม่ว่าอะไร?จะเกิด ผมไม่เอา "ระบอบทักษิณ "แน่นอนครับ... Wink

   

 
บันทึกการเข้า

คนต่างกับสัตว์ที่ "ความคิด"  ,  คนต่างกับมนุษย์ที่ "ศีลธรรม"
a lone wolf
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 290
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2064



« ตอบ #219 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 12:18:34 PM »

การฟันธง ทางการเมืองนั้น จะต้องเข้าใจ ก่อนว่า การต่อสู้ ถูกจับคู่ ระหว่าง ดี-เลว   ธรรมะ-อธรรม

ฝ่ายใดอยู่กับ ฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ  ปลายทาง จะต้องชนะ นีีี่ คือสัจธรรม.  ไม่อย่างนั้น โลกเราจะมีแต่การฆ่าฟัน โจรร้าย จะขึ้นปกครองเมือง..  กฎหมายจะไร้ความหมาย.

แต่ในระหว่่างการต่อสู้ ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม  จะต้องใช้สติปัญญาแปรเป็นการกระทำ ช่วงชิงกัน
เพื่อหวังใ้ห้เกิดปริมาณ ก็คือคนที่มีคุณภาพ พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายในแนวทางของ ความดี.  ให้ได้ระดับหนึ่ง  ปริมาณคนของฝ่ายธรรมะ เมื่อถึงระดับหนึ่ง  .. จะเกิดคุณภาพ คือเกิดศัยภาพ ที่เรียกว่า "สุกงอม"
ที่จะกลายเป็น พลังอำนาจ .. และเป็นฝ่ายขึ้นเป็นด้านหลักของการต่อสู้  นั้นคือจุดแพ้ชนะ

แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้น มีต้นทุนทีั่ต่างกัน ฝ่ายธรรมะ เป็นรอง แบบฟ้ากับเหว.
แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า ความดีย่อมชนะความชั่ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม. 

ปละต่างฝ่าย ต่างดิ้นเพื่อเอาชนะ และหนีการตกเป็นรอง.

ฝ่ายมาร มันใช้ เงิน เป็นกำลังมาขับเคลื่อน ถ้า่ไม่มีเงิน มันเดินไม่ได้. เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายมาร
และใช้การบิดเบือนข้อเท็จจริง  ว่าตน คือฝ่ายธรรมะ  
ความสับสนที่ถูกบิดเบือนนี้ ถ้าไม่ใช้ปัญญา มองไม่ออกหรอกครับ ..

ปัจจุบัน การต่อสู้ยัง ก้าวพ้นกึ่งกลาง..  ค่อนไปทางปลายทางแล้ว ครับ.

ผมบอกได้เพียงหลักการเท่านั้น วิธีการ นั้นเป็นเรื่องของ คู่กรณี .. และผลที่ได้ คือพัฒนาการ ทางการเมือง ทางสังคม จะมีตามไปด้วย . เกินกว่า จะไปคาดเดา ได้ครับ 

เว้นแต่ว่าในปรากฎการณ์หนึ่ง ท่านที่มีหลักคิดแบบเดียวกับที่ผมมี.. ย่อมมองเห็นเบื้องหลัง และแนวทางเดิน มองอย่างวิเคราะห์ ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคีียง และตามกันทัน .. แต่ไม่ใช่การเดาโดยขาดข้อเท็จจริงครับ.


ว่าตามพี่ Ro@d ครับ... นายสมชายสรุปแบบไม่ยืดเยื้อ...

เหมือนกับเล่นไพ่กัน แล้วค่อยหงายไพ่ออกมา... ฝ่ายหนึ่งหงายไพ่ออกมาแล้วเป็นควีนครับ...
ทีนี้ก็รอให้ข่าวสารค่อยแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ... คนที่ยังไม่แน่ใจจะค่อยๆแน่ใจ แน่ใจว่าตำแหน่งที่ตนยืนนั้นอยู่ตรงไหนครับ...

คนที่สมองกลวง เห็นแต่ประโยชน์ที่ตนได้รับแค่โครงการประชานิยม ก็จะแยกออกว่าใครกันที่เหนื่อยทุกข์ยาก จับแต่งานที่ยิ่งใหญ่มองไม่เห็นปลายทางมาตลอด จนครองใจคนไทยทั้งมวลได้... แล้วใครกันที่โยนเศษเงินเพื่อซื้ออำนาจ และแสวงประโยชน์เข้าตระกูลตัวเองจากสมองกลวงของคนกลุ่มใหญ่...

แต่การที่ยอมรับว่าสมองตนเองกลวงนั้น ไม่ง่ายครับ... สำคัญว่าเราต้องเว้นที่ เว้นทางให้คนลงจากหลังเสือ(ที่จริงหลังหมา)... แบบเดียวกับ 66/23 เว้นที่ให้คนหลงผิด มีที่ยืนในสังคมไงครับ... ม่ายงั้นก็เป็นการบีบให้สู้แบบ"สุนัขจนตรอก"...

แต่สำหรับพวกหัวๆ ที่หลอกล่อให้คนอื่นหลงผิด... พวกนี้เว้นที่ยืนให้ไม่ได้ครับ...
จะเอากันถึงตายก็เกินไป... เอาแค่เอ็นร้อยหวายออก กับเอายากันยุงจิ้มลูกตาก็พอ...

ทั้ง 111 คนนั่นแหละครับ... ฮา
ขอบคุณพี่ Ro@d และพี่นายสมชาย (ฮา)
ผู้น้อยอย่างผมได้อ่านความคิดของผู้ใหญ่อย่างพวกพี่ แล้วสบายใจ (เจอตัวเป็นๆในงานเลี้ยงคราวหน้า กราบไหว้ได้สนิทใจ, แต่จะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  Grin )

ใช่ครับ ไพ่เปิดออกมาเป็นควีน
พวกที่นั่งเล่นกันอยู่ในวงเริ่มทยอยหมอบกันเป็นแถว  เหลือแต่ไอ้ตัวที่ทุ่มไว้เยอะ นั่งเหื่อแตก
ร่ำว่ามันกระซิบให้พวกนั่งล้อมอยู่วงนอก เตรียมป่วนล้มวง

จำได้ที่พี่นายสมชาย (ฮา) เคยแลกเปลี่ยนทัศนะกับคุณประชาบดี 59 เรื่อง อุดมการณ์
แม้จะเป็นการวิสาสะระหว่างสิงห์แดงสองคน  พวกเรือใบสีชมพูอย่างผมจะได้ก็เพียงนั่งคิดตาม
ผมก็ยังเชือว่า คนที่สุ้แบบมีอุดมการณ์จะชนะในที่สุด 
พวกที่สู้เพื่อเงิน  แต่ถามหาอุดมการณ์ว่าสู้เพื่ออะไร แล้วตอบไม่ได้  มันยืนระยะไม่ได้แน่
ถาม พธม ว่าสู้เพื่ออะไร  คำตอบคิดแค่ครึ่งวินาทีเท่านั้น
ถาม นปช ว่าสู้เพื่ออะไร  ผมว่าผ่านไปสองนาทีครึ่งก็ยังตอบกันไม่ได้เลย

ถ้าจะมีการป่วนล้มวงไพ่  แล้วต้องเอา สห. เข้ามาจัดการจริงๆ
หวังว่า สห. จะมาร์คหัวพวกตัวแสบๆเอาไว้แล้วนะครับ

คนมีอุดมการณ์  ตายสิบเกิดแสน
คนไม่มีอุดมการณ์  บี้หัวโจกให้เห็นจังหวัดละคน  พวกตามแห่มีหวังกระโดดน้ำ  กระโดดหน้าต่างหนีหมด

ย้อนกลับมาวงไพ่อีกที
นึกถึงคำกล่าวเก่าๆ  เขาบอกว่า...เวลาผ่านไปเท่าใด  มี King อยู่ห้าองค์ที่จะไม่มีวันเปลี่ยน
4 องค์อยู่ในสำรับไพ่  อีกองค์....อยู่ในใจของคนไทย ตลอดมาและจะตลอดไป  ไหว้ 
บันทึกการเข้า

It's not the years in your life but the life in your years, that counts
showroom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #220 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 01:09:45 PM »

พี่ a lone wolf  คำคมดีแท้ครับ
บันทึกการเข้า
ระอา-รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 18
ออฟไลน์

กระทู้: 241


ปีนี้จะไม่ซื้อปืนอีก


« ตอบ #221 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 01:23:24 PM »

ลึกซึ่งสุดๆ แสดงว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ถูกต้องแล้ว ไหว้
บันทึกการเข้า

ยืนด้วยกายไม่ได้ถูกบังคับ
ยืนด้วยใจไม่ได้ถูกเงินซื้อ
เราจะขอปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #222 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 02:30:07 PM »

ขอบคุณพี่ Ro@d และพี่นายสมชาย (ฮา)
ผู้น้อยอย่างผมได้อ่านความคิดของผู้ใหญ่อย่างพวกพี่ แล้วสบายใจ (เจอตัวเป็นๆในงานเลี้ยงคราวหน้า กราบไหว้ได้สนิทใจ, แต่จะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  Grin )

โอ้... ขอบคุณมากครับ...

ไม่ต้องถึงกับกราบไหว้หรอกครับ...
จับมือเขย่าๆ เป็นพอครับ... เย้
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #223 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 03:02:15 PM »

ถามถึงเรื่อง  ดาวเทียม  กับ วงโคจร
เรื่องนี้ ไปถึงไหนแล้วครับ
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
cups
ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 532


ความสวยเราสร้างได้


« ตอบ #224 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 04:03:57 PM »

คุณสมชาย (ฮา) คุณro@d และคุณ alone wolf กล่าวเปรียบเทียบได้ดีมากครับ ผมอยู่ในวงการแพทย์ก็ยังมีพวกทำตัวเป็นกลางแต่คอยกระแนะกระแหนพธม.อยู่เรื่อยๆบอกว่าพธม.จ้างมาบ้าง ผมชวนพยาบาลที่เคยนิยมชมชอบทักษิณให้ลองมามาที่ทำเนียบฯ หลังกลับไปที่รพ. ความคิดที่เคยมีเกี่่่ยวกับพธม.เปลี่ยนไปจากที่เคยเข้าใจผิดต่างๆนานา
แต่พวกหมอบางคนนี่ซิทำตัวเหมือนบัวในตมที่มีก้อนหินทับไว้ ไม่มีวันที่จะพ้นน้ำขึ้นมาได้ ผมก็งงว่าเขาคิดอย่างไร ทำไมถึงคิดแบบนี้ แล้วชาวบ้านที่ไม่มีโอกาสได้รับข่าวสารและด้อยการศึกษาจะถูกหลอกง่ายแค่ไหน สงสารประเทศไทยเสียจริง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 14 [15] 16 17 18 ... 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 22 คำสั่ง