การฟันธง ทางการเมืองนั้น จะต้องเข้าใจ ก่อนว่า การต่อสู้ ถูกจับคู่ ระหว่าง ดี-เลว ธรรมะ-อธรรม
ฝ่ายใดอยู่กับ ฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ ปลายทาง จะต้องชนะ นีีี่ คือสัจธรรม. ไม่อย่างนั้น โลกเราจะมีแต่การฆ่าฟัน โจรร้าย จะขึ้นปกครองเมือง.. กฎหมายจะไร้ความหมาย.
แต่ในระหว่่างการต่อสู้ ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม จะต้องใช้สติปัญญาแปรเป็นการกระทำ ช่วงชิงกัน
เพื่อหวังใ้ห้เกิดปริมาณ ก็คือคนที่มีคุณภาพ พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายในแนวทางของ ความดี. ให้ได้ระดับหนึ่ง ปริมาณคนของฝ่ายธรรมะ เมื่อถึงระดับหนึ่ง .. จะเกิดคุณภาพ คือเกิดศัยภาพ ที่เรียกว่า "สุกงอม"
ที่จะกลายเป็น พลังอำนาจ .. และเป็นฝ่ายขึ้นเป็นด้านหลักของการต่อสู้ นั้นคือจุดแพ้ชนะ
แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองของเรานั้น มีต้นทุนทีั่ต่างกัน ฝ่ายธรรมะ เป็นรอง แบบฟ้ากับเหว.
แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า ความดีย่อมชนะความชั่ว ธรรมะย่อมชนะอธรรม.
ปละต่างฝ่าย ต่างดิ้นเพื่อเอาชนะ และหนีการตกเป็นรอง.
ฝ่ายมาร มันใช้ เงิน เป็นกำลังมาขับเคลื่อน ถ้า่ไม่มีเงิน มันเดินไม่ได้. เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายมาร
และใช้การบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่าตน คือฝ่ายธรรมะ
ความสับสนที่ถูกบิดเบือนนี้ ถ้าไม่ใช้ปัญญา มองไม่ออกหรอกครับ ..
ปัจจุบัน การต่อสู้ยัง ก้าวพ้นกึ่งกลาง.. ค่อนไปทางปลายทางแล้ว ครับ.
ผมบอกได้เพียงหลักการเท่านั้น วิธีการ นั้นเป็นเรื่องของ คู่กรณี .. และผลที่ได้ คือพัฒนาการ ทางการเมือง ทางสังคม จะมีตามไปด้วย . เกินกว่า จะไปคาดเดา ได้ครับ
เว้นแต่ว่าในปรากฎการณ์หนึ่ง ท่านที่มีหลักคิดแบบเดียวกับที่ผมมี.. ย่อมมองเห็นเบื้องหลัง และแนวทางเดิน มองอย่างวิเคราะห์ ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคีียง และตามกันทัน .. แต่ไม่ใช่การเดาโดยขาดข้อเท็จจริงครับ.
ว่าตามพี่ Ro@d ครับ... นายสมชายสรุปแบบไม่ยืดเยื้อ...
เหมือนกับเล่นไพ่กัน แล้วค่อยหงายไพ่ออกมา... ฝ่ายหนึ่งหงายไพ่ออกมาแล้วเป็นควีนครับ...
ทีนี้ก็รอให้ข่าวสารค่อยแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ... คนที่ยังไม่แน่ใจจะค่อยๆแน่ใจ แน่ใจว่าตำแหน่งที่ตนยืนนั้นอยู่ตรงไหนครับ...
คนที่สมองกลวง เห็นแต่ประโยชน์ที่ตนได้รับแค่โครงการประชานิยม ก็จะแยกออกว่าใครกันที่เหนื่อยทุกข์ยาก จับแต่งานที่ยิ่งใหญ่มองไม่เห็นปลายทางมาตลอด จนครองใจคนไทยทั้งมวลได้... แล้วใครกันที่โยนเศษเงินเพื่อซื้ออำนาจ และแสวงประโยชน์เข้าตระกูลตัวเองจากสมองกลวงของคนกลุ่มใหญ่...
แต่การที่ยอมรับว่าสมองตนเองกลวงนั้น ไม่ง่ายครับ... สำคัญว่าเราต้องเว้นที่ เว้นทางให้คนลงจากหลังเสือ(ที่จริงหลังหมา)... แบบเดียวกับ 66/23 เว้นที่ให้คนหลงผิด มีที่ยืนในสังคมไงครับ... ม่ายงั้นก็เป็นการบีบให้สู้แบบ"สุนัขจนตรอก"...
แต่สำหรับพวกหัวๆ ที่หลอกล่อให้คนอื่นหลงผิด... พวกนี้เว้นที่ยืนให้ไม่ได้ครับ...
จะเอากันถึงตายก็เกินไป... เอาแค่เอ็นร้อยหวายออก กับเอายากันยุงจิ้มลูกตาก็พอ...
ทั้ง 111 คนนั่นแหละครับ... ฮา
ขอบคุณพี่ Ro@d และพี่นายสมชาย (ฮา)
ผู้น้อยอย่างผมได้อ่านความคิดของผู้ใหญ่อย่างพวกพี่ แล้วสบายใจ (เจอตัวเป็นๆในงานเลี้ยงคราวหน้า กราบไหว้ได้สนิทใจ, แต่จะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
)
ใช่ครับ ไพ่เปิดออกมาเป็นควีน
พวกที่นั่งเล่นกันอยู่ในวงเริ่มทยอยหมอบกันเป็นแถว เหลือแต่ไอ้ตัวที่ทุ่มไว้เยอะ นั่งเหื่อแตก
ร่ำว่ามันกระซิบให้พวกนั่งล้อมอยู่วงนอก เตรียมป่วนล้มวง
จำได้ที่พี่นายสมชาย (ฮา) เคยแลกเปลี่ยนทัศนะกับคุณประชาบดี 59 เรื่อง อุดมการณ์
แม้จะเป็นการวิสาสะระหว่างสิงห์แดงสองคน พวกเรือใบสีชมพูอย่างผมจะได้ก็เพียงนั่งคิดตาม
ผมก็ยังเชือว่า คนที่สุ้แบบมีอุดมการณ์จะชนะในที่สุด
พวกที่สู้เพื่อเงิน แต่ถามหาอุดมการณ์ว่าสู้เพื่ออะไร แล้วตอบไม่ได้ มันยืนระยะไม่ได้แน่
ถาม พธม ว่าสู้เพื่ออะไร คำตอบคิดแค่ครึ่งวินาทีเท่านั้น
ถาม นปช ว่าสู้เพื่ออะไร ผมว่าผ่านไปสองนาทีครึ่งก็ยังตอบกันไม่ได้เลย
ถ้าจะมีการป่วนล้มวงไพ่ แล้วต้องเอา สห. เข้ามาจัดการจริงๆ
หวังว่า สห. จะมาร์คหัวพวกตัวแสบๆเอาไว้แล้วนะครับ
คนมีอุดมการณ์ ตายสิบเกิดแสน
คนไม่มีอุดมการณ์ บี้หัวโจกให้เห็นจังหวัดละคน พวกตามแห่มีหวังกระโดดน้ำ กระโดดหน้าต่างหนีหมด
ย้อนกลับมาวงไพ่อีกที
นึกถึงคำกล่าวเก่าๆ เขาบอกว่า...เวลาผ่านไปเท่าใด มี King อยู่ห้าองค์ที่จะไม่มีวันเปลี่ยน
4 องค์อยู่ในสำรับไพ่ อีกองค์....อยู่ในใจของคนไทย ตลอดมาและจะตลอดไป